สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกพันทิปมา 10 กว่าปี ไม่เคยได้มีโอกาสได้รีวิวเลย ครั้งนี้จะขอรีวิวเป็นครั้งแรกครับ เนื่องจากประทับใจในการบริการของแบรนด์นี้มาก ผมเป็นคนที่ชอบกระเป๋าดีไซน์สวยและมีช่องสำหรับเก็บ tablet และช่องสำหรับของเล็กๆ น้อยๆ ได้ เพื่อใช้ใส่ของสำหรับพกไปเที่ยวในวันหยุดหรือต่างประเทศ
เริ่มแรกเลยไม่ได้รู้จักแบรนด์นี้แต่เมื่อประมาณปี 2559 บังเอิญเห็นคนที่ใช้กระเป๋าใบนี้และเรารู้สึกถูกใจกระเป๋าใบนี้มากเลย ก็เลยถ่ายรูปมาแล้วกลับมาลองหาใน Google ดูว่าเป็นแบรนด์อะไร ซื้อได้ที่ไหน และราคาเท่าไหร่ จึงมาเจอว่ามันคือ Peak Design Everyday Sling 10L แต่ราคาที่ประเทศไทยแพงมากถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 7,000 – 8,000 บาทและตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีตัวแทนเอาเข้ามาขายเลยมีแค่ร้านขายกล้องบางร้านที่เอาเข้ามาแต่ก็ไม่มีตัวอย่างให้ดู ต้องสั่งเลยและรอของเข้ามา ซึ่งผมไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อนก็เลยไม่แน่ใจว่าสีไหนดี ขนาดจะเอาขนาดไหนดี ก็เลยพับโครงการไปใช้ของเดิมต่อไป
ปี 2561 พอดีมีโอกาสได้ไปสิงคโปร์ก่อนไปเลยลองหาดูก่อนไปว่ามีที่ไหนขายบ้าง ก็ไปเจอว่ามีร้านที่ Singapura Plaza พอได้ดูของจริงหลายสีเทียบกันก็เลยตัดสินใจได้เลยจัด Peak Design Everyday Sling 10L สี Charcoal มาและเนื่องถ้าจำไม่ผิดราคาที่สิงคโปร์ไม่ต่างจากใน official website ที่อเมริกามากก็เลยจัด Peak Design Everyday Messenger 13L มาอีก 1 ใบ เพราะเหมือนว่าซื้อ 2 ใบจ่ายพอๆ กับซื้อที่ประเทศไทยได้แค่ใบเดียว
โดยหลังจากที่กลับมาผมก็ใช้กระเป๋าทั้ง 2 ใบปกติโดยใบ Everyday Messenger 13L ใช้ใส่เอกสารและโน๊ตบุ๊คไปทำงานทุกวัน และ Everyday Sling 10L ก็ใช้เสาร์-อาทิตย์ หรือไปเที่ยวต่างประเทศเพราะว่าใส่ของได้เยอะดีและกระเป๋าก็สามารถเสียบไว้กับกระเป๋าเดินทางเวลาลากกระเป๋าได้ด้วย โดยก็ได้ลงทะเบียนใน official website ของ Peak Design ตามที่เขาให้ใส่ข้อมูลและก็ไม่ได้สนใจจะเก็บใบเสร็จไว้เพื่อเคลมประกัน เนื่องจากอาจจะคิดว่าลงทะเบียนแล้วเลยไม่ต้องเก็บใบเสร็จ
โดยตัว Everyday Messenger 13L ใช้ไปประมาณ 2 ปี ก็พบปัญหาว่าสายหูกระเป๋าที่ไว้ล็อคสายสะพายไหล่เริ่มรุ่ย ผมก็ใช้ไปสักพักแล้วก็หยุดใช้เพราะว่ากลัวว่าสายจะขาดทำให้กระเป๋าตกพื้นแล้วโน๊ตบุ๊คพัง
ส่วน Everyday Sling 10L ก็ใช้ตามปกติจนประมาณตุลาคม 2564 ซิปเปิดช่องหลักตรงส่วนโค้งของกระเป๋าเริ่มรูดยากต้องจับดีๆ ถึงจะปิดได้แต่แล้วก็ไม่รอด สุดท้ายตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดที่รูดซิปหลุดออกมาจากซิปด้านล่าง
