เหนื่อยกับความห่วยของระบบ Truemove H (เติมเงิน)

อยากสอบถามเพื่อนๆ สมาชิก  เรื่องปัญหาของระบบ Truemove H หน่อยค่ะ  ว่ามีใครเคยเจอแบบเราไหม  แล้วทรูแก้ปัญหาให้อย่างไร  รอนานแค่ไหน

ขอเท้าความรายละเอียดยาวนิดนึง

เรื่องเริ่มต้นมาจาก  เราได้ซื้อซิมมือถือแบบเติมเงินของ Trumove H  มานานหลายปีละ  แล้วเราก็ยกเบอร์นั้นให้น้าสาว  เพื่อนำไปใช้กับธนาคาร  สำหรับรับ sms จากธนาคารเวลาทำธุรกรรมต่างๆ  โดยเติมเงินปีละรอบ  รอบละ 12 ครั้ง  ครั้งละ 10-25 บาท  เพื่อสะสมวัน 1 ปี  เต็มลิมิตที่ระบบให้สะสมได้  เติมเงินแค่เพื่อรักษาเบอร์เพราะเอาไว้ใช้รับ sms อย่างเดียว   ทำแบบนี้มาเป็นเวลาหลายปี  ก็ไม่มีปัญหาอะไร  จนล่าสุดที่เกิดเหตุการณ์นี้คือ

เมื่อเดือน พ.ย. 2563  วันใกล้จะหมด  น้าเราให้เราเติมเงินให้เหมือนปกติที่ทำทุกปี  เราเติมจนจำนวนวันใช้ได้ถึงวันที่ 23 พ.ย. 2564

พอมาปีนี้  ครบกำหนดที่วันจะหมด  น้าเราก็สั่งให้เราเติมเงินให้อีก

วันที่ 1 พ.ย. 2564  เราพยายามเติมเงิน  แต่ระบบแจ้งว่าเบอร์ไม่ถูกต้อง  โดยเราไม่รู้สาเหตุ  เราถามน้าเรา  น้าก็บอกว่าจำได้ว่าเบอร์ใช้ได้ถึงปลาย พ.ย. - ต้น ธ.ค. (ณ ตอนนั้น ต่างคนต่างก็ไม่ได้เช็คว่าวันใช้ได้ถึงเมื่อไหร่  แต่น้าจำได้คร่าวๆ เพราะจะเติมช่วงเวลาเดิมของทุกปี)  เราพยายามโทรคอลเซ็นเตอร์ของทรูเพื่อสอบถาม  แต่รอสายนานมาก  เราเลยเข้าไปช่องแชท  คุยกับพนักงาน  พนักงานคอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าเบอร์โดนตัดเพราะวันหมดตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 2564  และจะใช้ต่อได้อีก 1 เดือน ก็คือ 23 ต.ค. 2564 ถ้ายังไม่เติมเงิน  เบอร์จะโดนตัดและจะเอาเบอร์เดิมคืนไม่ได้  นางยืนยันว่า  "ยังไงก็ไม่มีทางเอาเบอร์เดิมคืนได้"  ตอนนั้นเรายังไม่แน่ใจว่าน้าเราจำวันหมดอายุผิดหรือเปล่า  เลยไม่ได้แย้งอะไรไป  และด้วยไทม์โซนของเราและน้า  คือจะถามตอบอะไรทันทีบางทีก็ไม่ได้  ต้องรอเวลา

หลังจากคุยกับคอลเซ็นเตอร์แล้ว  เราส่งข้อความหาน้า  ถามเรื่องรายละเอียดว่ามีหลักฐานอะไรมั้ยว่าเรามีวันเหลือถึงวันไหน  เพราะคุยกับพวกนี้ต้องมีหลักฐาน  น้าเช็คมือถือดูก็มีหลักฐานเป็น sms จากทรู  แจ้งว่าจำนวนเงินเหลือเท่าไหร่  วันเหลือเท่าไหร่

วันที่ 2 พ.ย. 2564  เราก็แชทกับคอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง  เพื่อแย้งว่าเบอร์นี้ของเรายังไม่หมดวันใช้งานนะ  คอลเซ็นเตอร์ก็สอบถามนู่นนี่นั่น  ขอหลักฐานต่างๆ  แล้วบอกว่าจะทำการ "เปิดเบอร์เดิม" ให้ภายใน 24 ชม. เราก็รอ 

วันที่ 3 พ.ย. 2564  เราก็ยังเติมเงินไม่ได้  เราเลยเข้าไปที่ศูนย์บริการ ณ ห้างโลตัส  ใกล้ที่ทำงาน  เพราะน่าจะคุยกันรู้เรื่องกว่าคอลเซ็นเตอร์  ตอนแรกพนักงานยืนยันคำเดียวว่าเบอร์ของเราวันหมด  เราแย้งด้วยหลักฐานให้เค้าดูทุกอย่างที่เค้าต้องการ 

