สืบเนื่องจากกระทู้ก่อนๆ ที่มีปัญหากับแม่เรื่องเงิน (ฟังแล้วรู้สึกแย่มาก ไม่อยากมีปัญหานี้กับคนในครอบครัวเลย) เราก็พยายามปรับตัวมาเรื่อยๆ พยายามตัดสินใจหรือจัดการทำอะไรด้วยตนเองโดยไม่ขอคำแนะนำจากแม่ แกก็มีแวะเวียนมายืม แต่เราก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง พยายามลดการยืมจากแก (ไม่ค่อยได้คืน และเราต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ค่าเช่าบ้าน ค่าไวไฟ ค่าของใช้ของกินส่วนตัว ค่าโทรศัพท์ จิปาถะ) จนวันนึง เราสอบติดงานหนึ่ง ใกล้บ้านและเงินเดือนสูง (สำหรับต่างจังหวัด) แต่สัญญาจ้างปีเดียว เราก็ทำงานมาตลอด จนใกล้จะหมดสัญญา เราได้คำนวนค่าใช้จ่ายและเก็บเงินไว้ก้อนนึงและเพื่อใช้ระหว่างสอบหางาน (งานเสริมเก่าเลิกทำเพราะโควิด) ปัญหามันเริ่มขึ้นตอนนี้
ก่อนเราจะหมดสัญญา แม่ซื้อดาวน์รถมาผ่อนต่อโดยใช้ชื่อเรา อ้างว่าจะให้น้องชาย (และเพราะเราทำงานประจำมีเงินเดือน น่าจะผ่านง่าย) เราก็มีคุยกับแม่ว่าใครจะผ่อน เพราะเรามีรถที่เราใช้อยู่ (ผ่อนเอง) แม่บอก น้องไปทหาร ได้เงินเดือน เราก็โอเค ทั้งที่ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะน้องไปทหาร แล้วรถก็จอดทิ้งไว้ที่บ้าน --" น้องกลับมานานๆทีถึงจะมาเอาไปขับ และแม่ขับไปเที่ยวหาแฟนเดือนละครั้งสองครั้ง (แม่มีแฟนใหม่) สรุป แค่เดือนแรก เราก็โดนธนาคารโทรตาม ว่าเลยค่างวดรถ เราเลยคุยกับแม่ว่า งั้นสลับกันผ่อน เพราะ รถคันใหม่เป็นชื่อเรา เราใช้และผ่อนเอง (ถ้าให้แม่ผ่อน เราโดนโทรตามจนเครียดแน่) และรถที่เราใช้ ให้ที่บ้าน (แม่กับน้องใช้) และผ่อนกันเอง เพราะคันนั้นไม่ใช่ชื่อเรา ก็โอเค
ทีนี้มาในส่วนค่าใช้จ่าย เราจะมีรายรับจากลูกค้าคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนของแม่ ทุกๆเดือนประมาณ 8,000฿ ดิฉันตั้งใจว่าจะใช้เงินส่วนนี้ในการผ่อนรถ ซึ่งผ่อนแค่ 6,500 ฿ ยังเหลือๆ และมีเงินก้อนที่เก็บเอาไว้กินไว้ใช้สำรอง
หลังจากหมดสัญญา เราอ่านหนังสือหนักมาก (กำลังจะสอบปลายเดือนนี้) ตั้งแต่เดือนตุลาจนปัจจุบัน แม่ได้ยืมเงินเก็บของเราไปจนเกือบหมด เป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เช่น
แม่มาปลุกตอนเช้าๆ บอกขอยืมเงิน 9000 เราบอก ไม่มี เราไม่ได้ทำงานแล้ว แม่บอกงั้นเอาทองเราไปจำนำก่อน แม่ค่อยไปไถ่คืน (ทองนี้ เงินของแฟน เราหวงมาก เป็นสร้อยคอ 1 บาท) เราคิดหนักมาก จึงให้เงินแม่แทน เพราะทำใจให้สร้อยเส้นนี้ไม่ได้จริงๆ มีคุณค่าต่อจิตใจเรามาก (จริงๆ เงินเก็บเราที่แม่ยังไม่คืนจากงานครั้งก่อน แกบอกจะคืนเป็นทอง 3 บาท ให้เรามาแล้ว 1 บาท เป็นส่วนของแฟนเพราะในเงินเก็บ มีเงินแฟนปนอยู่ประมาณทอง 1 บาท