▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
รัฐบาล
วัคซีน (Vaccine)
กระทรวงสาธารณสุข
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
🇹🇭มาลาริน💙12พ.ย.ไทยไม่ติดTop10โลก ป่วย7,305คน หายป่วย7,900คน เสียชีวิต51คน/โควิด77จว./สธ.ตั้งเป้าฉีด100ล้านโดสในพ.ย.
https://www.sanook.com/news/8472294/
https://travel.trueid.net/detail/EpwDxDy0Jd17
https://www.bangkokbiznews.com/news/971426
กระทรวงสาธารณสุข เผยฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้วกว่า 84 ล้านโดส คาดเหลืออีกประมาณ 10 ล้านคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการฉีดให้ครบ 100 ล้านโดส ในเดือน พ.ย.นี้ เร็วกว่าแผนเดิม 1 เดือนเพื่อสร้างความปลอดภัยช่วงเดือน ธ.ค. ที่จะมีเทศกาลเฉลิมฉลอง
วันนี้ (12 พ.ย.2564) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าวันละ 10,000 คน ต่อเนื่องมา 2-3 สัปดาห์ ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มีบางทวีปเริ่มกลับมาพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม อัตราป่วยและเสียชีวิตเริ่มลดลงภายหลังมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากกว่า 7,300 ล้านโดสทั่วโลก ส่วนประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 84 ล้านโดส มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มจำนวน 45 ล้านคน หรือร้อยละ 62 ของประชากร
ซึ่งมีทั้งคนไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศไทย และคาดว่ายังเหลือผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกประมาณ 10 ล้านคน ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้รวดเร็วขึ้น
โดยภายในเดือน พ.ย.นี้ จะฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรในทุกจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว จากเดิมที่กำหนดไว้ภายในปี 2564 หรือเร็วกว่าแผนเดิม 1 เดือน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับสังคม
เนื่องจากเดือน ธ.ค. จะมีเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และมีผู้คนเดินทางจำนวนมาก รวมถึงชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้นหลายเท่า
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่เสียชีวิตขณะนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม 608 ซึ่งมีโรคร่วม โดยประมาณร้อยละ 70 ยังไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และหญิงตั้งครรภ์ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 เพื่อให้มีความปลอดภัย ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต
โดยทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของสถานประกอบการ บริษัทเอกชนและภาคประชาสังคมต้องร่วมมือกันกระตุ้นเตือน ชักชวน และนำผู้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้มาฉีดวัคซีนในสถานพยาบาลหรือจุดที่กำหนดโดยเร็ว
โดยสูตรการฉีดวัคซีนในเดือน พ.ย.นี้ สามารถเริ่มเข็มแรกเป็นวัคซีนแอสตราเซนเนกา และนัดฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์ ห่างกัน 4 สัปดาห์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วและปลอดภัย ส่วนในเด็กอายุ 12-17 ปี ยังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มตามเดิม
https://news.thaipbs.or.th/content/309658
ติดตามข่าวโควิดกันนะคะ...👩💻