พอเค้าได้ดูหลักฐานแล้วก็ถ่ายรูปนู่นนี่นั่น  ส่งศูนย์ใหญ่  เช็คอะไรต่อมิอะไรไปจนเจอว่า  ระบบ Error  ไม่ใช่ความผิดเรา  แต่ยังยืนยันว่าเปิดเบอร์เดิมไม่ได้เพราะโดนตัดไปแล้ว  เราโมโหนิดหน่อย  เพราะวุ่นวายหลายสิ่ง  และเบอร์นี้น้าเราใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน  เราก็บอกเหตุผลพนักงานไปว่าทำไมต้องใช้เบอร์เดิม  เพราะน้าเราอยู่ต่างประเทศ  จะเปลี่ยนเบอร์กับธนาคารน่ะไม่ยากหรอกถ้าอยู่ประเทศไทย  แต่นี่เค้าอยู่ต่างประเทศ  จะได้กลับมาเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย  แล้วตอนนี้คือเช็คยอดเงินทำอะไรไม่ได้  ถ้าเงินในบัญชีหายไปใครจะรับผิดชอบ  กว่าน้าเราจะกลับมาดำเนินการเปลี่ยนเบอร์ได้  เงินไม่หมดบัญชีไปแล้วเหรอ  

น้องพนักงานที่ศูนย์ก็น่ารักแหละ  ติดตามเรื่องให้จนดึงเบอร์เก่ากลับมาได้  (ทั้งที่ตอนแรกทุกคนยืนยันว่ายังไงก็เอาเบอร์เดิมกลับมาไม่ได้  แปลกมั้ยคะ)  แต่ต้องเปลี่ยนซิมใหม่  เราก็ไม่มีปัญหา  ขอแค่ได้เบอร์เดิมกลับมาเถอะ  เดี๋ยวเราค่อยส่งซิมไปให้น้าทางไปรษณีย์ได้  ส่วนยอดเงินคงเหลือเดิม 1,400 กว่าบาท  พนง.บอกว่าเดี๋ยวจะเข้าระบบให้  เราก็รอ  ไม่กล้าเติมเงิน  กลัวจะมีปัญหาอีก  และซิมใหม่วันใช้ได้ถึง 2 ธ.ค. ก็จะอยู่ต่อได้อีกเดือนนึง เราก็เลยรอไปก่อน 

ผ่านไปหลายวัน  เงินคงเหลือเดิมยังไม่เข้าระบบ  เราก็ไปตามที่ศูนย์อีกรอบ  ถามน้องพนักงานว่าเงินยังไม่เข้าระบบให้เลย  เราไม่กล้าเติมเงิน  กลัวจะมีปัญหาอีก  น้องพนักงานยืนยันว่าเติมเงินได้เลย  เราถึงได้เติมเงินเข้าไปอีก 70 บาท  อยู่ได้ 7 เดือน  แล้วกลับมารอต่อ  ผ่านไปอีกหลายวันเงินก็ยังไม่เข้า  เราก็ยังไม่กล้าส่งซิมให้น้า  คิดว่าจะตามเรื่องให้จบก่อนค่อยส่งซิมไป  เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ไม่ต้องวุ่นวายทำซิมใหม่อะไรอีก

เราไปตามที่ศูนย์อีกรอบ  ครั้งนี้น้องพนักงานคนเดิมไม่อยู่  เจอน้องอีกคน  เราก็เริ่มอธิบายเรื่องราวอีกรอบ  บวกกับน้องดูจากสถานะในระบบด้วย  น้องคนนี้ก็ดูแลตอบคำถามนู่นนี่นั่นให้อย่างดี  เรามีถามเรื่องย้ายค่าย  น้องว่าน่าจะง่ายขึ้น  แต่รอดูก่อนอีกสักระยะแล้วกัน  จากนั้นเราก็คอยไปตามทุกๆ 3 วัน 7 วัน  ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ  น้องพนักงานที่รับเรื่อง รู้เรื่อง มีอยู่ 2 คนละ  ทุกครั้งที่ไปตาม  น้องก็คอยส่งเรื่องเข้าศูนย์ใหญ่ให้  ก็ไม่มีจนท.ที่ศูนย์ใหญ่ตอบอะไรกลับมา 

อีกครั้งนึงที่ไปตามเรื่อง  ไม่เจอน้อง 2 คนนั้น  เราถามเรื่องย้ายค่ายอีก  คนที่เราเจอวันนั้นบอกว่าถ้าย้ายค่ายตอนนี้เงิน 1,400 กว่าบาทนี้จะไม่ได้คืนนะ  เราเลยยังไม่ย้าย  รอต่อไป