เกริ่นไปซะเยอะ ตอนนี้มาเข้าเรื่องการเคลมกันจริงๆ แล้วนะครับ หลังจากที่ซิปของ Everyday Sling 10L ได้ปลิดชีพตัวเองเรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่ผมชอบกระเป๋าใบนี้มากเพราะว่าใส่ของพี่ผมพกตอนไปเที่ยวได้หมด และก็สามารถเสียบกับกระเป๋าเดินทางได้ จึงได้ลองหาใน Google ดูว่ามีร้านที่รับเปลี่ยนซิปไหมแต่ก็ไม่เจอรีวิวเลย แต่ไปเจอกับ youtube ช่อง jayjarern พี่เขารีวิวการเคลมกระเป๋า Peak Design Everyday Sling 10L ซึ่งเป็นปัญหาที่ซิปเหมือนกับผมเลยและพี่เขาก็ได้พูดว่ากระเป๋ามันเป็น lifetime warranty และพี่เขาไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้แต่เขาซื้อกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยทางร้านเขาก็เลยลองส่งไปเคลมให้ ผลคือทาง Peak Design ได้ส่งใบใหม่รุ่นเดิม สีเดิมมาให้
ผมจึงได้เข้าไปในเว็ปของ Peak Design และไปตรง Lifetime Warranty ดูว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และก็เลยกดไปที่ BEGIN WARRANTY CLAIM โดยเมื่อกดแล้วก็จะมีการแสดงหน้าจอขึ้นมาประมาณว่าเขาได้รวบรวมคำถามของข้อมูลที่เขาต้องการมาให้แล้ว โดยจะใช้เวลาประมาณ 7 นาทีในการตอบ โดยให้เรากด Begin Warranty Claim อีกครั้ง
1 - ชื่อของเรา
2 - อีเมลเรา
3 - ให้เราเลือกว่าเราจะคืนสินค้า หรือสินค้าชำรุด หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายและจะเคลมแทนลูกค้า หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายและต้องการจะเคลมสินค้าหลายชิ้น สำหรับผมเลือกข้อ B
4 – ให้เลือกสินค้าที่เราต้องการเคลม
5 - ก็จะให้เราบอกรายละเอียดของสินค้ามากขึ้น โดยให้เรากด Continue ไปได้เลย
ต่อไปก็จะให้เราเลือกว่าสินค้าที่เรามีและจะเคลมคือตัวไหน สำหรับผมที่รีวิวนี้คือ Everyday Sling V1 10L
ถ้ามีหลายขนาดและหลายสีก็จะมีให้เลือกเพิ่มเติม ของผมเป็น 10L Charcoal
6 – ของผมถามว่ากระเป๋ามีปัญหาของสายสะพายมีการเลื่อนเองหรือไม่
สำหรับผมข้อนี้คือ ไม่
7 - ถามว่าชื้อจากที่ไหน
ผมเลือก Other
8 - เนื่องจากข้อ 7 ผมเลือกเป็นอื่นๆ ระบบจึงถามว่าซื้อจากร้านชื่ออะไร ซึ่งผมจำชื่อร้านไม่ได้ ผมบอกไปแต่ว่าซื้อที่ร้านใน Singapura Plaza
9 - ถามถึงเลขที่คำสั่งซื้อ
ซึ่งตอนนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด และก็ไม่แน่ใจเลยว่าเก็บใบเสร็จไว้ไหน หรือเก็บไว้หรือเปล่า และผมไม่ได้ซื้อแบบออน์ไลน์ผ่าน official website มันก็จะไม่มีอีเมลส่งมาจาก Peak Design แน่นอน ผมก็เลยลองหาดูใน web ของ peak design ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง และก็ไปเจอให้ log-in เข้าไปในระบบที่นี้ก็เริ่มระลึกชาติได้ว่าเคยลงทะเบียนไว้ พอเข้าไปในบัญชีได้ก็เจอข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ก็แต่มันก็ไม่มีเลขคำสั่งซื้อที่เขาต้องการอยู่ดี ผมเลยตอบไปว่าจำไม่ได้และไม่แน่ใจว่าเก็บใบเสร็จไว้หรือเปล่าแต่ได้ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ตอนที่ซื้อแล้ว
