แนะนำซีรีส์แนวผีอินเดีย เรื่องพิมพ์ดีดอาถรรพ์.....หลังจากประสบความสำเร็จมาจากซีรีส์อินเดียแนว Horror เรื่อง Betaal ที่เป็นซีรีส์อินเดียแนวผีซอมบี้ที่มีเนื้อหาซับซ้อนและระทึกขวัญสั่นประสาท
ระดับฮอลิวูด Netflix ได้นำซีรีส์อินเดียแนวผีเรื่องใหม่มาออกฉายซึ่งดูแล้วสนุกชวนติดตามไม่แพ้กันแต่ Typewriter จะเป็นซีรีส์แนวสยองขวัญผสมแนวดราม่ามีเรื่องราวความน่ากลัวและปมที่ค่อยๆคลายอย่างช้าๆเลยอยากลองชวนแฟนหนังอินเดียไปหาเรื่องดีมาดู
Typewriter เครื่องพิมพ์ดีด
สปอย....เรื่องเปิดฉากมาในสมัยคุณแม่ยังสาวหรือปี80 ในเมืองบาร์เดซ ทางภาคใต้ของอินเดียที่เคยเป็นเขตปกครองของโปรตุเกสทำให้ชุมชนใน
ระแวกนั้นได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมลูกผสมกลิ่นอายแบบยุคโคโรเนียล-อินเดียใต้ผสมผสานมาอย่างลงตัว ผู้คนในพื้นที่บริเวณนั้นมีทั้งชาวอินเดียที่นับถือคาธอลิกและใช้นามสกุลแบบโปรตุเกสปะปนอยู่กับชาวอินเดียฮินดูและมุสลิม ณ.วิลล่าทรงยุโรปที่มีชื่อว่า บาร์เดซวิลล่า.....
มาธัพ แม็ทธิว นักเขียนนวนิยายแนวโกธิคมาส่งหลานเจนนี่หลานสาววัย7ขวบเข้านอน....เจนนี่ได้บอกกับมาธัพคุณตาของเธอว่าเธอกลัวผีในคฤหาสน์หลังนี้ซึ่งตาของเธอก็ปลอบหลานสาวว่าผีไม่มีจริงแต่หลานสาวก็ยังไม่หายกลัว เธอได้บอกกับคุณตาต่อไปว่าเธอรู้สึกได้ว่ามีผีอยู่ที่ใต้เตียงของเธอ......ซึ่งมาธัพก็ก้มหน้าลงไปดูที่ใต้เตียงนอนของหลานสาวก็พบว่าที่ใต้เตียงนั้นมีเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งหน้าตาเหมือนเจนนี่หลานสาวของเขาทุกประการรวมทั้งสวมชุดกระโปรงนอนสไตล์วิคตอเรียสีขาวเหมือนกันด้วย และเธอที่อยู่ใต้เตียงก็บอกกับตาของเธอว่า
บนเตียงนอนของเธอมีผีนอนอยู่.....ชายชราเห็นดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองที่เตียงอีกครั้งก็พบหลานสาวที่หน้าตาเหมือนกันอีกคนนอนอยู่บนเตียงหลังจากนั้นเขาก็เกิดอาการช็อคจนสุดขีดและภาพก็ตัดมาเป็นยุคปัจจุบัน
เท้าความเดิมถึงประวัติของมาธัพ แมทธิวในยุค80นั้นเขาเคยอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บาเดซกับลูกสาวที่เป็นแม่หม้ายชื่อแครอลกับหลานสาววัย8ขวบชื่อ เจนนี่และพี่เลี้ยงของเจนนี่ที่ชื่อซาร่าห์..... มาธัพประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเขียนนิยายแนวโกธิคเรื่องสุดท้ายที่มีชื่อว่า
"ผีแห่งสุลต่านปุระ" ซึ่งชาวเมืองต่างกล่าวว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายอาถรรพ์ที่มาธัพได้แรงบันดาลมาจากบทสำภาษณ์ชีวประวัติของ ฟาร์กี้ ฆาตรกรญาณทิพย์ชื่อดังในยุค50ผู้มีนัยตาขวาเป็นสีฟ้า ซึ่งมีความสามารถในการใช้ญาณทิพย์ฆ่าคน....
