การทำผิดศีลธรรมทางเพศไม่ใช่ New Norm ของสังคมไทยเรา

ศาสนาอิสลามมีหลักการที่สำคัญอยู่ในเรื่องที่ว่า การมีระเบียบวินัยในการนับถือศาสนา ศาสนาอิสลามไม่ได้ปล่อยให้ผู้ที่เป็นมุสลิมหรือผู้ที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามใช้ชีวิตไปตามยถากรรม เสรีภาพในการนับถือศาสนาอิสลามคือ มุสลิมทุกๆคนมีความเสมอภาคกันหมด ตั้งแต่หัวหน้าประเทศลงมาถึงประชาชนธรรมดาเสรีภาพในการนับถือศาสนาของมุสลิม ไม่ใช่ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมท่ามกลางอบายมุขและห้ามการสมสู่ทาง SEX ก่อนการสมรสอย่างถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลาม มุสลิมใหม่หรือมุสลิมเก่า มีสภาพการเป็นมุสลิมเท่าๆกัน เมื่อเขาเข้ารับอิสลามเขาก็เป็นมุสลิมเช่นเดียวกับมุสลิมตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายทุกๆคน

 ถึงแม้ว่าในปัจจุบันบางท่านจะถือว่า การจับมือถือแขนร่วมหลับนอนกับเพศตรงข้ามก่อนการสมรสเป็น New Norm ก็ตาม แต่ทว่าศาสนาของมุสลิมไม่ได้เปลี่ยน หลักศรัทธาไปตาม New Norm ดังนั้นกรุณาอย่าสร้างปรัชญาจากการทำผิดหลักศาสนาให้เป็น New Norm ของสังคมของไทยเราเลย

ในปัจจุบัน ยังมีคนไทยที่นับถือหลักการของศาสนาอย่างถูกต้อง และรักษาจารีตประเพณีของไทยเราตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายที่เคร่งครัด ที่ท่านเหล่านั้นไม่ปล่อยให้ลูกสาวของท่านเหล่านั้นไปปฏิบัติผิดในเรื่อง SEX อย่าง Drama น้ำเน่า ที่แสดงออกทางสื่อ ซึ่งเป็นตัวย่างที่เลวในเรื่องของความรักที่ป้อนให้สังคมไทยกระทำความชั่ว ในเรื่อง SEX อย่างที่เห็นกันทั่วในสังคมไทยเรา 

เราชาวไทยทั้งหลายจะต้องเข้าใจว่าการกระทำชั่วทาง SEX นั้น ผิดหลักศีลธรรมของทุกๆศาสนาไม่ใช่แต่ศาสนาอิสลามเท่านั้น
 การที่บางท่านเห็นข้อห้ามของศาสนาอิสลามเป็นเรื่องแปลกนั้น ทั้งนี้เพราะว่าท่านไม่ได้ปฏิบัติหลักศาสนาของท่านอย่างเคร่งครัดนั้นเอง โดยที่หลอกตัวเองว่า ศาสนาให้เสรีภาพแก่ผู้นับถือศาสนามากกว่าศาสนาอื่นใด ทุกๆศาสนาต่างก็มีระเบียบวินัยไม่น้อยไปกว่าศาสนาอิสลามเลย โดยเฉพาะเรื่อง SEX ก่อนการสมรส ที่ปฏิบัติกันในสังคมวัยรุ่น และสังคมไทยเรา ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นการปฏิบัติที่ผิดหลักศีลธรรมของทุกๆศาสนาอย่างร้ายแรงเช่นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่