สวัสดีค่ะ เราอยากถามความเห็นเพื่อนๆในห้องนี้
เราเคยทำงานต่างประเทศ รายได้ดีและค่อนข้างมั่นคง ตอนนั้นเราจึงตัดสินใจกู้ซื้อบ้านที่เมืองไทยและผ่อนสินเชื่อบ้านเดือนละประมาณ 50,000 บาท ผ่อนบ้านมาแล้วราวๆ10ปี ผ่อนไปโปะไปตามรายได้ที่เข้ามา ตามแผนเดิมอีกไม่เกิน 5 ปี หนี้บ้านเราก็จะหมด แต่โควิดมาทุกอย่างเปลี่ยนไปค่ะ ปี 2563 ตลอดทั้งปี รายได้เราหายไป 50-70% ซึ่งปีนั้นต้องเอาเงินเก็บบางส่วนมาสมทบกับรายได้เพื่อจ่ายหนี้บ้าน แต่พอสิ้นปี 2563 เราถูกเลย์ออฟเพราะบริษัทไปต่อไม่ไหว เราจึงบินกลับไทยหวังว่ากลับมาหางานทำและอยู่กับพ่อแม่ เราส่ง resume สมัครงานทุกวันแต่คิดว่าเพราะอายุที่ใกล้จะ 40 และเศรษฐกิจที่หยุดชะงักทำให้เรายังไม่ได้งาน เราตกงานมา 12 เดือนแล้ว ตลอดปี 2564 รายได้เราเท่ากับ 0 ขณะที่รายจ่ายยังมีอยู่ เราต้องใช้เงินเก็บที่สะสมมาเพื่อผ่อนบ้าน+เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ล่าสุดเราเพิ่งได้งาน เริ่มงานปี65 เงินเดือน 4 หมื่น ซึ่งมันไม่ cover ค่าผ่อนบ้านแน่ๆ
ตอนนี้เรามีเงินเก็บอยู่เกือบๆ 2.5 ล้าน แยกเป็นฝากประจำล้านแปด(ถ้าถอนจะไม่ได้ดอกเบี้ย) และเงินออมฉุกเฉิน 4 แสน และที่เหลือสำหรับใช้จ่าย
ส่วนหนี้บ้านยังค้างอยู่ 2.4 ล้าน ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ 3% (เราจะ refinance บ้านทุกๆ 3 ปี เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยลอยตัว) minimumที่เราต้องจ่ายรายเดือนคือ 47,000 ปี 64 เราต้องเสียดอกเบี้ยให้แบงค์ประมาณ 7-8หมื่นบาท
เราอยากถามความเห็นเพื่อนๆในนี้ว่า เราควรจะทำยังไงดี ระหว่าง
1. เอาเงินออมมาโปะบ้านไปเลย ซึ่งจะทำให้เราไม่มีเงินเก็บเหลือเลย
2. ไม่ต้องโปะแล้วไปขอยืดระยะเวลาผ่อนชำระกับแบงค์
3. โปะแค่ส่วนนึงแล้วไปยึดระยะเวลาผ่อนชำระกับแบงค์
แต่ความรู้สึกเราจริงๆ คือเราอยากปิดบ้านไปเลย ไม่อยากมาเสียดอกเบี้ยให้แบงค์แล้ว ส่วนเรื่องลงทุน ไม่น่าจะใช่ option ของเรา เพราะเป็นพวกกลัวความเสี่ยง ขนาดเล่น streaming แบบ demo มีเงินทิพย์ให้ลองเทรดเรายังกลัวเสียเลย 555 ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจึงไม่เคยกล้าเอาเงินเก็บไปลงทุน
ตอนนี้สับสนมาก เพื่อนๆคิดเห็นกันอย่างไรบ้างคะ
ควรเอาเงินออมปิดหนี้บ้านไหม (เหลือหนี้บ้าน 2.4 ล้าน)
เราเคยทำงานต่างประเทศ รายได้ดีและค่อนข้างมั่นคง ตอนนั้นเราจึงตัดสินใจกู้ซื้อบ้านที่เมืองไทยและผ่อนสินเชื่อบ้านเดือนละประมาณ 50,000 บาท ผ่อนบ้านมาแล้วราวๆ10ปี ผ่อนไปโปะไปตามรายได้ที่เข้ามา ตามแผนเดิมอีกไม่เกิน 5 ปี หนี้บ้านเราก็จะหมด แต่โควิดมาทุกอย่างเปลี่ยนไปค่ะ ปี 2563 ตลอดทั้งปี รายได้เราหายไป 50-70% ซึ่งปีนั้นต้องเอาเงินเก็บบางส่วนมาสมทบกับรายได้เพื่อจ่ายหนี้บ้าน แต่พอสิ้นปี 2563 เราถูกเลย์ออฟเพราะบริษัทไปต่อไม่ไหว เราจึงบินกลับไทยหวังว่ากลับมาหางานทำและอยู่กับพ่อแม่ เราส่ง resume สมัครงานทุกวันแต่คิดว่าเพราะอายุที่ใกล้จะ 40 และเศรษฐกิจที่หยุดชะงักทำให้เรายังไม่ได้งาน เราตกงานมา 12 เดือนแล้ว ตลอดปี 2564 รายได้เราเท่ากับ 0 ขณะที่รายจ่ายยังมีอยู่ เราต้องใช้เงินเก็บที่สะสมมาเพื่อผ่อนบ้าน+เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ล่าสุดเราเพิ่งได้งาน เริ่มงานปี65 เงินเดือน 4 หมื่น ซึ่งมันไม่ cover ค่าผ่อนบ้านแน่ๆ
ตอนนี้เรามีเงินเก็บอยู่เกือบๆ 2.5 ล้าน แยกเป็นฝากประจำล้านแปด(ถ้าถอนจะไม่ได้ดอกเบี้ย) และเงินออมฉุกเฉิน 4 แสน และที่เหลือสำหรับใช้จ่าย
ส่วนหนี้บ้านยังค้างอยู่ 2.4 ล้าน ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ 3% (เราจะ refinance บ้านทุกๆ 3 ปี เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยลอยตัว) minimumที่เราต้องจ่ายรายเดือนคือ 47,000 ปี 64 เราต้องเสียดอกเบี้ยให้แบงค์ประมาณ 7-8หมื่นบาท
เราอยากถามความเห็นเพื่อนๆในนี้ว่า เราควรจะทำยังไงดี ระหว่าง
1. เอาเงินออมมาโปะบ้านไปเลย ซึ่งจะทำให้เราไม่มีเงินเก็บเหลือเลย
2. ไม่ต้องโปะแล้วไปขอยืดระยะเวลาผ่อนชำระกับแบงค์
3. โปะแค่ส่วนนึงแล้วไปยึดระยะเวลาผ่อนชำระกับแบงค์
แต่ความรู้สึกเราจริงๆ คือเราอยากปิดบ้านไปเลย ไม่อยากมาเสียดอกเบี้ยให้แบงค์แล้ว ส่วนเรื่องลงทุน ไม่น่าจะใช่ option ของเรา เพราะเป็นพวกกลัวความเสี่ยง ขนาดเล่น streaming แบบ demo มีเงินทิพย์ให้ลองเทรดเรายังกลัวเสียเลย 555 ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจึงไม่เคยกล้าเอาเงินเก็บไปลงทุน
ตอนนี้สับสนมาก เพื่อนๆคิดเห็นกันอย่างไรบ้างคะ