ด่วน ! พบ “โอมิครอน” กลายพันธุ์ที่แรกของโลก ตรวจเจอยากกว่าเดิม
https://www.nationtv.tv/news/378855918
“ออสเตรเลีย” พบผู้ติดเชื้อโควิด “โอมิครอน” กลายพันธุ์ที่แรกของโลก เรียก "สายพันธุ์คล้ายคลึงโอมิครอน" หรือ Omicron Like ตรวจเจอยากขึ้น กว่าโอมิครอนดั้งเดิม
วันนี้ (8 ธ.ค.64) กระทรวงสาธารณสุข รัฐควีนสแลนด์ ของออสเตรเลีย แถลงข่าวว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอมิครอน" จำนวน 2 ราย โดย 1 ใน 2 ราย ที่พบการติดเชื้อนั้น เป็นผู้ชายสัญชาติแอฟริกาใต้ ที่มีการติดเชื้อที่มีรหัสพันธุกรรมแตกต่างออกไปจากรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอมิครอน" แบบเดิม จึงมีการเรียกชื่อในเบื้องต้นว่า "สายพันธุ์คล้ายคลึงโอมิครอน" หรือ Omicron Like ขณะนี้ชายคนนี้ถูกส่งไปกักตัวที่โรงแรมในเมืองบริสเบน
ด้าน นาย
ปีเตอร์ เอทเคน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะยืนยันว่า สายพันธุ์
"โอมิครอน" จะมีความรุนแรงในแง่อาการป่วย หรือการเสียชีวิตมากน้อยแค่ไหน รวมถึงความสามารถในการแพร่ระบาดติดเชื้อ และหลบเลี่ยงภูมิต้านทานในร่างกายที่เกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในด้านผลจากการตรวจเชิงลึกในห้องแลป พบว่า สายพันธุ์ "โอมิครอน" ที่พบในแอฟริกาใต้ สามารถกลายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากกว่า 30 ตำแหน่ง แต่สำหรับสายพันธุ์ Omicron Like ที่พบในรัฐควีนส์แลนด์นี้ สามารถกลายพันธุ์ได้ 14 ตำแหน่ง และข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้มันหลบหลีกการตรวจเจอได้มากกว่าโอมิครอนแบบดั้งเดิม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะไม่ถูกตรวจเจอและแพร่เชื้อไปต่อผู้อื่นได้
ขณะนี้ ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ
"โอมิครอน" สะสมอย่างน้อย 9 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรี
สกอตต์ มอร์ริสัน เลื่อนกำหนดการเปิดพรมแดนไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมคือวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลครอบคลุมกับพลเมืองต่างชาติจากทุกประเทศ แม้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้วก็ตาม
คุมไม่อยู่ เกาหลีใต้เครียด พบติดโควิดรายใหม่ พุ่งเกิน 7 พัน ครั้งแรก
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2260307
เกาหลีใต้ยังคุมไม่อยู่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ พุ่งเกิน 7,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ระบาดในประเทศ รัฐบาลประกาศแผนรับมือวิกฤติโควิด ทั้งเพิ่มเตียงใน รพ. รักษาที่บ้านเพิ่มขึ้น
เมื่อ 8 ธ.ค. 64 สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้สร้างความกังวลเพิ่มขึ้น โดยสำนักข่าวยอนฮัปรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ พุ่งทะยานขึ้นไปถึง 7,174 ราย ซึ่งเกิน 7,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ ท่ามกลางความหวั่นวิตกของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ (Omicron) โอมิครอน และจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการรุนแรงกำลังเพิ่มขึ้น หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เฉลี่ยแล้ว วันละ 5,000 กว่าราย
นายกรัฐมนต
รีคิม บู-คยอม แห่งเกาหลีใต้ แถลงในวันนี้ หลังร่วมประชุมการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เกินกว่า 7,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงโซล เมืองหลวงถึง 80% โดยทางการเกาหลีใต้จะดำเนินการเพิ่มเตียงในโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรีคิม ยังกล่าวถึงมาตรการในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 อาทิ รัฐบาลจะใช้ระบบให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการป่วยรุนแรงรักษาที่บ้านเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขในประเทศในการรับมือกับผู้ป่วยหนักจากโควิด-19 พร้อมกันนั้น ยังเรียกร้องให้ประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ควรฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น และคนหนุ่มสาวควรรีบฉีดวัคซีนให้ครบโดสโดยด่วน
ตามรายงานยังระบุว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในเกาหลีใต้นั้น มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ถึง 35% อีกทั้งในจำนวนคนสูงอายุที่ติดโควิดมีอาการป่วยรุนแรงถึง 84% ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2565 รัฐบาลเกาหลีใต้จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถรวมกลุ่มกันได้เพียง 6 คน จากปัจจุบันที่อนุญาตให้รวมกลุ่ม 10-12 คน.
