....กุหลาบข้างหมอน

กระทู้คำถาม
...จะมีไหมนะ
คนที่เกิดมา  เติบโต  ทำงาน
แล้วก็ตายไปโดยไม่เคยรัก
ใครสักคนบนโลกใบนี้

จะน่าเศร้าไหม  หรือจะดีกว่า ถ้าเทียบกับความรักที่
ไม่สมหวัง

ผมว่าความรัก บางครั้งก็ดี
ในแง่ของกำลังใจในการใช้ชีวิต  ทุกเช้าเราจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความมุ่งหวัง
ความอดทนและความฝันร้อยแปด อยากเก็บเงินสร้างบ้าน อยากซื้อรถ
อยากมีเงินเก็บในบัญชีเยอะๆ  อยากซื้อทอง
อยากแต่งงาน

แม้จะมีเส้นแบ่งของความห่างไกลมากั้น  แต่เชื่อเถอะ
ด้วยอำนาจแห่งความรัก
มันสามารถบังคับคุณให้
จัดการรักระยะไกลจนเหมือนอยู่ใกล้กระจิ๊งหริ่ง(ศัพท์แสลงผมเองครับ)

ความรักยังเป็นอะไรและทำอะไรได้อีกมากมายจนพรรณนาไม่หมด อยู่ที่ว่าคุณคาดหวังอะไรกับมัน

อย่างผู้ชายคนนี้ไงครับ

ผู้ชายทึ่มๆ ที่วันๆแทบไม่มี
ถ้อยคำใดหลุดจากปาก
เขา..ผู้หายใจเป็นงาน

แต่ตอนนี้เขาก็..พอจะพูดเป็นอยู่นะ ยิ้มเก่งพูดเก่งและชอบหนีOTในวัน
อาทิตย์(คนไม่ขยันทำงาน
ดีตรงไหนฟระ)
เพราะเขาแอบไปชาร์จแบต

แบตเตอรี่หัวใจไงครับ
ขับมอเตอร์ไซค์ข้ามจังหวัด
แต่เช้าและ กลับถึงห้องในตอนค่อนดึก
มีเวลาว่างเล็กน้อยก็แอบไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์(เห็นแล้วหมั่นใส้
ชมัด) เห็นไหมครับบางครั้ง
ความรักก็ทำให้คนดีเป็นคนบ้า แต่บางครั้งก็เปลี่ยนคนบ้าให้เป็นคนดี

"นี่..จะหลอกด่ากันอีกนาน
ไหม"

555..มันรู้ทันซะละงั้น..มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า

ผมชอบแอบดูชีวิตของผู้ชายคนนี้ครับ ชอบที่เขา
ซื่อบื้อ

"เอ๊ะ!!"

เอาใหม่ๆ ชอบที่เขาดูไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครดี
ซื่อๆจริงใจและรักเดียวใจเดียว  

มีบางครั้งที่เขากับน้องคนนั้นห่างกัน แต่บอกเลยว่า
หัวใจเขาไม่เคยคลอนแคลน ยังคงมีแต่เธอ
สาวชลบุรีคนนั้น
ด้วย.. อยากสร้างเนื้อสร้างตัวด้วย ประกอบกับงานมากจนทิ้งไม่ได้แม้ใจเรียก
ร้อง จดหมายจึงเป็นทางออกที่สะดวกที่สุด
เขียนทีละสามสี่หน้ากระดาษ ขนาดนั้นยังเหมือนระบายความคิดถึง
ไม่หมดไม่พอ(แต่เวลาได้คุยจริง ก็คุยไม่กี่คำหรอกครับ แหม..ก็มันเขิน)

อานุภาพแห่งรักรุนแรงเสมอ บางครั้งก็เกินความเข้าใจของคนมองวงนอก

บ่ายของวันทำงานวันหนึ่ง
นายทึ่มโผเผกลับมาถึงบ้าน
โดยไม่พูดไม่จาน้ำท่าไม่อาบ
คว้าหมอนมาได้ เธอก็หลับ
ไปง่ายๆที่ระเบียงนั่นแหละ
ช่วงนี้ตาทึ่มกลับบ้านช้ากว่าเดิมทุกวัน(ทำOTเพื่ม)
ทำงานจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน  และเขาอ้างว่า

"อยากปลูกบ้านเร็วๆ"

ก็คงดีหรอกถ้าเจตนาเขามี
แค่นั้น  แต่ผมว่า เขาคงอยากสร้างครอบครัวด้วย
แหละ แฟนเรียนจบแล้ว
ตานี่คงคิดอยากแต่งงาน
บ้างล่ะมัง
เมื่อพ่อแม่ไม่มีสมบัติให้
ก็ต้องขยัน  อย่างน้อยก็ต้องทำให้พ่อแม่เขามั่นใจว่าเรา
ดูแลลูกเขาได้

ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนอีกสิบนาทีห้าโมงเย็น  สายตาของตาทึ่มก็ปะทะเข้ากับ
กุหลาบสีเหลืองดอกใหญ่ข้างหมอน

"น้องแอร์มา"

เสียงแม่ลอยมาด้วยประโยคบอกเล่า

"ทำไมแม่ไม่ปลุกหนู"

"ก็น้องแค่แวะเอาของมาให้
เห็นว่ารีบกลับด้วยเพราะ
ไม่ได้บอกใครไว้ว่าจะมา"

"ดูสิ.."

"เอาน่า..เห็นบอกว่า มาสัมภาษณ์งานด้วย  อีกหน่อยก็มาอยู่ใกล้กันแล้ว
จะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้"

นายทึ่มทำตาโตแม้จะยัง
สงสัย
'เอ...ก็ไหนว่าอยากลองฝึกสอนดูก่อน  ถ้าไม่ดีค่อย
เบนเข็มไปทำอย่างอื่นไง
ทำไมวันนี้มาสัมภาษณ์งาน'

"แล้ว..น้องมากะใคร"

"คนเดียว  เอาเจ้ากระป๋องมา เห็นว่ามืดๆ จะโทรหาเรานี่ "

"งั้นหนูไปโทรหาน้องดีกว่า
ถึงรึยังก็ไม่รู้ มาคนเดียวถ้า
เจ้ากระป๋องเกิดดื้อขึ้นมาจะ
ทำยังไง"

บ่น บ่น บ่น แล้วก็บ่นเสร็จ
ตาทึ่มก็วิ่งเข้าห้อง (โทรศัพท์อยู่ในห้อง)
ก่อนเสียงเอะอะโวยวาย
จะตามมา

"เฮ้ย..ย..ย"


"อย่ามัวแต่ร้อง มาเป่าเค้ก
เร็วๆ หนูรอกินตั้งนานแล้ว
หิวข้าวก็หิว  คนอะไรนอน
กินบ้านกินเมือง  ไม่ต้องร้องเพลงหรอก ช้า "

เอ้า...เขามาตะไคร้วันเกิด
กันเหรอ...แหม..อุตส่าห์มา
แอบดู  ไปดีก่า เค้กของเราก็รออยู่เหมือนกัน
สุขสันต์วันเกิดนะตาทึ่ม
ขอให้แก่ลงอีกปีละกันนะ
ถึงปีหน้าก็ขอให้แก่อีก
แก่ลง แก่ลง โอมเพี้ยง...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่