แม่พระประจักษ์ที่ประเทศไทย🇹🇭 เมื่อปี 1988 ที่วัดลำไทร

จากหนังสืออิสระ ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 พ.ค.- มิ.ย. ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531)



     สัมภาษณ์คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม และผู้เห็นเหตุการณ์ที่คลองสิบสอง

     คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม เจ้าอาวาสวัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร (ในขณะนั้น)



✒️ อยากให้คุณพ่อช่วยเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ได้มั้ยครับ ?

😇 ถ้าอยากรวบรัด คือวันที่ 12 เม.ย. , 6 พ.ค. , 8 พ.ค. และ 29 พ.ค. พ่อได้พบกับอาเดเรียเมื่อวันที่ 10 ที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ เวลา 11.25 น. ที่ห้อง 651 อาเดเรียเป็นชาวออสเตรเลีย🇦🇺 เธอกำลังทำงานที่โคเออร์และเธอได้รับการติดต่อสนทนากับแม่พระเป็นเวลา 9 ปี และมีข่าวสารเป็นครั้งคราวจากแม่พระเพื่อขอให้เธอเขียนถึงพระสันตะปาปาและบุคคลสำคัญ ที่สุดเธอก็ได้เขียนมาถึงพระคาร์ดินัล มีชัย เมื่อ 2 ปีก่อน ถึงพระศาสนจักรในเมืองไทย ที่เป็นเหตุการณ์นะครับ เธอได้บอกกับพ่อว่าวันที่ 12 เม.ย. ให้พาคนไปสวดที่หน้าถ้ำพระแม่นะ แม่พระจะประจักษ์ พอพ่อฟังแล้วพ่อก็งง พูดกันเล่นๆง่ายๆ เองเหรอ พ่อบอกว่าอย่าเลยถ้าเป็นอย่างไรกรุณาเขียน และนี่พ่อได้แปลออกมา “พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร” นี่เป็นชื่อของแม่พระเป็นทั้งหมดแห่งการมาประจักษ์ครั้งนี้

     พระแม่ได้บอกว่า ให้บอกคุณพ่อวิจิตรว่าให้พาคนไปสวดสายประคำที่ถ้ำแม่พระตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะมาประทับอยู่ที่นั่น ขณะที่มีการสวดสายประคำ ให้เริ่มด้วยบทเทวทูตถือสาร คุกเข่าสวด ตั้งแต่หลังเที่ยงจนถึงเย็น เมื่อแม่พระมาประจักษ์พระนางมาในดวงอาทิตย์ และจะทำปรากฏการณ์ต่างๆ สำหรับเราแล้วใช้เวลาทั้งหมด 4 ครั้งก่อนที่จะเห็นปรากฏการณ์จากดวงอาทิตย์

     เวลานั้นเองพ่อต้องเดินทางไปเทศน์ให้คณะธิดาพระแม่มารีที่ท่าแร่ พ่อจึงต้องโทรศัพท์มาที่ร้านมรกตหนองจอก ข่าวนี้จึงแพร่ไปทั่ววัดพระวิสุทธิวงส์ มีการปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ที่วัด บราเดอร์ที่มาทำงานทราบก็มาหาคุณพ่อปลัด พ่อปลัดก็ตกใจกลัวว่าเดี๋ยวพูดไปแล้วไม่จริงไม่จังมาจะวุ่นวาย ก็รู้กันในวงนิดหน่อย เสร็จแล้วพอบ่ายหลังเที่ยงก็จะมีคนมาจริงๆ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ วันนี้มีคนเห็นเหตุการณ์และคนที่ไม่เห็นอะไรเลย พ่อได้มาสัมภาษณ์ทีหลัง มี ด.ช. เกรียงไกร เห็นเป็นรูปกางเขน✝️ , ด.ช. นพเวทย์ เห็นเป็นรูปแม่พระ💙 , ด.ญ. ดวงนภา เห็นเป็นรูปนกพิราบกำลังจะกางแขน🕊 , ด.ช. สรพงศ์ เห็นเป็นรูปประคำรอบกางเขน🌹✝️🌹 , ด.ญ. ดวงฤดี เห็นเป็นรูปกางเขน✝️ , นางสาว มุกดา เห็นแม่พระในชุดสีขาว🤍 นี่เป็นเหตุการณ์วันที่ 12 เม.ย. 2531