ฟาร์กี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตนให้มาธัพฟังเป็นเวลา1สัปดาห์ในคุกก่อนการถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ หลังจากนิยายเรื่องสุดท้ายที่มาธัพแต่งซึ่งเป็นเรื่องราวของฟาร์กี้ก็เกิดเหตุการณ์อาถรรพ์ตามมามากมายเช่นลูกสาวของมาธัพได้กระโดดหน้าต่างฆ่าตัวตายที่คฤหาสน์ ส่วนตัวมาธัพก็หัวใจล้มเหลวตายในเวลาต่อมาหลังจากโดนผีเด็กผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับหลานสาวของเขาทุกอย่างหลอกหลอน
ในขณะที่ซาร่าห์พี่เลี้ยงของเจนนี่หลานสาวของมาธัพได้หายสาบสูญไป
เรื่องราวตัดกลับมาในยุคปัจจุบันณ.โรงเรียนคอนแวนซ์ใน
เมืองบาเดซ ซาเมียร่า อนันต์ สาวน้อยผมเปียคู่นิสัยแก่นแก้วลูกสาวของสารวัตร ระวี อนันต์ หนุ่มพ่อหม้าย (พระเอกของเรื่อง) และเพื่อนชื่อ เทพรัช และสัตยาจิตเพื่อนร่วมแก็งค์นักเรียนวัย12ขวบผู้ชื่นชอบเรื่องแนวลึกลับสยองขวัญได้ตั้งชมรมล่าผี เด็กทั้ง3คนต่างเป็นแฟนคลับนวนิยายโบราณเรื่องดัง "ผีแห่งสุลต่านปุระ" ซึ่งแต่งโดย
มาธัพ แมทธิว นักเขียนยุคก่อนผู้ล่วงลับไปอย่างปริศนา
มาธัพนั้นมีคฤหาสน์โบราณที่ชื่อ บาเดซวิลล่าอยู่ห่างไกลชุมชนเข้าไปบนเนินเขาซึ่งชาวบ้านรุ่นก่อนๆต่างเล่าลือกันว่ามีอาถรรพ์ทำให้พวกแก็งค์ล่าผีทั้งสาม
ซาเมียร่า, สัตยาจิต, เทพรัช และสุนัขชื่อบัดดี้มักจะแวะเวียนไปหาสถานที่ลึกลับเพื่อล่าผี หนึ่งในนั้นคือเรือบ้านโบราณที่ผูกติดอยู่ริมคลองใกล้สะพานซึ่งเป็นของโมเสสชายชราที่มีขาหนึ่งข้างพิการซึ่งมีประวัติลึกลับถึงเหตุที่ทำให้เขาเสียขาหนึ่งข้างไป
ภายในเรือบ้านของโมเสสนั้นเต็มไปด้วยของโบราณมากมายที่บรรดาแก็งค์ล่าผีสนใจเข้าไปดูเล่นทำให้ถูกโมเสสจับได้และไล่ออกไปทุกครั้ง .....อีกสถานที่ที่แก็งค์นักเรียนล่าผีชอบแวะเวียนไปคือคฤหาสน์บาเดซซของมาธัพ แมทธิว ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งบรรดาคนในระแวก
เมืองบาเดซต่างเกรงกลัวไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเรื่องเล่าที่คนเฒ่าคนแก่ล่ำลือว่ามีเหตุปริศนาการตายโหงโหงของคนในบ้าน แต่พวกเด็กๆชมรมล่าผีก็เข้าไปเล่นสนุกบริเวณป่าหน้าคฤหาสน์หลังนั่นเพื่อพิสูจน์หาความจริง
แต่ในเวลาต่อมาพวกเขาก็เข้าไปล่าผีไม่ได้อีกเพราะจู่ๆก็ได้มีครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่งย้ายเข้ามาอยู่ใน
บาเดซวิลล่า.... ครอบครัวนี้มีสมาชิกในบ้านด้วยกัน4คนได้แก่ ปีเตอร์ เฟอร์นานเดซผู้เป็นสามีซึ่งทำงานในบริษัทใหญ่ และภรรยา เจนนี่ เฟอร์นานเดซ และลูก2คนคือ อัญญา เฟอร์นานเดซ ลูกสาวคนโตวัยรุ่นซึ่งหน้าตาสวยหวานจนบรรดาเด็กผู้ชายในร.ร คอนแวนซ์ต่างหลงรักเธอและ นิคิล เฟอร์นานเดซ ลูกชายคนเล็กวัยรุ่นเดียวกับพวกเด็กๆแก็งค์ล่าผี.....