10 – ถามวันที่ซื้อ
ซึ่งผมก็ไปดูวันที่ที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ
11 – ให้ส่งรูปหลักฐานการซื้อให้ เช่นอีเมลยืนยันการสั่งซื้อ ใบเสร็จ ซึ่งจะต้องให้มีชื่อเรา อีเมลเรา และที่อยู่ในการจัดส่งและรายละเอียดของสินค้าด้วย ซึ่งผมไม่มี ผมก็เลยเอารูป screenshot ที่ลงทะเบียนไว้แนบไปให้แทน ซึ่งในระบบก็จะมีแค่ว่าสินค้าอะไร ซื้อเมื่อไหร่ หมายเลขซีเรียลคืออะไร (ซึ่งที่หน้าจอไม่แสดงและก็กดไปดูไม่ได้ด้วย)
12 – ขอหมายเลขซีเรียลของสินค้า
ซึ่งครั้งแรกผมใส่ไปผิดเลข แต่เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องก็จะเมลมาขอเลขอีกครั้ง
13 – ให้เราเลือกคำอธิบายของสินค้าว่ามีปัญหาอะไร
สำหรับผมเลือกข้อ D ไป
14 – ให้เราอธิบายความเสียหายของสินค้าว่ามีปัญหาตรงไหน
ผมก็แจ้งไปว่าซิปมีปัญหาหลุดออกมา
15 – ให้เราอัพโหลดรูปหรือวีดีโอตรงที่สินค้ามีปัญหาไป
ซึ่งระบบให้แนบได้ 1 ไฟล์เท่านั้น และผมทำผ่านมือถือจึงไม่สะดวกที่จะ zip รูปจึงถ่ายเป็นวีดีโอส่งไป
พอจบคำถามข้อ 15 ระบบก็จะขอที่อยู่เราในกรณีที่เขาจะส่งสินค้าใหม่มา ให้เรากด Continue ไป
16 - ขอยืนยันชื่อเรา
ถ้าถูกแล้วให้กด Yes หรือถ้าไม่ใช่ก็ให้กด No ระบบจะแสดงหน้าจอมาให้แก้ไข
17 – ที่อยู่บรรทัดแรก
ให้เราใส่บ้านเลขที่ หมู่บ้าน ซอย หรือจะใส่ถึงแขวงหรือตำบลก็ได้ครับ แต่ข้อถัดไปก็จะมีถามที่อยู่อีก 1 บรรทัด
18 - ที่อยู่บรรทัดที่สอง
กรณีที่บรรทัดแรกไม่พอ หรือเราตัดข้อมูลแบ่งมาใส่บรรทัดที่ 2 ถ้าไม่มีก็ปล่อยว่างไป
19 – ถามว่าอยู่เมืองอะไร
ผมใส่แขวงไปครับ
20 – ถามจังหวัด
21 – ถามรหัสไปรษณีย์
22 – ถามประเทศ
23 – ถามเบอร์โทรศัพท์
24 - ถามว่าเรามีอะไรจะแจ้งเพิ่มเติมไหม ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่อะไรครับ แล้วก็กด Submit ได้เลยครับ
หลังจากที่กดส่งไปแล้วจะมีเมลแจ้งเราว่าได้รับเรื่องแล้วและจะติดต่อกลับเราในไม่ช้า กรณีของผมส่งเรื่องไปคืนวันเสาร์ โดยวันจันทร์มีเมลจาก Support Team ของ Peak Design กลับมาว่าขอหมายเลขซีเรียลของสินค้าเนื่องจากผมใส่ไปไม่ถูก หลังจากที่ผมตอบกลับไปทาง Support Team ก็แจ้งกลับมาว่ากระเป๋า Everyday Sling V1 10L ไม่ได้ผลิตแล้วผมสะดวกที่จะรับใบแทนเป็น Everyday Sling V2 10L แทนได้ไหม โดยมีสีให้เลือก 2 สี ผมเลยยืนยันไปว่าได้และก็เลือกสีที่ต้องการไป
หลังจากนั้นอีก 4 วันผมก็เลยส่งเคลม Everyday Messenger 13L อีกใบ ซึ่งส่งเรื่องไปวันพฤหัส และวันศุกร์ก็ได้รับการยืนยันการเคลมเรียบร้อย โดย Everyday Messenger 13L รุ่น 1 ไม่มีการผลิตแล้วอีกเช่นกันเลยได้รับเป็น Everyday Messenger 13L รุ่น 2 มาแทนเช่นกัน
