ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าเราพึ่งตั้งกระตู้เป็นครั้งแรก อาจจะมีติดๆขัดๆงงๆกับภาษาบ้าง แต่ก็อยากให้ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน มาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ไม่ว่าในแง่ไหน เราอยากเม้ามอยแบบฟิลคุยกับเพื่อน จอยๆ เรื่องนี้เราคิดมากมาหลายเดือนแล้วแต่ไม่ค่อยได้พูดคุยกับใคร ขอมาพูดที่นี้ละกันนะคะ
มาเริ่มกันเลย เราเป็นคนที่พูดตรงแต่ไม่ได้ตรงทำร้ายจิตใจใคร ตรงแค่เรื่องงาน ทำให้ดูเป็นคนจริงจัง เพราะอยากให้ผลลัพท์ของงานต่างๆออกมาดีและจะไม่มีใครมาว่าเราที่หลังได้ เราละเอียดและคิดมาก มีความคิดวนลูปสุดๆ กว่าเราจะผ่านเรื่องต่างๆในชีวิตมาได้ต้องผ่านกระบวนการคิดวนลูปมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 รอบในเรื่องที่เราคิดมาก หรือเศร้า ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาเรามีเพื่อนกลุ่มใหญ่มากๆแต่ไม่มีเพื่อนสนิทมากๆเลยสักคน จน ม.4 เพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปแผนการเรียนต่างๆ เราก็มาอยู่ในแผนการเรียนนึงคนเดียว ห้องใหม่ สังคมใหม่ เพื่อนใหม่ จนเรามีเพื่อนสนิทคนนี้ เราขอเรียกว่าเพื่อน 1 เราชอบอะไรเหมือนกัน ทำอะไรคล้ายๆกัน ไปไหนไปด้วยกัน ตัวติดกัน จนเราก็เริ่มสนิทกันมากๆ ทำอะไรด้วยกันเกือบทุกอย่าง แต่ก็มีทะเลาะ งอนๆกันตลอด เราต่างมีความคิด มีนิสัยที่ต่างกัน มีทั้งดีและไม่ดี แต่เราก็ยอมรับในกันและกันตลอด จนถึงเวลาแยกย้ายครั้งที่ 1 การเข้ามหาลัย
เราอยู่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ ทำให้ต่างคนต่างมีสังคมใหม่ๆ เราก็มีเพื่อนในกลุ่มที่สาขาเป็นกลุ่มใหญ่เหมือนเดิม ทางด้าน เพื่อน 1 ก็มีเพื่อนในกลุ่มเยอะเหมือนกัน แต่เราก็สนิทกันเหมือนเดิม เวลาว่างเราก็ต่างชวนกันไปทำนู้นทำนี้กันเหมือนเดิม เจอกันบ่อยๆ แต่ทั้งการเรียนทั้งกิจกรรมก็ต่างกัน เราทำกิจกรรมเยอะมากๆ แต่เราก็มีเวลาให้เพื่อน 1 เสมอ เพื่อนที่ทำกิจกรรมร่วมกับเราในคณะและในกลุ่มก็เริ่มเข้ามามีบทบาท เราขอเรียกว่าเพื่อน 2 เพื่อน 2 เป็นเพื่อนที่เรารู้จักตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัยเพราะมาเข้าค่ายมัธยมด้วยกันแต่เราอยู่คนละรร.กัน และเป็นม.6 ไม่กี่คนที่มาค่ายจึงชวนกันมาเรียนที่คณะเดียวกัน