🕰 เหตุการณ์วันที่ 6 พ.ค. 1988

     หลังจากที่พ่อกลับจากฟิลิปปินส์🇵🇭 และอาเรเดียกลับจากโรมแล้วพ่อก็รับอาเรเดียมาที่ วัดไทรในค่ำวันพฤหัส เย็นนั้นได้ถวายมิสซาที่ตลาด และพ่อก็บอกว่าอาดเรียจะอยู่กับพวกเรานะใครว่างก็มาสวด นี่เป็นสิ่งที่อาเดเรียได้เขียนไว้ ...” ติดตามการบอกของพระแม่มารีย์ที่ว่าพระนางจะแสดง หมายสำคัญของพระนางที่ถ้ำแม่พระที่วัด วันที่ 12 เม.ย. ฉันก็ได้บอกกับคุณพ่อแล้วว่าฉันเองไม่สามารถไปได้ เพราะฉันจะต้องไปโรม ตอนเช้าวันที่ 6 พ.ค. เวลา 10:15 น. แม่พระได้มาเรียกฉัน ฉันเห็นพระนางใต้ต้นไม้ใกล้ถ้ำพระนางโอบพระสงฆ์หนุ่มอยู่เบื้องหลัง พระนางยังได้กล่าวแก่ฉันเกี่ยวกับพระสงฆ์หนุ่มนี้ และขอให้ฉันสวดที่หน้าถ้ำตอนบ่ายนี้ด้วย ฉันจึงได้ไปประมาณ 2:45 น. เมื่อเราเริ่มสวดสายประคำสายที่ 2 พระนางก็ได้ทำให้ดวงอาทิตย์เป็นสีแดง ฉันก็มองเข้าไปในดวงอาทิตย์โดยไม่ปวดตา พระนางคือผู้เห็นอกเห็นใจแม่ผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรม แด่ผู้น่าสงสาร ดวงตาของพระนางเหมือนดวงดาว⭐️ และปากของพระนางก็เหมือนดอกกุหลาบ🌹 พระนางกำลังยืนยิ้มและอ้าแขนออกกว้าง พระนางยังได้บอกกับฉันว่าให้บอกคุณพ่อวิจิตรให้มีการสวดสายประคำที่ถ้ำแม่พระบ่อยๆ และจะมีพระหรรษทานมากมายในวัดของคุณพ่อ ให้สวดสายประคำบทภาวนาของอัครทูตสวรรค์มีคาแอล ฟังมิสซาและรับศีลทุกวัน แก้บาปเดือนละครั้ง และถือวันอาทิตย์เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาให้แก่พระสงฆ์ให้ท่านบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นด้วยสวดเพื่อพระศาสนจักร พระสันตะปาปาและวิญญาณในไฟชำระ

     นี่เป็นสารฉบับแรกแล้วพระนางได้ตรัสว่า “คุณพ่อวิจิตรเป็นนายชุมพาบาลที่ดี เป็นพระสงฆ์ที่ดี ให้ดำเนินงานที่จะนำประชากรต่อไปในความเชื่อมั่นแบบง่ายๆ” พอถึงตอนนี้พ่อขอบอกเลยนะครับว่า พ่อไม่กล้าแปล รู้สึกไม่สบายใจที่จะแปลกลัวคนเขาว่า ไอ้นี่จองหอง อยากดัง อะไรต่างๆ ทำนองนี้ มีอย่างเหรอแม่พระมาบอกว่าคุณพ่อวิจิตรเป็นนายชุมพาบาลที่ดี กลัวหลายอย่างครับ กลัวว่าจะต้องถูกโจมตีอย่างแน่นอนเมือตีแผ่ออกไป เพราะเขาจะล้อเล่นว่า “พ่อนักบุญมาแล้ว” แต่พ่อก็ทนต่อเสียงมโนธรรมไม่ได้คนที่สุภาพแท้จริง คือ คนที่รับที่ตัวเองเป็นอยู่ เมื่อชมคนนี้ว่าสวยโอ๊ยไม่สวยไม่สวย ปฏิเสธทำไมเมื่อคนเขาว่าเราสวย เมื่อเราเก่งคนเขาบอกว่าเราเก่ง โอเค ครับเราเก่ง แต่ความเก่งของเรานั้นมาจากพระ ความสวยของเรานั้นมาจากพระ เรายกถวายให้แด่พระ เมื่อคิดเช่นนี้แล้วพ่อก็เลยแปลออกไป ใครจะว่าอย่างไรก็ว่าไปเถิด สำหรับพ่อแล้วสิ่งที่แม่พระชมนั้นแม่พระคงต้องการให้เรารักษาและคงความเป็นอยู่อย่างนั้นต่อไป เราจึงต้องร่วมมือกับพระหรรษทานของพระเพื่อให้แผนการของพระองค์สำเร็จไปดังที่แม่ได้บอกไว้สรุปในวันที่ 6 พ.ค. ที่เห็นคือ พระอาทิตย์หมุน🌞 มีสีสันต่างๆ ส่วนแม่พระประจักษ์ให้เห็นเฉพาะอาเดเรียและป้าจันทน์