นอกเหนือจากที่ผมชอบในการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานของ Peak Design แล้ว การที่ได้มีโอกาสเคลมสินค้าในครั้งนี้ก็ประทับใจในคำสัญญาและบริการมาก เนื่องจากเอกสารบางอย่างผมไม่มีหลักฐานตามที่เขาต้องการซึ่งเขาสามารถที่จะปฎิเสธการเคลมก็ได้แต่ทาง Peak Design ก็ยังให้เคลมสินค้าและดำเนินการให้อย่างรวดเร็วเกินกว่าความคาดหวังมาก แต่อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าจุดที่เสียหายของกระเป๋าทั้ง 2 ใบที่ผมเคลมทาง Peak Design ทราบถึงข้อบกพร่องของตัวผลิตภัณฑ์นั้นอยู่แล้ว จากที่ผมได้ลองค้นหาดูก็พบว่าจัดที่กระเป๋าผมเสียหายทั้ง 2 ใบก็มีหลายคนเป็นเหมือนกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามผมก็ถือว่า Peak Design มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าสูงมาก
และหลังจากที่เคลมใบแรกไปครบ 14 วันกระเป๋าใบแรกก็ได้ส่งมาถือบ้านเรียบร้อยแล้ว และอีก 4 วันถัดมากระเป๋าใบที่ 2 ก็ตามมา โดยระยะเวลาในการเคลมใบที่ 2 ใช้เวลา 12 วัน
จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสเคลมกระเป๋า Peak Design ในครั้งนี้รู้สึกประทับใจมากครับ การเคลมไม่ยุ่งยากและสินค้าที่ทดแทนก็จัดส่งมาก็ใช้เวลาไม่ได้นานมาก ส่วนกระเป๋าเดิมที่ชำรุดก็ไม่ได้ต้องส่งคืนแต่อย่างใด
ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านครับ หากมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามผมเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้เลยครับ ขอบคุณครับ
[CR] รีวิวการเคลมกระเป๋าแบรนด์ Peak Design จากประกันตลอดอายุการใช้งาน
เริ่มแรกเลยไม่ได้รู้จักแบรนด์นี้แต่เมื่อประมาณปี 2559 บังเอิญเห็นคนที่ใช้กระเป๋าใบนี้และเรารู้สึกถูกใจกระเป๋าใบนี้มากเลย ก็เลยถ่ายรูปมาแล้วกลับมาลองหาใน Google ดูว่าเป็นแบรนด์อะไร ซื้อได้ที่ไหน และราคาเท่าไหร่ จึงมาเจอว่ามันคือ Peak Design Everyday Sling 10L แต่ราคาที่ประเทศไทยแพงมากถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 7,000 – 8,000 บาทและตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีตัวแทนเอาเข้ามาขายเลยมีแค่ร้านขายกล้องบางร้านที่เอาเข้ามาแต่ก็ไม่มีตัวอย่างให้ดู ต้องสั่งเลยและรอของเข้ามา ซึ่งผมไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อนก็เลยไม่แน่ใจว่าสีไหนดี ขนาดจะเอาขนาดไหนดี ก็เลยพับโครงการไปใช้ของเดิมต่อไป
ปี 2561 พอดีมีโอกาสได้ไปสิงคโปร์ก่อนไปเลยลองหาดูก่อนไปว่ามีที่ไหนขายบ้าง ก็ไปเจอว่ามีร้านที่ Singapura Plaza พอได้ดูของจริงหลายสีเทียบกันก็เลยตัดสินใจได้เลยจัด Peak Design Everyday Sling 10L สี Charcoal มาและเนื่องถ้าจำไม่ผิดราคาที่สิงคโปร์ไม่ต่างจากใน official website ที่อเมริกามากก็เลยจัด Peak Design Everyday Messenger 13L มาอีก 1 ใบ เพราะเหมือนว่าซื้อ 2 ใบจ่ายพอๆ กับซื้อที่ประเทศไทยได้แค่ใบเดียว