หลังจากนั้นก็เรากับเพื่อน 1 ก็เริ่มมีเพื่อนสนิทที่มหาลัย เพื่อน 1 มีเพื่อนสนิทตั้งแต่ประถม 1 คน และเราไม่รู้จักในตอนนั้นเรารู้จักแค่ชื่อเวลาเค้างอนกันเราก็ปลอบแต่เค้าก็บอกเราว่าถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องว่าเพื่อนเค้า เราก็โอเคร และเพื่อน 1 ยังมีเพื่อนสนิทมัธยมต้นอีก 2 คน เรามักจะเล่าเรื่องราวที่เราเจอให้เค้าฟังเสมอ เพื่อให้เค้าเหมือนอยู่กับเราตลอด จะได้อัพเดตให้เค้าเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นยังไง เค้าก็มีที่บอกบ้างไม่บอกบ้าง มีงอน ง้อ ทะเลาะกันบ่อยมากๆบ้าง เรากับเค้าก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมเสมอไม่ว่าจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ เราต่างช่วยเหลือกันเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยใหญ่ แต่ด้วยเวลาของเราที่เราทำกิจกรรมต่างๆ เรียน มีแฟน และมีเพื่อน2 เพื่อนในกลุ่ม แต่เราก็จะหาเวลาไปเจอเพื่อน 1 เสมอ แต่นั้นทำให้เราห่างกันไปบ้าง เพื่อน 1 ก็เหมือนจะหวงเราไม่โอเครกับเพื่อน 2 ของเราเท่าไหร่เรารู้ดี แต่เพื่อนสนิทของเค้าเราสนิทได้หมดถ้าเค้าแนะนำ
จนมีจุดเปลี่ยนนึง เรามานั่งคิดว่าการมีเราอยู่ด้วยเหมือนทำให้เค้าจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ต้องมีเราช่วยในบางเรื่อง ทำให้เค้าไม่กล้าตัดสินใจในหลายๆเรื่องเพราะเราไปช่วยเค้าตัดสินในหลายเรื่องมากๆ เราก็อยากให้เค้าโตขึ้นบ้าง เราก็เริ่มอัพเดทเรื่องราวน้อยลง ให้เค้าลองตัดสินใจเองเราช่วยนิดๆหน่อยๆ ค่อยๆเป็นค่อยไป แต่มันกลับแย่ลง เริ่มนอยกันมากขึ้น ทะเลาะแบบนานๆ หายกันไปเลย 2-3เดือนก็มี พอกลับมาดีกันก็ทะลาะกันอีก วนไปวนมาและปีที่แล้วเรากับเพื่อน 1 ก็ต่างเจอเรื่องราวที่ยากจะก้าวผ่านไปได้มันหนักมาก เราก้เอาตัวเองไม่รอด เราก็คอยให้กำลังใจเพื่อน 1 เสมอ เราพยายามไม่พูดเรื่องเศร้าของเราเพียงเพราะเรารู้ว่าเค้าจัดการความเศร้าในใจเรื่องของเค้าไม่ได้เพราะของเค้ามันหนักสำหรับเค้ามากๆ เราจัดการได้บ้างแต่ก็เศร้ามากไม่ต่างกัน จนเวลาก็ช่วยเยียวยาไปบ้าง เราต่างดีขึ้นแต่เรารู้ว่าเพื่อน 1 ยังไม่ดีขึ้นเค้าก็ยังเป็นหนักอยู่แค่ปิดบังไว้ จนเราก็มีเรื่องงอลกันอีก แต่วันนั้นไปร้านเหล้า เค้าก็มาขอคุยด้วยเค้าเมาก็ร้องกับเรา พูดความในใจที่เก็บกันมานาน เราก้บอกว่าต่อให้เราดูเปลี่ยนไปห่างไป หรือมีเพื่อน 2 เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทมากๆอีกคน เราก็ยังจะมีเพื่อน 1 เสมอ เราแค่รอวันที่เพื่อน1 เปิดใจพูดกับเราบ้างเรื่องที่แบกไว้ก้ไม่ต้องเก็บไว้คนเดียวหรอกนะ เค้าก็บอกเหตุผลต่างๆเรื่องที่เค้าอัดอั้นและเค้าก็บอกเราว่าเค้า "ไม่ไว้ใจเรา" กลัวเราไปเล่าให้เพื่อน2 ฟัง เราเหมือนใจแตกเลย ต่อให้ทะเลาะกันกี่ครั้ง ไม่เข้าใจกันอีกกี่รอบ เค้าก็ยังเป็นเพื่อนสนิทมากๆของเราไม่เคยเปลี่ยนไป เราพยายามหาเหตุผลมาซัพพอตการกระทำของเค้าเสมอ หาเหตุผลที่จะทำให้เราเข้าใจเค้าให้เราทั้งคู่ไปต่อได้ แต่คำว่าไม่ไว้ใจ มันทำเราเจ็บมากๆ เพื่อนสนิทมากๆอ่ะสำหรับเราไม่จำเป็นต้องบอกเล่าเราทุกเรื่องก็ได้ แค่ไว้ใจที่จะมีกันข้างๆ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็สามารถที่จะเปิดใจเล่าให้ฟังได้ แต่เค้าไม่คิดกับเราแบบนั้นแล้ว หลังจากนั้นเราก้เคลียร์กันว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันกันเหมือนเดิม เพื่อน 1 จะพยายามกลับไปเป็นคนเดิมที่ไว้ใจเรา แต่สำหรับเราคิดว่าเพื่อน 1 คงเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เราก็โอเครเราอยากมีเค้าอยู่ แต่ใจเรามันแย้งตลอดเวลามองตาเค้าสายตาเค้าไม่เหมือนเดิมเลย เค้ามองเราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จนเราพูดอะไรก็ดูจะไม่ถูกใจเอาซ่ะเลย จากสายตาที่มันพร้อมรับฟังพร้อมอยู่ข้างๆเราของเพื่อน 1 มันกลายเป็นสายตาที่มีแต่การแย้ง และเราต่างมีแต่สายตาที่ตั้งคำถาม
ตอนนี้เรียนจบมาได้ 6 เดือน เราต่างหางานมาโดยตลอด เราหางานให้ เพื่อน 1 และเพื่อน 2 จนเมื่อสิงหาเราตัดสินใจแยกทางด้านการงานกับเพื่อน 2 เราคงไปทำอย่างอื่นแล้วที่ไม่ใช่หนทางงานเดียวกันแต่เราก็หางานให้เพื่อน 2 ตลอด จนตอนนี้เพื่อน2 มีงานไปเเล้วเมื่อไม่นานนี้ ส่วนเพื่อน 1 เราก็ชวนสมัครงานตลอด แม้จะต่างคณะกันแต่มันก็มีงานที่สมัครด้วยกันอยู่บ้าง และตุลาที่ผ่านมาเราก็ชวนเค้ามาสมัครงานที่เราหาให้ เค้าก็รีบทำเอกสารทุกอย่าง เราก็สมัครไปแต่พอประกาศรายชื่อ เค้าเหมือนสุ่มรายชื่อไม่ให้สัมภาษณ์ทุกคน เพื่อน 1 ติด แต่เราไม่ติด เราเสียใจมาก เราต้องบอกก่อนที่เสียใจเพราะก่อนหน้านั้นไม่ว่าเราเจองานอะไรเราส่งให้เพื่อนสนิททุกคนมาตลอด มาสมัครด้วยกัน ไม่เคยคิดว่าเป็นคู่แข่ง แต่งานไหนที่เราสมัครได้เพื่อน 1 แทบไม่ชวนเราเลยชวนแค่งานที่เป็นราชการโอกาสได้ต้องวัดจากตัวเอง ถ้าสมัครไม่ยากเพื่อน 