🕰 เหตุการณ์วันที่ 8 พ.ค. 1988

     ได้มีพลมารีย์มาต่อว่าพ่อว่ามีเรื่องนี้ทำไมไม่บอก พ่อก็บอกเขาว่าพ่อต้องขอโทษด้วย เพราะพ่อเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่มีอยู่อย่างที่ว่า

     “ทุกครั้งที่มีการสวดสารประคำแม่จะมาประทับอยู่ที่นี่”

     แม่พระสัญญาอย่างนี้ เสร็จแล้วก็มีคนพาคนป่วยมาหาพ่อหิ้วปีกมาเลย ไม่สบายมาก พ่อก็เลยบอกว่าดี ให้เราไปสวดที่หน้าถ้ำกัน พอเราสวดเสร็จพ่อก็อวยพรให้กับคนป่วย🤒 เท่านั้นแหละครับก็เกิดปรากฏการณ์อีก พ่อเองมองขึ้นไปเห็นเป็นวง 4 วงด้วยกัน และก็ไม่ได้เห็นอะไร แต่ทุกคนเห็นสีสันต่างๆเหมือนกันและพ่อก็เลยบอกว่าเราไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับพระเป็นเจ้าหรือแม่พระมาทำอัศจรรย์ให้เราเห็น พ่อสรุปเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

1) ชื่นชมยินดีแม้ตัวเองจะยังไม่เห็น ☺️
2) เฉยๆ 😑
3) พวกติดตามสอบถามให้แน่ชัด 🧐
4) พวกต่อต้านว่าไม่จริง... 😠

     นี่เป็นแต่บันทึก เรื่องราวเท่านั้น และพระศาสนจักรก็ยังไม่ได้มีการับรองใดๆ พ่อเพียงแต่เสนอเรื่องให้พระคาร์ดินัลท่านทราบ และท่านเพียงแต่ยิ้มๆ และเหตุที่ยิ้มที่อาเดเรียได้บอกกับพ่อว่าเมื่อวันที่ 11 เม.ย. นั่งเครื่องบินไปโรมด้วยกัน และอาเดเรียก็บอกว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 12 เม.ย. ที่คลองสิบสองพระคาร์ดินัลเลยถามว่า

     “อะไร จริงหรือ” เพราะฉะนั้นเมื่อพอไปบอกท่านก็เพียงแต่ยิ้มๆ เท่านั้นเอง และในช่วงนั้นพ่อก็ถามว่าแม่พระประจักษ์มาทำไม และอาเดเรียก็เลยเขียนไว้ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ใจความว่า

1) เพื่อสอนเราว่าให้เรารักพระเยซูเจ้าเสมอๆ ไม่มีใครรักพระเยซูเจ้าได้ดีเท่าแม่ และติดตามด้วยแบบอย่างอันสุภาพของแม่
2) เพื่อเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา หากเราไม่ละทิ้งสิ่งเลวร้าย
3) เพื่อช่วยวิญญาณเรา และวิญญาณที่อยู่ในไฟชำระ
4) เพื่อให้เรานบนอบต่อพระศาสนจักร และผู้มีหน้าที่อภิบาลสัตบุรุษทุกคน
5) เพื่อแสดงให้เห็นถึงพระอาณาจักรสวรรค์ และให้ความหวังแก่เรา

     ก็คือแสงสี ปรากฏการณ์ต่างๆ อันนั้นมันเป็นเพียงแต่กลิ่น เป็นเพียงส่วนที่แจ้งเราให้เราเห็นความรุ่งโรจน์ในสวรรค์ก็ว่าได้ หลายคนที่มาที่นี่รู้สึกสงบเพียงแค่เห็นแสงเห็นสีเท่านั้นแหละ มันแปลกและทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับพระเป็นเจ้า