โดยหลังจากที่กลับมาผมก็ใช้กระเป๋าทั้ง 2 ใบปกติโดยใบ Everyday Messenger 13L ใช้ใส่เอกสารและโน๊ตบุ๊คไปทำงานทุกวัน และ Everyday Sling 10L ก็ใช้เสาร์-อาทิตย์ หรือไปเที่ยวต่างประเทศเพราะว่าใส่ของได้เยอะดีและกระเป๋าก็สามารถเสียบไว้กับกระเป๋าเดินทางเวลาลากกระเป๋าได้ด้วย โดยก็ได้ลงทะเบียนใน official website ของ Peak Design ตามที่เขาให้ใส่ข้อมูลและก็ไม่ได้สนใจจะเก็บใบเสร็จไว้เพื่อเคลมประกัน เนื่องจากอาจจะคิดว่าลงทะเบียนแล้วเลยไม่ต้องเก็บใบเสร็จ
โดยตัว Everyday Messenger 13L ใช้ไปประมาณ 2 ปี ก็พบปัญหาว่าสายหูกระเป๋าที่ไว้ล็อคสายสะพายไหล่เริ่มรุ่ย ผมก็ใช้ไปสักพักแล้วก็หยุดใช้เพราะว่ากลัวว่าสายจะขาดทำให้กระเป๋าตกพื้นแล้วโน๊ตบุ๊คพัง
ส่วน Everyday Sling 10L ก็ใช้ตามปกติจนประมาณตุลาคม 2564 ซิปเปิดช่องหลักตรงส่วนโค้งของกระเป๋าเริ่มรูดยากต้องจับดีๆ ถึงจะปิดได้แต่แล้วก็ไม่รอด สุดท้ายตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดที่รูดซิปหลุดออกมาจากซิปด้านล่าง
เกริ่นไปซะเยอะ ตอนนี้มาเข้าเรื่องการเคลมกันจริงๆ แล้วนะครับ หลังจากที่ซิปของ Everyday Sling 10L ได้ปลิดชีพตัวเองเรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่ผมชอบกระเป๋าใบนี้มากเพราะว่าใส่ของพี่ผมพกตอนไปเที่ยวได้หมด และก็สามารถเสียบกับกระเป๋าเดินทางได้ จึงได้ลองหาใน Google ดูว่ามีร้านที่รับเปลี่ยนซิปไหมแต่ก็ไม่เจอรีวิวเลย แต่ไปเจอกับ youtube ช่อง jayjarern พี่เขารีวิวการเคลมกระเป๋า Peak Design Everyday Sling 10L ซึ่งเป็นปัญหาที่ซิปเหมือนกับผมเลยและพี่เขาก็ได้พูดว่ากระเป๋ามันเป็น lifetime warranty และพี่เขาไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้แต่เขาซื้อกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยทางร้านเขาก็เลยลองส่งไปเคลมให้ ผลคือทาง Peak Design ได้ส่งใบใหม่รุ่นเดิม สีเดิมมาให้
ผมจึงได้เข้าไปในเว็ปของ Peak Design และไปตรง Lifetime Warranty ดูว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และก็เลยกดไปที่ BEGIN WARRANTY CLAIM โดยเมื่อกดแล้วก็จะมีการแสดงหน้าจอขึ้นมาประมาณว่าเขาได้รวบรวมคำถามของข้อมูลที่เขาต้องการมาให้แล้ว โดยจะใช้เวลาประมาณ 7 นาทีในการตอบ โดยให้เรากด Begin Warranty Claim อีกครั้ง
1 - ชื่อของเรา
2 - อีเมลเรา
3 - ให้เราเลือกว่าเราจะคืนสินค้า หรือสินค้าชำรุด หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายและจะเคลมแทนลูกค้า หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายและต้องการจะเคลมสินค้าหลายชิ้น สำหรับผมเลือกข้อ B
4 – ให้เลือกสินค้าที่เราต้องการเคลม
5 - ก็จะให้เราบอกรายละเอียดของสินค้ามากขึ้น โดยให้เรากด Continue ไปได้เลย