ในวันแรกที่ย้ายเข้ามาในคฤหาสน์โบราณเจนนี่ได้จ้างให้คนงานมาขนเอาของเก่าในคฤหาสน์ออกไปทิ้งเสียแต่อัญญ่าลูกสาวคนโตวัยรุ่นของเธอได้บังเอิญไปเจอเครื่องพิมพ์ดีดแอนติกที่มีลวดลายโบราณแปลกตาเข้าที่ห้องใต้หลังคาเธอจึงเห็นว่าสวยดีจริงขอแม่เธอว่าอย่าทิ้งควรจะเก็บไว้ซึ่งแม่ก็ตอบตกลง
ในเวลาต่อมาก็มีข่าวว่าชายที่เจนนี่จ้างมาขนของเก่าในวิลล่าไปทิ้งเสียชีวิตอย่างประหลาด หัวใจแห้งซีดเป็นสีขาวจนสารวัตรระวีต้องเข้ามารับผิดชอบคดีนี้
อัญญาและนิคิลต่างก็ได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนคอนแวนซ์ประจำเมืองบาเดซที่พวกแก็งค์ล่าผีเรียนอยู่ด้วย จนในที่สุด
ซาเมียร่าก็ได้ชักชวนนิคิลให้ร่วมชมรมล่าผีของเธอ
จริงๆแล้วน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเจนนี่
เฟอร์นานเดซผู้เป็นแม่ของอัญญ่าและ
นิคิลนั้นคือหลานสาวของนักเขียนนิยายสยองขวัญเจ้าของคฤหาสน์บาเดซวิลล่านั้นเอง และการกลับมาที่คฤหาสน์ในครั้งนี้ก็เพื่อจะสืบหาตัวซาร่าห์พี่เลี้ยงที่เธอรักดังแม่แท้ๆในวัยเด็กของเธอที่หายสาบสูญไป.....
ในขณะที่ปีเตอร์สามีของเจนนี่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเหินห่างกับภรรยา เขาเคยแอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับ
"อนิตา" นางแบบสาวสวยเซ็กซี่ทรงโตลูกครึ่งอังกฤษซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าของบริษัทที่ปีเตอร์เคยรับจ้างออกแบบอาคารให้ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อว่าที่ดินที่ปีเตอร์แนะนำให้เจ้านายซื้อจะทำเงินมหาศาลหลังจากนั้น.....
แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเพราะที่ดินกลับกลายเป็นพื้นที่ของหลวงที่ถูกขายมาอย่างผิดกฏหมายทำให้โครงการอาคารที่ปีเตอร์ออกแบบให้เจ้านายนั่นขายไม่ได้และทำให้เจ้านายติดหนี้ธนาคาร250ล้านโกฏิ ปีเตอร์จึงหนีมาภาคใต้และทำงานที่อื่นแทน....
