ใช่ริดสีดวงไหมคะ

มีติ่งเนื้อที่เกิดจากขอบรูทวารด้านนึงบวมจนเหมือนสี สีชมพูแดง คล้ายสีเนื้อหมู ไม่มีอาการเจ็บ หรือเลือดออกเลยตอนที่พบสิ่ง แต่มื่อ17ปีที่แล้วจำได้ว่ามีเลือดติดออกมาจากอุจระครั้งนึงตนอยู่ศุนย์พัตนาเล็กเด็กอายุประมาณ2ขวบ ครั้งนั้น  ครั้งเดียว แต่2ปีที่ผ่านมาย้ายมาอยู่แถวกรุงเทพ กินกับข้าวถุงบ่อย อาหารสำเร็จรูป ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกาย แต่ปกติเป็นคนถ่านยากอยู่แล้วจะไม่ได้ถ่ายทุกวัน 4-5วันครั้งนึง แต่2ปีมานี้ ท้องเสียค่อนข้างบ่อย และอาเจียนออกมาด้วยประมาณ2เดือนครั้ง หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำหนักจะแตะ50กก จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม ขอประสบการณ์คนที่เคยเป็นริดสีดวง ช่วยบอก อาการ และวิธีรักษาด้วยตนเองได้ไหมคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับการพบติ่งเนื้อที่รูทวารหนัก สามารถเกิดได้จากหลายๆสาเหตุค่ะ เช่น อาจเกิดได้จากริดสีดวงทวาร การมีแผลที่
ขอบทวารหนักจนเกิดติ่งเนื้อ ฝีที่ทวารหนัก หรือโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งหากเกิดจากริดสีดวงทวารที่เกิดได้ทั้งภายในและ
ภายนอก หากเป็นริดสีดวงภายใน อาการหลักๆมักจะมีอาการมีเลือดสดไหลออกมาหลังถ่ายอุจจาระ หรือปนมากับอุจจาระ
และอาจจะเห็นหัวริดสีดวงยื่นออกมาที่รูทวารหนักเวลาที่เบ่งถ่าย และเห็นเป็นติ่งเนื้อได้ มักจะไม่มีอาการเจ็บหรือปวดค่ะ
หรือถ้าเป็นริดสีดวงภายนอก จะเห็นเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมาจากรูทวารหนัก เมื่อมีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย มักไม่ทำ
ให้เกิดเลือดออกเหมือนริดสีดวงภายใน แต่จะทำให้เกิดอาการเจ็บ หรือปวด หากเกิดการเสียดสีหรือนั่งทับค่ะ

นอกจากนี้หากอาการที่เกิดขึ้นเกิดจากแผลปริขอบทวารหนัก ก็มักจะเกิดเมื่ออุจจาระแข็ง หรือเป็นก้อนใหญ่ ที่ต้องออก
แรงเบ่งมาก ก้อนอุจจาระอาจไปครูดกับเยื่อบุของทวารหนัก ทำให้เกิดเป็นแผล ซึ่งมักมีเลือดสีแดงสดติดออกมากับก้อน
อุจจาระและปริมาณเลือดที่ออกมักไม่มากค่ะ

ในเบื้องต้น อย่าเพิ่งกังวลใจไปนะคะ แนะนำให้คุณลองสังเกตอาการดูก่อนนะคะ ว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากสาเหตุใด
เนื่องจากจะได้ง่ายต่อการแยกโรค ส่วนในระหว่างนี้ แนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการท้องผูก หรืออุจจาระยาก
โดยรับประทานอาหารที่มีกากใย เน้นทานผักและผลไม้ ดื่มน้ำให้มากๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงไม่ควรเบ่ง
อุจจาระนานๆ งดยาที่อาจทำให้ท้องผูกหรือท้องเสีย ก็อาจจะช่วยลดอาการได้ค่ะ แต่ถ้าหากติ่งเนื้อที่เป็นอยู่บริเวรทวาร
หนักนั้น มีอาการเจ็บ ปวด บวม หรือมีเลือดออกมาก แนะนำให้คุณไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอาการ
และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่