ครับคือ ผมกับแฟนเราคบกันมาได้เกือบ 3 ปี เราห่างกันแค่ 1 ปีเท่านั้น คือโดยส่วนตัวนิสัยของเราทั้งคู่นั้น แทบไม่แตกต่างกัน แต่ก็จะมีจุดที่แตกต่างกันบ้าง เราเป็นคู่ที่แทบจะไม่ทะเลาะกัน จะมีน้อยใจกันบ่อยมากกว่า และทุกครั้งในการทะเลาะกันเรามักจะจับเข่าคุยกันแก้ถึงปัญหา โดยส่วนตัวผมจะเป็นคนเปิดประเด็นก่อนในทุกๆครั้งที่ทะเลาะกัน เพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบโวยวายเสียงดัง เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน แต่กับเธอ เธอมักจะเงียบและบางครั้งจะใส่อารมณ์และขึ้นเสียงค่อนข้างบ่อย ผมก็จะคอยระงับอารมณ์เธออยู่ตลอด แต่มีช่วงหลังเราทะเลาะกัน ผมไม่เคยเปิดประเด็นเลย จนเธอถามมาว่า ทำไมต้องรอเขาเป็นคนเปิดประเด็นก่อน ผมก็ได้บอกไปว่า ก็เธอชอบเงียบ และเธอบอกเองว่าเธอจะเป็นคนเปิดเรื่องคุยเอง จนบางครั้งเธอก็ทิ้งปัญหาแบบนี้ไว้จนข้ามวันก็มี หรือไม่ได้เคลียร์ถึงปัญหากันเลย
เข้าเรื่องเลยนะครับ
โดยพื้นเพเราเป็นคนจังหวัดเดียวกันทั้งคู่ แต่มาพบกันในแอปพลิเคชัน แอปนึง(แอปสีชมพู) ทุกคนคงรู้แหละ ตั้งแต่คบเราไม่เคยตัวห่างกัน ตัวติดกันตลอดยกเว้นเวลาไปทำงาน ก่อนไปทำงานทุกครั้งเราจะกอดและหอมแก้มกันทุกวัน เวลาเที่ยว ตจว เราก็ไปด้วยกันทุกที่ มอเตอร์ไซค์บ้าง รถยนต์บ้าง แต่ตัวผมนั้นเป็นคนบกพร่องทางความรัก คือผมไม่ค่อยชอบพูดบอกรัก และแทบจะไม่เซอร์ไพรส์เธอเลย แตกต่างจากเธอ เธอเป็นสายโซเชียล ไม่ใช่ว่าเราไม่ซื้อของให้กันนะครับ แต่คืออย่างเธอบอกว่า อันนี้สวยอันนั้นใช้สำหรับเราไปเที่ยวกัน บ้างครั้งผมตัดสินใจซื้อให้เลย โดยที่ไม่ได้ถามเลยว่าจำเป็นไหม ส่วนมากมักจะถูกต่อว่า ว่ามันจำเป็นไหม จะซื้ออะไรทำไมไม่ถามก่อน เธอเอ่ยปากบอกอยากไปไหน ผมพาไปตลอด แต่เรื่องไปรับส่ง บางครั้งเราก็ทำให้ไม่ได้ทุกวัน เธอเป็นคนที่เข้ากับเพื่อนเราได้หมด เวลาออกทริป ก็ไปกับพวกเพื่อนเรา แต่กับ เพื่อนของเธอนั้น ผมแทบไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเธอเลย มีก็แค่ไปรับไปส่ง เวลาเธอไปเที่ยวร้านเหล้ากับเพื่อน ผมจะไม่ตามไม่จุกจิก แต่จะเป็นเธอเองที่คอยรายงานมาให้เราดูเอง ก็ไม่อยากให้เธอหมดสนุกกับเพื่อนๆอ่ะเนาะ นานๆทีด้วย ปัญหาเรื่องหึงหวงไม่เคยมี ปัญหาของเราทั้งคู่นั้น เริ่มมาจากหลังโควิดมาได้ซักพัก เธอทำงานมาได้ปีนิดๆ หลังจากจบมหาลัย ช่วงนั้น ถามว่าทะเลาะไหมก็ไม่ เหมือนปรึกษาคุยกัน เธอบอกว่าเธออยากพัก ซึ่งผมก็บอกว่า อดทนไปอีกหน่อยไหม เกาะงานไว้ก่อน แต่ด้วยนิสัยผม ผมก็ยอมรับในสิ่งที่เธอนั้นตัดสินใจ จนผ่านไป 3-4 เดือน เธอบอกว่าปีใหม่จะหางานทำล่ะ ทำงานอะไรก็ทำไปก่อน แต่พอเอาเข้าจริง เธอก็หางานไม่ได้ ผมก็แนะนำทำเซเว่นไหม โลตัส บิ๊กซีอะไรพวกนี้ เพราะมันอยู่ใกล้บ้าน แต่เธอก็ไม่เอา เราคุยกันเรื่องนี้บ่อยมาก และในทุกครั้งที่คุยกัน ผมก็จะบอกกับเธอว่า เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เพราะผมก็ต้องการสร้างอนาคตแล้ว จนผมถามว่า จะขายของไหมจะลงทุนให้ เธอก็ตบคำรับปาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยากขายอะไร เธอก็ไม่บอกซักที จนนานวันเข้าของที่จะขายเราก็ไม่ได้ทำ เพราะผมก็มีปัญหาทางบ้านเข้ามา จนต้องทำใหเงินตรงนั้นหายไป ด้วยปัญหาของเธอและปัญหาของทางบ้านผมเอง ทำให้ผมเคลียดไปหลายๆอย่าง เงินที่ทำงานหามาได้ก็เริ่มไม่พอใช้จ่าย บางครั้งจนผมละเลย ไม่ใส่ใจเค้าในหลายๆอย่าง ทำให้ผมคิดว่าผมดูแลเธอไม่ดีเอง จนเธอมาสังเกตุเห็นได้ว่าเราเปลี่ยนไป เธอก็ถามผมนะว่ายังรักกันอยู่ไหม ผมตอบแค่ว่าไม่รู้ แต่ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เธอนั้นเสียใจ หลังจากนั้นผมก็ต้องการเคลียร์ปัญหาทางบ้าน แต่กลับต้องลาออก เพราะใช้เวลานานในการแก้ไข ผมจึงตัดสินใจลาออก จากงานประจำ (ไปกลับที่ทำงาน 80 กิโล/วันครับ) หลังจากออกมาแล้ว ผมก็ตัดสินใจ จะกลับไปบ้านที่ ตจว ก็ได้คุยกับเธอว่าผมนั้นรักเธอจริงๆ อยากสร้างอนาคตด้วย แต่ที่ผิดคือผมพูดต่อว่า ผมเคยคิดจะเลิกกับเธอ เพราะเหมือนเราพาเธอมาลำบาก อยากให้เธอมีชีวิตที่ดี อาจจะหาเพื่อน ผญ มาทำเป็นแฟนใหม่หรือคนคุย เพื่อที่จะให้เธอรู้ว่าเรานอกใจเธอ แต่ในสิ่งที่ผมบอก มันกลับไปทำร้ายจิตใจเธอ ผมก็คิดว่ามันดีซะอีก ที่บอกความในใจให้เธอฟัง ในช่วงเวลาที่เราห่างกัน 2 เดือน ทำให้เธอต้องไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นช่วงเวลาที่เธอทบทวนตัวเอง และแล้วเธอก็ได้งาน และเป็นช่วงที่ผมกลับขึ้นมา กทม ทางบ้านเธอดูแลผมดีนะ ให้ผมเข้าไปอยู่บ้านด้วย เพื่อลดค่าใช้จ่าย ปล. ผมสนิทกับพ่อแม่ยายของเธอครับ เราไปมาหาสู่กันทั้ง 2 บ้านครับ
