...ตั้งอยู่บ้านอุโมงค์ หมู่ที่ 1 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน อยู่ริมถนนสายลำพูน-เชียงใหม่
ห่างจากตัวเมืองลำพูนไปประมาณ 12 กิโลเมตร
วัดอุโมงค์สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2285 โดยสถานที่ตั้งวัดอุโมงค์แห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นวัดร้างมาก่อน
ตามประวัติวัดแจ้งว่าเดิมที่ตั้งวัดอยู่กลางหนองทุ่งป่าแพ่ง เป็นที่ลุ่มคล้ายกับท้องกระทะ
มีลำน้ำปิงไหลผ่านด้านหน้าของวัด น้ำท่วมทุกปี การเดินทางลำบาก จึงย้ายวัดมาตั้งที่ปัจจุบัน
...จากทางเข้าหน้าวัด...จะมีลานโพธิ์...กว้างขวางเป็นที่จอดรถและทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวก
ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 ซึ่งตรงกับสมัยของพระญามังราย ได้ทำเขื่อนกั้นลำน้ำปิงเพื่อย้ายทางเดินของแม่น้ำ
และได้สร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ไว้ที่นั่น 1 องค์ ปัจจุบันนี้ก็คือ "วัดพระนอนหนองผึ้ง" ที่อยู่ในเขตอำเภอสารภีนั่นเอง
เส้นทางที่เป็นแม่น้ำปิงไหลผ่าน ปัจจุบันนี้ยังมีร่องรอยเหลือเป็นคูน้ำให้เห็นอยู่ ชาวบ้านเรียกว่า "ลำเหมืองปิงห่าง"
...หมู่บ้านที่อยู่บริเวณที่ลุ่มคล้ายท้องกระทะนี้เองที่ชาวบ้านเรียกว่า "บ้านโอ้งโหม้ง"
ซึ่งเป็นภาษาถิ่น หมายถึงที่เป็นหลุมหรือที่ลุ่ม นานเข้าก็เพี้ยนเป็น "อุโมงค์" ไป
...จากคำที่เรียกเพี้ยนในภาษาถิ่นแต่เก่าก่อน ทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนของชนรุ่นถัดๆ มาเข้าใจว่า
คำว่า "อุโมงค์" ที่เรียกชื่อวัดนั้น มาจากช่องของ "ซุ้มประตูโขง"
โดยเข้าใจผิดกันว่า เป็นช่องอุโมงค์นั่นเอง แต่ซุ้มประตูโขงเป็นเพียงช่องประตูเข้าวัดแต่เดิมก่อนจะมีการขยายพื้นที่ให้กว้างขวางออกไปนั่นเอง
โดยในปี พ.ศ.2477 มีการสร้างซุ้มโขงโล่งทั้ง 4 ด้านคร่อมบันไดหน้าพระอุโบสถ ศิลปกรรมของซุ้มนี้เป็นแบบศิลปะพม่า
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยเป็นสยามมกุฎราชกุมารในรัชกาลที่ 5
เสด็จประพาสมณฑลพายัพ ได้เสด็จมาประทับที่บริเวณหน้าวัดอุโมงค์ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินต่อไปเชียงใหม่
...ด้านหน้าวัดก่อนทางเข้าประตู จะมีต้นมะขามใหญ่ หร้อมป้ายกำกับไว้ถึงความสำคัญของต้นมะขามนี้
เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลังทราบว่า ณ ที่นี้มีความสำคัญอย่างไร
จุดแรกที่เข้ามาภายในวัด จะเห็น "หอไตร หรือ หอธรรม" มีลักษณะโดดเด่นสวยงาม เป็นศิลปะล้านนาผสม
ถัดมาจะมีพระยืนองค์ใหญ่ เรียกว่า "พระพุทธเจ้าเปิดโลก" อยู่ด้านหน้าพระวิหาร
วัดอุโมงค์มีโบราณสถานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างยิ่งคือ พระอุโบสถล้านนา
พระอุโบสถหลังนี้สร้างในปี พ.ศ.2470 มีความสวยงามที่ลายประดับตามหน้าบัน ป้านลม
