Intro: When you trust too much, you hurt so much
“นิน...นี่มันสามวันแล้วนะแก”
“...”
“แกไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้วนะเว้ย” อุ้ม รูมเมทของฉันพูดขึ้น ใช่ค่ะฉันชื่อนิน นักศึกษาปี 1 เทอม 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
“ออกไปตลาดซื้อข้าวเย็นกินกัน” ว่าแล้วอุ้มก็ดึงฉันให้ลุกออกจากเตียง บังคับให้ฉันแต่งตัวและเธอก็พาฉันออกไปสู่โลกภายนอกที่ฉันไม่ได้เห็นมาสามวันเต็ม
“กินข้าวให้มีแรง แล้วจะเสียใจเท่าไหรก็เสียใจไปเลย”
“เจ็บว่ะอุ้ม เจ็บเหมือนมีมีดปักที่อกอยู่ตลอดเวลาเลยว่ะ” ฉันตอบอุ้มแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างรถ มองเห็นรถและคนมากมายเดินไปเดินมาในซอยมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยในฝันของฉัน ฉันเคยคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีโอกาสได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้แถมฉันยังมีเพื่อนมอปลายอย่างอุ้มเข้าเรียนพร้อมกันและมาเป็นรูมเมท และที่สำคัญที่สุดคือรักแรกที่กลายมาเป็นแฟนคนแรกของฉันก็เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้พร้อมกัน
สามวันที่แล้ว
‘อุ้ม เดี๋ยววันนี้มีเพื่อนนินมาติวหนังสือที่ห้องนะ’ ฉันบอกอุ้มก่อนที่อุ้มจะออกไปสอบปลายภาควิชาประจำคณะของอุ้ม
‘ได้ๆ ไปแล้วนะ’
…
‘ฮัลโหล ยุทธ์อยู่ไหนแล้วไปรับพวกเพื่อนเสร็จยัง’ ฉันโทรหายุทธ์เพื่อนในคณะเดียวกัน ในตอนนั้นฉันและเพื่อนๆส่วนใหญ่ยังขับรถไม่เป็นเลยวานให้ยุทธ์ขับรถไปรับเพื่อนๆมาจากหอแล้วมาติวสอบวิชาคณิตที่ห้องฉัน
…และทันทีที่เราติวหนังสือเสร็จ โทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้น
‘ฮัลโหล ว่าไงพัด’
‘นินเหรอ เออ เมื่อกี้ฉันเจอกายอยู่กับเนยอ่ะ ดูสนิทกันมากเลยนะ’
‘พัด ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าแกอ่ะคิดมากไปเอง’
’ไม่ๆนิน ฉันเห็นกายเดินจับมือกับเนยอยู่หน้าเซเว่น‘
‘...’
‘ฉันเลยถามกาย กายมันก็บอกว่าก็อย่างที่ฉันเห็นนั่นแหละ’
‘...’
‘ฉันเลยถามกายว่าแล้วกายจะเคลียร์กับนินเมื่อไหร’
‘...’
‘กายบอกว่า มันไม่กล้าบอกเลิกแกอ่ะ’
‘...’
‘มันชัดเจนมากแล้วนะนิน เลิกบอกว่าพวกฉันคิดมากได้แล้ว’
‘...’