เอาแล้ว! สภาจ่อถกด่วน ควบรวม 'ทรู-ดีแทค' วอนทุกพรรคโหวตตั้ง กมธ.พิจารณา
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6772400
“หมอระวี” เผย สภาเตรียมถกญัตติด่วน ปมควบรวม “ทรู-ดีแทค” 9 ธ.ค.นี้ วอน ทุกพรรคโหวตผ่านตั้ง กมธ.เร่งพิจารณา ยึดประโยชน์ “ประชาชน” เป็นหลัก
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่รัฐสภา นพ.
ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงถึง กรณีที่ได้ยื่นเสนอญัตติด่วนให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาผลกระทบต่อประชาชน กรณีการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมและการค้าปลีก-ค้าส่ง ตลอดจน ผลกระทบจากการขยายตัวของทุนขนาดใหญ่ที่กระทบต่อทุนขนาดกลาง ขนาดเล็ก เกิดการขยายช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย เพื่อหามาตรการคุ้มครองประชาชนผู้บริโภค และธุรกิจ SME ว่า ต้องขอขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ญัตติดังกล่าว เข้าลักษณะญัตติด่วนตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อ 50 ซึ่งจะเลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาในการประชุมวันที่ 9 ธ.ค.
นพ.
ระวี กล่าวต่อว่า จากกรณีที่มีข่าวการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมระหว่างกลุ่มเทเลเนอร์ หรือ ดีแทค และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันบริษัทเอไอเอส มีลูกค้า 44 ล้านราย บริษัททรู มีลูกค้า 32 ล้านราย และบริษัทดีแทค มีลูกค้า 20 ล้านราย ถ้ามีการควบรวมกิจการจะทำให้บริษัทใหม่มีลูกค้า 52 ล้านราย ซึ่งจะครองการตลาดมากกว่าร้อยละ 50 ในอนาคตจะมีผลกระทบต่อการแข่งขันการบริการและราคา ค่าบริการ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนที่เป็นผู้บริโภคอย่างแน่นอน
“ผมจึงขอเสนอญัตติด่วนให้สภาฯ ตั้งคณะกมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณา เนื่องจากจะมีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศ ผมขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองสนับสนุนให้มีการตั้งกมธ.ศึกษาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยหวังว่ากมธ.วิสามัญจะมีข้อสรุปในการปรับปรุงกฎหมาย เกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้าของไทยให้มีประสิทธิภาพ ความชัดเจน และผลดียิ่งขึ้นกว่าที่มีอยู่ตอนนี้ ซึ่งยังมีจุดอ่อนมากมาย ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จในสภาฯ ชุดนี้” นพ.
ระวี กล่าว
JJNY : พบ“โอมิครอน”กลายพันธุ์│เกาหลีใต้เครียด โควิดพุ่งเกิน7พัน ครั้งแรก│สภาจ่อถกด่วน'ทรู-ดีแทค'│กกร.จี้ฉีดวัคซีนทั่วปท.
https://www.nationtv.tv/news/378855918
“ออสเตรเลีย” พบผู้ติดเชื้อโควิด “โอมิครอน” กลายพันธุ์ที่แรกของโลก เรียก "สายพันธุ์คล้ายคลึงโอมิครอน" หรือ Omicron Like ตรวจเจอยากขึ้น กว่าโอมิครอนดั้งเดิม
วันนี้ (8 ธ.ค.64) กระทรวงสาธารณสุข รัฐควีนสแลนด์ ของออสเตรเลีย แถลงข่าวว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอมิครอน" จำนวน 2 ราย โดย 1 ใน 2 ราย ที่พบการติดเชื้อนั้น เป็นผู้ชายสัญชาติแอฟริกาใต้ ที่มีการติดเชื้อที่มีรหัสพันธุกรรมแตกต่างออกไปจากรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอมิครอน" แบบเดิม จึงมีการเรียกชื่อในเบื้องต้นว่า "สายพันธุ์คล้ายคลึงโอมิครอน" หรือ Omicron Like ขณะนี้ชายคนนี้ถูกส่งไปกักตัวที่โรงแรมในเมืองบริสเบน
ด้าน นายปีเตอร์ เอทเคน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะยืนยันว่า สายพันธุ์ "โอมิครอน" จะมีความรุนแรงในแง่อาการป่วย หรือการเสียชีวิตมากน้อยแค่ไหน รวมถึงความสามารถในการแพร่ระบาดติดเชื้อ และหลบเลี่ยงภูมิต้านทานในร่างกายที่เกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในด้านผลจากการตรวจเชิงลึกในห้องแลป พบว่า สายพันธุ์ "โอมิครอน" ที่พบในแอฟริกาใต้ สามารถกลายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากกว่า 30 ตำแหน่ง แต่สำหรับสายพันธุ์ Omicron Like ที่พบในรัฐควีนส์แลนด์นี้ สามารถกลายพันธุ์ได้ 14 ตำแหน่ง และข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้มันหลบหลีกการตรวจเจอได้มากกว่าโอมิครอนแบบดั้งเดิม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะไม่ถูกตรวจเจอและแพร่เชื้อไปต่อผู้อื่นได้
ขณะนี้ ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน" สะสมอย่างน้อย 9 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน เลื่อนกำหนดการเปิดพรมแดนไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมคือวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลครอบคลุมกับพลเมืองต่างชาติจากทุกประเทศ แม้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้วก็ตาม
คุมไม่อยู่ เกาหลีใต้เครียด พบติดโควิดรายใหม่ พุ่งเกิน 7 พัน ครั้งแรก
