แชร์ไอเท็มสกินแคร์สุดโปรด ประจำปี 2566 พร้อมรีวิวจ้า...

ห่างหายการกระทู้เองมานานมากกก...
วันนี้เห็นโอกาสอันดีเลยจะมาแชร์สกินแคร์ตัวโปรด ณ สิ้นปีนี้ค่า... 

1. เริ่มจากกลุ่มทำความสะอาด ล้างเครื่องสำอาง ล้างหน้า กันก่อนนะคะ
คอนเซปเราคือ ผิวจะดี เริ่มต้นที่ทำความสะอาดผิวดีก่อนค่ะ
และจะทำความสะอาดดี สำลีต้องดีด้วยค่า... 
ดังนั้นไอเท็มประจำปีของเราจะมีดังนี้ค่ะ
สำลี : 
คลีนซิ่ง : ยกให้ Aime Collagen Facial Cotton Pad ค่ะ แผ่นใหญ่ได้ใจแถมใส่ชั้นคอลลาเจนมาด้วยทำให้สัมผัสตอนเช็ดนุ่มเนียนละมุนผิวมากค่ะ ราคาอาจจะสูงไปนิด แต่ถนอมผิวดีมากๆ ค่ะ ใช้มา 2 ปีกว่าแล้วยังหายี่ห้ออื่นมาแทนไม่ได้เลยค่ะ
เช็ดโทนเนอร์ : ก็ต้องยกใช้ Rii less Toner ค่ะ less Toner สมชื่อ แบบเหยาะสามทีสำลีชุ่มค่ะ 555 ไม่กินโทนเนอร์เลยแผ่นกำลังดีถนัดมือแล้วก็เช็ดทั่วหน้าดีเลยค่ะ

น้ำยาทำความสะอาดก็สำคัญต้องไม่แพ้แค่คลีนเกลี้ยง... ดังนี้ค่า.. 
แบบบาล์ม : ก็ต้อง Clean it Zero เลยค่า .. ราคาตอนจัดโปรกำลังน่ารัก  ใช้ประมาณ 1 ตัก นวดๆ ให้ทั่วหน้า ด้วยความขี้เกียจเราก็นวดตรงแต่งตาไปด้วยเลยค่ะ 555 ไม่แสบตาแต่ว่าจะทำให้ตามัวนิดๆ  ล้างเยอะๆ หน่อยก็โอเคค่ะ ตอนนวดๆ ก็จะรู้สึกเหมือนพวกสิวเสี้ยนหลุดออกนิดหน่อยเป็นตอๆ หลุดออกมาเลยค่ะ นวดเสร็จก็เอาน้ำชโลมแล้วนวดต่อเป็นน้ำนมก่อนจะล้างด้วยโฟมอีกทีค่ะ หน้าจะนิ่มๆ รู้สึกเกลี้ยงดี เหมาะกับวันที่แต่งหน้าจัดหนักค่ะ
แบบน้ำ : Purevivie สำหรับวันเบาๆ เช็ดเบาๆ ก็เอาอยู่ค่ะ อันนี้ก็ราคาน่ารักค่ะ 500 ml. ใช้ได้นานเลยค่า... เช็ดคู่กับสำลี Aime คือความฟินค่ะ ผิวสะอาด นุ่มใช้ได้เลยค่ะ ล้างโฟมอีกนิดนึงคือเรียบร้อยค่า... 


ถัดมาจะบอกว่าพระเอกเลยก็ได้นั่นคือโฟมล้างหน้าค่ะสำหรับผิวผสมอย่างเราตามหาโฟมที่เหมาะกับผิวมาค่อนข้างนาน... เพราะแห้งไปผิวจะจะแห้งแกรก แถมทำให้หน้ามันเร็ว แต่ถ้าชุ่มไปหน้าก็เยิ้มเหมือนล้างไม่เกลี้ยง จนกระทั่งมาเจอโฟมล้างหน้า ORIGINS Check and Balances ค่ะ คือตอบโจทย์... ผิวไม่เอี๊ยด แต่ก็ไม่มัน ล้างเสร็จยังรู้สึกถึงความชุ่มชื้น มันคือความดีย์งามค่ะ Check and Balances สมชื่อ ติดอยู่อย่างเดียวคือราคาน้องไม่อ่อนโยนเลยค่ะ 🥲🥲 ช่วงไหนมีโปร 3 แถม 1 คือตุนอย่างไวค่า... 
(เคยแอบนอกใจไปยี่ห้ออื่น สุดท้ายก็ต้องกลับมาตายรังค่ะ... 🤣🤣)


