MSI ในรุ่น Stealth 15M นั้นจะเป็น Gaming ที่โดดเด่นในเรื่องความเบา ความบางเป็นหลักแต่เรื่องของสเปกการใช้งาน หรือว่าประสิทธิภาพนั้นไม่ธรรมดาเช่นกัน พร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 11 “Tiger Lake H35” สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin อย่าง Core i7-11375H ถือว่าเอาเรื่องอย่างมาก และ ใช้งาน RTX 3060 เลยทีเดียวเห็นบางๆเบาๆแบบนี้แต่สเปกพร้อมชนได้ทุกตัวเลยทีเดียว ด้วยน้ำหนักเพียง 1.7 กิโลกรัม บางที่ 16.15 มิลลิเมตร และเรื่องระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ยังคงใส่เข้ามาให้แบบจัดเต็มสบายๆ ทำให้ภาพรวมเป็นอีกรุ่นที่เหมาะแก่การเล่นเกม พกพา แต่ประสิทธิภาพนั้นไม่ธรรมดาในการเล่นเกมหรือทำงานหนัก
MSI Stealth 15M ในรุ่นที่เรารีวิวจะเป็น Intel Core i7-11375H สถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 10 นาโนเมตร SuperFin 3.30 – 5.00 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread + การ์ดจอออนบอร์ดIris Xe Graphics การ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-Q (6GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 16GB DDR4 Bus 3200 MHz (SO-DIM) และ STORAGE SSD M.2 NVMe PCIe 1TB เรียกได้ว่าครบๆเหลือเฟือ พร้อมกับหน้าจอ ขนาด15.6″ IPS Full HD รองรับ 144Hz ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อเองก็สามารถรองรับ Wi-Fi 6 AX, Buetooth 5.1 และพอร์ต Thunderbolt 4 ถือว่าครบและพร้อมใช้งานกันเลยทีเดียว รวมถึง ระบบระบายความร้อน มาพร้อม 2 พัดลมใหญ่ 6 ฮีทไปป์ใบพัดบาง 0.1 มม. ในตัว Cooler Boost 5 จัดเต็มสบายๆครับ และได้ตำแหน่ง Gaming ขนาด 15 นิ้วที่บางที่สุดในโลกเลยทีเดียว และหน้าจอยังรองรับการกางได้ราบไปกับพื้นถือว่าอิสระมากๆ
PRICE
MSI STEALTH 15M มาพร้อมกับ Intel Core i7 Gen 11 “Tiger Lake H35” i7-11375H + RTX 3060 RAM 16GB ราคาเริ่มต้น 53,990-57,990 บาท แล้วแต่ ความจุ 512-1TB นะครับผม
UNBOX
- MSI STEALTH 15M
- คู่มือการใช้งาน
- กระเป๋าเป้ MSI
- Adaptor 180W
DESIGN
งานออกแบบรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะว่าถ้าเรามองผ่านๆจะไม่รู้เลยว่ารุ่นนี้จะเป็นสาย Gaming ที่เน้นความบางเบา เพราะว่างานออกแบบมีความเรียบหรู และ บางเบาคล้ายกับพวกคอมพิวเตอร์สายทำงานทันที และตัวเครื่องสีสันลวดลายไม่เยอะมากนัก เหมาะแก่การพกพาไปข้างนอก และเอาไปทำงานได้ไม่เขินเกินไป มาพร้อมกับบอดี้วัสดุอลูมิเนียมทั้งหมดใช้งานโทนสีอ่อนสวยงาม และแน่นอนว่าความบางแค่ 16.1 มม. น้ำหนักเพียง 1.7 กก. เท่านั้นครับถือว่าเบาและบางที่สุดในบรรดา Gaming Notebook หน้าจอ 15 นิ้วเลยทีเดียวครับ ถือว่าบางที่สุดที่โลกเลยทีเดียว ซึ่งถ้ามองในแง่ของงานประกอบรุ่นนี้ทำได้ดีน่าสนใจมีความแข็งแรงและแน่นพอสมควรแม้จะเน้นบางเบาก็ตาม