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2260307
เกาหลีใต้ยังคุมไม่อยู่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ พุ่งเกิน 7,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ระบาดในประเทศ รัฐบาลประกาศแผนรับมือวิกฤติโควิด ทั้งเพิ่มเตียงใน รพ. รักษาที่บ้านเพิ่มขึ้น
เมื่อ 8 ธ.ค. 64 สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้สร้างความกังวลเพิ่มขึ้น โดยสำนักข่าวยอนฮัปรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ พุ่งทะยานขึ้นไปถึง 7,174 ราย ซึ่งเกิน 7,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ ท่ามกลางความหวั่นวิตกของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ (Omicron) โอมิครอน และจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการรุนแรงกำลังเพิ่มขึ้น หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เฉลี่ยแล้ว วันละ 5,000 กว่าราย
นายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม แห่งเกาหลีใต้ แถลงในวันนี้ หลังร่วมประชุมการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เกินกว่า 7,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงโซล เมืองหลวงถึง 80% โดยทางการเกาหลีใต้จะดำเนินการเพิ่มเตียงในโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรีคิม ยังกล่าวถึงมาตรการในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 อาทิ รัฐบาลจะใช้ระบบให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการป่วยรุนแรงรักษาที่บ้านเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขในประเทศในการรับมือกับผู้ป่วยหนักจากโควิด-19 พร้อมกันนั้น ยังเรียกร้องให้ประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ควรฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น และคนหนุ่มสาวควรรีบฉีดวัคซีนให้ครบโดสโดยด่วน
ตามรายงานยังระบุว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในเกาหลีใต้นั้น มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ถึง 35% อีกทั้งในจำนวนคนสูงอายุที่ติดโควิดมีอาการป่วยรุนแรงถึง 84% ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2565 รัฐบาลเกาหลีใต้จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถรวมกลุ่มกันได้เพียง 6 คน จากปัจจุบันที่อนุญาตให้รวมกลุ่ม 10-12 คน.
เอาแล้ว! สภาจ่อถกด่วน ควบรวม 'ทรู-ดีแทค' วอนทุกพรรคโหวตตั้ง กมธ.พิจารณา
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6772400
“หมอระวี” เผย สภาเตรียมถกญัตติด่วน ปมควบรวม “ทรู-ดีแทค” 9 ธ.ค.นี้ วอน ทุกพรรคโหวตผ่านตั้ง กมธ.เร่งพิจารณา ยึดประโยชน์ “ประชาชน” เป็นหลัก
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงถึง กรณีที่ได้ยื่นเสนอญัตติด่วนให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาผลกระทบต่อประชาชน กรณีการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมและการค้าปลีก-ค้าส่ง ตลอดจน ผลกระทบจากการขยายตัวของทุนขนาดใหญ่ที่กระทบต่อทุนขนาดกลาง ขนาดเล็ก เกิดการขยายช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย เพื่อหามาตรการคุ้มครองประชาชนผู้บริโภค และธุรกิจ SME ว่า ต้องขอขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ญัตติดังกล่าว เข้าลักษณะญัตติด่วนตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อ 50 ซึ่งจะเลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาในการประชุมวันที่ 9 ธ.ค.
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า จากกรณีที่มีข่าวการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมระหว่างกลุ่มเทเลเนอร์ หรือ ดีแทค และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันบริษัทเอไอเอส มีลูกค้า 44 ล้านราย บริษัททรู มีลูกค้า 32 ล้านราย และบริษัทดีแทค มีลูกค้า 20 ล้านราย ถ้ามีการควบรวมกิจการจะทำให้บริษัทใหม่มีลูกค้า 52 ล้านราย ซึ่งจะครองการตลาดมากกว่าร้อยละ 50 ในอนาคตจะมีผลกระทบต่อการแข่งขันการบริการและราคา ค่าบริการ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อประชาชนที่เป็นผู้บริโภคอย่างแน่นอน
“ผมจึงขอเสนอญัตติด่วนให้สภาฯ ตั้งคณะกมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณา เนื่องจากจะมีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศ ผมขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองสนับสนุนให้มีการตั้งกมธ.ศึกษาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยหวังว่ากมธ.วิสามัญจะมีข้อสรุปในการปรับปรุงกฎหมาย เกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้าของไทยให้มีประสิทธิภาพ ความชัดเจน และผลดียิ่งขึ้นกว่าที่มีอยู่ตอนนี้ ซึ่งยังมีจุดอ่อนมากมาย ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จในสภาฯ ชุดนี้” นพ.ระวี กล่าว