ซึ่งลายเหล่านี้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงด้วยไม้ ส่วนที่ประตูมีรูปทวารบาลเป็นลายทองสวยงาม
ด้านหลังของวิหาร จะมีเจดีย์ซึ่งสร้างคล่อมเจดีย์องค์เดิมไว้ภายใน
โดยเจดีย์ที่สร้างครอบนี้ จึงจะเป็นการสร้างครอบอุโมงค์ที่กล่าวถึงชื่อวัดนั่นเอง ซึ่งภายในอุโมงค์นี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เรือทองคำ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน แก้วแหวนเงินทอง เพชร พลอย เป็นจำนวนมาก จึงเรียกชื่อว่าวัดอุโมงค์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้านข้างเจดีย์ จะมีพระนอนองค์ใหญ่
และมีวิหารแก้ว ซึ่งสร้างแล้วเสร็จไม่นานนัก รอโอกาสที่จะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการอีกที
ที่พักสงฆ์ เป็นอาคารเก่าแก่ มี ปี พ.ศ. ระบุว่าสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2507
พระสังกัจจาย อยู่ด้านหลังอุโบสถ
อุโบสถ
มาวัดนี้หลายครั้ง เพราะตั้งใจอยากเข้าไปถ่ายภาพในวิหาร ซึ่งวิหารหลังเดิมได้ถูกไฟไหม้ไป และบูรณะขึ้นใหม่
อยากเก็บภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงคุณค่า ให้ออกสู่สายตาแก่คนที่ไม่มีโอกาสได้มาสักการะวัดแห่งนี้
และสำหรับบริเวณลานต้นมะขามหน้าวัด ในวันอาทิตย์ จะมีตลาดนัดหรือกาดนัด เป็นการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอย่างดี
ลำพูน-วัดอุโมงค์ (ที่เพี้ยนมาจาก "โอ้งโหม้ง") ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง
...ตั้งอยู่บ้านอุโมงค์ หมู่ที่ 1 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน อยู่ริมถนนสายลำพูน-เชียงใหม่
ห่างจากตัวเมืองลำพูนไปประมาณ 12 กิโลเมตร
วัดอุโมงค์สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2285 โดยสถานที่ตั้งวัดอุโมงค์แห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นวัดร้างมาก่อน
ตามประวัติวัดแจ้งว่าเดิมที่ตั้งวัดอยู่กลางหนองทุ่งป่าแพ่ง เป็นที่ลุ่มคล้ายกับท้องกระทะ
มีลำน้ำปิงไหลผ่านด้านหน้าของวัด น้ำท่วมทุกปี การเดินทางลำบาก จึงย้ายวัดมาตั้งที่ปัจจุบัน
...จากทางเข้าหน้าวัด...จะมีลานโพธิ์...กว้างขวางเป็นที่จอดรถและทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวก
ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 ซึ่งตรงกับสมัยของพระญามังราย ได้ทำเขื่อนกั้นลำน้ำปิงเพื่อย้ายทางเดินของแม่น้ำ
และได้สร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ไว้ที่นั่น 1 องค์ ปัจจุบันนี้ก็คือ "วัดพระนอนหนองผึ้ง" ที่อยู่ในเขตอำเภอสารภีนั่นเอง
เส้นทางที่เป็นแม่น้ำปิงไหลผ่าน ปัจจุบันนี้ยังมีร่องรอยเหลือเป็นคูน้ำให้เห็นอยู่ ชาวบ้านเรียกว่า "ลำเหมืองปิงห่าง"
...หมู่บ้านที่อยู่บริเวณที่ลุ่มคล้ายท้องกระทะนี้เองที่ชาวบ้านเรียกว่า "บ้านโอ้งโหม้ง"
ซึ่งเป็นภาษาถิ่น หมายถึงที่เป็นหลุมหรือที่ลุ่ม นานเข้าก็เพี้ยนเป็น "อุโมงค์" ไป
