JJNY : ไทยทักษะภาษาอังกฤษต่ำมาก3ปีซ้อน│ส.อ.ท.กังวลค่าไฟแพง-น้ำมันขาขึ้น│เมืองคอนเจอคลัสเตอร์ทีมหาเสียง│ตลาดสดของยังแพง

ไทยรั้งท้ายอาเซียน เป็นประเทศที่มีทักษะภาษาอังกฤษต่ำมาก 3 ปีซ้อน
https://www.posttoday.com/world/668708
  
 
ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของคนไทยอยู่ในระดับต่ำมากเช่นเดียวกับเมียนมาและกัมพูชา
 
สถาบันภาษา EF เผยผลการจัดอันดับทักษะความสามารถด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ (EF English Proficiency Index) ปี 2021 ซึ่งเก็บข้อมูลและจัดอันดับจากผลทดสอบทักษะความสามารถของผู้ร่วมทำแบบทดสอบกว่า 2 ล้านคน จาก 112 ประเทศ/ดินแดนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก
 
พบว่าประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษต่ำมาก (Very low proficiency) เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยปีนี้ไทยอยู่ในอันดับ 100 (419 คะแนน) รั้งท้ายอาเซียน
 
EF ให้นิยามของคำว่า ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษต่ำมากไว้ว่า สามารถแนะนำตัวเองแบบง่ายๆ (ชื่อ อายุ ประเทศบ้านเกิด) เข้าใจสัญลักษณ์ง่ายๆ และสามารถบอกทางเบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้
 
ส่วนอันดับ 1 ของอาเซียนได้แก่ สิงคโปร์ และอยู่ในอันดับ 4 ของโลก (635 คะแนน) เป็นประเทศที่มีทักษะความสามารถสูงมาก (Very High Proficiency) และเป็นเพียงประเทศเดียวจากเอเชียที่ติดท็อป 10 ของตาราง
 
ฟิลิปปินส์รั้งอันดับ 18 (592 คะแนน) และอันดับที่ 2 ของอาเซียน ตามมาด้วยมาเลเซีย อันดับ 28 (562 คะแนน) เวียดนาม อันดับ 66 (486 คะแนน) อินโดนีเซีย อันดับ 80 (466 คะแนน) เมียนมา อันดับ 93 (429 คะแนน) กัมพูชาอันดับ 97 (423 คะแนน) โดยทั้งเมียนมาและกัมพูชาถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีทักษะความสามารถภาษาอังกฤษต่ำมากเช่นเดียวกับไทย ส่วนบรูไนและลาว ไม่ได้รับการจัดอันดับ
 
ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ (663 คะแนน) ซึ่งเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่เนเธอร์แลนด์ครองแชมป์ ตามมาด้วยออสเตรีย (641 คะแนน) เดนมาร์ก (636 คะแนน)
 

 
ส.อ.ท.กังวลค่าไฟแพง-น้ำมันขาขึ้น กระทบต้นทุนอุตสาหกรรม-ผู้บริโภค ฉุด ศก.ฟื้นตัวช้า
https://www.matichon.co.th/economy/news_3051259

ส.อ.ท.กังวลค่าไฟแพง-น้ำมันขาขึ้น กระทบต้นทุนอุตสาหกรรม-ผู้บริโภค ฉุด ศก.ฟื้นตัวช้า
 
ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ในรอบ 2 ปี สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 16.71 สตางค์ นั้น
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกรณีดังกล่าวว่า ถือเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรม และผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งราคาที่แพงขึ้นไม่เพียงกระทบค่าไฟแต่ยังกระทบต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันให้เพิ่มขึ้นตาม ซึ่งประเด็นสิ่งที่น่ากังวลคือรายได้ของประชาชน รายได้ผู้ประกอบการยังไม่เพิ่มขึ้นตาม เนื่องจากประเทศไทยเพิ่งเปิดประเทศ เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ที่เผชิญช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือบางกิจการอาจมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ไม่เท่ากับเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น เวลานี้เศรษฐกิจไทยเพิ่งกลับมาเริ่มต้น จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก
 
“ผลกระทบจากค่าไฟที่แพงขึ้นบวกกับราคาน้ำมันขาขึ้นจนกระทบให้ราคาสินค้าต่างๆ ขยับขึ้นตาม จะกระทบต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้เท่าเดิมหรือไม่เหมือนเดิม สิ่งนี้น่าเป็นห่วง อาจทำให้ทุกคนต้องประหยัดมากขึ้น และอาจมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ หรือรุนแรงกว่านั้นอาจกดดันเศรษฐกิจไทยให้ลดลงได้ ทั้งนี้ ภาคเอกชนในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ประเมินจีดีพี 
 
ปีนี้ไว้ที่ 0-1.5% ส่วนปีหน้าจะต้องดูอีกทีว่าจะอยู่ระดับที่เท่าไหร่หลังจากเปิดประเทศ ล่าสุดต้องมาเจอต้นทุนที่สูงขึ้น ก็ต้องดูว่ารายได้รายรับจะกลับมาเพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่ ถ้ารายได้เพิ่มขึ้นก็จะทดแทนกับต้นทุนดังกล่าวได้ ซึ่งปัจจุบันของแพงเงินเฟ้อมาแล้ว หากดูแลไม่ดีเศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่ แนวโน้มอาจถดถอยได้” นายสุพันธุ์กล่าว
 

 
ยุ่งแล้ว เมืองคอนเจอคลัสเตอร์ทีมหาเสียง อบต. ติดโควิด 33 คน
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2247086

นครศรีธรรมราช เจอคลัสเตอร์ทีมหาเสียงเลือกตั้ง อบต. ที่อำเภอชะอวด ติดเชื้อโควิดแล้ว 33 ราย เสี่ยงสูงนับ 100 ราย ผวจ.สั่งเร่งป้องกันเต็มที่
 
วันที่ 21 พ.ย. นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สนง.สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รายงานยอดผู้ป่วยรายใหญ่ ประจำวันนี้ จำนวน 442 ราย มากสุดคือ อ.เมือง 140 ราย, อ.สิชล 48 ราย, อ.ทุ่งสง 46 ราย, อ.ชะอวด 33 ราย, อ.ฉวาง 25 ราย, อ.ลานสกา 19 ราย และ อ.ท่าศาลา 18 ราย

คลัสเตอร์ใหม่ได้แก่ ทีมหาเสียงผู้สมัคร อบต.ชะอวด พบจำนวน 33 ราย และมีผู้เสี่ยงสูงอีกนับ 100 ราย ซึ่งทางสาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุข อ.ชะอวด ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเข้มแแล้วเพื่อไม่ให้ขยายวงกว้าง รวมทั้งคลัสเตอร์ชุมชนหัวสายสนาม ต.ฉวาง และชุมชนประมง ต.ทุ่งใส อ.สิชล พบเพิ่มอีก 11 ราย มียอดผู้ป่วยสะสม 39,167 ราย มีเสียชีวิต 3 ศพ ศพที่ 1 เพศชาย 19 ปี อ.พระพรหม โรคประจำตัว HIV ศพที่ 2 เพศชาย 44 ปี (ผู้ต้องขัง) ศพที่ 3 เพศชาย 67 ปี โรคประจำตัว Asthma/หัวใจ รวมเสียชีวิตสะสม 270 ศพ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่