1 ไม่ชวนเราเลย เค้ามาเล่าเราตอนสมัครประกาศผลแล้ว จนครั้งนี้เค้าก็ได้งาน แต่เป็นงานระยะสั้นที่เราเสียใจไม่ใช่ที่เพื่อนไม่บอกหรือเพื่อน 1 ได้งานที่เราบอก แต่มันเพราะเราเคว้ง เรากดดันตัวเอง เราว่างเปล่า เพื่อน 1 ก็ให้กำลังใจ แต่พอวันสัมภาษเค้าก็สัมแค่สั้นๆ เช่น ชื่อ สกุล จบจากไหน เป็นต้น มันง่ายเกินไปแล้วรับเลย เราก็ดีใจกับเพื่อนนะแต่ก็เสียใจให้กับตัวเอง และเค้าก็มาเล่าว่าถ้าได้ด้วยกันจะดีกว่านี้นั้นนู้นนี้ เค้าพูดวนไปวนมา แต่เรานิ่งไปหมด
แต่ตอนนี้เค้าทำงานแล้วเค้าไม่คุยกับเรามา 2 จะ 3 เดือนแล้ว เค้าทำงาน เค้ากำลังจัดบ้านใหม่เพราะที่บ้านเค้าย้ายบ้าน เค้าหายไปเลยไม่เล่าอะไรให้เราฟังสักอย่าง เค้าไม่ถามเราด้วยซ้ำว่าเป็นไงบ้าง ได้งานรึยัง เราเหมือนอยู่ในความว่างเปล่า และความผิดหวังของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนเราร้องไห้ในใจ กดดันในความไม่มีอะไรเลยของตัวเอง ในขณะที่เค้าหายไปเค้าก็ดูมีความสุขกับเพื่อนสนิทของเค้าทุกคนยกเว้นเรา เค้าไม่สนใจเราด้วยซ้ำ เราคิดเเค่ว่าเราผิดอะไร เรามีเพื่อนสนิทที่มหาลัยไม่ได้เหรอ เค้ามีเพื่อนสนิทตั้งมากมายแต่เรามีแค่ เพื่อน 1 เเละเพื่อน 2 เท่านั้นที่เราสนิท ทำไมเราไม่มีโอกาสได้สนิทกับใครเลยใช่มั้ย ตอนที่เค้ามีความสุขเราไม่ต้องอยู่ก็ได้ แต่ตอนเพื่อน 1 ทุกข์เราจะอยู่ตรงนั้นเสมอ แต่ตอนนี้เราทุกข์ ไม่เห็นเค้าจะมานั่งสนใจเราเลย ก็ปล่อยให้เราอยู่ในความว่างเปล่าของเราต่อไป เหมือนคนไม่รู้จักกัน ทั้งหมดที่อ่านมาอาจดูว่าเราเข้าข้างตัวเอง ชมตัวเอง ยกยอตัวเองว่าดี แต่เราไม่เคยคิดจะว่าเพื่อนไม่ดี เราแค่สงสัยว่าทำไมจากเพื่อนสนิทกันมากๆในวันนั้นถึงกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันในวันนี้
เราพยายามไม่คิดมากและไม่คิดวนไปวนมาแต่เราทำไม่ได้เลย เราคิดเรื่องเค้าบ้าง เราแค่คิดว่าถ้าเราไม่มีเค้าเราก็จะไม่มีเพื่อนแบบนี้อีกแล้ว ตอนนี้เรามีแค่เพื่อน 2 คนเดียวแล้ว สุดท้ายแล้วทั้งหมดนี้เป็นเพียงของเราในมุมมองเดียว เค้าอาจจะโดนเราทำไม่ดีใส่มากๆก็ได้แค่เราไม่รู้เราไม่โทษเค้าเลยโทษตัวเองมาตลอดจนทำให้ตอนนี้เราออกจากวังวนไม่ได้เลย แต่เราก็จะพยายามก้าวข้ามไปให้ได้ ขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาอ่านมากๆ อาจจะมึนงงในเนื้อเรื่องด้านบนไปบ้างเพราะเราก็รวบย่อไปเยอะมากๆ เราอาจจะคิดมากเกินไป เรารู้สึกเหนื่อยและว่างเปล่ามากๆ คำถามก็เต็มไปหมด ก็เลยอยากมาพูดคุยกับเพื่อนใหม่ๆในนี้ แต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะคุณเพื่อนใหม่