งานออกแบบภาพรวมนั้นถือว่าดูเรียบร้อย ค่อนข้างสวยงามดูไม่เป็นสาย Gaming เกินไป และมีความบางเบาตัวเครื่องโทนสีสว่างพร้อมกับโลโก้ MSI ที่เป็นแบบ 2D เรียบๆไม่มีไฟหรือลูกเล่นอะไรครับ เรียบๆทั้งหมดทั้งฝาหลัง และโลโก้ส่วนด้านในนั้นเราจะเป็นแป้นพิมพ์ขนาดใหญ่พร้อมกับการออกแบบวางตรงส่วนกลางเครื่องไม่ได้มี Numberpad อะไรเข้ามาพร้อมกับโลโก้แบบใหม่ข้างในงานออกแบบหน้าจอขอบส่วนล่างถือว่ามีความหนาระดับนึง
ส่วนข้อพับในรุ่นนี้สามารถเปิดได้ด้วยมือเดียว ถือว่ามีความแข็งแรงและสามารถกางได้สูงสุด 180 องศาเลยทีเดียวทำให้ราบเนียนไปกับโต๊ะได้ด้วยเช่นกัน งานประกอบความแข็งแรงในส่วนข้อพับนั้นทำได้ดี พร้อมกับช่องระบายความร้อน ที่มีการเล่นลวดลายต่างๆส่วนในช่องระบายความร้อนด้านหลังเองนั้นมีให้ทั้งซ้ายและขวายิงออกด้านหลังขนาดกลางๆกำลังดีครับ และมีช่องระบายความร้อนด้านขวากับซ้ายเข้ามาด้วยเช่นกัน ถือว่าเรื่องระบายความร้อนทำได้ดีอยู่แล้วสำหรับค่ายนี้ Cooler Boost 5 และสำหรับสายเกมเรื่องนี้ถือว่าสำคัญและทำได้ดีในการใช้งาน
ขอบหน้าจอรุ่นนี้ทำได้บางแม้จะเป็นสาย Gaming แต่ถือว่าควบคุมความหนาบางรุ่นนี้ได้ดีถือว่าไม่หนีจากบรรดาคอมพิวเตอร์สายทำงานหรือ Ultrabook เลยก็ตามมาพร้อมกับกล้องและไมค์ 2 ตัว ซึ่งตัวนี้ขอบหน้าจอจะเป็นโทนสีเดียวกับตัวเครื่อง และหน้าจอที่ให้มานั้นเป็นหน้าจอแบบด้าน ทำให้การใช้งานนั้นถือว่ารองรับได้สบายๆเวลาเจอแสง
ด้านฐานเครื่องเองนั้นเราจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนจัดเต็มในส่วนใต้เครื่องมีการออกแบบคล้ายกับรังผึ้ง รวมถึงมียางรองฐานเครื่องให้มาทั้งหมดในส่วนด้านหลัง และด้านหน้าตัวเครื่อง รวมถึงตรงกลางและขอบซ้ายขวาเล็กน้อยในตรงกลาง รวมถึงลำโพงในรุ่นนี้จะอยู่ในด้านล่างมุมซ้าย ขวา เราจะเห็นเลยว่ายังคงเอกลักษณ์การออกแบบได้ดีครับ และเมื่อเปิดด้านใน มีการออกแบบแผ่นรักษาความร้อนต่างๆทำให้เรื่องของทิศทางลมนั้นจัดการและควบคุมได้เป็นอย่างดีและการออกแบบรุ่นนี้เมนบอร์ดแบบกลับด้านทำให้เราไม่สามารถเห็นการอัปเกรดอะไรได้เลย และไม่รองรับการแกะอัปเกรดเองทั้งหมด ถือว่าแอบน่าเสียดายอย่างมากเพราะมีแผ่นมาปิดทั้งหมดและเปิดออกมาก็ไม่มีอะไรให้เห็นนะ
SPEC
- CPU Intel Core i7-11375H (4C/8T & 3.30 – 5.00GHz)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 Laptop GPU 6GB GDDR6
- Up to 1357MHz Boost Clock, 65W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost.
