ความหมายลึกซึ้งของบท "วันทามารีย์" ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน...



บุญราศีอาลัน เดอ ลา รอช (Blessed Alan de la Roche 1428-1475)

ได้กล่าวไว้ว่า บทคำนับของทูตสวรรค์ หรือบทวันทามารีย์  เป็นถ้อยคำจากสวรรค์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่เราทั้งหลายจะเข้าใจ มีเพียงพระเยซูเจ้าผู้ทรงบังเกิดจากพระแม่มารีย์เท่านั้น ที่สามารถอธิบายให้เราเข้าใจได้ ความหมายอันยิ่งใหญ่ที่สุดของบทภาวนานี้อยู่ที่พระแม่มารีย์ บทภาวนานี้มาจากสวรรค์ และอัครเทวดาคาเบรียลเป็นท่านแรกที่ได้สวดบทภาวนานี้

บทวันทามารีย์ เป็นข้อสรุปทางเทวศาสตร์ของพระศาสนจักรคาทอลิก ที่สอนเกี่ยวกับพระนางมารีย์พรหมจารีที่ชัดเจนที่สุด แบ่งออกเป็นสองช่วง
ช่วงแรก คือ การสรรเสริญ  แสดงถึงสิ่งที่ทำให้พระแม่มารีย์กลายเป็นสตรีผู้ยิ่งใหญ่
ช่วงที่สอง คือ การวอนขอ เป็นสิ่งที่เราวอนขอจากพระแม่ และทุกสิ่งที่เราหวังว่าจะได้รับจากการช่วยเหลือของพระแม่

ถ้อยคำในตอนแรกของบทวันทามารีอา เป็นของเทวดาคาเบรียล “ขอวันทาท่านผู้เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน” (ลก.1.28) และเป็นของนักบุญเอลิซาเบธ “ท่านมีบุญกว่าสตรีใด ๆ และบุตรของท่านทรงบุญยิ่งนัก” (ลก.1.42)


ถ้อยคำในตอนที่สองของบทวันทามารีอาเป็นของพระศาสนจักร ในปี ค.ศ. 430 พระ ศาสนจักรประกาศอย่างเป็นทางการว่า
พระนางพรหมจารีมารีย์คือพระมารดาของพระเจ้าอย่างแท้จริง และในช่วงนั้นเองที่พระศาสนจักรได้แนะนำให้คริสตชนสวดขอความช่วยเหลือจากแม่พระ โดยสวดว่า “สันตะมารีย์ พระมารดาพระเจ้า โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป บัดนี้ และเมื่อจะตาย อาแมน”


บทภาวนานี้เป็นบทเพลงใหม่สำหรับการวอนขอพระหรรษทาน เป็นความชื่นชมยินดีของบรรดาทูตสวรรค์และมนุษยชาติ และทำให้ปีศาจต้องสั่นสะท้านด้วยความกลัว


โดยบทภาวนานี้ พระเจ้าได้ถ่อมองค์ลงมารับสภาพเป็นมนุษย์  และหญิงพรหมจารีคนหนึ่งได้รับเกียรติเป็นพระมารดาของพระเจ้า วิญญาณของผู้ชอบธรรมถูกนำขึ้นมาจากใต้บาดาล บาปต่างๆ ได้รับการอภัย พระหรรษทานมากมายหลั่งไหลมาสู่มวลมนุษย์ คนเจ็บได้รับการรักษาหาย คนตายได้รับชีวิตใหม่ ผู้ถูกเนรเทศได้กลับบ้าน พระตรีเอกภาพได้รับการสรรเสริญ และมนุษย์ได้รับชีวิตนิรันดร บทวันทามารีอาเป็นการถวายเกียรติอันสูงสุด ที่เราสามารถถวายแด่แม่พระ


วันหนึ่ง ขณะที่นักบุญเม็คทิลด์กำลังสวดภาวนา และพยายามคิดหาวิธีที่จะบอกถึงความรักที่เธอมีต่อแม่พระมากกว่าที่เคยทำมาแล้ว


และเมื่อเธอตกอยู่ในภวังค์ แม่พระได้ประจักษ์มาหาเธอ พร้อมกับบทวันทามารีย์ ที่เขียนไว้บนอกเสื้อของแม่พระด้วยอักษรสีทอง แม่พระตรัสแก่เธอว่า “ลูกรักของแม่ แม่อยากให้ลูกรู้ว่า ไม่มีใครสามารถทำให้แม่ชื่นชมยินดีได้เท่ากับการสวดบทวันทามารีย์ ด้วยคำภาวนาบทนี้ แม่ได้รับการยกขึ้นสู่ตำแหน่งอันสูงส่งแห่งการเป็นมารดาของพระเจ้า


"วันทา" หรือ ‘อาเว’ เป็นคำกลับของคำว่า ‘เอวา’ แม่รู้ว่า ด้วยฤทธานุภาพอันไร้ขอบเขตของพระเจ้า พระองค์ได้ปกป้องแม่จากบาปทั้งสิ้น และความทุกขเวทนาทั้งหลายอันเกิดจากบาปนั้น ซึ่งสตรีคนแรกตกเป็นเหยื่อของมัน


ชื่อ ‘มารีย์’ หมายถึง ‘ราชินีแห่งแสงสว่าง’ แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าได้ประทานพระและความสว่างแก่แม่อย่างเต็มเปี่ยม เหมือนดาวที่ส่องแสงเจิดจ้า เพื่อทำให้สวรรค์และโลกสว่างไสว