ทำไมเพื่อนที่สนิทมากๆในวันนั้น ถึงกลายเป็นคนแทบไม่รู้จักกันในวันนี้
มาเริ่มกันเลย เราเป็นคนที่พูดตรงแต่ไม่ได้ตรงทำร้ายจิตใจใคร ตรงแค่เรื่องงาน ทำให้ดูเป็นคนจริงจัง เพราะอยากให้ผลลัพท์ของงานต่างๆออกมาดีและจะไม่มีใครมาว่าเราที่หลังได้ เราละเอียดและคิดมาก มีความคิดวนลูปสุดๆ กว่าเราจะผ่านเรื่องต่างๆในชีวิตมาได้ต้องผ่านกระบวนการคิดวนลูปมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 รอบในเรื่องที่เราคิดมาก หรือเศร้า ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมาเรามีเพื่อนกลุ่มใหญ่มากๆแต่ไม่มีเพื่อนสนิทมากๆเลยสักคน จน ม.4 เพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปแผนการเรียนต่างๆ เราก็มาอยู่ในแผนการเรียนนึงคนเดียว ห้องใหม่ สังคมใหม่ เพื่อนใหม่ จนเรามีเพื่อนสนิทคนนี้ เราขอเรียกว่าเพื่อน 1 เราชอบอะไรเหมือนกัน ทำอะไรคล้ายๆกัน ไปไหนไปด้วยกัน ตัวติดกัน จนเราก็เริ่มสนิทกันมากๆ ทำอะไรด้วยกันเกือบทุกอย่าง แต่ก็มีทะเลาะ งอนๆกันตลอด เราต่างมีความคิด มีนิสัยที่ต่างกัน มีทั้งดีและไม่ดี แต่เราก็ยอมรับในกันและกันตลอด จนถึงเวลาแยกย้ายครั้งที่ 1 การเข้ามหาลัย
เราอยู่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ ทำให้ต่างคนต่างมีสังคมใหม่ๆ เราก็มีเพื่อนในกลุ่มที่สาขาเป็นกลุ่มใหญ่เหมือนเดิม ทางด้าน เพื่อน 1 ก็มีเพื่อนในกลุ่มเยอะเหมือนกัน แต่เราก็สนิทกันเหมือนเดิม เวลาว่างเราก็ต่างชวนกันไปทำนู้นทำนี้กันเหมือนเดิม เจอกันบ่อยๆ แต่ทั้งการเรียนทั้งกิจกรรมก็ต่างกัน เราทำกิจกรรมเยอะมากๆ แต่เราก็มีเวลาให้เพื่อน 1 เสมอ เพื่อนที่ทำกิจกรรมร่วมกับเราในคณะและในกลุ่มก็เริ่มเข้ามามีบทบาท เราขอเรียกว่าเพื่อน 2 เพื่อน 2 เป็นเพื่อนที่เรารู้จักตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัยเพราะมาเข้าค่ายมัธยมด้วยกันแต่เราอยู่คนละรร.กัน และเป็นม.6 ไม่กี่คนที่มาค่ายจึงชวนกันมาเรียนที่คณะเดียวกัน
