ธรรมดาของปุถุชนถ้าอยากรวย มีทรัพย์สิน มีอำนาจมาก แค่ไหนถึงเรียกว่าโลภมากครับ
คือถ้าอยากรวย โดยตั้งใจทำงานขยันหมั่นเพียร แม้จะคิดแผนการณ์ใหญ่ตั้งเป้าหมายไว้สูง แต่ก็ตั้งใจไว้ด้วยว่าจะรักษาศีล
ไม่ละเมิดสัมมากัมมันตะ ไม่ฆ่า ไม่ขโมย ไม่ผิดประเวณี
ไม่ละเมิดสัมมาอาชีวะ ไม่โกง ไม่ล่อลวง ไม่ตลบตะแลง ไม่ยอมมอบตนในทางผิด ไม่เอาลาภต่อลาภ
แบบนี้สามารถถูกติเตียนว่าโลภมากได้หรือเปล่าครับ
คือยังไงก็ต้องคิดว่าอยากได้ และอยากได้มากๆด้วย ก็อยากรวยนี่นา ก็ต้องตั้งเป้าหมายไว้แบบนั้น
คือถ้าคิดเป็นแบบเศรษฐีสมัยพุทธกาล ที่แม้จะรวย มีปราสาท พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ
อยากรวย แต่พอรวยแล้วก็ใช้ทรัพย์นั้นสร้างบุญกุศล สร้างประโยชน์เกื้อกูลให้ผู้อื่น
แบบนี้พระพุทธเจ้าสรรเสริญหรือไม่ครับ
ถ้าอยากรวย มีทรัพย์สิน มีอำนาจมาก นี้เรียกว่าโลภมากไหมครับ
คือถ้าอยากรวย โดยตั้งใจทำงานขยันหมั่นเพียร แม้จะคิดแผนการณ์ใหญ่ตั้งเป้าหมายไว้สูง แต่ก็ตั้งใจไว้ด้วยว่าจะรักษาศีล
ไม่ละเมิดสัมมากัมมันตะ ไม่ฆ่า ไม่ขโมย ไม่ผิดประเวณี
ไม่ละเมิดสัมมาอาชีวะ ไม่โกง ไม่ล่อลวง ไม่ตลบตะแลง ไม่ยอมมอบตนในทางผิด ไม่เอาลาภต่อลาภ
แบบนี้สามารถถูกติเตียนว่าโลภมากได้หรือเปล่าครับ
คือยังไงก็ต้องคิดว่าอยากได้ และอยากได้มากๆด้วย ก็อยากรวยนี่นา ก็ต้องตั้งเป้าหมายไว้แบบนั้น
คือถ้าคิดเป็นแบบเศรษฐีสมัยพุทธกาล ที่แม้จะรวย มีปราสาท พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ
อยากรวย แต่พอรวยแล้วก็ใช้ทรัพย์นั้นสร้างบุญกุศล สร้างประโยชน์เกื้อกูลให้ผู้อื่น
แบบนี้พระพุทธเจ้าสรรเสริญหรือไม่ครับ