2. ตามมาที่กลุ่มบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ กันนะค๊า... 
หลังจากทำความสะอาดดี ก็ต้องบำรุงดีย์กันด้วยจ้า...  ก็ขอไล่ไปตามสเต็ปบำรุงกันเลยเนอะ
โทนเนอร์ : ปรับสภาพผิวให้พร้อมบำรุง ก่อนหน้านี้ก็ใช้สะเปะสะปะ แต่พอ Banobagi ออกไลน์ Treatment Mark มาสก์น้ำตบที่เค้าเคลมว่าให้ใช้ตอนผิวหมาดๆ หลังจากนั้นความสะเปะสะปะเราก็หายไปค่ะ... 555 มาใช้น้องแทนโทนเนอร์แล้วหน้าอิ่มน่ำ ผิวฉ่ำ เซรั่มซึมไวดีค่ะ ลองใช้มาหลายสูตร แต่สูตรที่เวิร์คที่สุดสำหรับเราคือ Overall Trouble skin ค่ะ มันจะกำลังดี ไม่เหนอะหน้าเลยค่ะ

เซรั่ม : ขวดเดียวในดวงใจ ใช้มาจะครบ 10 ปีแล้วยังเลิกกันไม่ได้เลยคือ  Lancome Advanced Genifique ค่ะ บอกเลยว่าผิวแข็งแรงกระชับไร้ริ้วรอยในวัย 30 ต้นๆ แม้จะใช้ชีวิตนอนเที่ยงคืนตื่นตี 5 มาเกือบ 10 ปีเหมือนกันมาตลอดค่ะ 555 บอกเลยว่าใครเห็นหน้าก็ทักว่าผิวใส หน้าเด็กทำยังไงเนี่ย...  แถมวันไหนนอนไม่พอแบบแค่ 1-2 ชม. แต่ต้องแต่งหน้าจัดหนักต่อแต่กลัวแต่งหน้าไม่ติด ก็จัดน้องนางไป 2 ปั๊มผิวจะฉ่ำเหมือนนอนครบ 8 ชั่วโมงเลยค่า... ส่วนราคา จัดช่วงโปรบางทีก็ได้ของแถมเกือบเท่า ซื้อ 1 แถม 1 เลยค่า... 

โลชั่นบำรุง : 
วันที่ต้องการการผ่อนคลาย จะใช้ Dior Prestige La Micro-Lotion De Rose ค่ะ ตบแล้วเอาฝ่ามือมาอังตรงจมูก นอกจากหน้าจะนุ่มม... ชุ่มชื่นแล้ว กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ยังช่วยผ่อนคลายดีมากๆ เลยค่ะ
ส่วนวันธรรมดา ก็จะพ่นด้วย Lancome Absolute L'Extrait Lotion ค่ะ ชอบเพราะเนื้อจะบางเบาสบายกว่า Dior แถมพ่นเป็นสเปรย์ได้ใช้งานได้สะดวกมากๆ ค่ะ ตัวนี้ก็ช่วยบำรุงได้ดีงามแถมหน้าไม่มันด้วยค่า... 
แต่น้องทั้งสองค่าตัวจะแรงนิดนึง... เลยไม่ค่อยได้ใข้บ่อยเท่าไหร่ค่ะ เน้นใช้วันที่ช่วงไหนผิวโทรมจัดๆ นอกจากเซรั่ม 2 ปั๊มก็จะอัดโลชั่นไปเพิ่มค่ะ

 บำรุงรอบดวงตา :
ปกติลูกรักจะเป็นไลน์ Lancome Genifque เหมือนกันค่ะ แต่พอได้รู้จักน้อง Rejuran ก็ขึ้นแท่นเป็นลูกรักคนใหม่ได้เลยค่า... น้องจะหอมแบบสมุนไพรอ่อนๆ ทารอบดวงตาไม่มีแสบตา ทาบางๆ ซึมไว ใช้แล้วรู้สึกว่าริ้วรอยรอบดวงตาจางลงนิดหน่อย แต่ไม่ช่วยเรื่องตาดำเป็นแพนด้านะคะ ราคาน้องน่ารักสบายกระเป๋า คุ้มเกินราคาค่า... 