...จากคำที่เรียกเพี้ยนในภาษาถิ่นแต่เก่าก่อน ทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนของชนรุ่นถัดๆ มาเข้าใจว่า
คำว่า "อุโมงค์" ที่เรียกชื่อวัดนั้น มาจากช่องของ "ซุ้มประตูโขง"
โดยเข้าใจผิดกันว่า เป็นช่องอุโมงค์นั่นเอง แต่ซุ้มประตูโขงเป็นเพียงช่องประตูเข้าวัดแต่เดิมก่อนจะมีการขยายพื้นที่ให้กว้างขวางออกไปนั่นเอง
โดยในปี พ.ศ.2477 มีการสร้างซุ้มโขงโล่งทั้ง 4 ด้านคร่อมบันไดหน้าพระอุโบสถ ศิลปกรรมของซุ้มนี้เป็นแบบศิลปะพม่า
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยเป็นสยามมกุฎราชกุมารในรัชกาลที่ 5
เสด็จประพาสมณฑลพายัพ ได้เสด็จมาประทับที่บริเวณหน้าวัดอุโมงค์ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินต่อไปเชียงใหม่
...ด้านหน้าวัดก่อนทางเข้าประตู จะมีต้นมะขามใหญ่ หร้อมป้ายกำกับไว้ถึงความสำคัญของต้นมะขามนี้
เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลังทราบว่า ณ ที่นี้มีความสำคัญอย่างไร
จุดแรกที่เข้ามาภายในวัด จะเห็น "หอไตร หรือ หอธรรม" มีลักษณะโดดเด่นสวยงาม เป็นศิลปะล้านนาผสม
ถัดมาจะมีพระยืนองค์ใหญ่ เรียกว่า "พระพุทธเจ้าเปิดโลก" อยู่ด้านหน้าพระวิหาร
วัดอุโมงค์มีโบราณสถานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างยิ่งคือ พระอุโบสถล้านนา
พระอุโบสถหลังนี้สร้างในปี พ.ศ.2470 มีความสวยงามที่ลายประดับตามหน้าบัน ป้านลม
ซึ่งลายเหล่านี้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงด้วยไม้ ส่วนที่ประตูมีรูปทวารบาลเป็นลายทองสวยงาม
ด้านหลังของวิหาร จะมีเจดีย์ซึ่งสร้างคล่อมเจดีย์องค์เดิมไว้ภายใน
โดยเจดีย์ที่สร้างครอบนี้ จึงจะเป็นการสร้างครอบอุโมงค์ที่กล่าวถึงชื่อวัดนั่นเอง ซึ่งภายในอุโมงค์นี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เรือทองคำ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน แก้วแหวนเงินทอง เพชร พลอย เป็นจำนวนมาก จึงเรียกชื่อว่าวัดอุโมงค์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้านข้างเจดีย์ จะมีพระนอนองค์ใหญ่
และมีวิหารแก้ว ซึ่งสร้างแล้วเสร็จไม่นานนัก รอโอกาสที่จะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการอีกที
ที่พักสงฆ์ เป็นอาคารเก่าแก่ มี ปี พ.ศ. ระบุว่าสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2507
พระสังกัจจาย อยู่ด้านหลังอุโบสถ
อุโบสถ
มาวัดนี้หลายครั้ง เพราะตั้งใจอยากเข้าไปถ่ายภาพในวิหาร ซึ่งวิหารหลังเดิมได้ถูกไฟไหม้ไป และบูรณะขึ้นใหม่
อยากเก็บภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงคุณค่า ให้ออกสู่สายตาแก่คนที่ไม่มีโอกาสได้มาสักการะวัดแห่งนี้
และสำหรับบริเวณลานต้นมะขามหน้าวัด ในวันอาทิตย์ จะมีตลาดนัดหรือกาดนัด เป็นการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอย่างดี