JJNY : ติดเชื้อ4,000 เสียชีวิต22│‘หมอธีระ’เตือนอย่าประมาท│‘โอมิครอน’ระบาดเพิ่มเป็น 40 ปท.│เอกชนค้านปิดปท.รับมือโอไมครอน

โควิดไทยวันนี้ ติดเชื้อใหม่ 4,000 ราย เสียชีวิต 22 ราย หายป่วย 6,450 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3074251
 
  
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564
รวม 4,000 ราย จำแนกเป็น
 
ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 3,811 รายผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 155 ราย
ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 27 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 7 ราย
ผู้ป่วยสะสม 2,116,378 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 6,450 ราย
หายป่วยสะสม 2,027,839 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 69,010 ราย
เสียชีวิต 22 ราย
 

 
‘หมอธีระ’เตือนอย่าประมาทกับข่าว ให้เชื่อว่า ‘โอไมครอน’ กระจอก ชี้คนรับกรรมคือตัวเรา
https://www.dailynews.co.th/news/545079/
 
“หมอธีระ”เตือนอย่าประมาทกับข่าวที่พยายามให้เชื่อว่า “โอไมครอน”กระจอก ชี้คนรับกรรมคือตัวเราและคนรอบข้าง ลั่นสูญเสียมามากจากความธรรมดา กระจอก ย้ำต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด 

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 
 
6 ธันวาคม 2564 
 
ทะลุ 266 ล้านไปแล้ว 
 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 410,535 คน ตายเพิ่ม 3,936 คน รวมแล้วติดไปรวม 266,101,055 คน เสียชีวิตรวม 5,270,472 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย และอเมริกา
  
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.51 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.58
 
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึงร้อยละ 66.82 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 59.07 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
 
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 4,704 คน สูงเป็นอันดับ 20 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,304 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 16 ของโลก ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากตุรกี เวียดนาม และอินเดีย
 
Omicron กับการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ (Superspreading events)หากจำกันได้ไม่กี่วันก่อน นอร์เวย์มีเหตุการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหญ่จากการจัดปาร์ตี้ฉลองก่อนคริสตมาสในร้านอาหาร โดยมีคนมาร่วมงาน 120 คน ในจำนวนนี้ตรวจพบว่าติดเชื้อไปแล้วเกือบ 70 คน แม้ตอนนี้ผลการตรวจสายพันธุ์จะคอนเฟิร์มว่าเป็น Omicron มาแล้ว 13 คน ที่เหลือผลตรวจยังไม่ออก และจัดอยู่ในกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นเคสติดเชื้อ Omicron เนื่องจากเป็นกลุ่มสัมผัสเดียวกัน
 
ล่าสุดมีรายงานว่าพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 45-50 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไปใช้บริการในสถานที่เดียวกัน ถัดจากกลุ่มแรก เหตุการณ์นี้ทำให้มีแพทย์และนักวิชาการต่างๆ แสดงความเป็นห่วง เพราะแสดงว่า Omicron มีสมรรถนะในการแพร่เชื้อสูงมาก นอกจากนี้ที่กังวลกันมากคือ มีแนวโน้มที่การติดเชื้อจำนวนมากเช่นนี้จะเกิดจากการแพร่ทางอากาศ (aerosol transmission) โดยมีไวรัสกระจายแขวนลอยอยู่ในอากาศภายในสถานที่นั้น  ไม่ใช่เพียงแค่นอร์เวย์ที่มีเหตุการณ์ติดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่
 
เมื่อวานนี้ประเทศเดนมาร์กรายงานการตรวจพบติดเชื้อจำนวนมาก จากการจัดปาร์ตี้ของนักเรียน High school จำนวน 150 คน โดยพบว่ามีคนติดเชื้อโควิด-19 ถึง 55 คน ทั้งนี้พบว่ามีถึง 53 คนที่เป็น Omicron (15 คน ยืนยันโดยการตรวจสายพันธุกรรมแล้ว อีก 38 คนตรวจ RT-PCR พบว่าเป็น S-gene drop out) คิดเป็นร้อยละ 96.36
 
สองเหตุการณ์ข้างต้น ชี้ให้เห็นว่า Omicron แพร่ง่าย และมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายทางอากาศและทำให้ติดเชื้อได้ หากอยู่ในสถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี และไม่ป้องกันตัวอย่างดีพอ
 