ต่อไปก็จะให้เราเลือกว่าสินค้าที่เรามีและจะเคลมคือตัวไหน สำหรับผมที่รีวิวนี้คือ Everyday Sling V1 10L
ถ้ามีหลายขนาดและหลายสีก็จะมีให้เลือกเพิ่มเติม ของผมเป็น 10L Charcoal
6 – ของผมถามว่ากระเป๋ามีปัญหาของสายสะพายมีการเลื่อนเองหรือไม่
สำหรับผมข้อนี้คือ ไม่
7 - ถามว่าชื้อจากที่ไหน
ผมเลือก Other
8 - เนื่องจากข้อ 7 ผมเลือกเป็นอื่นๆ ระบบจึงถามว่าซื้อจากร้านชื่ออะไร ซึ่งผมจำชื่อร้านไม่ได้ ผมบอกไปแต่ว่าซื้อที่ร้านใน Singapura Plaza
9 - ถามถึงเลขที่คำสั่งซื้อ
ซึ่งตอนนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด และก็ไม่แน่ใจเลยว่าเก็บใบเสร็จไว้ไหน หรือเก็บไว้หรือเปล่า และผมไม่ได้ซื้อแบบออน์ไลน์ผ่าน official website มันก็จะไม่มีอีเมลส่งมาจาก Peak Design แน่นอน ผมก็เลยลองหาดูใน web ของ peak design ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง และก็ไปเจอให้ log-in เข้าไปในระบบที่นี้ก็เริ่มระลึกชาติได้ว่าเคยลงทะเบียนไว้ พอเข้าไปในบัญชีได้ก็เจอข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ก็แต่มันก็ไม่มีเลขคำสั่งซื้อที่เขาต้องการอยู่ดี ผมเลยตอบไปว่าจำไม่ได้และไม่แน่ใจว่าเก็บใบเสร็จไว้หรือเปล่าแต่ได้ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ตอนที่ซื้อแล้ว
10 – ถามวันที่ซื้อ
ซึ่งผมก็ไปดูวันที่ที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ
11 – ให้ส่งรูปหลักฐานการซื้อให้ เช่นอีเมลยืนยันการสั่งซื้อ ใบเสร็จ ซึ่งจะต้องให้มีชื่อเรา อีเมลเรา และที่อยู่ในการจัดส่งและรายละเอียดของสินค้าด้วย ซึ่งผมไม่มี ผมก็เลยเอารูป screenshot ที่ลงทะเบียนไว้แนบไปให้แทน ซึ่งในระบบก็จะมีแค่ว่าสินค้าอะไร ซื้อเมื่อไหร่ หมายเลขซีเรียลคืออะไร (ซึ่งที่หน้าจอไม่แสดงและก็กดไปดูไม่ได้ด้วย)
12 – ขอหมายเลขซีเรียลของสินค้า
ซึ่งครั้งแรกผมใส่ไปผิดเลข แต่เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องก็จะเมลมาขอเลขอีกครั้ง
13 – ให้เราเลือกคำอธิบายของสินค้าว่ามีปัญหาอะไร
สำหรับผมเลือกข้อ D ไป
14 – ให้เราอธิบายความเสียหายของสินค้าว่ามีปัญหาตรงไหน
ผมก็แจ้งไปว่าซิปมีปัญหาหลุดออกมา
15 – ให้เราอัพโหลดรูปหรือวีดีโอตรงที่สินค้ามีปัญหาไป
ซึ่งระบบให้แนบได้ 1 ไฟล์เท่านั้น และผมทำผ่านมือถือจึงไม่สะดวกที่จะ zip รูปจึงถ่ายเป็นวีดีโอส่งไป
พอจบคำถามข้อ 15 ระบบก็จะขอที่อยู่เราในกรณีที่เขาจะส่งสินค้าใหม่มา ให้เรากด Continue ไป
16 - ขอยืนยันชื่อเรา
ถ้าถูกแล้วให้กด Yes หรือถ้าไม่ใช่ก็ให้กด No ระบบจะแสดงหน้าจอมาให้แก้ไข
17 – ที่อยู่บรรทัดแรก
ให้เราใส่บ้านเลขที่ หมู่บ้าน ซอย หรือจะใส่ถึงแขวงหรือตำบลก็ได้ครับ แต่ข้อถัดไปก็จะมีถามที่อยู่อีก 1 บรรทัด
18 - ที่อยู่บรรทัดที่สอง
