คำว่าสนิม กับคำว่า rust อาจไม่ได้มีความหมายเหมือนกันเสียทีเดียว

rust แปลตรงๆคือสนิมเหล็ก คือ iron hydroxide ในเวลาที่เหล็กเจอความชื้นและมีระดับออกซิเจนที่เพียงพอเช่นบรรยากาศบ้านเรา   เมื่ออากาศแห้งลง ก็เปลี่ยนรูปเป็น iron oxide   เหล็กสนิมนี้อยู่ในรูป Fe3+ เสมอ   แต่ไม่ใช่ Fe3+ ทุกตัวเป็นเหล็กสนิม

ถ้าความชื้นน้อย เหล็กก็เป็นสนิมน้อย เช่นแถบทะเลทราย    เรามีวึธีป้องกันสนิมที่นิยมกันมากกับเครื่องมือเหล็กคือการชโลมน้ำมัน เพราะนัำมันป้องกันความชื้น

เช่นเดียวกัน ถ้าออกซิเจนน้อย เหล็กก็เป็นสนิมช้า  ตัวอย่างเช่นซากเรือไทเทนิคใต้ทะเล ถ้าซากนี้อยู่ชายหาด ๑๐๐ ปี ก็ไม่เหลือเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ต่อมาคือสนิมที่ไม่ใช่สนิมเหล็ก  อันนี้ไมได้แปลว่า rust แล้ว แต่ขึ้นกับว่าเกิดกับโลหะชนิดใด   ถ้าเกิดกับทองแดงหรือทองเหลือง มักมีสีเขียวหรือฟ้าเขียว ไม่มีอันตรายนัก ทางงานศิลป์เรียกว่า patina   เทพีเสรีภาพก็เป็นสนิมทองแดงไปทั้งตัวเธอ   ถ้าเกิดกับสังกะสีก็เรียกตามรูปเคมีว่า zinc oxide เป็นสีขาว อันนี้จะผุกร่อนไป

ที่นี้มาถึงสังกะสีมุงหลังคา มันคือเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี  โลหะทั้งหมดจะมีศักย์ไฟฟ้าในต้ว เรียกว่าศักย์ไฟฟ้าเคมี หรือ electrochemical potential (เรื่องนี้คุยกันยาวมาก ถ้าสงสัย ให้ถามแยกต่างหากจะดีกว่า) โลหะที่มีศักย์สูงเช่นทองคำ จะคงรูปเดิมไม่เกิดปฏิกิริยา  โลหะที่มีศักย์ต่ำ จะเกิดปฏิกิริยาได้ง่าย  เหล็กนั้นมีศักย๋สูงกว่าสังกะสี เราจึงนำคุณสมบัตินี้มาใช้  เมื่อนำเหล็กและสังกะสีมาประกบกัน สังกะสีจะเกิดปฏิกิริยาเคมีกับความชื้นก่อน สังกะสีจึงผุก่อน เป็นคราบขาว เหล็กจะผุทีหลัง สังกะสีของแผ่นสังกะสีมุหลังคาจึงผุไปเรื่อยจนวันหนึ่งเมื่อหมดประสิทธิภาพแล้ว เหล็กข้างในจึงเรื่มเป็นสนิม นี่เป็นการสละชีพเพื่อชาติโดยแท้ เราเลยเรียกสังกะสีว่าเป็น sacrificial anode  และเรียกวิธีเคลือบสังกะสีแบบนี้ว่า galvanization  เหล็กชุบสังกะสีเรียกว่า galvanized steel
-------------------------
แก้คำสะกดจาก ทราก เป็น ซาก