พระแม่มารีย์ สตรีที่พระเป็นเจ้าทรงเลือกสรรให้เป็นพระมารดาพระผู้ไถ่ ชีวิตที่เรียบง่ายของพระแม่แต่เปี่ยมไปด้วยความรักและซื่อสัตย์ สุภาพ นบนอบและไว้ใจในพระผู้เป็นเจ้า ยอมสละน้ำใจของตนเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ดังจะเห็นได้จากการที่พระแม่มารีย์ได้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยตั้งใจว่าจะถือพรหมจรรย์ แต่เมื่อพระเป็นเจ้าก็ทรงมีแผนการเลือกพระนางให้ป็นพระมารดาของพระผู้ไถ่ พระแม่มารีย์ก็ยอมรับตามน้ำพระทัย ติดตามและร่วมงานไถ่กู้มนุษย์พร้อมกับพระบุตร จากรางหญ้า สู่เขากัลวา พระแม่ไม่เคยห่างหายไปจากพระเยซูเจ้าเลย พระนางร่วมทุกข์กับพระองค์จนวาระสุดท้าย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมพระแม่มารีย์จึงได้รับการยกย่อง ให้เกียรติจากพระเป็นเจ้าให้เป็น
ราชินีแห่งสวรรค์และแผ่นดิน
พระแม่มารีย์ ราชินีแห่งสวรรค์
ใน ค.ศ.1932 แม่พระทรงประจักษ์ ที่โบแรง ประเทศเบลเยี่ยม ให้แก่เด็ก 5 คน ประทานสารและตรัสว่า "ฉันคือ มารดาพระเจ้า, ราชินีแห่งสวรรค์..."
พระแม่มารีย์ พระมารดาพระเจ้า
สังคายนาแห่งเมืองเอเฟซัส (ค.ศ.431) ประกาศว่า พระนางมารีย์ทรงเป็นพระมารดาพระเจ้า ( Theotokos – Mater Dei ) หมายความว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นมนุษย์แท้และพระเจ้าแท้ และพระแม่มารีย์ซึ่งเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้าทั้งครบ ย่อมได้รับสมญานามว่า พระมารดาพระเจ้า
พระแม่มารีย์ มารดาแห่งมนุษยชาติ
สังคายนาวาติกันที่ 2 ได้ปรับปรุงความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์ตามหลักเทววิทยาเสียใหม่ หลักสำคัญที่สุด คือ การที่พระนางทรงเป็นมารดาของชาวเรา
ความศรัทธาต่อแม่พระแสดงออกได้ 3 ทาง คือ
1) การเคารพนับถือพระนาง
2) การวิงวอนของพระนาง
3) การเลียนแบบอย่างพระนาง
พระแม่มารีย์ ผู้ปฏิสนธินิรมล
พระคุณพิเศษที่พระแม่มารีย์ได้รับจากพระเจ้าเหนือกว่ามนุษย์ใดๆ คือ การปฏิสนธินิรมล
เทวดาคาเบรียลยืนยันพระคุณนี้ โดยการทักทายพระนางว่า วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน.......
สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ทรงประกาศการปฏิสนธินิรมลของพระแม่มารีย์ เป็นข้อความเชื่อในสมณสาสน์ Ineffabilis Deus เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1854
25 มีนาคม 1858 พระแม่มารีย์ ประจักษ์ที่ลูร์ด ประเทศฝรั่งเศส ให้แก่แบร์นาแด๊ต ซูบีรูส์ เด็กสาวที่ยากจนและขาดการศึกษา ถามสตรีผู้ประจักษ์มาว่า “ท่านคะ กรุณาบอกหนูได้ไหมคะว่าท่านเป็นใคร?” สตรีผู้นั้นได้ตอบเธอว่า “ฉันคือการปฏิสนธินิรมล” แบร์นาแด๊ตไม่เข้าใจความหมายนี้ จึงท่องจำคำนี้ไว้ตลอดทาง เพื่อไปบอกกับคุณพ่อเจ้าวัด
พระแม่มารีย์ ผู้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
เป็นข้อความเชื่อ เมื่อพระแม่มารีย์สิ้นพระชนม์ และได้รับเกียรติจากพระเป็นเจ้าให้ออกจากโลกนี้ พร้อมทั้งร่างกายและวิญญาณไปสู่สวรรค์
คริสตชนยุคแรกๆ เชื่อกันมาดังนี้เป็นเวลายาวนาน ก่อนที่พระสันตะปาปาจะประกาศ เป็นข้อความเชื่อเสียอีก จนกระทั่งวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงประกาศการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณเป็นข้อความเชื่อในสมณสาสน์ Munificentissimus Deus
พระแม่มารีย์ คนกลางแจกจ่ายพระหรรษทาน
วันหนึ่ง ขณะที่นักบุญเม็คทิลด์กำลังสวดภาวนา และพยายามคิดหาวิธีที่จะบอกถึงความรักที่เธอมีต่อแม่พระมากกว่าที่เคยทำมาก่อน และเมื่อเธอตกอยู่ในภวังค์ แม่พระได้ประจักษ์มาหาเธอ พร้อมกับบทวันทามารีอาที่เขียนไว้บนอกเสื้อของแม่พระด้วยอักษรสีทอง แม่พระตรัสแก่เธอเกี่ยวกับความหมายอันยิ่งใหญ่ ของบทคำนับของฑูตสวรรค์ หรือที่เรารู้จักกันดีคือ บทวันทามารีย์ โดยพระดำรัสตอนหนึ่งของแม่พระตรัสว่า
"พระจิตเจ้าได้ประทานพระหรรษทานมากมายแก่แม่ และทำให้แม่ในฐานะคนกลาง สามารถแจกจ่ายพระหรรษทานเหล่านั้นแก่ทุกคนที่วอนขอจากแม่"
คริสตชนมีความศรัทธาภักดีต่อแม่พระ เนื่องจากชีวิตและฤทธิ์กุศลความดีงามต่างๆในชีวิตของพระนาง เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เราในการดำเนิน
ชีวิตคริสตชน ฤทธิ์กุศลที่สำคัญในชีวิตแม่พระคือ
ความบริสุทธิ์
หมายถึงพระแม่มารีย์บังเกิดมาไม่มีบาปกำเนิด และยังดำเนินชีวิตถือพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าอย่างครบถ้วน ไม่กระทำบาป อีกทั้งได้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยตั้งใจว่าจะถือพรหมจรรย์ แต่พระเป็นเจ้าก็ทรงมีแผนการณ์เป็นอย่างอื่น โดยการใช้ให้เทวดาคาเบรียลมาแจ้งแก่แม่พระว่า พระนางจะตั้งครรภ์และกำเนิดบุตรชาย และให้ตั้งชื่อว่า "เยซู" พระแม่มารีย์ถามว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะพระนางยังเป็นพรหมจารีอยู่ เทวดาตอบว่าการตั้งครรภ์นั้นมิได้เกิดตามธรรมชาติฝ่ายเนื้อหนัง แต่เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า เด็กที่เกิดมาจะเป็นพระผู้ไถ่โลกพระนางมารีจึงตอบว่า
"ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามวาทะของท่าน" (ลก. 1:38) แล้วนั้นพระวจนาตถ์ทรงรับเอากาย และมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา (ยน. 1:14)
สังเหตุให้ดีจะเห็นว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของมนุษยชาติ เป็นคำตอบที่มีความหมายสำหรับมนุษย์ทุกคน เพราะหากแม่พระตอบปฏิเสธคำเชิญนี้ งานไถ่กู้มนุษย์ก็จะไม่เกิดขึ้น จึงเป็นที่มาที่พระศาสนจักรให้มีการสมโภชแม่พระรับสารจากอัครเทวดาคาเบรียล ในวันที่ 25 มีนาคมของทุกปี
ความสุภาพนอบน้อมเชื่อฟัง
พระแม่มารีย์มีความสุภาพนอบน้อมเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า อันเป็นฤทธิ์กุศลที่บรรดาคริสตชนพึงมี ระเยซูเจ้าสอนเราให้แสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าก่อนอื่นใดแล้วที่เหลือพระเป็นเจ้าจะแถมให้แก่เราเอง หมายถึงจัดการทุกสิ่งทุกอย่างแก่เราเอง คริสตชนยินดีรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยความนอบน้อมราบเรียบด้วยความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า
ความรัก
การยินดีเสียสละน้ำใจตนเอง เพื่อยอมรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า เพราะรักพระของพระแม่มารีย์ เป็นตัวอย่างในเรื่องการเลือกเอาพระเป็นเจ้ามาเป็นอันดับแรกในชีวิตคริสตชน เพราะรักพระเป็นเจ้า แม่พระจึงยอมรับความทุกข์ทุกอย่าง เพื่อให้สำเร็จตามแผนการณ์ไถ่บาปมนุษย์ของพระเป็นเจ้า คริสตชนทุกคนต่างมีพันธกิจในการร่วมกอบกู้มนุษยชาติให้มารู้จักพระเป็นเจ้าและได้รับความรอดผ่านทางพระองค์
พระแม่มารีย์ได้ร่วมมือกับพระเป็นเจ้าในการให้กำเนิดพระมหาไถ่ คือพระเยซูเจ้า ไม่ว่าจะมีความยากลำบากสักเพียงใดอยู่ในเหตุการณ์นี้ ฯลฯ ความดีและฤทธิ์กุศลที่แม่พระเสียสละ พระเยซูเจ้าทรงตอบแทน และคืนความดีทุกอย่างแด่พระมารดาของพระองค์ นั่นคือ โดยการยกเอาพระแม่มารีย์ไปสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ บัดนี้เราเชื่อว่า พระแม่มารีย์ประทับอยู่บนสวรรค์กับพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระนาง แต่พระนางก็ยังคงเป็นห่วง รักและเมตตาเราทุกคน ซึ่งเป็นลูกๆของพระนางด้วย ที่เชิงกางเขน ก่อนพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ บรรดาสานุศิษย์ต่างกลัว และหนีไปหมด แต่พระแม่ยืนหยัดอยู่ที่แทบเชิงกางเขนกับนักบุญยอห์น ณ ที่นั่น พระเยซูเจ้ามองลงมาจากกางเขน แล้วตรัสว่า
"สตรีเอ๋ยนี่แน่ะลูกของท่าน" และตรัสแก่ศิษย์นั้นว่า "นี่แน่ะ แม่ของเจ้า"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
วันฉลองแม่พระที่สำคัญ
1 มกราคม สมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเป็นเจ้า
2 กุมภาพันธ์ แม่พระถือศีลชำระ(ถวายพระกุมารในวิหาร)
