ผู้ชายแบบนี้โอเคดีมั้ย เขาดูให้เกียรติเราหรือเอาเปรียบ ดูเป็นผู้นำให้เรามั้ย

จขกท. คบกับแฟนมาสักพักแล้ว เกือบครึ่งปี
เราอายุ 23 ปี แฟนอายุ 31 ปี เราบอกแค่เพื่อนสนิทเราว่าเรามีแฟนแล้ว คนที่บ้านเราก็พอรู้บ้าง แต่ยังไม่ถึงช่วงที่จะพาเขาไปรู้จัก ส่วนทางเขา เขาบอกว่าครอบครัวเขารู้แล้วว่าคบกับเรา แต่ยังไม่มีโอกาสพาไปให้รู้จัก เราก็โอเคนะ พออยากให้คบกันนานกว่านี้แล้วค่อยไปรู้จักที่บ้านแต่ละฝ่าย มีพี่ที่ออฟฟิศของเขารู้ว่าเขามีแฟนแล้ว แต่พวกเพื่อนนี่เขาบอกว่าเขาเป็นคนไม่มีเพื่อน มีเพื่อนสนิทอยู่แค่คนเดียว ตอนนี้เราต่างฝ่ายต่างไม่ได้เปิดตัวในโลกโซเชียล ไม่มีการตั้ง relationship และลงรูปคู่ เราเคยถามเขาแล้วว่า ตั้งสถานะมั้ย ไม่ต้องแท็กว่าเป็นแฟนกับเราก็ได้ แค่ตั้งว่ามีแฟนแล้ว เราก็จะตั้งว่ามีแฟนเหมือนกัน เราเห็นว่าเขามีรุ่นน้องผู้หญิงเยอะ เพราะเขาเป็นตากล้องมาก่อนรู้จักคนมาก ก็จะมีคนเข้าหามาทักทาย แต่น่าจะไม่ได้คุยแบบชู้สาว และเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่เคยเช็คโทรศัพท์ เพราะเขาดูเป็นคนที่ค่อนข้างรักเราและดูไม่นอกใจ เขาก็บอกให้เชื่อใจเขาว่าไม่มีใคร เราก็เชื่อใจเขา เขาบอกเขาไม่ชอบตั้งสถานะเฟส ไม่รู้จะเปิดให้คนอื่นรู้ทำไม เรารักกัน2คนงี้ เราก็เลยคิดว่าเขาโตแล้วคงไม่ชอบอะไรเด็กๆแบบนี้รึป่าว ต้องมาตั้งคบ เราก็ไม่อะไรแล้ว แต่อาจจะมีความรู้สึกว่าทำไมนะเข้ามาบ้าง เราแค่อยากตั้งให้สบายใจให้คนพอรับรู้ว่ามีแฟนแล้ว ไม่ต้องออกสื่อสวีทหวาน เพราะเราก็ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นขนาดนั้น แต่ก็ต้องปล่อยๆไป ไม่อยากทำตัวงี่เง่าเซ้าซี้หรือบังคับแฟน ไม่ตั้งคบกันในเฟสก็ได้ ให้ลงรูปคู่หรือแท็กโพสต์ที่แชร์ก็ได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ เขาบอกให้เราทำเลย ให้ลงรูปและแท็กหาเขาตลอด ตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้ว มีแต่เราลงสตอรี่และแท็กเขาตลอด แต่เขาก็ไม่ได้เอาสตอรี่ที่เราแท็กมาลงต่อ ตอนนี้ก็กลายเป็นเราไม่รู้ว่าจะต้องเป็นคนเริ่มลงและเปิดตัวเขาก่อนหรอ ในสตอรี่ลงไปเขาก็ไม่ได้ลงต่อ เราก็คิดนะว่าผู้ชายเขาน่าจะเปิดตัวเราก่อนมั้ยนะ แต่เราก็ไม่ได้อยากคิดว่าผู้ชายจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกสิ่งอย่าง แต่คือเราเคยทำแล้วเขาน่าจะทำบ้าง จบเรื่องนี้ก่อนนะคะ
