***** วันก่อนได้ไปดูหนังเรื่อง 4 King กับลูกชายมา ขอพูดในมุมมองของคนเป็นแม่นะครับ *****
ตอนแรกดูแค่ Teaser ก็แบบ มันคงต้องมีฉากทะเลาะตีกัน ซัดกันนัวแน่ ๆ เลย แต่เมื่อเข้าไปดูกลายเป็นหนังดราม่าซะงั้น
หนังมันพาเราย้อนความรู้สึกไป คิดถึงสมัยตอนที่ลูกยังเรียนอยู่ (ลูกเราเรียน ปวช.ปี 1 ประมาณปี 2548) ถึงแม้เราจะเตรียมใจไว้แล้วว่า
เมื่อลูกเข้ามาเรียนสายนี้แล้วจะเป็นอย่างไร แต่พอลูกได้เข้าไปเรียนจริง ๆ แล้ว ความรู้สึกมันแบบ เหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลกอ่ะ
เป็นห่วง เครียด คิดมาก วิตกจริต
เราเลี้ยงลูกคนเดียว และเรากับลูกก็จะสนิทกันมาก ลูกเราก็เหมือนกับดา เมื่อเวลาอยู่ที่บ้านก็จะน่ารัก เป็นเด็กผู้ชายธรรมดา ๆ
ที่ชอบแกล้งแม่ พูดเพราะ แต่พออยู่กับเพื่อนก็นั่นแหละ.... ไอ้
มาหมด เสียงดังพลังมาเต็มไม่เหลือเค้าเด็กชายตัวน้อยของแม่
เราก็เหมือนกับแม่ของดา ที่ไม่เคยได้นอนหลับสนิทเลยตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ลูกเรียนอยู่ เกลียดและกลัวการรับโทรศัพท์เป็นที่สุด
เราจะจำวันเกิดของเหล่าบรรดาเพื่อนบ้านได้หมด และต้องคอยลุ้นอยู่ทุกปี ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า
จริง ๆ หนังมันก็สอน และให้แง่คิดอะไรหลาย ๆ อย่างนะ แต่อย่างว่าแหละ คนที่เคยผ่านช่วงนั้นมาแล้วก็จะคิดได้
แต่คนที่เพิ่งจะเข้ามา (เด็กวัยรุ่น) ก็ยังไม่คิดหรอก เอาจริง ๆ ลูกเรา ณ.ตอนนั้นก็เป็นเหมือนกัน รักเพื่อน ตามประสาเด็กช่างทั่ว ๆ ไป
ฉากที่ร้านหมูจุ่ม : มันจุกสำหรับเรานะ สายตาของดาตอนนั้นมีแต่เพื่อน ห่วงว่าเพื่อนจะตาย ไม่ได้ห่วงตัวเองเลย
สายตาสุดท้ายของดามันบอกอะไร หลาย ๆ อย่าง แม่ / เพื่อน / อุ๊ / ลูก แต่ก็สายไปแล้ว
ฉากแม่ดาตอนที่รับโทรศัพท์ :
โคตรบีบหัวใจคนเป็นแม่เลยอ่ะ ใจสลายแต่ก็ยอมรับว่า วันนี้มันต้องมาถึงเข้าสักวัน
เราว่า.... ไม่มีลูกคนไหนอยากทำให้แม่เสียใจ และเสียน้ำตาหรอกนะ แต่บางครั้งมันก็เลี่ยงไม่ได้
ถ้าสถานการณ์มันพาไป อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ อันนี้เราเข้าใจ และทำใจยอมรับ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนะ
ตอนลูกเราเรียนเราจะจินตนาการฉากแบบนี้ไว้ในหัวตลอด ว่าวันนึงเราอาจเป็นแบบในหนังเข้าสักวัน โชคดีที่เราไม่ได้เจอกับเหตุการณ์แบบนั้น
เราเข้าใจสิ่งที่ผู้กำกับจะสื่อนะว่า “การตีกัน” สุดท้ายมันให้ผลอย่างไร ??? และสร้างบาดแผลให้คนที่อยู่อย่างไร ???
ความคะนองของวัยรุ่น และผลที่ (ทุกคน) ต้องยอมรับ :
บางคนต้องแบกรับกับความรู้สึกผิดไปตลอด ที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนได้
บางคนเพื่อนตาย บางคนเพื่อนติดคุก คนที่อยู่ก็ต้องทำงานช่วยเหลือส่งเงิน หรือแม้แต่คอยไปเยี่ยมเยีอนพ่อแม่ของเพื่อน
ส่วนคำถามที่ว่า “ พวกคุณจะตีกันทำไม ว่ะ “ : เราว่าไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริงหรอก มันก็ตีกันมา ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วโน้นนนน
แล้วมันก็ตีกันเรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน คำตอบที่ได้ก็คงเหมือนในหนังนั่นแหละ “ก็แค่คุณ เรียนคนละที่กับกู” แค่นั้นจริง ๆ
เราว่าทุกคนที่ไปเรียน ก็อยากเรียนให้จบด้วยกันทั้งนั้น เรียนไปด้วย ระวังตัวไปด้วย มันไม่สนุกหรอกนะ เผลอ ๆ จะตายวันไหนก็ยังไม่รู้
แต่เมื่อเลือกที่จะเข้ามาเรียนสายนี้แล้ว ก็ต้องทำใจยอมรับ พูดง่าย ๆ ก็คือ อยู่ให้เป็น ทางหนีทีไล่ก็ต้องเรียนรู้เอาไว้
น่าเหนื่อยเนอะ..... ที่มีลูกเรียนสายนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ พ่อแม่ทุกคนรู้ความเสี่ยงนี้ดี
เด็กตีกันเพราะความคะนอง เด็กตีกันเพราะพ่อแม่ไม่อบรมสั่งสอน เฮ้อ... ปัญหาโลกแตกอ่ะ
โทษใครดีล่ะ โทษเด็ก โทษเพื่อน โทษพ่อแม่ โทษระบบ โทษค่านิยม หรือจะโทษสังคม
สังคมทุกวันนี้ แค่มองหน้ากันก็ยิงกันแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องปัญหาเด็กตีกันหรอก
ต้องยอมรับจริง ๆ นะว่า เด็กยุคนี้น่ากลัวจริง ๆ น่ากลัวกว่าสมัยลูกเราเรียนมากกกกกกก
ส่วนประโยคที่ว่า
“ลูกชั้นเป็นคนดี” เราว่าอยู่ที่สามัญสำนึกนะ ลูกดี ลูกเลว ลูกเกเร ลูกก้าวร้าว พ่อแม่รู้ดีที่สุด แต่จะยอมรับหรือไม่ แค่นั้น....