สลีปปิ้งมาส์ก :
บอกเลยว่าก่อนหน้าไม่ปลื้มเท่าไหร่ แต่พอเข้าวงการมาสักพัก รักแล้วออกไม่ได้แล้วค่ะ กับ Banobagi  Final Sleeping Mask ใช้มาแล้วทุกสูตรค่ะ แต่รักสุดคือ Bio-Lacto เพราะส่วนใหญ่เราจะเน้นบำรุงให้ผิวแข็งแรงมากกว่าผิวขาวค่ะ ใช้เป็นสเต็ปสุดท้ายหลังบำรุงทุกอย่างเรียบร้อยก่อนนอนค่ะ วิธีใช้ก็ง่ายมากค่ะ โปะให้ชุ่มเลยค่ะ... 555 เราจะชอบบีบมาสัก 2 ข้อนิ้ว แล้วทำให้รู้สึกว่าหน้าเปียกๆ ค่ะ สักพักน้องจะชึมลงผิวแล้วก็นอนค่ะ ตื่นมาตอนเช้าบอกเลยว่าหน้าเด้ง ฉ่ำวาว ลืมคำว่าตื่นมาหน้ามันทิ้งไปได้เลยค่ะ


3. กลุ่มครีมกันแดด
บำรุงผิวดีแล้ว ก็ต้องป้องกันผิวจากการทำร้ายด้วยรังสี UV และแสงแดดประเทศไทยที่ร้อนแผดเผาค่ะ โดยเราจะแบ่งเป็นกันแดดหน้าและกันแดดทาตัวนะคะ

ครีมกันแดดทาหน้า
มี 2 ตัวเป็นลูกรักค่ะ ถ้าวันไหนมีลางว่าคุณสิวจะมาเยือน วันนั้นจะเจอกัน La Roche-Posay Anthelios Oil Correct Photocorrection ค่ะ เพราะน้องมี Salicylic Acid ช่วยลดสาเหตุการเกิดสิวค่ะ มี spf 50+ ป้องกันทั้งรังสี uva และ uvb แถมยังช่วยคุมมันได้นิดหน่อยด้วยค่ะ ทาแล้วจะแอบรู้สึกเหนียวๆ หน้านิดหน่อย แต่ด้านป้องกันสิวคือดีย์งามมม...
ส่วนอีกตัว Shiseido Future Solution LX กันน้ำ และกันแดด spf 50+ และ pa++++ ตัวเนื้อจะบางเบาเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะมากเมื่อเทียบกับกันแดดอื่นๆ ค่ะ เลยชอบใช้น้องมากก... แต่ข้อไม่น่ารักของน้องคือค่าตัวน้องช่างไม่น่ารักเอาเสียเลย... 🥲🥲

ครีมกันแดดทาตัว
อันนี้บอกก่อนว่าเป็นกันแดดแบบ Daily ใช้ชีวิตประจำวันในเมืองนะคะ ลูกรักเราเลยคือ 2 พี่น้อง Cathy Doll ไลน์ Aqua Sun ค่ะ 
โดยน้องสีฟ้าจะเป็นสูตรเย็น ทาแล้วเย็นผิวเหมาะกับอากาศเมืองไทย ส่วนชมพูเป็นสูตร Tone up ผิวให้กระจ่างใสขึ้นค่ะ ทาแล้วสมชื่อ รู้สึกมีออร่าค่ะ... อิอิ ที่ชอบน้องๆ เพราะน้องไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วแตกตัวเป็นน้ำเกลี่ยง่าย แถมตอนเหงื่อออกก็ไม่ทิ้งคราบไว้ที่ไหนด้วยค่ะ ค่า spf 50 และ pa+++ เราก็รู้สึกว่าโอเคสำหรับชีวิตในเมืองแล้วค่า...  แถมราคาน่ารักด้วยค่ะ 🤭🤭


ถ้าใครชอบสกินแคร์ตัวไหนเหมือนกันหรือต่างก็มาแชร์กันได้นะค๊า... ความสวยต้องบอกต่อกันค่า... 🥰🥰🥰

ใครอยากเห็นผิวจริงส่องทางนี้ได้เลยค่า... หน้าสดแบบเพิ่งตื่น ไม่ผ่านแอปใดๆ เลยค่า.... 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Edit : แก้ไขคำผิด และเพิ่มรูปค่ะ
Edit 2 : แก้ไขคำว่าคลีนซิ่งออก
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่