งานที่รับผิดชอบด้าน HR Payroll เริ่มงานวันแรก ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2564
1. งานด้านเอกสารเกี่ยวกับ From ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในงานด้าน HR และ มีงาน ด้าน MOU ในส่วนของเรื่องเตรียมเอกสารในการดำเนินการให้กับผู้ที่ดำเนินการทำ MOU ต่อไป (ซึ่งงานด้านเอกสารHR ก็ยังดำเนินการอยู่ )
2. งานด้านประกันสังคม ขึ้นทะเบียนนายจ้างใหม่ และ ต่อทะเบียนนายจ้างให้เป็นปัจจุบัน (ต้องไปดำเนินการที่สำนักงานประกันสังคม)
3. แจ้งเข้า – ออก ของงานประกันสังคม(ผ่านทางระบบออนไลน์) ของพนักงานทั้ง 2 บริษัท (พนักงานเข้าทำงานใหม่ ภายใน 30 วัน และแจ้งออกจากงาน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง )
4. จัดทำข้อมูล Data Employee ของพนักงานทั้งหมด และ ให้พนักงานทุกคนกรอกแบบฟอร์ม สปส.1-03 (แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน) และ ล.ย.01 (แบบแจ้งรายการเพื่อการหัดลดหย่อน) ก่อนเริ่มทำระบบเงินเดือน
5. ทำระบบเงินเดือนในโปรแกรม CD-Organizer ของทั้ง 2 บริษัท พร้อมทั้งปิดยอดสะสมในระบบของแต่ละเดือน
6. สรุปยอดเงินเดือนลงในโปรแกรม Excel เพื่อนำยอดค่าจ้างของพนักงานทั้ง 2 บริษัทส่งให้กรรมการผู้จัดการอนุมัติ และ หลังจากนั้นส่งให้แผนกบัญชีการเงินตั้งยอดเงินเดือนเพื่อทำจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน ก่อนวันที่ 27 ต้องทำข้อมูลตัวเลขให้เรียบร้อย.
7. ทำเรื่องสรุปเรื่อง ภงด.1 ของพนักงานทั้ง 2 บริษัท ใส่แบบฟอร์มของทางประกันสังคม เพื่อส่งให้บัญชีทำเรื่องตั้งเงิน เพื่อนำจ่ายเงินต่อไป ต้องทำจ่ายไม่เกิน วันที่ 7 ของเดือนถัดไป
8. สรุปเรื่องเงินสมทบ สปส.1-10 ของทั้ง 2 บริษัท ใส่แบบฟอร์มของทางประกันสังคม เพื่อส่งให้บัญชีทำเรื่องตั้งเงิน เพื่อนำจ่ายต่อไป ต้องทำจ่ายไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
9. สรุปเรื่อง ภงด. 1 ก (ภาษีประจำปี) คือใบสรุปการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส สวัสดิการอื่นที่จ่ายให้กับพนักงาน ภาษีที่นายจ้างออกแทนให้และภาษีของพนักงานรอบรายปี ต้องทำส่งเพื่อแจ้งให้สรรพากร
10. สรุปรายละเอียดค่าจ้างและภาษีของพนักงานทั้ง 2 บริษัท ทุกเดือน เพื่อนำรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อมาออกเอกสาร หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ ประจำปี (หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือ 50 ทวิ คือ เอกสารแสดงยอดเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ได้หักไว้แล้วในปีภาษี นอกจากนี้ในเอกสาร 50 ทวิ ยังแสดงข้อมูลรายได้ว่าได้มาจากที่ใดและจำนวนเท่าไหร่บ้าง เป็นเอกสารที่ผู้มีเงินได้จะได้รับเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษี )
11. เตรียมข้อมูลค่าจ้างเพื่อยื่นแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปี กองทุนทดแทน ( กท.20 ก ) รายงานค่าจ้างกองทุนเงินทดแทนต่อสำนักงานประกันสังคม โดยกรอกข้อมูลจำนวนค่าจ้างที่จ่ายจริงให้กับลูกจ้างทุกคน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคมของปีที่ผ่านมา และจำนวนลูกจ้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม ลงในแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปีกองทุนเงินทดแทน (กท.20 ก) และส่งคืนสำนักงานประกันสังคมตาม เขตพื้นที่ที่ตั้งของบริษัท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีด้วย
รบกวนช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้หน่อยนะค่ะ
ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษหน่อยค่ะ
1. งานด้านเอกสารเกี่ยวกับ From ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในงานด้าน HR และ มีงาน ด้าน MOU ในส่วนของเรื่องเตรียมเอกสารในการดำเนินการให้กับผู้ที่ดำเนินการทำ MOU ต่อไป (ซึ่งงานด้านเอกสารHR ก็ยังดำเนินการอยู่ )
2. งานด้านประกันสังคม ขึ้นทะเบียนนายจ้างใหม่ และ ต่อทะเบียนนายจ้างให้เป็นปัจจุบัน (ต้องไปดำเนินการที่สำนักงานประกันสังคม)
3. แจ้งเข้า – ออก ของงานประกันสังคม(ผ่านทางระบบออนไลน์) ของพนักงานทั้ง 2 บริษัท (พนักงานเข้าทำงานใหม่ ภายใน 30 วัน และแจ้งออกจากงาน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง )
4. จัดทำข้อมูล Data Employee ของพนักงานทั้งหมด และ ให้พนักงานทุกคนกรอกแบบฟอร์ม สปส.1-03 (แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน) และ ล.ย.01 (แบบแจ้งรายการเพื่อการหัดลดหย่อน) ก่อนเริ่มทำระบบเงินเดือน
5. ทำระบบเงินเดือนในโปรแกรม CD-Organizer ของทั้ง 2 บริษัท พร้อมทั้งปิดยอดสะสมในระบบของแต่ละเดือน
6. สรุปยอดเงินเดือนลงในโปรแกรม Excel เพื่อนำยอดค่าจ้างของพนักงานทั้ง 2 บริษัทส่งให้กรรมการผู้จัดการอนุมัติ และ หลังจากนั้นส่งให้แผนกบัญชีการเงินตั้งยอดเงินเดือนเพื่อทำจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน ก่อนวันที่ 27 ต้องทำข้อมูลตัวเลขให้เรียบร้อย.
7. ทำเรื่องสรุปเรื่อง ภงด.1 ของพนักงานทั้ง 2 บริษัท ใส่แบบฟอร์มของทางประกันสังคม เพื่อส่งให้บัญชีทำเรื่องตั้งเงิน เพื่อนำจ่ายเงินต่อไป ต้องทำจ่ายไม่เกิน วันที่ 7 ของเดือนถัดไป
8. สรุปเรื่องเงินสมทบ สปส.1-10 ของทั้ง 2 บริษัท ใส่แบบฟอร์มของทางประกันสังคม เพื่อส่งให้บัญชีทำเรื่องตั้งเงิน เพื่อนำจ่ายต่อไป ต้องทำจ่ายไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
9. สรุปเรื่อง ภงด. 1 ก (ภาษีประจำปี) คือใบสรุปการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส สวัสดิการอื่นที่จ่ายให้กับพนักงาน ภาษีที่นายจ้างออกแทนให้และภาษีของพนักงานรอบรายปี ต้องทำส่งเพื่อแจ้งให้สรรพากร
10. สรุปรายละเอียดค่าจ้างและภาษีของพนักงานทั้ง 2 บริษัท ทุกเดือน เพื่อนำรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อมาออกเอกสาร หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ ประจำปี (หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือ 50 ทวิ คือ เอกสารแสดงยอดเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ได้หักไว้แล้วในปีภาษี นอกจากนี้ในเอกสาร 50 ทวิ ยังแสดงข้อมูลรายได้ว่าได้มาจากที่ใดและจำนวนเท่าไหร่บ้าง เป็นเอกสารที่ผู้มีเงินได้จะได้รับเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษี )
11. เตรียมข้อมูลค่าจ้างเพื่อยื่นแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปี กองทุนทดแทน ( กท.20 ก ) รายงานค่าจ้างกองทุนเงินทดแทนต่อสำนักงานประกันสังคม โดยกรอกข้อมูลจำนวนค่าจ้างที่จ่ายจริงให้กับลูกจ้างทุกคน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคมของปีที่ผ่านมา และจำนวนลูกจ้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม ลงในแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปีกองทุนเงินทดแทน (กท.20 ก) และส่งคืนสำนักงานประกันสังคมตาม เขตพื้นที่ที่ตั้งของบริษัท ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีด้วย
รบกวนช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้หน่อยนะค่ะ