หลังจากนั้นก็เรากับเพื่อน 1 ก็เริ่มมีเพื่อนสนิทที่มหาลัย เพื่อน 1 มีเพื่อนสนิทตั้งแต่ประถม 1 คน และเราไม่รู้จักในตอนนั้นเรารู้จักแค่ชื่อเวลาเค้างอนกันเราก็ปลอบแต่เค้าก็บอกเราว่าถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องว่าเพื่อนเค้า เราก็โอเคร และเพื่อน 1 ยังมีเพื่อนสนิทมัธยมต้นอีก 2 คน เรามักจะเล่าเรื่องราวที่เราเจอให้เค้าฟังเสมอ เพื่อให้เค้าเหมือนอยู่กับเราตลอด จะได้อัพเดตให้เค้าเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นยังไง เค้าก็มีที่บอกบ้างไม่บอกบ้าง มีงอน ง้อ ทะเลาะกันบ่อยมากๆบ้าง เรากับเค้าก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมเสมอไม่ว่าจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ เราต่างช่วยเหลือกันเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยใหญ่ แต่ด้วยเวลาของเราที่เราทำกิจกรรมต่างๆ เรียน มีแฟน และมีเพื่อน2 เพื่อนในกลุ่ม แต่เราก็จะหาเวลาไปเจอเพื่อน 1 เสมอ แต่นั้นทำให้เราห่างกันไปบ้าง เพื่อน 1 ก็เหมือนจะหวงเราไม่โอเครกับเพื่อน 2 ของเราเท่าไหร่เรารู้ดี แต่เพื่อนสนิทของเค้าเราสนิทได้หมดถ้าเค้าแนะนำ
จนมีจุดเปลี่ยนนึง เรามานั่งคิดว่าการมีเราอยู่ด้วยเหมือนทำให้เค้าจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ต้องมีเราช่วยในบางเรื่อง ทำให้เค้าไม่กล้าตัดสินใจในหลายๆเรื่องเพราะเราไปช่วยเค้าตัดสินในหลายเรื่องมากๆ เราก็อยากให้เค้าโตขึ้นบ้าง เราก็เริ่มอัพเดทเรื่องราวน้อยลง ให้เค้าลองตัดสินใจเองเราช่วยนิดๆหน่อยๆ ค่อยๆเป็นค่อยไป แต่มันกลับแย่ลง เริ่มนอยกันมากขึ้น ทะเลาะแบบนานๆ หายกันไปเลย 2-3เดือนก็มี พอกลับมาดีกันก็ทะลาะกันอีก วนไปวนมาและปีที่แล้วเรากับเพื่อน 1 ก็ต่างเจอเรื่องราวที่ยากจะก้าวผ่านไปได้มันหนักมาก เราก้เอาตัวเองไม่รอด เราก็คอยให้กำลังใจเพื่อน 1 เสมอ เราพยายามไม่พูดเรื่องเศร้าของเราเพียงเพราะเรารู้ว่าเค้าจัดการความเศร้าในใจเรื่องของเค้าไม่ได้เพราะของเค้ามันหนักสำหรับเค้ามากๆ เราจัดการได้บ้างแต่ก็เศร้ามากไม่ต่างกัน จนเวลาก็ช่วยเยียวยาไปบ้าง เราต่างดีขึ้นแต่เรารู้ว่าเพื่อน 1 ยังไม่ดีขึ้นเค้าก็ยังเป็นหนักอยู่แค่ปิดบังไว้ จนเราก็มีเรื่องงอลกันอีก แต่วันนั้นไปร้านเหล้า เค้าก็มาขอคุยด้วยเค้าเมาก็ร้องกับเรา พูดความในใจที่เก็บกันมานาน เราก้บอกว่าต่อให้เราดูเปลี่ยนไปห่างไป หรือมีเพื่อน 2 เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทมากๆอีกคน เราก็ยังจะมีเพื่อน 1 เสมอ เราแค่รอวันที่เพื่อน1 เปิดใจพูดกับเราบ้างเรื่องที่แบกไว้ก้ไม่ต้องเก็บไว้คนเดียวหรอกนะ เค้าก็บอกเหตุผลต่างๆเรื่องที่เค้าอัดอั้นและเค้าก็บอกเราว่าเค้า "ไม่ไว้ใจเรา" กลัวเราไปเล่าให้เพื่อน2 ฟัง เราเหมือนใจแตกเลย ต่อให้ทะเลาะกันกี่ครั้ง ไม่เข้าใจกันอีกกี่รอบ เค้าก็ยังเป็นเพื่อนสนิทมากๆของเราไม่เคยเปลี่ยนไป เราพยายามหาเหตุผลมาซัพพอตการกระทำของเค้าเสมอ หาเหตุผลที่จะทำให้เราเข้าใจเค้าให้เราทั้งคู่ไปต่อได้ แต่คำว่าไม่ไว้ใจ มันทำเราเจ็บมากๆ เพื่อนสนิทมากๆอ่ะสำหรับเราไม่จำเป็นต้องบอกเล่าเราทุกเรื่องก็ได้ แค่ไว้ใจที่จะมีกันข้างๆ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็สามารถที่จะเปิดใจเล่าให้ฟังได้ แต่เค้าไม่คิดกับเราแบบนั้นแล้ว หลังจากนั้นเราก้เคลียร์กันว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันกันเหมือนเดิม เพื่อน 1 จะพยายามกลับไปเป็นคนเดิมที่ไว้ใจเรา แต่สำหรับเราคิดว่าเพื่อน 1 คงเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เราก็โอเครเราอยากมีเค้าอยู่ แต่ใจเรามันแย้งตลอดเวลามองตาเค้าสายตาเค้าไม่เหมือนเดิมเลย เค้ามองเราด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จนเราพูดอะไรก็ดูจะไม่ถูกใจเอาซ่ะเลย จากสายตาที่มันพร้อมรับฟังพร้อมอยู่ข้างๆเราของเพื่อน 1 มันกลายเป็นสายตาที่มีแต่การแย้ง และเราต่างมีแต่สายตาที่ตั้งคำถาม
ตอนนี้เรียนจบมาได้ 6 เดือน เราต่างหางานมาโดยตลอด เราหางานให้ เพื่อน 1 และเพื่อน 2 จนเมื่อสิงหาเราตัดสินใจแยกทางด้านการงานกับเพื่อน 2 เราคงไปทำอย่างอื่นแล้วที่ไม่ใช่หนทางงานเดียวกันแต่เราก็หางานให้เพื่อน 2 ตลอด จนตอนนี้เพื่อน2 มีงานไปเเล้วเมื่อไม่นานนี้ ส่วนเพื่อน 1 เราก็ชวนสมัครงานตลอด แม้จะต่างคณะกันแต่มันก็มีงานที่สมัครด้วยกันอยู่บ้าง และตุลาที่ผ่านมาเราก็ชวนเค้ามาสมัครงานที่เราหาให้ เค้าก็รีบทำเอกสารทุกอย่าง เราก็สมัครไปแต่พอประกาศรายชื่อ เค้าเหมือนสุ่มรายชื่อไม่ให้สัมภาษณ์ทุกคน เพื่อน 1 ติด แต่เราไม่ติด เราเสียใจมาก เราต้องบอกก่อนที่เสียใจเพราะก่อนหน้านั้นไม่ว่าเราเจองานอะไรเราส่งให้เพื่อนสนิททุกคนมาตลอด มาสมัครด้วยกัน ไม่เคยคิดว่าเป็นคู่แข่ง แต่งานไหนที่เราสมัครได้เพื่อน 1 แทบไม่ชวนเราเลยชวนแค่งานที่เป็นราชการโอกาสได้ต้องวัดจากตัวเอง ถ้าสมัครไม่ยากเพื่อน 1 ไม่ชวนเราเลย เค้ามาเล่าเราตอนสมัครประกาศผลแล้ว จนครั้งนี้เค้าก็ได้งาน แต่เป็นงานระยะสั้นที่เราเสียใจไม่ใช่ที่เพื่อนไม่บอกหรือเพื่อน 1 ได้งานที่เราบอก แต่มันเพราะเราเคว้ง เรากดดันตัวเอง เราว่างเปล่า เพื่อน 1 ก็ให้กำลังใจ แต่พอวันสัมภาษเค้าก็สัมแค่สั้นๆ เช่น ชื่อ สกุล จบจากไหน เป็นต้น มันง่ายเกินไปแล้วรับเลย เราก็ดีใจกับเพื่อนนะแต่ก็เสียใจให้กับตัวเอง และเค้าก็มาเล่าว่าถ้าได้ด้วยกันจะดีกว่านี้นั้นนู้นนี้ เค้าพูดวนไปวนมา แต่เรานิ่งไปหมด