สำหรับคนไทยเรา…เรียนย้ำว่าตอนนี้เรายังไม่รู้จัก Omicron อย่างลึกซึ้งเพียงพอ ทั้งในเรื่องการป่วยรุนแรง การเสียชีวิต การดื้อต่อภูมิคุ้มกัน และผลกระทบหลังติดเชื้อในระยะยาว อย่าประมาทกับข่าวที่พยายามให้ปักใจเชื่อว่า Omicron กระจอก หากประมาทแล้วติดเชื้อ พาไปติดคนในบ้าน ในที่ทำงาน ติดเชื้อแล้วป่วย ตาย หรือเกิดผลกระทบระยะยาว…คนรับผิดชอบ รับกรรม มีความทุกข์ ก็คือตัวเราและคนรอบข้าง ไม่ใช่ใครอื่น การตัดสินใจประพฤติปฏิบัติในยามวิกฤติเช่นนี้ ควรใช้หลักวิชาการที่ชัดเจนเพียงพอ และผ่านการพิสูจน์แล้ว
 
ในช่วงเวลาเดือนนี้ จะมีผลการศึกษาวิจัยออกมาอีกมากเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ Omicron มากขึ้น ที่แน่ๆ ตอนนี้เราเห็นชัดเจนว่ามันแพร่ได้อย่างรวดเร็วมาก  การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อน่าจะเป็นหนทางที่เหมาะสมกว่าการตั้งอยู่บนความประมาทเราเห็นบทเรียนมามากแล้วว่าผลกระทบมากมายเพียงใด สูญเสียมากเพียงใดจากความธรรมดา กระจอก และเอาอยู่ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า เว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร เลี่ยงที่แออัด และระบายอากาศไม่ดี
 
ด้วยรักและห่วงใย

https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223542343259176


 
‘โอมิครอน’ระบาดเพิ่มเป็น 40 ประเทศเฉพาะในสหรัฐพบผู้ติดเชื้อ17 รัฐ
https://www.bangkokbiznews.com/news/975799

เว็บไซต์ฟอร์บส รายงานว่าพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนใน 40 ประเทศทั่วโลก ส่วนในสหรัฐพบใน 17 รัฐ ขณะเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขสหรัฐ ระบุว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนไม่มีอาการรุนแรงมาก แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้มากขึ้น

เว็บไซต์ฟอร์บส รายงานว่า ล่าสุด ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนใน 40 ประเทศทั่วโลก และในสหรัฐพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์นี้ใน 17 รัฐด้วยกัน คือแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐแรกที่พบผู้ติดเชื้อ โคโลราโด คอนเน็กติคัต ฮาวาย หลุยส์เซียนา แมรีแลนด์ แมสซาจูเซตส์ มินเนโซนา  มิสซูรี เนบราสกา นิว เจอร์ซีย์ นิวยอร์ก เพนน์ซิลวาเนีย ยูทาห์ วอชิงตัน วิสคอนซิน และจอร์เจีย
 
ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขสหรัฐระบุว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนไม่มีอาการรุนแรงมากนัก แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้มากขึ้นจึงจะสามารถสรุปเกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์นี้ได้
 
ตั้งแต่วันนี้(6ธ.ค.) เป็นต้นไปผู้ที่จะเดินทางเข้าสหรัฐต้องมีผลตรวจโควิด-19เป็นลบหนึ่งวันก่อนที่จะเริ่มเดินทาง จากเดิมที่กำหนดไว้สามวัน
รัฐบาลสหรัฐ ระบุว่า ตัวเลขของชาวอเมริกันที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบหกเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว หลังจากที่มีรายงานการพบเชื้อโอมิครอนในหลายรัฐ
 
จนถึงขณะนี้ มีชาวอเมริกันฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วเกือบ 200 ล้านคน และมากกว่า 45 ล้านคนฉีดเข็มบูสเตอร์เข็มที่สาม ขณะที่ยังคงมีประชาชนราว 60 ล้านคนที่เข้าข่ายฉีดวัคซีนได้แต่ยังไม่ไปฉีดวัคซีน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่