แล้วแม่เอาไปสั่งทำเป็นทองให้ค่ะ ) จากวันนั้น จนวันนี้ รวมเงินที่แกยืมๆ อยู่ที่ 30,000฿ และเงิน ที่เราต้องได้ทุกเดือนจากเพื่อนแก แกก็ไม่ได้ให้เราค่ะ เราเครียดมาก ช่วงแรกๆ เรายังจ่ายค่ารถไหว เพราะต้องเจียดจากค่ากินไปจ่าย จนตอนนี้ ไม่ไหวแล้ว เราเคยถามแกว่า เพื่อนแม่ไม่จ่ายหรอ แกบอก จ่าย แต่บางที แม่ก็ติดหนี้เพื่อน เพื่อนก็ติดหนี้แม่ บางเดือนเลยหักกลบหนี้กัน เราอึ้งไปเลยค่ะ งงมากๆ นั้นมันส่วนของเรา ทำไมเอาไปหักหนี้กับของตัวเอง
แม่ภาระเยอะเราก็เห็นใจค่ะ กำลังสร้างบ้าน และต้องเลี้ยงน้อง 4 คน และให้สะใภ้บ้างนิดๆหน่อยๆ แต่เราก็เครียดค่ะ เราพยายามแบ่งเบาแกเท่าที่เราจะทำได้ (รับผิดชอบ ค่าเช่าบ้าน และค่าอื่นๆ ตามที่กล่าวไป)
ล่าสุดแม่มาร้องไห้กับเราอีกค่ะ ว่าหมุนเงินไม่ทัน จะเอารถไปตั้งก่อน (จำนำนั้นแหละ) ก็มาปรึกษาเรา ว่าจะตั้งคันที่เป็นชื่อเราได้ไหม เพราะจะเอาเงินมาจ่ายค่างวดคันที่แกใช้ และ จ่ายค่าอื่นๆ เราบอกให้ตั้งคันที่แกใช้เอง คันของเราเราจ่ายอยู่และใช้อยู่ ไม่ได้มีปัญหา จริงๆ เราเสนอไปว่า ให้ขาย ถ้าจ่ายไม่ได้ ขายซะ จะได้ไม่มีภาระตรงนี้ แกก็เงียบ และบอก ยังไม่ขายตอนนี้ เราก็โอเคร แล้วแต่แก เพราะคันที่แกใช้ เราไม่ได้ผ่อนและไม่ใช่ชื่อเรา สรุปวันที่เอารถไปตั้ง แกเอารถเราไปตั้งค่ะ บอกว่า คันของแก เจ้าหนี้บอกว่าติดผ่อนตั้งไม่ได้ (แต่เงินที่จะเอามาคือไป เคลียร์คันนั้นแหละ) เราก็ร้องไห้คนเดียวบนรถค่ะ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เราบอก ตั้งไว้น้อยๆก็พอ จะได้ไปเอาคืนง่ายๆ ( 30,000) แกก็โอเค ตามนั้น เราแนะนำแม่วางแผนการเงินกันซะดิบดี ว่าแต่ละวันจ่ายเท่าไหร่ ควรเก็บเท่าไหร่ แกก็รับปาก เราถึงยอมให้ตั้งรถค่ะ
หลังจากวันนั้น เราก็อ่านหนังสือหนักมากๆ เงินหมดลงทุกวันๆ ทวงแม่ ก็ทำเมิน ไม่พอใจบ้าง เงียบบ้าง เราบอกเราไม่มีเงินใช้แล้วเงินแม่เอาไปหมด แต่ไม่รู้แกจะคิดถึงเรา ก่อนคิดถึงตัวเองบ้างสักครั้งไหม แกเคยโทรคุยกับเพื่อนและด่าเราเสียงดังจนเราตื่นนอน ด่าว่า ลูกให้เรียนไปก็แค่นั้น พึ่งพาไม่ได้ เห็นแก่ตัวบ้าง เราตื่นมาได้ยืน นอนร้องไห้คนเดียวตลอด เพราะแกขูดเราไปหมด แล้วเรายังพึ่งพาไม่ได้อีกหรอเนี่ย เรารู้สึกว่าแม่ พึ่งพาเรามากเกินไป ไม่ได้ดั่งใจก็ด่าแรงๆ เราเครียดจนเคยทำร้ายตัวเอง 2-3 ครั้ง (ร้องไห้และหยิกตัวเองจนเนื้อหลุด) และหลังๆ มีความคิดอยากตายบ้าง แต่รู้ตัวว่า ตัวเองกำลังเครียดและเสี่ยงซึมเศร้า ได้แต่คิดค่ะ ไม่คืดลงมือจริง ลองดูจิตแพทย์แล้ว ไม่รู้ข้อมูลเลย เจอแต่คลินิก ค่าใช้จ่ายแพงอยู่ แต่เข้าใจในวิชาชีพ แต่เราต้องเซฟเงินไว้ใช้และเอาไว้ไปสอบ ตอนนี้ได้แต่หวังว่าจะสอบติดจะได้หนีไปไกลๆ แต่ถ้าสอบไม่ติด ก็คงต้องทำใจว่า คงเสียเครดิตเพราะไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถอีกต่อไปแล้ว