ย้อนกลับไปสองเดือนที่แล้ว
‘นิน เลิกเรียนแล้วใช่มั้ย’ กาย…ชายผู้ซึ่งเป็นรักแรกและแฟนคนแรกของฉันถามขึ้น กายมายืนอยู่หน้าห้องเรียนฉันตั้งแต่เมื่อไหรไม่รู้
‘อื้อ เลิกเรียนแล้ว ^^’ ฉันตอบพร้อมเดินออกมาหากาย
‘เอ้อนี่จะแนะนำเพื่อนในคณะเราให้รู้จัก คนนี้ชื่อเนยนะ เนย นี่นินแฟนเรา’ กายแนะนำหญิงสาวชื่อเนยให้ฉันรู้จัก เนยเป็นผู้หญิงหมวย ตาตี่ ผมสั้น ตัวเล็กกว่าฉันเล็กน้อย
‘ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะเนย’ ฉันทักทายเนย
‘ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ้ะนิน กายแฟนนายสวยมากเลย’ ฉันยิ้มอย่างเขินอายให้กับเนย พอมีผู้หญิงมาชมว่าสวยมันก็รู้สึกแปลกๆดีนะ
‘แล้วนี้จะไปไหนกันเหรอ’ ฉันถาม
‘เดี๋ยวจะไปประชุมคณะน่ะ ไปด้วยกันไหม’ กายถาม
‘บ้า อยู่กันคนละคณะจะไปได้ยังไงล่ะ’
‘งั้นพวกเราไปก่อนนะ’ แล้วกายกับเนยก็เดินจากไป
ย้อนกลับไปหนึ่งเดือนที่แล้ว
‘นิน พัดมันมาบอกว่ามันเห็นกายกับเนยที่ร้านข้าว’ อุ้มพูดขึ้นหลังจากกลับมาถึงหอพัก
‘อ่าหะแล้วไง’
‘พัดบอกว่า กายกับเนยมันแปลกๆนะ’
‘แปลกยังไง’
‘มันดูสนิทกันเกินเพื่อนไปอะ’
‘บ้า ไม่มีอะไรหรอก พวกแกอ่ะคิดมาก’
‘นิน…’
‘ไม่มีอะไรหรอก กายยังแนะนำเนยให้ฉันรู้จักเลย’
‘...’
‘เนยรู้ว่าฉันเป็นแฟนกาย แถมยังชมว่าฉันสวยเลยนะ’
‘อ่ะ แล้วแต่แกละกัน ว่าแต่ช่วงนี้แกได้คุยกับกายบ้างมั้ย’
‘เหอะ ไม่ค่อยได้คุยอ่ะ ต่างคนต่างยุ่งกับงานคณะ’
‘แกก็หาเวลาไปเจอแฟนแกบ้างแล้วกันนะนิน’
‘ได้จ้า แต้งกิ้วนะที่เป็นห่วง ^^’
ตัดกลับมาหลังจากที่ฉันคุยโทรศัพท์กับพัดเสร็จ ฉันก็กดโทรหากายทันที
ตู้ด ตู้ดด…
‘ฮัลโหล ว่าไงนิน’
‘ฮัลโหลกาย ตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอ’
‘อ่อ กำลังติวหนังสืออยู่น่ะ’
‘ติวที่ไหนเหรอ’
‘ติวที่ห้อง Study ตึก XXX อยู่ มีอะไรหรือเปล่า’
‘เปล่าๆ ไม่มีอะไหรอก งั้นแค่นี้นะ’
…
‘ยุทธ์ เดี๋ยวมีธุระต่อมั้ยหลังจากนี้’ ฉันถามยุทธ์
‘ไม่มีนะ’ ยุทธ์ตอบ
‘งั้นเราวานยุทธ์ช่วยขับรถพาเราเข้ามหาลัยไปที่ตึก XXX หน่อยได้มั้ย’
จากนั้นฉันก็หยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และตุ๊กตาบนเตียงและขึ้นรถยุทธ์ไป ยุทธ์ไม่ได้ถามอะไร แต่ก็ขับรถพาฉันไปแต่โดยดี
ณ หน้าตึก XXX
‘น้อง จะจอดรถตรงนี้ไม่ได้นะ’ พี่รปภ.รีบวิ่งเข้ามาเมื่อเห็นว่ายุทธ์จอดรถหน้าตึก
‘พี่ ผมพาเพื่อนผมมาทำธุระแป้บนึงครับ’ ยุทธ์ตอบ
‘อ่ะ ก็ได้ เห็นว่าเป็นช่วงสอบ พี่ให้ไม่เกิน 5 นาทีนะ’
‘ยุทธ์รอเราบนรถก็ได้นะ’ ฉันบอกพร้อมเปิดประตูลงจากรถมา
‘เห้ยไม่เอานิน เดี๋ยวเราลงไปด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ แต่สีหน้าเธอดูแย่มากอ่ะ’ ยุทธ์พูดพร้อมเดินออกจากรถตามหลังฉันมา
ณ ห้อง Study
ฉันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับตุ๊กตาในมือ คนในห้องที่จับกลุ่มติวหนังสือไม่มีใครสนใจเงยหน้ามามองฉัน ฉันเดินลึกเข้าไปในห้องเรื่อยๆเพื่อมองหาคนที่คุ้นเคย…และฉันก็เจอแล้ว…
…กายกำลังนั่งติวหนังสือกับเนยอยู่ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เขาสองคนนั่งจับมือกัน
ปึกกก!