วันที่ 23 พ.ย. 2564  เราไปตามอีกรอบ  เจอน้อง 2 คนอยู่พร้อมกัน  เลยตัดสินใจว่าเราจะย้ายค่ายละ  น้อง 2 คนคุยกันต่างก็คิดว่าน่าจะง่ายขึ้น  ตอนนี้ที่ทำเงินคืนไม่ได้เพราะเบอร์แอคทีฟอยู่เลยทำไม่ได้  แต่ถ้าเราย้ายค่าย  เบอร์โดนตัดจากระบบทรูแล้ว  ทางทฤษฎีก็น่าจะทำเรื่องขอเงินคืนได้เลย 

เราก็ตัดสินใจย้ายค่ายวันนั้นเลย  ย้ายค่ายเรียบร้อยแล้วก็ยื่นเอกสารขอเงินคงเหลือคืน  เท่ากับว่าเราจะต้องได้คืน 1,400 กว่าบาท  กับอีก 70 บาท  ที่เติมไปใหม่  แต่ก่อนจะย้ายค่าย  กลายเป็นว่าเงิน 70 บาทที่เราเติมไปแล้วยังไม่ได้ใช้อะไรเลยเนี่ย  ถูกตัดเงินค่าอะไรไปไม่รู้  24.61 บาท  เหลือเงินอยู่ 45.39 บาท  (เราใส่ซิมเพื่อเช็คยอดที่เติมเงิน  แต่ไม่ได้ใช้งานอะไรเลย  เพราะเราเองมีอยู่แล้ว 3 เบอร์ 2 เครื่อง  ที่มีโปรให้ใช้  ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรจะต้องใช้เบอร์นี้)  แต่ไม่เป็นไร  ช่างมันละ  ไม่รู้ว่าตอนใส่ซิมเผลอไปกดอะไรทำให้ตัดเงินไปหรือเปล่า  ขี้เกียจสืบสาวราวเรื่องแล้ว  เหนื่อย

หลังจากยื่นเอกสารขอเงินคืนไป เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564  เป็นช่วงเวลาที่งานเราค่อนข้างยุ่ง  เลยไม่ได้ตามเรื่องไปพักใหญ่  ประมาณ 3 อาทิตย์ได้  เราไปตามเรื่องอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมานี้  เจอน้องพนักงานคนที่ 2 บอกว่า  น้องพนักงานคนแรกที่รับเรื่องเรา  คอยตามเรื่องให้อยู่  ส่งเรื่องไปตามที่ศูนย์ใหญ่ให้เป็นระยะๆ  แต่ศูนย์ใหญ่ยังไม่ตอบอะไรกลับมาเลย  ถึงตอนนี้คือเราไม่รู้ว่าเราจะได้เงินคืนไหมจริงๆ  เราตามเรื่องจนเหนื่อยมากๆๆ  ไม่รู้จะทำยังไงละ

เพื่อนๆ มีใครเคยเจอแบบเราบ้างไหมคะ  คิดว่าเรามีโอกาสได้เงินนี้คืนไหม  ยอดเงินอาจจะไม่เยอะนะ พันกว่าบาท  แต่เราก็รู้สึกว่าถ้าบริษัทใหญ่โตทำกับลูกค้าคนละนิดละหน่อยแบบนี้  แต่หลายๆ คน  ยอดเงินรวมๆ จะเท่าไหร่  ไม่น้อยเลยนะ  และมันก็ไม่แฟร์กับลูกค้าตัวเล็กๆ แบบเราเลย

ขอบคุณคนที่อ่านกระทู้เราจนจบ  และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นนะคะ  เราเหนื่อยยยย  เรายังมีอีกเบอร์ที่เป็นของทรูมูฟ  และคิดว่าอีกไม่นานก็คงอาจจะย้ายค่ายเหมือนกัน

หมายเหตุเพิ่มเติม  :  ด้วยความที่เบอร์ถูกตัดโดยไม่ใช่ความผิดเรา  และต้องทำซิมใหม่เท่านั้นถึงจะใช้เบอร์เดิมได้  ก็เป็นเหตุให้เราต้องส่งซิมใหม่ไปให้น้าที่ต่างประเทศ  ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการที่ต้องส่งซิมใหม่ไปให้น้าที่ต่างประเทศคือ  1,400  บาท  ถ้าระบบทรูมูฟไม่ห่วย  เราควรจะต้องเสียเงินตรงนี้ไหมคะ  ระบบห่วยถามว่าใครเดือดร้อน  ลูกค้าเดือดร้อนค่ะ  แต่ทรูมูฟนอกจากจะไม่ได้ชดเชยความเสียหายแล้ว  ยังไม่รีบแสดงความรับผิดชอบอีก  แบบนี้คิดว่าเราควรออกมาพูดให้คนอื่นรับรู้ไหมคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่