🕰 เหตุการณ์วันที่ 29 พ.ค. 1988

     วันนั้นเป็นแห่แม่พระของเรา ทุกคนหลั่งไหลกันมากมาย

     เช้าวันที่ 29 มีมาสเตอร์ชูชีพ มาเล่าให้พ่อฟังว่าเกิดปรากฏการณ์ ที่เกาะใหญ่ ที่จริงแกบอกว่าแกจะไม่มาหรอก มีคนบอกว่าให้มาดูอะไรหน่อยที่ครองสิบสอง ก็ไม่มา แต่พอกลับไปที่เกาะใหญ่เพื่อพักผ่อนเช้านั้นเขายังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย พอ 7 โมงกว่าหน่อยๆ ดวงอาทิตย์ ก็ทำปรากฏการณ์🌞 ด้วยความตื้นเต้นของเขาจึงรีบมา และพ่อได้เชิญเขาขึ้นพูดในวันมิสซาวันนั้นเอง คนที่เคยไปเมดจูกอเรย์ (Medjugorje) เตรฟอนตาเน ขึ้นมาพูดวันนั้น อาเดเรียก็อยู่ในเหตุการณ์ เธอเห็นพระแม่พระประจักษ์มา มีกางเขน✝️ รูปพระจิตเจ้า🔥 รูปนกพิราบ🕊 และเทวดาห้อมล้อม😇 ตอนนั้นที่คนเห็นแต่ละคนก็เห็นไม่เหมือนกัน บางคนก็เห็นแต่บางส่วนบางคนก็ไม่เห็นอะไรเลย บางคนไม่ทราบแน่ชัด เขาบอก คุณเฉลยนะครับ โอ้โฮเป็นขบวน พอพ่อได้ยินว่าเป็นขบวนปั๊บก็สะดุ้งทันที เพราะว่าบทสวดที่ว่า พระนางนั่นคือใครหนอ เสด็จมาดุจรุ่งอรุณ🌄 งามดังดวงจันทร์🌝 รุ่งโรจน์ดังดวงอาทิตย์🌞 และน่าเกรงขามดุจกองทัพที่เรียงรายเป็นขบวนรบ⚔️ เพราะฉะนั้นปรากฏการณ์ทั้งหมดในบทสวดกำลังเกิดขึ้น และอาเดเรียก็ได้เห็นทั้งหมด

     อาเดเรียยังเขียนต่ออีกว่า แม่พระจะอยู่ที่นี่เสมอเพื่อรับคำภาวนาของเราทูลเกล้าถวายแด่พระเจ้าผู้ทรงสรรพฤทธิ์และที่แปลกมากกว่านั้นก็คือ

     "แม่คือแม่ผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร ฉันมาเพื่อบอกลูกว่า มันเป็นเวลาของลูกแล้ว ลูกๆ ของพระเจ้า ที่ลูกจะต้องรับมรดก ลูกก็คือเจ้าชายและเจ้าหญิงของโลก เพราะว่าพระบิดาของลุกนั้นทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ในโลกนี้ไม่มีมรดกอะไรอีกแล้วที่ควรจะเป็น ในไม่ช้าศัตรูของเราจะต้องทอดทิ้งที่มันเคยแอบอ้างคืนให้กับพระองค์”

     "ลูกของพระเจ้า ตั้งแต่พระเจ้าได้สร้างโลกมาแล้ว จงสำนึกและรับรู้ว่าพระเจ้าได้มอบอำนาจให้แก่ลูกแล้วในตัวบุคลที่เกิดมาและยังไม่ได้เกิดมาด้วย และในตัวแม่ พ่อ แม่ ลูกๆ คือ เจ้าชายและเจ้าหญิงอย่างแท้จริง”

     พระแม่นั้นทรงมีนักรบดุจเทวดาห้อมล้อมอยู่มากมาย เบื้องขวาของพระแม่นั้นมีอัครทูตสวรรค์มีคาแอลนักรบสีเงินทรงถือดาบในท่าตรง พระแม่แต่งตัวเหมือนเมื่อครั้งก่อนและทรงมงกุฎ👑 ทรงถือพระคัมภีร์ในพระหัตถ์ขวา📖 และพระนางทรงยิ้มให้ฉันและกองทัพทั้งหมด😊 ซึ่งสุกใสเป็นกายคล้ายกระจกก็เคลื่อนคล้ายไปในอาทิตย์ นี่เป็นการประจักษ์ที่อาเดเรียได้เห็นในวันที่ 29 พ.ค.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่