บางวันเราเครียดจนนอนไม่หลับ ร้องไห้เพราะคิดถึงพ่อ (พ่อแม่หย่ากัน) เรามีระบายกับเพื่อนบ้าง แต่ก็เกรงใจค่ะ ไม่อยากเอาเรื่องเครียดและเรื่องแม่ไปเล่าให้เพื่อนฟังมากนัก แต่เครียดจนไม่รู้จะทำยังไงเลย เลยอยากมาระบายในนี้ 😭
ปัญหาเดิมๆ ของเรา แต่มีผลต่อสุขภาพจิต😓
ก่อนเราจะหมดสัญญา แม่ซื้อดาวน์รถมาผ่อนต่อโดยใช้ชื่อเรา อ้างว่าจะให้น้องชาย (และเพราะเราทำงานประจำมีเงินเดือน น่าจะผ่านง่าย) เราก็มีคุยกับแม่ว่าใครจะผ่อน เพราะเรามีรถที่เราใช้อยู่ (ผ่อนเอง) แม่บอก น้องไปทหาร ได้เงินเดือน เราก็โอเค ทั้งที่ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะน้องไปทหาร แล้วรถก็จอดทิ้งไว้ที่บ้าน --" น้องกลับมานานๆทีถึงจะมาเอาไปขับ และแม่ขับไปเที่ยวหาแฟนเดือนละครั้งสองครั้ง (แม่มีแฟนใหม่) สรุป แค่เดือนแรก เราก็โดนธนาคารโทรตาม ว่าเลยค่างวดรถ เราเลยคุยกับแม่ว่า งั้นสลับกันผ่อน เพราะ รถคันใหม่เป็นชื่อเรา เราใช้และผ่อนเอง (ถ้าให้แม่ผ่อน เราโดนโทรตามจนเครียดแน่) และรถที่เราใช้ ให้ที่บ้าน (แม่กับน้องใช้) และผ่อนกันเอง เพราะคันนั้นไม่ใช่ชื่อเรา ก็โอเค
ทีนี้มาในส่วนค่าใช้จ่าย เราจะมีรายรับจากลูกค้าคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนของแม่ ทุกๆเดือนประมาณ 8,000฿ ดิฉันตั้งใจว่าจะใช้เงินส่วนนี้ในการผ่อนรถ ซึ่งผ่อนแค่ 6,500 ฿ ยังเหลือๆ และมีเงินก้อนที่เก็บเอาไว้กินไว้ใช้สำรอง
หลังจากหมดสัญญา เราอ่านหนังสือหนักมาก (กำลังจะสอบปลายเดือนนี้) ตั้งแต่เดือนตุลาจนปัจจุบัน แม่ได้ยืมเงินเก็บของเราไปจนเกือบหมด เป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เช่น
แม่มาปลุกตอนเช้าๆ บอกขอยืมเงิน 9000 เราบอก ไม่มี เราไม่ได้ทำงานแล้ว แม่บอกงั้นเอาทองเราไปจำนำก่อน แม่ค่อยไปไถ่คืน (ทองนี้ เงินของแฟน เราหวงมาก เป็นสร้อยคอ 1 บาท) เราคิดหนักมาก จึงให้เงินแม่แทน เพราะทำใจให้สร้อยเส้นนี้ไม่ได้จริงๆ มีคุณค่าต่อจิตใจเรามาก (จริงๆ เงินเก็บเราที่แม่ยังไม่คืนจากงานครั้งก่อน แกบอกจะคืนเป็นทอง 3 บาท ให้เรามาแล้ว 1 บาท เป็นส่วนของแฟนเพราะในเงินเก็บ มีเงินแฟนปนอยู่ประมาณทอง 1 บาท แล้วแม่เอาไปสั่งทำเป็นทองให้ค่ะ ) จากวันนั้น จนวันนี้ รวมเงินที่แกยืมๆ อยู่ที่ 30,000฿ และเงิน ที่เราต้องได้ทุกเดือนจากเพื่อนแก แกก็ไม่ได้ให้เราค่ะ เราเครียดมาก ช่วงแรกๆ เรายังจ่ายค่ารถไหว เพราะต้องเจียดจากค่ากินไปจ่าย จนตอนนี้ ไม่ไหวแล้ว เราเคยถามแกว่า เพื่อนแม่ไม่จ่ายหรอ แกบอก จ่าย แต่บางที แม่ก็ติดหนี้เพื่อน เพื่อนก็ติดหนี้แม่ บางเดือนเลยหักกลบหนี้กัน เราอึ้งไปเลยค่ะ งงมากๆ นั้นมันส่วนของเรา ทำไมเอาไปหักหนี้กับของตัวเอง