11 กุมภาพันธ์ แม่พระเมืองลูร์ด
25 มีนาคม สมโภชแม่พระรับสารจากอัครเทวดาคาเบรียล
13 พฤษภาคม แม่พระฟาติมา
2 กรกฎาคม แม่พระเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ
16 กรกฎาคม แม่พระแห่งภูเขาคาร์แมล
15 สิงหาคม สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
22 สิงหาคม พระนางมารีย์ราชินีแห่งสากลโลก
8 กันยายน แม่พระบังเกิด
15 กันยายน แม่พระมหาทุกข์
7 ตุลาคม ระลึกถึงแม่พระแห่งสายประคำ
21 พฤศจิกายน แม่พระถวายองค์ในพระวิหาร
8 ธันวาคม สมโภชแม่พระปฎิสนธินิรมล
พระแม่มารีย์...จากมนุษย์สามัญ สู่ ราชินีแห่งสวรรค์และแผ่นดิน
พระแม่มารีย์ สตรีที่พระเป็นเจ้าทรงเลือกสรรให้เป็นพระมารดาพระผู้ไถ่ ชีวิตที่เรียบง่ายของพระแม่แต่เปี่ยมไปด้วยความรักและซื่อสัตย์ สุภาพ นบนอบและไว้ใจในพระผู้เป็นเจ้า ยอมสละน้ำใจของตนเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ดังจะเห็นได้จากการที่พระแม่มารีย์ได้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยตั้งใจว่าจะถือพรหมจรรย์ แต่เมื่อพระเป็นเจ้าก็ทรงมีแผนการเลือกพระนางให้ป็นพระมารดาของพระผู้ไถ่ พระแม่มารีย์ก็ยอมรับตามน้ำพระทัย ติดตามและร่วมงานไถ่กู้มนุษย์พร้อมกับพระบุตร จากรางหญ้า สู่เขากัลวา พระแม่ไม่เคยห่างหายไปจากพระเยซูเจ้าเลย พระนางร่วมทุกข์กับพระองค์จนวาระสุดท้าย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมพระแม่มารีย์จึงได้รับการยกย่อง ให้เกียรติจากพระเป็นเจ้าให้เป็น
ราชินีแห่งสวรรค์และแผ่นดิน
พระแม่มารีย์ ราชินีแห่งสวรรค์
ใน ค.ศ.1932 แม่พระทรงประจักษ์ ที่โบแรง ประเทศเบลเยี่ยม ให้แก่เด็ก 5 คน ประทานสารและตรัสว่า "ฉันคือ มารดาพระเจ้า, ราชินีแห่งสวรรค์..."
พระแม่มารีย์ พระมารดาพระเจ้า
สังคายนาแห่งเมืองเอเฟซัส (ค.ศ.431) ประกาศว่า พระนางมารีย์ทรงเป็นพระมารดาพระเจ้า ( Theotokos – Mater Dei ) หมายความว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นมนุษย์แท้และพระเจ้าแท้ และพระแม่มารีย์ซึ่งเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้าทั้งครบ ย่อมได้รับสมญานามว่า พระมารดาพระเจ้า
พระแม่มารีย์ มารดาแห่งมนุษยชาติ
สังคายนาวาติกันที่ 2 ได้ปรับปรุงความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์ตามหลักเทววิทยาเสียใหม่ หลักสำคัญที่สุด คือ การที่พระนางทรงเป็นมารดาของชาวเรา
ความศรัทธาต่อแม่พระแสดงออกได้ 3 ทาง คือ
1) การเคารพนับถือพระนาง
2) การวิงวอนของพระนาง
3) การเลียนแบบอย่างพระนาง
พระแม่มารีย์ ผู้ปฏิสนธินิรมล
พระคุณพิเศษที่พระแม่มารีย์ได้รับจากพระเจ้าเหนือกว่ามนุษย์ใดๆ คือ การปฏิสนธินิรมล
เทวดาคาเบรียลยืนยันพระคุณนี้ โดยการทักทายพระนางว่า วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน.......
สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ทรงประกาศการปฏิสนธินิรมลของพระแม่มารีย์ เป็นข้อความเชื่อในสมณสาสน์ Ineffabilis Deus เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1854
25 มีนาคม 1858 พระแม่มารีย์ ประจักษ์ที่ลูร์ด ประเทศฝรั่งเศส ให้แก่แบร์นาแด๊ต ซูบีรูส์ เด็กสาวที่ยากจนและขาดการศึกษา ถามสตรีผู้ประจักษ์มาว่า “ท่านคะ กรุณาบอกหนูได้ไหมคะว่าท่านเป็นใคร?” สตรีผู้นั้นได้ตอบเธอว่า “ฉันคือการปฏิสนธินิรมล” แบร์นาแด๊ตไม่เข้าใจความหมายนี้ จึงท่องจำคำนี้ไว้ตลอดทาง เพื่อไปบอกกับคุณพ่อเจ้าวัด
พระแม่มารีย์ ผู้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
เป็นข้อความเชื่อ เมื่อพระแม่มารีย์สิ้นพระชนม์ และได้รับเกียรติจากพระเป็นเจ้าให้ออกจากโลกนี้ พร้อมทั้งร่างกายและวิญญาณไปสู่สวรรค์
คริสตชนยุคแรกๆ เชื่อกันมาดังนี้เป็นเวลายาวนาน ก่อนที่พระสันตะปาปาจะประกาศ เป็นข้อความเชื่อเสียอีก จนกระทั่งวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงประกาศการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณเป็นข้อความเชื่อในสมณสาสน์ Munificentissimus Deus
พระแม่มารีย์ คนกลางแจกจ่ายพระหรรษทาน
วันหนึ่ง ขณะที่นักบุญเม็คทิลด์กำลังสวดภาวนา และพยายามคิดหาวิธีที่จะบอกถึงความรักที่เธอมีต่อแม่พระมากกว่าที่เคยทำมาก่อน และเมื่อเธอตกอยู่ในภวังค์ แม่พระได้ประจักษ์มาหาเธอ พร้อมกับบทวันทามารีอาที่เขียนไว้บนอกเสื้อของแม่พระด้วยอักษรสีทอง แม่พระตรัสแก่เธอเกี่ยวกับความหมายอันยิ่งใหญ่ ของบทคำนับของฑูตสวรรค์ หรือที่เรารู้จักกันดีคือ บทวันทามารีย์ โดยพระดำรัสตอนหนึ่งของแม่พระตรัสว่า
"พระจิตเจ้าได้ประทานพระหรรษทานมากมายแก่แม่ และทำให้แม่ในฐานะคนกลาง สามารถแจกจ่ายพระหรรษทานเหล่านั้นแก่ทุกคนที่วอนขอจากแม่"
คริสตชนมีความศรัทธาภักดีต่อแม่พระ เนื่องจากชีวิตและฤทธิ์กุศลความดีงามต่างๆในชีวิตของพระนาง เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เราในการดำเนิน
ชีวิตคริสตชน ฤทธิ์กุศลที่สำคัญในชีวิตแม่พระคือ
ความบริสุทธิ์
หมายถึงพระแม่มารีย์บังเกิดมาไม่มีบาปกำเนิด และยังดำเนินชีวิตถือพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าอย่างครบถ้วน ไม่กระทำบาป อีกทั้งได้ถวายตัวแด่พระเป็นเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยตั้งใจว่าจะถือพรหมจรรย์ แต่พระเป็นเจ้าก็ทรงมีแผนการณ์เป็นอย่างอื่น โดยการใช้ให้เทวดาคาเบรียลมาแจ้งแก่แม่พระว่า พระนางจะตั้งครรภ์และกำเนิดบุตรชาย และให้ตั้งชื่อว่า "เยซู" พระแม่มารีย์ถามว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะพระนางยังเป็นพรหมจารีอยู่ เทวดาตอบว่าการตั้งครรภ์นั้นมิได้เกิดตามธรรมชาติฝ่ายเนื้อหนัง แต่เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า เด็กที่เกิดมาจะเป็นพระผู้ไถ่โลกพระนางมารีจึงตอบว่า
"ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามวาทะของท่าน" (ลก. 1:38) แล้วนั้นพระวจนาตถ์ทรงรับเอากาย และมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา (ยน. 1:14)