- RAM 16GB DDR4 Bus 3200 MHz (SO-DIM)
- DISPLAY15.6″ IPS Full HD @ 144Hz
- STORAGE SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
- OS Windows 10 Home
- Warranty 2 Years (1 Year for Battery and Adapter)
- RGB Backlight Keyboard
1x Type-C (USB / DP / Thunderbolt™ 4) with PD charging
1x Micro SD
1x (4K @ 60Hz) HDMI
2x Type-A USB3.2 Gen1
1x Type-C (USB3.2 Gen2 / DP)
- 802.11 ax Wi-Fi 6 + Bluetooth v5.1
- HD type (30fps@720p)
PERFORMANCE
ในรุ่นที่เรารีวิวจะเป็น Intel Core i7-11375H สถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 10 นาโนเมตร SuperFin 3.30 – 5.00 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread + การ์ดจอออนบอร์ดIris Xe Graphics การ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 (6GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 16GB DDR4 Bus 3200 MHz (SO-DIM) และ STORAGE SSD M.2 NVMe PCIe 1TB ถือว่าสเปกภาพรวมนั้นทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอหรือว่าตัว CPU ซึ่งถ้ามองสเปกเป็นสาย Gaming รุ่นนี้สามารถรองรับระดับสูงได้ดี แม้จะเป็นรุ่นที่เน้นความบางเบาแต่สามารถยัดสเปกแบบนี้มาได้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ และแน่นอนว่าสเปกพวกนี้รองรับการอัปเกรด Windows 11 ได้
PCMARK
คะแนนทำได้ 4484 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับ ทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลาย เต็มประสิทธิภาพกว่าแบบเดิมชัดเจน ทางด้านความร้อนนั้น CPU 72 และ GPU 65 สำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติถือว่าสบายใช้งานได้ชิวๆ
3DMARK
เราทดสอบแบบพื้นฐาน 5 แบบกันในส่วนของ Firestrike , Timespy ด้วยถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Firestrike Ultra ตัวนี้ทำได้ 4072 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลาย RTX3060 ตัวนี้เอาอยู่ครับ เล่นเกม ทำงานเรนเดอร์เหลือๆ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลส่วนเรื่องคะแนน Timespy Extream นั้นแตะ 2891 ได้เลย TimeSpy แบบโหดๆไปที่ 6079 คะแนนครับและ Firestrike Extream ที่ 7604 คะแนน ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 77 และ GPU 71 ครับสำหรับตัวนี้
CINEBENCH R15 R20 / CRYSTALDISKMARK
ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 967 ทำได้ดีมาก ในตัว C15 อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมาก พัฒนาขึ้นเยอะในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 2227 ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ดีกว่าเจนก่อนหน้าเยอะพอสมควรส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้สูงและถือว่าเทียบกับการใช้งานถือว่าโหดมากๆ สามารถอ่านสูงถึง 3245 ส่วนเขียนที่ 1847 ครับจากทดลองหลายๆรอบให้มา 1TB ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆเหลือๆ และความเร็วภาพรงทำให้ตัวนี้ใช้งานได้สบายไวมากๆ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับขนาด 15.6 นิ้วรองรับการใช้งาน 144Hz พร้อมกับหน้าจอแบบ IPS LCD รองรับการใช้งานสีสันค่อนข้างแม่นยำ พร้อมกับงานออกแบบหน้าจอขอบบางและมาพร้อมกับ Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล และรองรับการปรับเปลี่ยนแต่งสีผ่านซอฟต์แวร์ MSI True Color ได้อีก 6 แบบครับจะมีเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ส่วนหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบด้านครับรองรับการใช้งานทั้งเรื่องของการเล่นเกม หรือว่าจะเป็นการทำงานข้างนอกก็ลดแสงสะท้อนได้ดีเลยทีเดียว หน้าจอนั้นสีสันค่อนข้างแม่นยำมากๆเรียกได้ว่า ใกล้เคียง sRGB 100% เลยทีเดียว เท่าที่ทดสอบนั้นจะได้ประมาณ 95-95% ถือว่ามีความใกล้เคียงมากๆตัวนึงในบรรดา Gaming รวมถึงความสว่างอะไรนั้นสู้แสงได้ดี สีสันคมชัดอันนี้มุมมองอะไรก็ทำได้ดีเช่นกัน เป็นหน้าจอเมื่อเทียบกับเรทราคานั้นทำได้ลื่นไหล มีความสวยสีตรงมากๆตัวนึงครับและเล่นเกมได้ดีมาก
[SR] รีวิว MSI STEALTH 15M สเปก i7 Gen 11+ RTX 3060 บาง เบา จอ 144Hz !
MSI ในรุ่น Stealth 15M นั้นจะเป็น Gaming ที่โดดเด่นในเรื่องความเบา ความบางเป็นหลักแต่เรื่องของสเปกการใช้งาน หรือว่าประสิทธิภาพนั้นไม่ธรรมดาเช่นกัน พร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 11 “Tiger Lake H35” สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin อย่าง Core i7-11375H ถือว่าเอาเรื่องอย่างมาก และ ใช้งาน RTX 3060 เลยทีเดียวเห็นบางๆเบาๆแบบนี้แต่สเปกพร้อมชนได้ทุกตัวเลยทีเดียว ด้วยน้ำหนักเพียง 1.7 กิโลกรัม บางที่ 16.15 มิลลิเมตร และเรื่องระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ยังคงใส่เข้ามาให้แบบจัดเต็มสบายๆ ทำให้ภาพรวมเป็นอีกรุ่นที่เหมาะแก่การเล่นเกม พกพา แต่ประสิทธิภาพนั้นไม่ธรรมดาในการเล่นเกมหรือทำงานหนัก
MSI Stealth 15M ในรุ่นที่เรารีวิวจะเป็น Intel Core i7-11375H สถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 10 นาโนเมตร SuperFin 3.30 – 5.00 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread + การ์ดจอออนบอร์ดIris Xe Graphics การ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-Q (6GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 16GB DDR4 Bus 3200 MHz (SO-DIM) และ STORAGE SSD M.2 NVMe PCIe 1TB เรียกได้ว่าครบๆเหลือเฟือ พร้อมกับหน้าจอ ขนาด15.6″ IPS Full HD รองรับ 144Hz ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อเองก็สามารถรองรับ Wi-Fi 6 AX, Buetooth 5.1 และพอร์ต Thunderbolt 4 ถือว่าครบและพร้อมใช้งานกันเลยทีเดียว รวมถึง ระบบระบายความร้อน มาพร้อม 2 พัดลมใหญ่ 6 ฮีทไปป์ใบพัดบาง 0.1 มม. ในตัว Cooler Boost 5 จัดเต็มสบายๆครับ และได้ตำแหน่ง Gaming ขนาด 15 นิ้วที่บางที่สุดในโลกเลยทีเดียว และหน้าจอยังรองรับการกางได้ราบไปกับพื้นถือว่าอิสระมากๆ
PRICE
MSI STEALTH 15M มาพร้อมกับ Intel Core i7 Gen 11 “Tiger Lake H35” i7-11375H + RTX 3060 RAM 16GB ราคาเริ่มต้น 53,990-57,990 บาท แล้วแต่ ความจุ 512-1TB นะครับผม
UNBOX
- MSI STEALTH 15M
- คู่มือการใช้งาน
- กระเป๋าเป้ MSI
- Adaptor 180W
DESIGN
งานออกแบบรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะว่าถ้าเรามองผ่านๆจะไม่รู้เลยว่ารุ่นนี้จะเป็นสาย Gaming ที่เน้นความบางเบา เพราะว่างานออกแบบมีความเรียบหรู และ บางเบาคล้ายกับพวกคอมพิวเตอร์สายทำงานทันที และตัวเครื่องสีสันลวดลายไม่เยอะมากนัก เหมาะแก่การพกพาไปข้างนอก และเอาไปทำงานได้ไม่เขินเกินไป มาพร้อมกับบอดี้วัสดุอลูมิเนียมทั้งหมดใช้งานโทนสีอ่อนสวยงาม และแน่นอนว่าความบางแค่ 16.1 มม. น้ำหนักเพียง 1.7 กก. เท่านั้นครับถือว่าเบาและบางที่สุดในบรรดา Gaming Notebook หน้าจอ 15 นิ้วเลยทีเดียวครับ ถือว่าบางที่สุดที่โลกเลยทีเดียว ซึ่งถ้ามองในแง่ของงานประกอบรุ่นนี้ทำได้ดีน่าสนใจมีความแข็งแรงและแน่นพอสมควรแม้จะเน้นบางเบาก็ตาม