แม่ภาระเยอะเราก็เห็นใจค่ะ กำลังสร้างบ้าน และต้องเลี้ยงน้อง 4 คน และให้สะใภ้บ้างนิดๆหน่อยๆ แต่เราก็เครียดค่ะ เราพยายามแบ่งเบาแกเท่าที่เราจะทำได้ (รับผิดชอบ ค่าเช่าบ้าน และค่าอื่นๆ ตามที่กล่าวไป)
ล่าสุดแม่มาร้องไห้กับเราอีกค่ะ ว่าหมุนเงินไม่ทัน จะเอารถไปตั้งก่อน (จำนำนั้นแหละ) ก็มาปรึกษาเรา ว่าจะตั้งคันที่เป็นชื่อเราได้ไหม เพราะจะเอาเงินมาจ่ายค่างวดคันที่แกใช้ และ จ่ายค่าอื่นๆ เราบอกให้ตั้งคันที่แกใช้เอง คันของเราเราจ่ายอยู่และใช้อยู่ ไม่ได้มีปัญหา จริงๆ เราเสนอไปว่า ให้ขาย ถ้าจ่ายไม่ได้ ขายซะ จะได้ไม่มีภาระตรงนี้ แกก็เงียบ และบอก ยังไม่ขายตอนนี้ เราก็โอเคร แล้วแต่แก เพราะคันที่แกใช้ เราไม่ได้ผ่อนและไม่ใช่ชื่อเรา สรุปวันที่เอารถไปตั้ง แกเอารถเราไปตั้งค่ะ บอกว่า คันของแก เจ้าหนี้บอกว่าติดผ่อนตั้งไม่ได้ (แต่เงินที่จะเอามาคือไป เคลียร์คันนั้นแหละ) เราก็ร้องไห้คนเดียวบนรถค่ะ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เราบอก ตั้งไว้น้อยๆก็พอ จะได้ไปเอาคืนง่ายๆ ( 30,000) แกก็โอเค ตามนั้น เราแนะนำแม่วางแผนการเงินกันซะดิบดี ว่าแต่ละวันจ่ายเท่าไหร่ ควรเก็บเท่าไหร่ แกก็รับปาก เราถึงยอมให้ตั้งรถค่ะ
หลังจากวันนั้น เราก็อ่านหนังสือหนักมากๆ เงินหมดลงทุกวันๆ ทวงแม่ ก็ทำเมิน ไม่พอใจบ้าง เงียบบ้าง เราบอกเราไม่มีเงินใช้แล้วเงินแม่เอาไปหมด แต่ไม่รู้แกจะคิดถึงเรา ก่อนคิดถึงตัวเองบ้างสักครั้งไหม แกเคยโทรคุยกับเพื่อนและด่าเราเสียงดังจนเราตื่นนอน ด่าว่า ลูกให้เรียนไปก็แค่นั้น พึ่งพาไม่ได้ เห็นแก่ตัวบ้าง เราตื่นมาได้ยืน นอนร้องไห้คนเดียวตลอด เพราะแกขูดเราไปหมด แล้วเรายังพึ่งพาไม่ได้อีกหรอเนี่ย เรารู้สึกว่าแม่ พึ่งพาเรามากเกินไป ไม่ได้ดั่งใจก็ด่าแรงๆ เราเครียดจนเคยทำร้ายตัวเอง 2-3 ครั้ง (ร้องไห้และหยิกตัวเองจนเนื้อหลุด) และหลังๆ มีความคิดอยากตายบ้าง แต่รู้ตัวว่า ตัวเองกำลังเครียดและเสี่ยงซึมเศร้า ได้แต่คิดค่ะ ไม่คืดลงมือจริง ลองดูจิตแพทย์แล้ว ไม่รู้ข้อมูลเลย เจอแต่คลินิก ค่าใช้จ่ายแพงอยู่ แต่เข้าใจในวิชาชีพ แต่เราต้องเซฟเงินไว้ใช้และเอาไว้ไปสอบ ตอนนี้ได้แต่หวังว่าจะสอบติดจะได้หนีไปไกลๆ แต่ถ้าสอบไม่ติด ก็คงต้องทำใจว่า คงเสียเครดิตเพราะไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถอีกต่อไปแล้ว
บางวันเราเครียดจนนอนไม่หลับ ร้องไห้เพราะคิดถึงพ่อ (พ่อแม่หย่ากัน) เรามีระบายกับเพื่อนบ้าง แต่ก็เกรงใจค่ะ ไม่อยากเอาเรื่องเครียดและเรื่องแม่ไปเล่าให้เพื่อนฟังมากนัก แต่เครียดจนไม่รู้จะทำยังไงเลย เลยอยากมาระบายในนี้ 😭