สังเหตุให้ดีจะเห็นว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของมนุษยชาติ เป็นคำตอบที่มีความหมายสำหรับมนุษย์ทุกคน เพราะหากแม่พระตอบปฏิเสธคำเชิญนี้ งานไถ่กู้มนุษย์ก็จะไม่เกิดขึ้น จึงเป็นที่มาที่พระศาสนจักรให้มีการสมโภชแม่พระรับสารจากอัครเทวดาคาเบรียล ในวันที่ 25 มีนาคมของทุกปี
ความสุภาพนอบน้อมเชื่อฟัง
พระแม่มารีย์มีความสุภาพนอบน้อมเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า อันเป็นฤทธิ์กุศลที่บรรดาคริสตชนพึงมี ระเยซูเจ้าสอนเราให้แสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าก่อนอื่นใดแล้วที่เหลือพระเป็นเจ้าจะแถมให้แก่เราเอง หมายถึงจัดการทุกสิ่งทุกอย่างแก่เราเอง คริสตชนยินดีรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยความนอบน้อมราบเรียบด้วยความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า
ความรัก
การยินดีเสียสละน้ำใจตนเอง เพื่อยอมรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า เพราะรักพระของพระแม่มารีย์ เป็นตัวอย่างในเรื่องการเลือกเอาพระเป็นเจ้ามาเป็นอันดับแรกในชีวิตคริสตชน เพราะรักพระเป็นเจ้า แม่พระจึงยอมรับความทุกข์ทุกอย่าง เพื่อให้สำเร็จตามแผนการณ์ไถ่บาปมนุษย์ของพระเป็นเจ้า คริสตชนทุกคนต่างมีพันธกิจในการร่วมกอบกู้มนุษยชาติให้มารู้จักพระเป็นเจ้าและได้รับความรอดผ่านทางพระองค์
พระแม่มารีย์ได้ร่วมมือกับพระเป็นเจ้าในการให้กำเนิดพระมหาไถ่ คือพระเยซูเจ้า ไม่ว่าจะมีความยากลำบากสักเพียงใดอยู่ในเหตุการณ์นี้ ฯลฯ ความดีและฤทธิ์กุศลที่แม่พระเสียสละ พระเยซูเจ้าทรงตอบแทน และคืนความดีทุกอย่างแด่พระมารดาของพระองค์ นั่นคือ โดยการยกเอาพระแม่มารีย์ไปสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ บัดนี้เราเชื่อว่า พระแม่มารีย์ประทับอยู่บนสวรรค์กับพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระนาง แต่พระนางก็ยังคงเป็นห่วง รักและเมตตาเราทุกคน ซึ่งเป็นลูกๆของพระนางด้วย ที่เชิงกางเขน ก่อนพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ บรรดาสานุศิษย์ต่างกลัว และหนีไปหมด แต่พระแม่ยืนหยัดอยู่ที่แทบเชิงกางเขนกับนักบุญยอห์น ณ ที่นั่น พระเยซูเจ้ามองลงมาจากกางเขน แล้วตรัสว่า
"สตรีเอ๋ยนี่แน่ะลูกของท่าน" และตรัสแก่ศิษย์นั้นว่า "นี่แน่ะ แม่ของเจ้า"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
วันฉลองแม่พระที่สำคัญ
1 มกราคม สมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเป็นเจ้า
2 กุมภาพันธ์ แม่พระถือศีลชำระ(ถวายพระกุมารในวิหาร)
11 กุมภาพันธ์ แม่พระเมืองลูร์ด
25 มีนาคม สมโภชแม่พระรับสารจากอัครเทวดาคาเบรียล
13 พฤษภาคม แม่พระฟาติมา
2 กรกฎาคม แม่พระเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ
16 กรกฎาคม แม่พระแห่งภูเขาคาร์แมล
15 สิงหาคม สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
22 สิงหาคม พระนางมารีย์ราชินีแห่งสากลโลก
8 กันยายน แม่พระบังเกิด
15 กันยายน แม่พระมหาทุกข์
7 ตุลาคม ระลึกถึงแม่พระแห่งสายประคำ
21 พฤศจิกายน แม่พระถวายองค์ในพระวิหาร
8 ธันวาคม สมโภชแม่พระปฎิสนธินิรมล