ฉันโยนตุ๊กตาลงกลางโต๊ะที่กายกับเนยนั่งอยู่
‘นิน!’ ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมาเจอฉัน ด้วยความตกใจทั้งสองปล่อยมือออกจากกัน
‘เพื่อนเหรอ…ไหนบอกว่าเป็นเพื่อนในคณะไงกาย’ ฉันถามพร้อมนั่งลงข้างๆกาย
‘...’ กายเงียบ เนยก้มหน้า
‘เราขอดูโทรศัพท์กายหน่อย’ ฉันพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือกายที่อยู่บนโต๊ะมา
‘อย่า…’ กายห้าม ฉันมองกายและโดยที่ฉันไม่ต้องพูดอะไร กายก็หยุดและยอมให้ฉันดูโทรศัพท์...
ฉันเปิดหน้าจอโทรศัพท์กายขึ้นมาก็พบว่ารูปพื้นหลังที่เคยเป็นรูปคู่ของฉันกับกายได้ถูกเปลี่ยนเป็นรูปคู่ของเนยและกายแล้ว…
‘จะเลือกเราหรือเลือกเนย’ ฉันถาม
‘...’ กายไม่ตอบ
‘จะเลิกกับเนยใช่ไหม’
‘นิน…’ กายเรียกชื่อฉัน
‘หรือจะเลิกกับนิน’
‘...’ กายเงียบ
‘โอเค งั้นเราเลิกกัน’ ฉันพูดพร้อมปาโทรศัพท์กายลงบนโต๊ะ คนในห้องที่ตอนแรกไม่สนใจฉันกลับเลิกติวหนังสือและมองมาที่ฉันแทน
‘...’ กายก็ยังเงียบอยู่อย่างนั้น ฉันที่รู้คำตอบแล้วจึงหันหลังและเดินออกจากห้องมา ยุทธ์เดินตามฉันกลับมาขึ้นรถ
…
‘นิน ไม่เป็นไรใช่ไหม’ ยุทธ์ถามก่อนที่จะส่งฉันลงที่หอ
‘ไม่เป็นไร สบายมาก ขอบใจนะ เจอกันหน้าห้องสอบพรุ่งนี้นะ’ ฉันตอบ
แล้วการทำข้อสอบในวันนั้นก็เป็นวันที่ฉันลืมไม่ลง…ฉันทำข้อสอบไปร้องไห้ไป…ฉันกดเครื่องคิดเลขไปน้ำตาก็ไหลลงบนกระดาษทด…ฉันไม่สนใจสายตาของครูคุมสอบ…ไม่สนใจสายตาของเพื่อนในเซค…สอบเสร็จฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฉันกลับถึงพอพักได้ยังไง ถึงสติของฉันในตอนนั้นมันจะเรือนลาง แต่ความเจ็บมันชัดมาก มันเจ็บเหมือนมีดปักอยู่ที่อกตลอดเวลา
สุดท้ายผลสอบวิชานั้นฉันได้ A…อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่าฉันก็ยังรักตัวเองอยู่ละนะ
Regret for Life นิยายเล่าเรื่องความเสียใจและเสียดายที่เกิดขึ้นในชีวิต
“นิน...นี่มันสามวันแล้วนะแก”
“...”
“แกไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้วนะเว้ย” อุ้ม รูมเมทของฉันพูดขึ้น ใช่ค่ะฉันชื่อนิน นักศึกษาปี 1 เทอม 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
“ออกไปตลาดซื้อข้าวเย็นกินกัน” ว่าแล้วอุ้มก็ดึงฉันให้ลุกออกจากเตียง บังคับให้ฉันแต่งตัวและเธอก็พาฉันออกไปสู่โลกภายนอกที่ฉันไม่ได้เห็นมาสามวันเต็ม
“กินข้าวให้มีแรง แล้วจะเสียใจเท่าไหรก็เสียใจไปเลย”
“เจ็บว่ะอุ้ม เจ็บเหมือนมีมีดปักที่อกอยู่ตลอดเวลาเลยว่ะ” ฉันตอบอุ้มแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างรถ มองเห็นรถและคนมากมายเดินไปเดินมาในซอยมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยในฝันของฉัน ฉันเคยคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีโอกาสได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้แถมฉันยังมีเพื่อนมอปลายอย่างอุ้มเข้าเรียนพร้อมกันและมาเป็นรูมเมท และที่สำคัญที่สุดคือรักแรกที่กลายมาเป็นแฟนคนแรกของฉันก็เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้พร้อมกัน
สามวันที่แล้ว
‘อุ้ม เดี๋ยววันนี้มีเพื่อนนินมาติวหนังสือที่ห้องนะ’ ฉันบอกอุ้มก่อนที่อุ้มจะออกไปสอบปลายภาควิชาประจำคณะของอุ้ม
‘ได้ๆ ไปแล้วนะ’
…
‘ฮัลโหล ยุทธ์อยู่ไหนแล้วไปรับพวกเพื่อนเสร็จยัง’ ฉันโทรหายุทธ์เพื่อนในคณะเดียวกัน ในตอนนั้นฉันและเพื่อนๆส่วนใหญ่ยังขับรถไม่เป็นเลยวานให้ยุทธ์ขับรถไปรับเพื่อนๆมาจากหอแล้วมาติวสอบวิชาคณิตที่ห้องฉัน
…และทันทีที่เราติวหนังสือเสร็จ โทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้น
‘ฮัลโหล ว่าไงพัด’
‘นินเหรอ เออ เมื่อกี้ฉันเจอกายอยู่กับเนยอ่ะ ดูสนิทกันมากเลยนะ’
‘พัด ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าแกอ่ะคิดมากไปเอง’
’ไม่ๆนิน ฉันเห็นกายเดินจับมือกับเนยอยู่หน้าเซเว่น‘
‘...’
‘ฉันเลยถามกาย กายมันก็บอกว่าก็อย่างที่ฉันเห็นนั่นแหละ’
‘...’
‘ฉันเลยถามกายว่าแล้วกายจะเคลียร์กับนินเมื่อไหร’
‘...’
‘กายบอกว่า มันไม่กล้าบอกเลิกแกอ่ะ’
‘...’
‘มันชัดเจนมากแล้วนะนิน เลิกบอกว่าพวกฉันคิดมากได้แล้ว’
‘...’