พอผมอยู่ได้ซักพักเหมือนความรู้สึกเธอเปลี่ยนไป การแสดงสีหน้าท่าทางเธอเปลี่ยนไป เหมือนเธอฝืน จนผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอนอกใจกัน (ที่ทำงานเธอเกี่ยวกับแอปขายของชื่อดัง) เพราะจะมีผู้ชายจำนวนมาก รอบนี้ผมก็เช็คโทรศัพเปผ้นปกติ แต่มันมีแชทนึงที่ซ่อนไว้ คือ เธอคุยกับเพื่อนว่าความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่อยากเลิก อยากพยายามทำให้เป็นเหมือนเดิม และเธอก็อึดอัด พอผมเห็น ผมก็เสียใจนะ จนผมต้องขอออกมาอยู่บ้านเช่าที่เช่าไว้ตั้งแต่เราคบกันแรกๆ ด้วยปัญหาที่เธอพึ่งทำงานมันอาจจะยุ่ง และคลังสินค้าตรงนั้นก็พึ่งเปิดยังไม่ทันลงตัว ก็ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น การที่เธอใส่ใจเราน้อยลง ผมก็คิดว่าเธอนอกใจ จากที่ผมไม่เคยหึงหวง ไม่เคยจุกจิก ผมเป็นอะไรของผมก็ไม่รู้แบบไม่เคยเป็นมาก่อน สุดท้ายก็มาถึงจุดแตกหัก เราเลิกกันครับ ถามว่าตอนเธอบอกเลิกกัน ผมยื้อไหม ผมยื้อนะ แต่เธอบอกว่าตอนนี้เธอไม่ไหว ผมก็เลยยอมรับการตัดสินใจนั้น ก็ได้แต่บอกเธอว่า ผมจะรอเธอนะ แต่เราก็มีติดต่อกันเกือบทุกวัน(แชท)นะครับ ผมก็พยายามง้อ เอารถไปทำไปซ่อมให้เธอบ้าง หาวิตามินเสริมบ้าง(เธอร่างกายอ่อนแอ) บางครั้งมีอะไรผมก็อาจจะถามเธอเยอะไปจนลืมสถานะ ว่าเราเลิกกันแล้ว จนมาเมื่อไม่กี่วัน เธอบอกไม่ต้องทักมาทุกวันก็ได้ จอบอ ครับ
(พิมพ์เรื่องราวยาวๆแบบนี้ครั้งแรก อาจจะไม่ถูกใจผู้อ่านบ้างหรือพิมพ์ตกหล่น ก็ขอประทานโทษด้วยครับ)
เพราะเราอยู่ด้วยกันทำให้ความสัมพันธ์นี้ไม่อยากลืม
สิ่งที่ผมอยากถามนะครับ
1.ผมผิดที่พูดแบบนั้นกับเธอ แต่อยากรู้ว่ามันควรพูดหรือไม่ควรครับ
2.ผมใส่ใจเธอไม่มากพอใช่ไหม
ความรักที่ลืมไม่ได้
เข้าเรื่องเลยนะครับ
โดยพื้นเพเราเป็นคนจังหวัดเดียวกันทั้งคู่ แต่มาพบกันในแอปพลิเคชัน แอปนึง(แอปสีชมพู) ทุกคนคงรู้แหละ ตั้งแต่คบเราไม่เคยตัวห่างกัน ตัวติดกันตลอดยกเว้นเวลาไปทำงาน ก่อนไปทำงานทุกครั้งเราจะกอดและหอมแก้มกันทุกวัน เวลาเที่ยว ตจว เราก็ไปด้วยกันทุกที่ มอเตอร์ไซค์บ้าง รถยนต์บ้าง แต่ตัวผมนั้นเป็นคนบกพร่องทางความรัก คือผมไม่ค่อยชอบพูดบอกรัก และแทบจะไม่เซอร์ไพรส์เธอเลย แตกต่างจากเธอ เธอเป็นสายโซเชียล ไม่ใช่ว่าเราไม่ซื้อของให้กันนะครับ แต่คืออย่างเธอบอกว่า อันนี้สวยอันนั้นใช้สำหรับเราไปเที่ยวกัน บ้างครั้งผมตัดสินใจซื้อให้เลย