🔆SPF & PA   2 คำต้องรู้ก่อนซื้อกันแดด รู้ไว้เลือกเป็น ได้กันแดดเห็นผล🔆

SPF & PA   2 คำต้องรู้ก่อนซื้อกันแดด
รู้ไว้เลือกเป็น ได้กันแดดเห็นผล

 
ใช่ค่ะ!!!! SPF และ PA เป็นสองคำที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อกันแดด
เพราะกันแดดจะเวิร์กหรือไม่เวิร์กก็อยู่ที่ 2 คำนี้เลย

และเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
🌞🔆ต้องรู้จักรังสียูวีUVก่อน🌞🔆
รังสียูวี (รังสีอัลตราไวโอเลต)
คือ รังสีที่มีตลอดไม่ว่าจะมีแดดหรือไม่ก็ตาม โดนแล้วไม่รู้สึกร้อน แต่ทำร้ายผิวได้อยู่ดี
มีแค่ 2 ตัวที่เกี่ยวกับกันแดด คือ
💥UVA =Aging ยิงลงหนังแท้ ทำให้แก่และเป็นมะเร็งผิวหนังได้
💥UVB =Burnด้านบน ทำให้ผิวไหม้ หมอง ดำคล้ำตัวที

------------------------------------------------------

💛ส่วน SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor💛
เป็นตัวเลขที่บอกว่ากันแดดนี้ ดูดซับ UVB  ได้กี่ % หรือ ป้องกันการไหม้แดดได้กี่เท่าเมื่อเทียบกับไม่ทาอะไรเลย
มาดูกันว่าค่า SPF ในท้องตลาดที่เราเจอบ่อยๆแปลว่าอะไร

= SPF30 =
ดูดซับ UVB ได้ 97% /ทาแล้วผิวไหม้แดดน้อยกว่าไม่ทาอะไรเลย 30 เท่า

= SPF50 =
ดูดซับ UVB ได้ 98% /ทาแล้วผิวไหม้แดดน้อยกว่าไม่ทาอะไรเลย 50 เท่า

= SPF50+ 
ไม่มีคำแปลเชิง UVB เพราะไม่รู้เลขชัวร์ๆว่ามากกว่า 50 ขนาดไหน
อาจจะ 60, 70 ,100 เป็นเลขอะไรก็ได้แต่ตามกฎหมายเค้าให้เคลมได้แค่นี้
แต่แปลว่าทาแล้วผิวไหม้แดดน้อยกว่าไม่ทาอะไรเลย “อย่างน้อย”  50 เท่า
 
------------------------------------------------------

💛PA ย่อมาจาก Protection grade of UVA💛
เป็นเครื่องหมาย + ที่บอกว่ากันแดดนี้ ป้องกันการดำคล้ำจาก UVA ได้นานกว่าเดิมกี่เท่า
 
(ตรงนี้ข้ามได้ แต่ถ้าอยากรู้ที่มาของ PA ก็อ่านต่อได้เลย)
✅PA เป็นค่าที่คิดมาจาก PPD
PPD = Persistent pigmentary dose 
หรือ รังสี UVA ที่น้อยที่สุดที่ทำให้ผิวหนังที่มีอาการดำคล้ำหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง
เช่น ปกติถ้าเรายืนตากแดดนาน 10 นาทีแล้วทำให้ผิวหนังดำคล้ำ 
แต่ถ้าสมมติเราทากันแดดที่มีค่า PPD = 10 
แปลว่าเราจะยืนตากแดดได้นานถึง 100 นาทีกว่าที่ผิวหนังจะดำคล้ำ (มาจาก 10X10)
 
ซึ่งค่า PA เป็นคำที่สมาคม อุตสาหกรรมเครื่องสําอางแห่งประเทศญี่ปุ่น (JCIA) ได้กําหนดขึ้น
แต่ปัจจุบัน USFDA  และ EU ยังไม่ยอมรับตามกฎหมาย
เพราะเค้าแย้งว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ตากแดดแล้วจะมีอาการดำคล้ำ 
แต่ในมุมรักคิดว่ามีไว้ดีกว่าเป็นประโยชน์ต่อคนซื้อมากกว่า
 
✅PA.ในท้องตลาดเคลมกี่บวกกันบ้าง

PA+ = PPD  1-4 = ตากแดดได้นานขึ้น 2-4 เท่ากว่าผิวจะดำคล้ำ
เหมาะแดดทั่ว ๆ ไป เช่น แดดตอนเช้าตรู่หรือตอนพระอาทิพตย์ใกล้ๆจะตก

PA++ = PPD  5-8 = ตากแดดได้นานขึ้น 4-8 เท่ากว่าผิวจะดำคล้ำ
.= เหมาะกับแดดกลางๆ เช่นช่วง 9-10 โมง กับ บ่ายโมง-บ่ายสอง
 
PA+++ = PPD  9-16 = ตากแดดได้นานขึ้น 8-16 เท่ากว่าผิวจะดำคล้ำ
= เหมาะกับแดดแรงๆ เช่น แดดเที่ยงเปรี้ยงๆแต่เดินออกไปแป๊บเดียว
 
PA++++ = PPD  > 16 = ตากแดดได้นานขึ้นมากกว่า 16 เท่ากว่าผิวจะดำคล้ำ
= เหมาะกับแดดจัดหรือออกกลางแจ้งเป็นประจำ
 
------------------------------------------------------

❤️สรุป❤️
SPF เป็นตัวเลข บอกว่า ป้องกันการไหม้แดดจาก UVB ได้กี่เท่าเมื่อเทียบกับไม่ทาอะไรเลย
PA เป็นเครื่องหมาย + บอกว่าป้องกันการดำคล้ำจาก UVA ได้นานกว่าเดิมกี่เท่า

เมื่อรู้แบบนี้แล้วถ้าไม่อยากผิวพังเพราะแดด 
อย่าลืมเช็ก SPF และ PA ให้แมตช์กับผิวและไลฟสไตล์ก่อนซื้อนะคะ
เพราะเลือกเป็น เห็นผลแน่นอนค่า^^
 
#เพราะรักจึงบอก
#เภสัชกรรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่