กรณีที่บรรทัดแรกไม่พอ หรือเราตัดข้อมูลแบ่งมาใส่บรรทัดที่ 2 ถ้าไม่มีก็ปล่อยว่างไป
19 – ถามว่าอยู่เมืองอะไร
ผมใส่แขวงไปครับ
20 – ถามจังหวัด
21 – ถามรหัสไปรษณีย์
22 – ถามประเทศ
23 – ถามเบอร์โทรศัพท์
24 - ถามว่าเรามีอะไรจะแจ้งเพิ่มเติมไหม ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่อะไรครับ แล้วก็กด Submit ได้เลยครับ
หลังจากที่กดส่งไปแล้วจะมีเมลแจ้งเราว่าได้รับเรื่องแล้วและจะติดต่อกลับเราในไม่ช้า กรณีของผมส่งเรื่องไปคืนวันเสาร์ โดยวันจันทร์มีเมลจาก Support Team ของ Peak Design กลับมาว่าขอหมายเลขซีเรียลของสินค้าเนื่องจากผมใส่ไปไม่ถูก หลังจากที่ผมตอบกลับไปทาง Support Team ก็แจ้งกลับมาว่ากระเป๋า Everyday Sling V1 10L ไม่ได้ผลิตแล้วผมสะดวกที่จะรับใบแทนเป็น Everyday Sling V2 10L แทนได้ไหม โดยมีสีให้เลือก 2 สี ผมเลยยืนยันไปว่าได้และก็เลือกสีที่ต้องการไป
หลังจากนั้นอีก 4 วันผมก็เลยส่งเคลม Everyday Messenger 13L อีกใบ ซึ่งส่งเรื่องไปวันพฤหัส และวันศุกร์ก็ได้รับการยืนยันการเคลมเรียบร้อย โดย Everyday Messenger 13L รุ่น 1 ไม่มีการผลิตแล้วอีกเช่นกันเลยได้รับเป็น Everyday Messenger 13L รุ่น 2 มาแทนเช่นกัน
นอกเหนือจากที่ผมชอบในการออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานของ Peak Design แล้ว การที่ได้มีโอกาสเคลมสินค้าในครั้งนี้ก็ประทับใจในคำสัญญาและบริการมาก เนื่องจากเอกสารบางอย่างผมไม่มีหลักฐานตามที่เขาต้องการซึ่งเขาสามารถที่จะปฎิเสธการเคลมก็ได้แต่ทาง Peak Design ก็ยังให้เคลมสินค้าและดำเนินการให้อย่างรวดเร็วเกินกว่าความคาดหวังมาก แต่อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าจุดที่เสียหายของกระเป๋าทั้ง 2 ใบที่ผมเคลมทาง Peak Design ทราบถึงข้อบกพร่องของตัวผลิตภัณฑ์นั้นอยู่แล้ว จากที่ผมได้ลองค้นหาดูก็พบว่าจัดที่กระเป๋าผมเสียหายทั้ง 2 ใบก็มีหลายคนเป็นเหมือนกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามผมก็ถือว่า Peak Design มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าสูงมาก
และหลังจากที่เคลมใบแรกไปครบ 14 วันกระเป๋าใบแรกก็ได้ส่งมาถือบ้านเรียบร้อยแล้ว และอีก 4 วันถัดมากระเป๋าใบที่ 2 ก็ตามมา โดยระยะเวลาในการเคลมใบที่ 2 ใช้เวลา 12 วัน
จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสเคลมกระเป๋า Peak Design ในครั้งนี้รู้สึกประทับใจมากครับ การเคลมไม่ยุ่งยากและสินค้าที่ทดแทนก็จัดส่งมาก็ใช้เวลาไม่ได้นานมาก ส่วนกระเป๋าเดิมที่ชำรุดก็ไม่ได้ต้องส่งคืนแต่อย่างใด
ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านครับ หากมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามผมเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้เลยครับ ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้