คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คนในครอบครัวยิ่งควรจะเกรงใจ ยืมรถไปขับไม่ได้เสียแค่ค่าน้ำมันอย่างเดียว เช็คระยะก็จะเร็วขึ้นด้วยอย่างที่คุณทราบ พี่สาวคุณทำอะไรให้คุณบ้างครับในแง่ของผลประโยชน์ คือถ้าคุณตัดการที่เขาเป็นพี่สาวไป คุณก็คือโดนเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว คุณได้พึ่งพาเขาในแง่อื่นบ้างไหม ถ้าเราพร้อมจะหักกับเขาเพราะดูแล้วคุยกันไม่จบดีแน่นอน คนเอาเปรียบดันมาว่าคุณงก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
แบบนี้เราดูเป็นคนงกหรือเห็นแก่ตัวไหมคะ?
แต่ก็มีเรื่องทำให้รู้สึกไม่สบายใจหลายครั้ง
เพราะว่า ตั้งแต่ออกรถมาเราได้ขับแค่ต่อวัน12กิโลรวมไปกลับ
แต่พี่สาวเราชอบยืมรถบ่อยๆ ไปต่างจังหวัดบ้าง ไปนั้นนี้บ้าง แต่เรารู้สึกไม่อยากให้เขาเลยค่ะ เพราะว่าบางครั้งเขาไปต่างหวัดหรือไปไกล จะเติมน้ำมันให้นอกจากน้ำมันใกล้หมดเขาถึงจะเติมให้เรา แบบนี้
แต่ถ้ายืมแปปเดียวคือไป50-60โลต่อครั้งก็ไม่เติมให้ค่ะ
ปล. 1อาทิตย์ยืมประมาณ4-5ครั้งค่ะ
เราต้องเติมเองตลอดด้วยความที่เราเป็นเจ้าของรถเห็นแล้วมันขัดใจเวลารถน้ำมันเหลือแค่ขีดสองขีดแบบนี้ แล้วต้องควักเงินตัวเองจ่ายเติมเอง
ถ้าเราคิดในแง่มุมของเราคือถ้าเราขับเองวันละแค่12โลไปกลับ 1เดือนเติมน้ำมันแค่1ครั้ง หรือแค่2 ตั้งแต่แกยืมรถก็มีเติมเกินต่อเดือนที่ผ่านๆมา3-4ครั้ง และทำให้เราอึดอัดมากๆ พูดก็ไม่ได้ เพราะคนยืมก็คนในครอบครัว
พอไม่ให้ยืมก็เหมือนเขาไม่พอใจพูดเหมือนเรางก หวงของ ว่าชักสีหน้าใส่เขา
แต่ลึกๆเราก็รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ
รถออกมาแค่ภายใน3เดือน รถเราครบเช็คระยะ
แต่ละครั้งเขาก็ไม่เคยช่วยเราจ่ายเลย รถคนอื่นปกติ 1หมื่นโลคือครึ่งปี แต่ของเรา3เดือนก็ต้องเข้าเช็คแล้วค่ะ
ตอนนี้ในใจเราคือ รถก็แทบจะไม่ได้ขับ แต่ต้องมาจ่ายค่าเช็คไวขนาดนี้ และหลายครั้งๆที่ได้เติมน้ำมันเองเหมือนโดนเอาเปรียบตลอดเวลาค่ะ เพราะทุกอย่างเราต้องจ่ายเอง ไหนจะค่าผ่อน ค่าเช็คระยะ ค่าน้ำมัน
พยามบ่ายเบี่ยง ปฎิเสธ สุดท้ายก็ทำไรไม่ได้เลยค่ะ
ตอนนี้อึดอัดมากๆเลยค่ะ ควรที่จะพูดกับเขายังไงคะ