โดยที่ไม่ได้ถามเลยว่าจำเป็นไหม ส่วนมากมักจะถูกต่อว่า ว่ามันจำเป็นไหม จะซื้ออะไรทำไมไม่ถามก่อน เธอเอ่ยปากบอกอยากไปไหน ผมพาไปตลอด แต่เรื่องไปรับส่ง บางครั้งเราก็ทำให้ไม่ได้ทุกวัน เธอเป็นคนที่เข้ากับเพื่อนเราได้หมด เวลาออกทริป ก็ไปกับพวกเพื่อนเรา แต่กับ เพื่อนของเธอนั้น ผมแทบไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเธอเลย มีก็แค่ไปรับไปส่ง เวลาเธอไปเที่ยวร้านเหล้ากับเพื่อน ผมจะไม่ตามไม่จุกจิก แต่จะเป็นเธอเองที่คอยรายงานมาให้เราดูเอง ก็ไม่อยากให้เธอหมดสนุกกับเพื่อนๆอ่ะเนาะ นานๆทีด้วย ปัญหาเรื่องหึงหวงไม่เคยมี ปัญหาของเราทั้งคู่นั้น เริ่มมาจากหลังโควิดมาได้ซักพัก เธอทำงานมาได้ปีนิดๆ หลังจากจบมหาลัย ช่วงนั้น ถามว่าทะเลาะไหมก็ไม่ เหมือนปรึกษาคุยกัน เธอบอกว่าเธออยากพัก ซึ่งผมก็บอกว่า อดทนไปอีกหน่อยไหม เกาะงานไว้ก่อน แต่ด้วยนิสัยผม ผมก็ยอมรับในสิ่งที่เธอนั้นตัดสินใจ จนผ่านไป 3-4 เดือน เธอบอกว่าปีใหม่จะหางานทำล่ะ ทำงานอะไรก็ทำไปก่อน แต่พอเอาเข้าจริง เธอก็หางานไม่ได้ ผมก็แนะนำทำเซเว่นไหม โลตัส บิ๊กซีอะไรพวกนี้ เพราะมันอยู่ใกล้บ้าน แต่เธอก็ไม่เอา เราคุยกันเรื่องนี้บ่อยมาก และในทุกครั้งที่คุยกัน ผมก็จะบอกกับเธอว่า เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เพราะผมก็ต้องการสร้างอนาคตแล้ว จนผมถามว่า จะขายของไหมจะลงทุนให้ เธอก็ตบคำรับปาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยากขายอะไร เธอก็ไม่บอกซักที จนนานวันเข้าของที่จะขายเราก็ไม่ได้ทำ เพราะผมก็มีปัญหาทางบ้านเข้ามา จนต้องทำใหเงินตรงนั้นหายไป ด้วยปัญหาของเธอและปัญหาของทางบ้านผมเอง ทำให้ผมเคลียดไปหลายๆอย่าง เงินที่ทำงานหามาได้ก็เริ่มไม่พอใช้จ่าย บางครั้งจนผมละเลย ไม่ใส่ใจเค้าในหลายๆอย่าง ทำให้ผมคิดว่าผมดูแลเธอไม่ดีเอง จนเธอมาสังเกตุเห็นได้ว่าเราเปลี่ยนไป เธอก็ถามผมนะว่ายังรักกันอยู่ไหม ผมตอบแค่ว่าไม่รู้ แต่ก็เป็นประเด็นที่ทำให้เธอนั้นเสียใจ หลังจากนั้นผมก็ต้องการเคลียร์ปัญหาทางบ้าน แต่กลับต้องลาออก เพราะใช้เวลานานในการแก้ไข ผมจึงตัดสินใจลาออก จากงานประจำ (ไปกลับที่ทำงาน 80 กิโล/วันครับ) หลังจากออกมาแล้ว ผมก็ตัดสินใจ จะกลับไปบ้านที่ ตจว ก็ได้คุยกับเธอว่าผมนั้นรักเธอจริงๆ อยากสร้างอนาคตด้วย แต่ที่ผิดคือผมพูดต่อว่า ผมเคยคิดจะเลิกกับเธอ เพราะเหมือนเราพาเธอมาลำบาก อยากให้เธอมีชีวิตที่ดี อาจจะหาเพื่อน ผญ มาทำเป็นแฟนใหม่หรือคนคุย เพื่อที่จะให้เธอรู้ว่าเรานอกใจเธอ แต่ในสิ่งที่ผมบอก มันกลับไปทำร้ายจิตใจเธอ ผมก็คิดว่ามันดีซะอีก ที่บอกความในใจให้เธอฟัง ในช่วงเวลาที่เราห่างกัน 2 เดือน ทำให้เธอต้องไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นช่วงเวลาที่เธอทบทวนตัวเอง และแล้วเธอก็ได้งาน และเป็นช่วงที่ผมกลับขึ้นมา กทม ทางบ้านเธอดูแลผมดีนะ ให้ผมเข้าไปอยู่บ้านด้วย เพื่อลดค่าใช้จ่าย ปล. ผมสนิทกับพ่อแม่ยายของเธอครับ เราไปมาหาสู่กันทั้ง 2 บ้านครับ
พอผมอยู่ได้ซักพักเหมือนความรู้สึกเธอเปลี่ยนไป การแสดงสีหน้าท่าทางเธอเปลี่ยนไป เหมือนเธอฝืน จนผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอนอกใจกัน (ที่ทำงานเธอเกี่ยวกับแอปขายของชื่อดัง) เพราะจะมีผู้ชายจำนวนมาก รอบนี้ผมก็เช็คโทรศัพเปผ้นปกติ แต่มันมีแชทนึงที่ซ่อนไว้ คือ เธอคุยกับเพื่อนว่าความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่อยากเลิก อยากพยายามทำให้เป็นเหมือนเดิม และเธอก็อึดอัด พอผมเห็น ผมก็เสียใจนะ จนผมต้องขอออกมาอยู่บ้านเช่าที่เช่าไว้ตั้งแต่เราคบกันแรกๆ ด้วยปัญหาที่เธอพึ่งทำงานมันอาจจะยุ่ง และคลังสินค้าตรงนั้นก็พึ่งเปิดยังไม่ทันลงตัว ก็ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น การที่เธอใส่ใจเราน้อยลง ผมก็คิดว่าเธอนอกใจ จากที่ผมไม่เคยหึงหวง ไม่เคยจุกจิก ผมเป็นอะไรของผมก็ไม่รู้แบบไม่เคยเป็นมาก่อน สุดท้ายก็มาถึงจุดแตกหัก เราเลิกกันครับ ถามว่าตอนเธอบอกเลิกกัน ผมยื้อไหม ผมยื้อนะ แต่เธอบอกว่าตอนนี้เธอไม่ไหว ผมก็เลยยอมรับการตัดสินใจนั้น ก็ได้แต่บอกเธอว่า ผมจะรอเธอนะ แต่เราก็มีติดต่อกันเกือบทุกวัน(แชท)นะครับ ผมก็พยายามง้อ เอารถไปทำไปซ่อมให้เธอบ้าง หาวิตามินเสริมบ้าง(เธอร่างกายอ่อนแอ) บางครั้งมีอะไรผมก็อาจจะถามเธอเยอะไปจนลืมสถานะ ว่าเราเลิกกันแล้ว จนมาเมื่อไม่กี่วัน เธอบอกไม่ต้องทักมาทุกวันก็ได้ จอบอ ครับ
(พิมพ์เรื่องราวยาวๆแบบนี้ครั้งแรก อาจจะไม่ถูกใจผู้อ่านบ้างหรือพิมพ์ตกหล่น ก็ขอประทานโทษด้วยครับ)
เพราะเราอยู่ด้วยกันทำให้ความสัมพันธ์นี้ไม่อยากลืม
สิ่งที่ผมอยากถามนะครับ
1.ผมผิดที่พูดแบบนั้นกับเธอ แต่อยากรู้ว่ามันควรพูดหรือไม่ควรครับ
2.ผมใส่ใจเธอไม่มากพอใช่ไหม