ย้อนกลับไปสองเดือนที่แล้ว
‘นิน เลิกเรียนแล้วใช่มั้ย’ กาย…ชายผู้ซึ่งเป็นรักแรกและแฟนคนแรกของฉันถามขึ้น กายมายืนอยู่หน้าห้องเรียนฉันตั้งแต่เมื่อไหรไม่รู้
‘อื้อ เลิกเรียนแล้ว ^^’ ฉันตอบพร้อมเดินออกมาหากาย
‘เอ้อนี่จะแนะนำเพื่อนในคณะเราให้รู้จัก คนนี้ชื่อเนยนะ เนย นี่นินแฟนเรา’ กายแนะนำหญิงสาวชื่อเนยให้ฉันรู้จัก เนยเป็นผู้หญิงหมวย ตาตี่ ผมสั้น ตัวเล็กกว่าฉันเล็กน้อย
‘ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะเนย’ ฉันทักทายเนย
‘ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ้ะนิน กายแฟนนายสวยมากเลย’ ฉันยิ้มอย่างเขินอายให้กับเนย พอมีผู้หญิงมาชมว่าสวยมันก็รู้สึกแปลกๆดีนะ
‘แล้วนี้จะไปไหนกันเหรอ’ ฉันถาม
‘เดี๋ยวจะไปประชุมคณะน่ะ ไปด้วยกันไหม’ กายถาม
‘บ้า อยู่กันคนละคณะจะไปได้ยังไงล่ะ’
‘งั้นพวกเราไปก่อนนะ’ แล้วกายกับเนยก็เดินจากไป
ย้อนกลับไปหนึ่งเดือนที่แล้ว
‘นิน พัดมันมาบอกว่ามันเห็นกายกับเนยที่ร้านข้าว’ อุ้มพูดขึ้นหลังจากกลับมาถึงหอพัก
‘อ่าหะแล้วไง’
‘พัดบอกว่า กายกับเนยมันแปลกๆนะ’
‘แปลกยังไง’
‘มันดูสนิทกันเกินเพื่อนไปอะ’
‘บ้า ไม่มีอะไรหรอก พวกแกอ่ะคิดมาก’
‘นิน…’
‘ไม่มีอะไรหรอก กายยังแนะนำเนยให้ฉันรู้จักเลย’
‘...’
‘เนยรู้ว่าฉันเป็นแฟนกาย แถมยังชมว่าฉันสวยเลยนะ’
‘อ่ะ แล้วแต่แกละกัน ว่าแต่ช่วงนี้แกได้คุยกับกายบ้างมั้ย’
‘เหอะ ไม่ค่อยได้คุยอ่ะ ต่างคนต่างยุ่งกับงานคณะ’
‘แกก็หาเวลาไปเจอแฟนแกบ้างแล้วกันนะนิน’
‘ได้จ้า แต้งกิ้วนะที่เป็นห่วง ^^’
ตัดกลับมาหลังจากที่ฉันคุยโทรศัพท์กับพัดเสร็จ ฉันก็กดโทรหากายทันที
ตู้ด ตู้ดด…
‘ฮัลโหล ว่าไงนิน’
‘ฮัลโหลกาย ตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอ’
‘อ่อ กำลังติวหนังสืออยู่น่ะ’
‘ติวที่ไหนเหรอ’
‘ติวที่ห้อง Study ตึก XXX อยู่ มีอะไรหรือเปล่า’
‘เปล่าๆ ไม่มีอะไหรอก งั้นแค่นี้นะ’
…
‘ยุทธ์ เดี๋ยวมีธุระต่อมั้ยหลังจากนี้’ ฉันถามยุทธ์
‘ไม่มีนะ’ ยุทธ์ตอบ
‘งั้นเราวานยุทธ์ช่วยขับรถพาเราเข้ามหาลัยไปที่ตึก XXX หน่อยได้มั้ย’
จากนั้นฉันก็หยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และตุ๊กตาบนเตียงและขึ้นรถยุทธ์ไป ยุทธ์ไม่ได้ถามอะไร แต่ก็ขับรถพาฉันไปแต่โดยดี
ณ หน้าตึก XXX
‘น้อง จะจอดรถตรงนี้ไม่ได้นะ’ พี่รปภ.รีบวิ่งเข้ามาเมื่อเห็นว่ายุทธ์จอดรถหน้าตึก
‘พี่ ผมพาเพื่อนผมมาทำธุระแป้บนึงครับ’ ยุทธ์ตอบ
‘อ่ะ ก็ได้ เห็นว่าเป็นช่วงสอบ พี่ให้ไม่เกิน 5 นาทีนะ’
‘ยุทธ์รอเราบนรถก็ได้นะ’ ฉันบอกพร้อมเปิดประตูลงจากรถมา
‘เห้ยไม่เอานิน เดี๋ยวเราลงไปด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ แต่สีหน้าเธอดูแย่มากอ่ะ’ ยุทธ์พูดพร้อมเดินออกจากรถตามหลังฉันมา
ณ ห้อง Study
ฉันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับตุ๊กตาในมือ คนในห้องที่จับกลุ่มติวหนังสือไม่มีใครสนใจเงยหน้ามามองฉัน ฉันเดินลึกเข้าไปในห้องเรื่อยๆเพื่อมองหาคนที่คุ้นเคย…และฉันก็เจอแล้ว…
…กายกำลังนั่งติวหนังสือกับเนยอยู่ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เขาสองคนนั่งจับมือกัน
ปึกกก!