แต่ตอนนี้เค้าทำงานแล้วเค้าไม่คุยกับเรามา 2 จะ 3 เดือนแล้ว เค้าทำงาน เค้ากำลังจัดบ้านใหม่เพราะที่บ้านเค้าย้ายบ้าน เค้าหายไปเลยไม่เล่าอะไรให้เราฟังสักอย่าง เค้าไม่ถามเราด้วยซ้ำว่าเป็นไงบ้าง ได้งานรึยัง เราเหมือนอยู่ในความว่างเปล่า และความผิดหวังของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนเราร้องไห้ในใจ กดดันในความไม่มีอะไรเลยของตัวเอง ในขณะที่เค้าหายไปเค้าก็ดูมีความสุขกับเพื่อนสนิทของเค้าทุกคนยกเว้นเรา เค้าไม่สนใจเราด้วยซ้ำ เราคิดเเค่ว่าเราผิดอะไร เรามีเพื่อนสนิทที่มหาลัยไม่ได้เหรอ เค้ามีเพื่อนสนิทตั้งมากมายแต่เรามีแค่ เพื่อน 1 เเละเพื่อน 2 เท่านั้นที่เราสนิท ทำไมเราไม่มีโอกาสได้สนิทกับใครเลยใช่มั้ย ตอนที่เค้ามีความสุขเราไม่ต้องอยู่ก็ได้ แต่ตอนเพื่อน 1 ทุกข์เราจะอยู่ตรงนั้นเสมอ แต่ตอนนี้เราทุกข์ ไม่เห็นเค้าจะมานั่งสนใจเราเลย ก็ปล่อยให้เราอยู่ในความว่างเปล่าของเราต่อไป เหมือนคนไม่รู้จักกัน ทั้งหมดที่อ่านมาอาจดูว่าเราเข้าข้างตัวเอง ชมตัวเอง ยกยอตัวเองว่าดี แต่เราไม่เคยคิดจะว่าเพื่อนไม่ดี เราแค่สงสัยว่าทำไมจากเพื่อนสนิทกันมากๆในวันนั้นถึงกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันในวันนี้
เราพยายามไม่คิดมากและไม่คิดวนไปวนมาแต่เราทำไม่ได้เลย เราคิดเรื่องเค้าบ้าง เราแค่คิดว่าถ้าเราไม่มีเค้าเราก็จะไม่มีเพื่อนแบบนี้อีกแล้ว ตอนนี้เรามีแค่เพื่อน 2 คนเดียวแล้ว สุดท้ายแล้วทั้งหมดนี้เป็นเพียงของเราในมุมมองเดียว เค้าอาจจะโดนเราทำไม่ดีใส่มากๆก็ได้แค่เราไม่รู้เราไม่โทษเค้าเลยโทษตัวเองมาตลอดจนทำให้ตอนนี้เราออกจากวังวนไม่ได้เลย แต่เราก็จะพยายามก้าวข้ามไปให้ได้ ขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาอ่านมากๆ อาจจะมึนงงในเนื้อเรื่องด้านบนไปบ้างเพราะเราก็รวบย่อไปเยอะมากๆ เราอาจจะคิดมากเกินไป เรารู้สึกเหนื่อยและว่างเปล่ามากๆ คำถามก็เต็มไปหมด ก็เลยอยากมาพูดคุยกับเพื่อนใหม่ๆในนี้ แต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะคุณเพื่อนใหม่