สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
1. ทำ check list งานที่สอนไปแล้วให้เด็กเซ็นรับทราบ หรือออกอีเมลเป็นหลักฐานว่าสอนงานไปแล้ว และเด็กก็รับงานแล้ว ถ้าเวลางานมีปัญหา หรือเด็กมาถาม นำ check list ออกมาแล้วบอกว่าเป็นข้อไหน ให้เด็กกลับไปทบทวนดู
2. ถ้าเด็กมาสาย เรียกคุยว่าสามารถปรับเวลามาให้ทันได้หรือไม่ และ คุณลองดูระเบียบบริษัทว่า สามารถออกใบเตือนได้ไหม
3. ถ้าใช้ระบบ KPI ในการประเมินประจำปี เราแนะนำให้ตั้งเป้าค่ะ และทำการประเมินผลงานทุกๆเดือนค่ะ แต่ให้กำลังใจในงานที่เค้าทำได้ดี ส่วนงานที่ต้องปรับปรุงให้แจ้งให้ชัดเจนว่าคุณต้องการอะไร อยากให้น้องกลับไปทำมา แล้วเดือนหน้ามาคุยกันใหม่
4. กรณีเลิกงาน แล้วเค้าไปเที่ยว เราคิดว่าเป็นสิทธิ์ของเขานะคะ แม้ว่าเขาจะทำงานไม่เสร็จ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามไม่ให้เขากลับบ้าน แต่ทั้งนี้ ย้อนกลับที่ข้อ 3 คุณต้องแจ้งให้ชัดเจนว่างานต้องการให้ส่งเมื่อไหร่ ต้องการอะไรจากตัวงาน ถ้าทำไม่ได้ ก็เรียกคุย และหัก KPI ไป
5. กรณีที่น้องทำได้ดี ให้คุณซื้อใจลูกน้องบ้าง เช่น เลี้ยงกาแฟ หรือสั่งอาหารเลี้ยงเล็กๆน้อยๆ เราเคยทำตอนคุมน้องทำระบบ หลังงานเสร็จ เราจะสั่งพิซซ่ามากินกัน เป็นการขอบคุณที่น้องช่วยเหลือเราอย่างดี
ทั้งหมดนี้ คุณต้องชัดเจนในการสั่งงานค่ะ ไม่ใช่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด และเราต้องยอมรับว่า เด็กแต่ละคนก็มีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน หากน้องเขานิสัยโอเคแต่พฤติกรรมการทำงานไม่ค่อยดี อาจจะต้องมองที่ตัวเราด้วยว่าเราสั่งงานอย่างไร เด็กเข้าใจความรีบของงานหรือไม่ บางคนอาจจะต้องย้ำกันแล้วย้ำกันอีก เพราะขี้ลืม หรือไม่รู้ความเร่งด่วนของตัวงาน การทำให้เค้าเห็นความเร่งรีบของงาน ก็เป็นอีกทางที่จะทำให้เค้าอยากกระตือรือร้นในการทำงานค่ะ
2. ถ้าเด็กมาสาย เรียกคุยว่าสามารถปรับเวลามาให้ทันได้หรือไม่ และ คุณลองดูระเบียบบริษัทว่า สามารถออกใบเตือนได้ไหม
3. ถ้าใช้ระบบ KPI ในการประเมินประจำปี เราแนะนำให้ตั้งเป้าค่ะ และทำการประเมินผลงานทุกๆเดือนค่ะ แต่ให้กำลังใจในงานที่เค้าทำได้ดี ส่วนงานที่ต้องปรับปรุงให้แจ้งให้ชัดเจนว่าคุณต้องการอะไร อยากให้น้องกลับไปทำมา แล้วเดือนหน้ามาคุยกันใหม่
4. กรณีเลิกงาน แล้วเค้าไปเที่ยว เราคิดว่าเป็นสิทธิ์ของเขานะคะ แม้ว่าเขาจะทำงานไม่เสร็จ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามไม่ให้เขากลับบ้าน แต่ทั้งนี้ ย้อนกลับที่ข้อ 3 คุณต้องแจ้งให้ชัดเจนว่างานต้องการให้ส่งเมื่อไหร่ ต้องการอะไรจากตัวงาน ถ้าทำไม่ได้ ก็เรียกคุย และหัก KPI ไป
5. กรณีที่น้องทำได้ดี ให้คุณซื้อใจลูกน้องบ้าง เช่น เลี้ยงกาแฟ หรือสั่งอาหารเลี้ยงเล็กๆน้อยๆ เราเคยทำตอนคุมน้องทำระบบ หลังงานเสร็จ เราจะสั่งพิซซ่ามากินกัน เป็นการขอบคุณที่น้องช่วยเหลือเราอย่างดี
ทั้งหมดนี้ คุณต้องชัดเจนในการสั่งงานค่ะ ไม่ใช่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด และเราต้องยอมรับว่า เด็กแต่ละคนก็มีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน หากน้องเขานิสัยโอเคแต่พฤติกรรมการทำงานไม่ค่อยดี อาจจะต้องมองที่ตัวเราด้วยว่าเราสั่งงานอย่างไร เด็กเข้าใจความรีบของงานหรือไม่ บางคนอาจจะต้องย้ำกันแล้วย้ำกันอีก เพราะขี้ลืม หรือไม่รู้ความเร่งด่วนของตัวงาน การทำให้เค้าเห็นความเร่งรีบของงาน ก็เป็นอีกทางที่จะทำให้เค้าอยากกระตือรือร้นในการทำงานค่ะ
สมาชิกหมายเลข 1584446 ถูกใจ, bobay9 ถูกใจ, evorok ถูกใจ, zombie land ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 700359 ถูกใจ, แมว ๙ ชีวิตครึ่ง ถูกใจ, ทาสผู้เต็มใจรับใช้แมว ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ขอวิธีทำให้ลูกน้องใส่ใจในงานมากขึ้น แบบไม่ต้องด่าว่ากันค่ะ
เราได้อยากได้ วิธีการ ทำให้น้องคนนี้ตั้งใจ ใส่ใจในงานมากขึ้น ( โดยไม่ต้องดุด่ากันค่ะ ) เนื่องจาก
1. น้องเป็นเด็กดีนะคะ แต่ชอบบ่นว่า งานเยอะ เครียด ทำงานไม่ทัน แต่เห็น มาทำงานสาย
ตกเย็นก็ไปเที่ยวต่อเป็นประจำ ( ทั้งๆที่งานยังไม่เสร็จ )
เข้าใจค่ะ ว่าเวลาเย็น คือ เลิกงาน แต่ถ้าเป็นเรา สมัยนี้ใครบ้างงานไม่เยอะ เราก็จำเป็นต้องจัดสรรเวลาเพื่อมาทำ เช่น ตื่นเช้าขึ้น
2. ถามเราซ้ำๆ ซากๆ ถามทุก Email
เราเคยกล่าวสอนไปแล้วนะคะ ให้วางแผนการทำงาน สอนงานทั้งพูด ทั้งอีเมลล์
บอกนายใหญ่ก็แล้ว นายใหญ่ก็ให้เราจัดการน้องเอง
เหนื่อยใจจริงๆ