งานออกแบบภาพรวมนั้นถือว่าดูเรียบร้อย ค่อนข้างสวยงามดูไม่เป็นสาย Gaming เกินไป และมีความบางเบาตัวเครื่องโทนสีสว่างพร้อมกับโลโก้ MSI ที่เป็นแบบ 2D เรียบๆไม่มีไฟหรือลูกเล่นอะไรครับ เรียบๆทั้งหมดทั้งฝาหลัง และโลโก้ส่วนด้านในนั้นเราจะเป็นแป้นพิมพ์ขนาดใหญ่พร้อมกับการออกแบบวางตรงส่วนกลางเครื่องไม่ได้มี Numberpad อะไรเข้ามาพร้อมกับโลโก้แบบใหม่ข้างในงานออกแบบหน้าจอขอบส่วนล่างถือว่ามีความหนาระดับนึง
ส่วนข้อพับในรุ่นนี้สามารถเปิดได้ด้วยมือเดียว ถือว่ามีความแข็งแรงและสามารถกางได้สูงสุด 180 องศาเลยทีเดียวทำให้ราบเนียนไปกับโต๊ะได้ด้วยเช่นกัน งานประกอบความแข็งแรงในส่วนข้อพับนั้นทำได้ดี พร้อมกับช่องระบายความร้อน ที่มีการเล่นลวดลายต่างๆส่วนในช่องระบายความร้อนด้านหลังเองนั้นมีให้ทั้งซ้ายและขวายิงออกด้านหลังขนาดกลางๆกำลังดีครับ และมีช่องระบายความร้อนด้านขวากับซ้ายเข้ามาด้วยเช่นกัน ถือว่าเรื่องระบายความร้อนทำได้ดีอยู่แล้วสำหรับค่ายนี้ Cooler Boost 5 และสำหรับสายเกมเรื่องนี้ถือว่าสำคัญและทำได้ดีในการใช้งาน
ขอบหน้าจอรุ่นนี้ทำได้บางแม้จะเป็นสาย Gaming แต่ถือว่าควบคุมความหนาบางรุ่นนี้ได้ดีถือว่าไม่หนีจากบรรดาคอมพิวเตอร์สายทำงานหรือ Ultrabook เลยก็ตามมาพร้อมกับกล้องและไมค์ 2 ตัว ซึ่งตัวนี้ขอบหน้าจอจะเป็นโทนสีเดียวกับตัวเครื่อง และหน้าจอที่ให้มานั้นเป็นหน้าจอแบบด้าน ทำให้การใช้งานนั้นถือว่ารองรับได้สบายๆเวลาเจอแสง
ด้านฐานเครื่องเองนั้นเราจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนจัดเต็มในส่วนใต้เครื่องมีการออกแบบคล้ายกับรังผึ้ง รวมถึงมียางรองฐานเครื่องให้มาทั้งหมดในส่วนด้านหลัง และด้านหน้าตัวเครื่อง รวมถึงตรงกลางและขอบซ้ายขวาเล็กน้อยในตรงกลาง รวมถึงลำโพงในรุ่นนี้จะอยู่ในด้านล่างมุมซ้าย ขวา เราจะเห็นเลยว่ายังคงเอกลักษณ์การออกแบบได้ดีครับ และเมื่อเปิดด้านใน มีการออกแบบแผ่นรักษาความร้อนต่างๆทำให้เรื่องของทิศทางลมนั้นจัดการและควบคุมได้เป็นอย่างดีและการออกแบบรุ่นนี้เมนบอร์ดแบบกลับด้านทำให้เราไม่สามารถเห็นการอัปเกรดอะไรได้เลย และไม่รองรับการแกะอัปเกรดเองทั้งหมด ถือว่าแอบน่าเสียดายอย่างมากเพราะมีแผ่นมาปิดทั้งหมดและเปิดออกมาก็ไม่มีอะไรให้เห็นนะ
SPEC
- CPU Intel Core i7-11375H (4C/8T & 3.30 – 5.00GHz)
- NVIDIA® GeForce RTX™ 3060 Laptop GPU 6GB GDDR6
- Up to 1357MHz Boost Clock, 65W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost.