เรื่องต่อมา เรื่องออกค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร เราจะเป็นคนจ่ายก่อนเสมอ และเขาค่อยมาจ่ายคืนเราหลังจากเราจ่ายเสร็จ และหารครึ่งเท่ากันทุกอย่าง แต่ก็มีบ้างที่2-3วัน หรือถัดไปสัปดาห์นึง เขาก็ค่อยมาโอนคืน เพราะเงินเดือนเขายังไม่ออก และเขาต้องจ่ายอะไรหลายอย่าง ส่งเงินให้ที่บ้านและค่าห้องพักอีก เราเข้าใจเลยไม่อะไร และส่วนมากเวลาเราไปหาเขาที่ห้อง เรามักจะซื้อข้าวของกินเล่นไปให้เขาตลอด เราเต็มใจให้เขาค่ะ ก็มีบ้างที่เขาบอกให้ซื้ออะไรเข้ามาใหเขากิน แต่มาพักหลังเราเริ่มมาคิดแล้วว่าเราควรซื้อไปให้น้อยลงหรือไม่ซื้อไปฝากดี เราไม่เคยเก็บเงินเขาเลย เพราะเราซื้อไปให้เขาเอง แต่อีกใจเราก็คิดว่าเขาจะจ่ายคืนให้เรามั้ยนะ เราก็ออกค่าของที่หิ้วมาให้เขาตลอด เราไม่ได้หวงเงินหรือขี้งกขี้เหนียว เราเต็มให้เขาจริงๆ แต่เราแค่อยากให้ฝ่ายชายเอ่ยปากพูดก่อนว่าจะจ่ายค่านู่นนี่นั่นให้หรือแสดงท่าทีว่าให้เราก่อน
เรื่องสุดท้าย จขกท. เคยเล่าให้แฟนฟังเรื่องที่จขกท.มีเรื่องทะเลาะกับที่บ้าน แต่เขาจะรับฟังเสมอ แต่ไม่แนะนำอะไร เขาบอกว่าเรื่องของครอบครัว เขาก็แนะอะไรไม่ได้ เขาเป็นคนนอก ก็บอกประมาณว่าค่อยๆคุยกับที่บ้านประมาณนี้ จขกท.ก็เลยรู้สึกบ้างว่าเขาน่าจะชี้แนะเราอะไรสักหน่อย และเราก็เริ่มรู้สึกไม่อยากเล่าปัญหาต่างๆให้เขาฟัง เพราะเขาก็แนะนำเราไม่ได้ และตัวเราเองก็รู้สึกผิดต่อเขา ที่ต้องมาเล่าให้เขาฟังเสมอ เขาอาจจะเบื่อและรำคาญก็ได้ แบบเขาทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องมาฟังเรื่องน่าปวดหัว
ประมาณนี้ค่ะ

สรุป ด้วยความที่เพื่อนของจขกท. เขามีแฟนกัน แล้วฝ่ายชายเลี้ยงมาตลอด หรือทางเพื่อนของจขกท. มาโอนคืนให้ทีหลัง หรือผลัดกันเลี้ยงคนละมื้อ แบบมื้อไหนแพงฝ่ายชายก็ออกให้ก่อน ซึ่งพอจขกท. มาฟังเรื่องราวของเพื่อนแล้ว ก็แอบคิดน้อยใจบ้างว่าทำไมเราไม่มีฟิลแบบนี้เลย แล้วเพื่อนก็แนะนำแบบว่าเขาดูไม่เป็นผู้นำหรือซัพพอร์ตเราได้ แบบเราจากที่มีตะขิดตะขวงในใจมาบ้าง ซึ่งตอนนี้เราก็เริ่มคิดมากตามแล้ว ได้ปรึกษากับเพื่อนแล้วก็เริ่มรู้สึกลบ ตอนแรกก็กะจะไม่ปรึกษาเพื่อนกลัวเพื่อนมองแฟนเราไม่ดี แต่ก็กลายเป็นเราพลาดเองที่ถามเพื่อนรึป่าว แต่เพื่อนก็อยากให้เราเจอคนที่ดูซัพพอร์ตและเป็นผู้นำเรา แต่เขาเป็นคนที่น่ารักและดีระดับนึง เราก็ยังไม่ได้เจอปัญหาอะไรอย่างอื่น
ตอนนี้ตัวเราสับสนไปหมด สมองกับความรู้สึกมันตีกัน มีใครพอจะแนะนำได้บ้างมั้ยคะ ว่าควรจะทำยังไง เราควรจะพูดกับเขาหรอ เราก็ไม่กล้า หรือถึงขั้นต้องจบความสัมพันธ์เลยตั้งแต่เนิ่นๆ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ถ้าพิมพ์ข้อความอะไรไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่