สุดท้าย “ ดูหนังดูละคร แล้วย้อนมาดูตัว “ เราโชคดีที่ยังมีลูกอยู่ให้กอด และได้มานั่งดูหนังด้วยกันแบบนี้
ฉากที่ทำให้แม่ร้องไห้ / ฉากในห้องขัง / ฉากที่ต่างคนต่างโตเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานที่ดีในปัจจุบัน มันเกิดขึ้นจริงในชีวิตเรา
เหมือนเนื้อเพลงของพี่จ๋าย (อายุน้อยกว่าลูกเราอีก เรียกพี่เฉย 55555 ) ร้องเอาไว้เลย .....
ตีรันฟันแทงกูเคยแล้ว...... ที่เคยทำกูเคยแล้ว.....
ที่เจ๋งกว่าก็เคยทำ...... ไอ้เรื่องเลวเรื่อง...... กูทำมาก่อน .....
ทำตัวเองให้เดือดร้อน.... คนมองพ่อแม่ไม่สั่งสอน.....
..... อย่าเลยน้องพี่เดินมาก่อน …..
***** หนังดีนะ : ดันมาตกม้าตายตอนให้ใส่เสื้อช็อป แล้วจะได้ส่วนลดเนี่ยแหละ พลาดมากกกกกกกกกก *****
จากใจคุณแม่ ที่มีลูกเป็น “เด็กช่าง”
4Kings : จากใจคุณแม่ ที่มีลูกเป็น “เด็กช่าง”
เราก็เหมือนกับแม่ของดา ที่ไม่เคยได้นอนหลับสนิทเลยตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ลูกเรียนอยู่ เกลียดและกลัวการรับโทรศัพท์เป็นที่สุด
เราว่า.... ไม่มีลูกคนไหนอยากทำให้แม่เสียใจ และเสียน้ำตาหรอกนะ แต่บางครั้งมันก็เลี่ยงไม่ได้
ถ้าสถานการณ์มันพาไป อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ อันนี้เราเข้าใจ และทำใจยอมรับ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนะ
เราเข้าใจสิ่งที่ผู้กำกับจะสื่อนะว่า “การตีกัน” สุดท้ายมันให้ผลอย่างไร ??? และสร้างบาดแผลให้คนที่อยู่อย่างไร ???
ความคะนองของวัยรุ่น และผลที่ (ทุกคน) ต้องยอมรับ : บางคนต้องแบกรับกับความรู้สึกผิดไปตลอด ที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนได้
บางคนเพื่อนตาย บางคนเพื่อนติดคุก คนที่อยู่ก็ต้องทำงานช่วยเหลือส่งเงิน หรือแม้แต่คอยไปเยี่ยมเยีอนพ่อแม่ของเพื่อน
โทษใครดีล่ะ โทษเด็ก โทษเพื่อน โทษพ่อแม่ โทษระบบ โทษค่านิยม หรือจะโทษสังคม
สังคมทุกวันนี้ แค่มองหน้ากันก็ยิงกันแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องปัญหาเด็กตีกันหรอก
ต้องยอมรับจริง ๆ นะว่า เด็กยุคนี้น่ากลัวจริง ๆ น่ากลัวกว่าสมัยลูกเราเรียนมากกกกกกก
ส่วนประโยคที่ว่า “ลูกชั้นเป็นคนดี” เราว่าอยู่ที่สามัญสำนึกนะ ลูกดี ลูกเลว ลูกเกเร ลูกก้าวร้าว พ่อแม่รู้ดีที่สุด แต่จะยอมรับหรือไม่ แค่นั้น....
ตีรันฟันแทงกูเคยแล้ว...... ที่เคยทำกูเคยแล้ว.....
ที่เจ๋งกว่าก็เคยทำ...... ไอ้เรื่องเลวเรื่อง...... กูทำมาก่อน .....
ทำตัวเองให้เดือดร้อน.... คนมองพ่อแม่ไม่สั่งสอน.....
..... อย่าเลยน้องพี่เดินมาก่อน …..
***** หนังดีนะ : ดันมาตกม้าตายตอนให้ใส่เสื้อช็อป แล้วจะได้ส่วนลดเนี่ยแหละ พลาดมากกกกกกกกกก *****
จากใจคุณแม่ ที่มีลูกเป็น “เด็กช่าง”