คำว่า ‘เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน’ เตือนแม่ว่า พระจิตเจ้าได้ประทานพระหรรษทานมากมายแก่แม่ และทำให้แม่ในฐานะคนกลาง สามารถแจกจ่ายพระหรรษทานเหล่านั้นแก่ทุก คนที่วอนขอจากแม่


เมื่อลูกพูดกับแม่ว่า ‘พระเจ้าสถิตกับท่าน’ ลูกได้ทำให้แม่ระลึกถึงความชื่นชมยินดี สุดที่จะบรรยายได้ของแม่ เมื่อพระวจนาตย์ได้ทรงรับเอากาย และมาบังเกิดในครรภ์ของแม่


เมื่อลูกพูดกับแม่ว่า ‘ผู้ได้รับพระพร กว่าสตรีใด ๆ’ แม่ก็สรรเสริญพระเจ้าสำหรับพระเมตตาของพระองค์ ที่ได้ยกแม่ขึ้นสู่ความสุขเหนือความสุขใด ๆ ทั้งสิ้น


และเมื่อลูกพูดว่า 'และพระเยซู โอรสของท่าน ทรงได้รับพระพรยิ่งนัก' สวรรค์ทั้งสวรรค์ต่างชื่นชมยินดีกับแม่ ที่ได้เห็นพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรของแม่ได้รับการนมัสการและสรรเสริญ สำหรับการที่พระองค์ทรงช่วยมนุษย์ให้รอด”


จงจบการภาวนาด้วยการสวดพร้อมกับพระศาสนจักรว่า “สันตะมารีย์ พระมารดาพระเจ้า”

แม่พระเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะแม่พระรับใช้พระเจ้าด้วยความจงรักภักดีอย่างหาที่เปรียบมิได้ และไม่มีที่สิ้นสุด แม่พระเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในฐานะพระมารดาของพระเจ้า และพระองค์ได้ทรงทำให้แม่พระโดดเด่นในความศักดิ์สิทธิ์ และดำรงไว้ซึ่งเกียรติสูงส่งนี้


“พระมารดาพระเจ้า” แม่พระเป็นแม่ของเราทุกคนด้วยเช่นกัน  แม่พระเป็นผู้ช่วยอ้อนวอน และเป็นคนกลางระหว่างมนุษย์กับพระเป็นเจ้า แม่พระเป็นคลังแห่งพระหรรษทานของพระเจ้า และเป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทานของพระเจ้าแก่เรา แม่พระพร้อมที่จะวอนขอการอภัยจากพระเป็นเจ้า และให้เราได้คืนดีกับพระองค์ในทันที


“โปรดภาวนาเพื่อลูกทั้งหลาย ผู้เป็นคนบาป” แม่พระคือผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาสำหรับผู้ที่วอนขอ  แม่พระไม่เคยปฏิเสธคนบาป หรือหันหลังให้กับผู้ใดเลย


“บัดนี้”  ชีวิตแสนสั้น เต็มไปด้วยความทุกข์และความไม่แน่นอน เราไม่อาจแน่ใจในสิ่งใดได้เลย ยกเว้นแต่ขณะนี้เท่านั้น ซึ่งเรากำลังถูกห้อมล้อมและโจมตี  จากเหล่าศัตรูฝ่ายวิญญาณที่มีอำนาจและโหดร้าย ทั้งกลางวันและทั้งกลางคืน


“และเมื่อจะตาย” เวลาแห่งความตายเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวและเต็มไปด้วยอันตราย เป็นเวลาที่เราอ่อนกำลังลงจนทำอะไรแทบไม่ได้ จิตใจหวั่นไหว วิญญาณและร่างกาย สับสนด้วยความหวาดกลัวและเท่วมท้นความเจ็บปวด ในช่วงเวลาของความตาย ปีศาจจะทำงานอย่างหนักด้วยเล่ห์กลและพลังทั้งหมด เพื่อให้เราตกหลุมพรางและกับดักของมันในช่วงเวลาที่เราจะต้องเลือกระหว่างสวรรค์กับนรก ซึ่งเป็นการเลือกที่มีผลตลอดชั่วนิรันดร

บทคำนับของทูตสวรรค์ที่มีต่อพระแม่มารีย์...
* คือบทเพลงที่ไพเราะที่สุดที่เราสามารถใช้สรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าสูงสุดได้
* เป็นการสรรเสริญพระตรีเอกภาพ เพราะการถวายเกียรติแด่แม่พระ ไม่ว่าจะเป็นโดยวิธีใดก็ตาม เกียรตินั้นย่อมได้รับการถวายแด่พระเจ้าด้วยเช่นกัน เพราะพระเจ้าทรงเป็นบ่อเกิดแห่งคุณธรรมและความครบครันทั้งสิ้นของแม่พระ


เมื่อเราถวายเกียรติแด่แม่พระ...
* พระบิดาทรงได้รับการสรรเสริญ เพราะเรากำลังถวายเกียรติแด่สิ่งสร้างที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของพระองค์
* พระบุตรทรงได้รับการสรรเสริญ เพราะเรากำลังถวายเกียรติแด่พระมารดาผู้บริสุทธิ์ของพระองค์
* พระจิตเจ้าทรงได้รับการสรรเสริญ เพราะเรากำลังถวายเกียรติแด่พระแม่ผู้เต็มเปี่ยมด้วยพระหรรษทานของพระองค์





* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *


มาสวดสายประคำทุกวันกันเถอะ


วิธีสวดสายประคำ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สัญญา 15 ข้อ แก่ผู้สวดสายประคำอย่างดี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สายประคำ พระธรรมล้ำลึกทั้งสี่

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ประวัติสายประคำ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ที่มา : http://www.lasallechote.ac.th/weblink/lancat/show_article.php?ar_id=101&image=head.jpg
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่