- RAM 16GB DDR4 Bus 3200 MHz (SO-DIM)
- DISPLAY15.6″ IPS Full HD @ 144Hz
- STORAGE SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
- OS Windows 10 Home
- Warranty 2 Years (1 Year for Battery and Adapter)
- RGB Backlight Keyboard
1x Type-C (USB / DP / Thunderbolt™ 4) with PD charging
1x Micro SD
1x (4K @ 60Hz) HDMI
2x Type-A USB3.2 Gen1
1x Type-C (USB3.2 Gen2 / DP)
- 802.11 ax Wi-Fi 6 + Bluetooth v5.1
- HD type (30fps@720p)
PERFORMANCE
ในรุ่นที่เรารีวิวจะเป็น Intel Core i7-11375H สถาปัตยกรรม Tiger Lake H35 10 นาโนเมตร SuperFin 3.30 – 5.00 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread + การ์ดจอออนบอร์ดIris Xe Graphics การ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 (6GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 16GB DDR4 Bus 3200 MHz (SO-DIM) และ STORAGE SSD M.2 NVMe PCIe 1TB ถือว่าสเปกภาพรวมนั้นทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอหรือว่าตัว CPU ซึ่งถ้ามองสเปกเป็นสาย Gaming รุ่นนี้สามารถรองรับระดับสูงได้ดี แม้จะเป็นรุ่นที่เน้นความบางเบาแต่สามารถยัดสเปกแบบนี้มาได้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ และแน่นอนว่าสเปกพวกนี้รองรับการอัปเกรด Windows 11 ได้
PCMARK
คะแนนทำได้ 4484 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับ ทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลาย เต็มประสิทธิภาพกว่าแบบเดิมชัดเจน ทางด้านความร้อนนั้น CPU 72 และ GPU 65 สำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติถือว่าสบายใช้งานได้ชิวๆ
3DMARK
เราทดสอบแบบพื้นฐาน 5 แบบกันในส่วนของ Firestrike , Timespy ด้วยถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Firestrike Ultra ตัวนี้ทำได้ 4072 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลาย RTX3060 ตัวนี้เอาอยู่ครับ เล่นเกม ทำงานเรนเดอร์เหลือๆ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลส่วนเรื่องคะแนน Timespy Extream นั้นแตะ 2891 ได้เลย TimeSpy แบบโหดๆไปที่ 6079 คะแนนครับและ Firestrike Extream ที่ 7604 คะแนน ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 77 และ GPU 71 ครับสำหรับตัวนี้
CINEBENCH R15 R20 / CRYSTALDISKMARK
ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 967 ทำได้ดีมาก ในตัว C15 อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมาก พัฒนาขึ้นเยอะในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 2227 ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ดีกว่าเจนก่อนหน้าเยอะพอสมควรส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้สูงและถือว่าเทียบกับการใช้งานถือว่าโหดมากๆ สามารถอ่านสูงถึง 3245 ส่วนเขียนที่ 1847 ครับจากทดลองหลายๆรอบให้มา 1TB ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆเหลือๆ และความเร็วภาพรงทำให้ตัวนี้ใช้งานได้สบายไวมากๆ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับขนาด 15.6 นิ้วรองรับการใช้งาน 144Hz พร้อมกับหน้าจอแบบ IPS LCD รองรับการใช้งานสีสันค่อนข้างแม่นยำ พร้อมกับงานออกแบบหน้าจอขอบบางและมาพร้อมกับ Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล และรองรับการปรับเปลี่ยนแต่งสีผ่านซอฟต์แวร์ MSI True Color ได้อีก 6 แบบครับจะมีเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ส่วนหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบด้านครับรองรับการใช้งานทั้งเรื่องของการเล่นเกม หรือว่าจะเป็นการทำงานข้างนอกก็ลดแสงสะท้อนได้ดีเลยทีเดียว หน้าจอนั้นสีสันค่อนข้างแม่นยำมากๆเรียกได้ว่า ใกล้เคียง sRGB 100% เลยทีเดียว เท่าที่ทดสอบนั้นจะได้ประมาณ 95-95% ถือว่ามีความใกล้เคียงมากๆตัวนึงในบรรดา Gaming รวมถึงความสว่างอะไรนั้นสู้แสงได้ดี สีสันคมชัดอันนี้มุมมองอะไรก็ทำได้ดีเช่นกัน เป็นหน้าจอเมื่อเทียบกับเรทราคานั้นทำได้ลื่นไหล มีความสวยสีตรงมากๆตัวนึงครับและเล่นเกมได้ดีมาก
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้