หากวางระบบการศึกษาใหม่หมดให้ประชาชนได้เรียนเวทมนตร์แบบวิทยาศาสตร์ vs ปล่อยให้ลึกลับแบบเดิม แบบไหนเป็นผลดีต่อประเทศ

กระทู้คำถาม

แบบไหนมีผลดี ผลเสียต่อประชาชน ต่อประเทศ และต่อโลกนี้มากกว่ากันครับ

หากท่านใดตาสว่างเรื่องเวทมนตร์แล้ว จะมองเห็นช่องทางว่า ทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ได้ (คือทุกๆคนสามารถศึกษา นำความรู้มาใช้ และได้ผลตรงกันหมด)
แต่เมื่อตาสว่างและลงไปอยู่ในเกมแล้ว เกมไม่ได้เล่นง่ายแบบนั้น ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ ก็ดูคล้ายเรื่องดร.สเตรนจ์ ที่ประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ทราบเรื่องเวทมนตร์ ก็จะคิดว่าโลกนี้มีแต่วิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อาชญากรรมและสงครามที่ใช้อาวุธมาฆ่ากัน ฯลฯ แต่ดร.สเตรนจ์ ได้พบกับตัวร้าย คือ ดอร์มัมมู ที่หมายจะกลืนกินทั้งโลกนี้....

ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องดร.สเตรนจ์ ก็เพราะว่า ในวงการเวทมนตร์ก็มีตัวร้ายในทำนองเดียวกัน ซึ่งเทียบเท่ากัน หรืออาจร้ายกว่าหลายเท่า มีคนกำลังใช้พลังอำนาจจากสิ่งนั้นอยู่ และเวทมนตร์ส่วนใหญ่ก็มีสิ่งนั้นอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากวางระบบการศึกษาให้ประชาชนทุกคนได้มีความรู้เรื่องเวทมนตร์ เพื่อที่ประชาชนจะได้ตระหนักถึงอันตราย และจะได้ไม่ต้องตกเป็นทาสของมันอีก

ที่ผมยังมองไม่ขาดก็คือ 1. เมื่อทำให้เวทมนตร์เป็นวิทยาศาสตร์ ประชาชนก็จะได้เห็นสิ่งที่ไม่ดี ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังเวทมนตร์นั้นด้วย จะทำยังไงให้ประชาชนเลือกใช้แต่ด้านดีแบบ100%เต็ม ได้เห็นแล้วตระหนัก  ไม่กลายเป็นลูกสมุนของสิ่งไม่ดีนั้นซะเอง

กับ2. ระบบการศึกษาแบบเดิม ซึ่งปล่อยให้เรื่องเวทมนตร์ ลึกลับอยู่แบบนี้ คนใช้ก็ยังคงใช้อย่างเงียบๆ สิ่งชั่วร้ายก็กลืนกินอย่างเงียบๆ ประชาชนทุกคนก็ตกเป็นเหยื่อ และตกเป็นทาสอย่างเงียบๆ

ท่านคิดว่า ในระยะยาว การเปิดประตู vs ปิดประตู แบบไหนมีผลดี ผลเสียต่อประชาชน ต่อประเทศ และต่อโลกนี้มากกว่ากัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่