ฉันโยนตุ๊กตาลงกลางโต๊ะที่กายกับเนยนั่งอยู่
‘นิน!’ ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมาเจอฉัน ด้วยความตกใจทั้งสองปล่อยมือออกจากกัน
‘เพื่อนเหรอ…ไหนบอกว่าเป็นเพื่อนในคณะไงกาย’ ฉันถามพร้อมนั่งลงข้างๆกาย
‘...’ กายเงียบ เนยก้มหน้า
‘เราขอดูโทรศัพท์กายหน่อย’ ฉันพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือกายที่อยู่บนโต๊ะมา
‘อย่า…’ กายห้าม ฉันมองกายและโดยที่ฉันไม่ต้องพูดอะไร กายก็หยุดและยอมให้ฉันดูโทรศัพท์...
ฉันเปิดหน้าจอโทรศัพท์กายขึ้นมาก็พบว่ารูปพื้นหลังที่เคยเป็นรูปคู่ของฉันกับกายได้ถูกเปลี่ยนเป็นรูปคู่ของเนยและกายแล้ว…
‘จะเลือกเราหรือเลือกเนย’ ฉันถาม
‘...’ กายไม่ตอบ
‘จะเลิกกับเนยใช่ไหม’
‘นิน…’ กายเรียกชื่อฉัน
‘หรือจะเลิกกับนิน’
‘...’ กายเงียบ
‘โอเค งั้นเราเลิกกัน’ ฉันพูดพร้อมปาโทรศัพท์กายลงบนโต๊ะ คนในห้องที่ตอนแรกไม่สนใจฉันกลับเลิกติวหนังสือและมองมาที่ฉันแทน
‘...’ กายก็ยังเงียบอยู่อย่างนั้น ฉันที่รู้คำตอบแล้วจึงหันหลังและเดินออกจากห้องมา ยุทธ์เดินตามฉันกลับมาขึ้นรถ
…
‘นิน ไม่เป็นไรใช่ไหม’ ยุทธ์ถามก่อนที่จะส่งฉันลงที่หอ
‘ไม่เป็นไร สบายมาก ขอบใจนะ เจอกันหน้าห้องสอบพรุ่งนี้นะ’ ฉันตอบ
แล้วการทำข้อสอบในวันนั้นก็เป็นวันที่ฉันลืมไม่ลง…ฉันทำข้อสอบไปร้องไห้ไป…ฉันกดเครื่องคิดเลขไปน้ำตาก็ไหลลงบนกระดาษทด…ฉันไม่สนใจสายตาของครูคุมสอบ…ไม่สนใจสายตาของเพื่อนในเซค…สอบเสร็จฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฉันกลับถึงพอพักได้ยังไง ถึงสติของฉันในตอนนั้นมันจะเรือนลาง แต่ความเจ็บมันชัดมาก มันเจ็บเหมือนมีดปักอยู่ที่อกตลอดเวลา
สุดท้ายผลสอบวิชานั้นฉันได้ A…อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่าฉันก็ยังรักตัวเองอยู่ละนะ