แต่อนิตาตามหาเขาจนพบจึงแวะเวียนมาแบร็คเมลล์เอาเงินจากปีเตอร์ที่บริษัทอยู่บ่อยๆ
โดยเธอขู่จะเปิดโปงเรื่องที่ปีเตอร์มีอะไรกับเธอและฟ้องเรียกค่าเสียหาย......ปีเตอร์จึงต้องรวบรวมเงินเพื่อเอาไปคืน
อนิตาแต่เขาหาได้แค่24ล้านโกฏิเท่านั้นหนำซ้ำอนิตายังขอเพิ่มอีก10ล้านโกฏิค่าปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เรื่องไปถึงหูเจนนี่ภรรยาของปีเตอร์เรื่องที่ปีเตอร์เคยมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเธอ
เจนนี่เห็นทั้งสองนั่งรถไปด้วยกันแต่เมื่อเธอถามปีเตอร์เขาก็มักจะอารมย์เสียใส่เธอและบอกว่าอนิตาเป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่งของบริษัทที่เขาแค่ขับรถมาส่งเท่านั้น ซึ่งเจนนี่ก็เชื่อตามที่สามีบอกเสมอเพราะกลัวเขาโกรธ.....ในขณะเดียวกันเจนนี่ได้แวะไปยังสถานีตำรวจและขอร้องให้สารวัตร ระวี อนันต์ พ่อของซาเมียร่าช่วยสืบหาตัวพี่เลี้ยงในวัยเด็กของเธอผู้หายสาบสูญไป.....ซึ่งการได้คุยกันในครั้งนั้นนำมาซึ่งมิตรภาพระหว่างเพื่อนของเจนนี่และสารวัตรระวีผู้ซึ่งเป็นพ่อหม้ายที่ภรรยาเสียไปหลายปี
ในระหว่างนั้นเองที่สารวัตรระวีได้ไปสืบหาเรื่องราวจากคนมีอายุในชุมชนเกี่ยวกับประวัติคฤหาสน์บาเดซและได้พบกับ เจมส์ อัลไมด้า ชายชราเจ้าของผับท้องถิ่นสไตล์ละตินในเมืองนี้ซึ่งได้เล่าให้สารวัตรระวีและนายตำรวจที่ไปดื่มเหล้าด้วยกันฟังว่าเมื่อสมัยที่เขายังเป็นหนุ่มเขาเคยทำงานเป็นคนสวนที่คฤหาสน์บาเดซและมักจะเห็นอะไรแปลกๆที่คฤหาสน์แห่งนั้น
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ครอบครัวของเจนนี่ย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์บาเดซ ร.ร
คาธอลิกที่บรรดาแก็งค์ล่าผีเรียนอยู่ก็ได้รับอาจารย์สอนคณิตศาสตร์คนใหม่ที่มีท่าทางใจดีแต่แอบซ่อนความลึกลับเอาไว้เข้ามา ซึ่งอาจารย์คนนี้มีชื่อว่า อมิต รอย ผู้ซึ่งกุมความลับทั้งหมดของคฤหาสน์บาเดซไว้
ส่วนเจนนี่หลังจากย้ายเข้ามาคฤหาสน์
บาเดซบ้านของคุณตาของเธอพร้อมสามีและลูก เจนนี่ได้ประกาศขอรับสมัครแม่บ้านมาทำงานบ้านแบบไปเช้าเย็นกลับซึ่งก็มีสาวใหญ่ชาวอินเดียใต้นับถือ
คาธอลิกนามว่า มาเรีย โลเปซ มา
สมัครงานแม้มาเรียจะพูดได้แค่ภาษาใต้และฟังภาษากลางไม่กระดิกหูแต่เจนนี่ก็รับเธอเข้าทำงานบ้าน.....
หลังจากมาทำได้ไม่กี่วัน อยู่มาวันหนึ่ง
มาเรียก็ได้ยินเสียงเครื่องพิมพ์ดีดโบราณดังขึ้นมาจากห้องเขียนหนังสือและพบว่าเจนนี่กำลังนั่งใช้พิมพ์ดีดอยู่ หลัง
จากมาเรียสัมผัสได้ถึงกิริยาอาการแปลกๆของเจนนี่ที่ดูหลอนๆในขณะพิมพ์ดีด ใครบางคนก็มากกดกริ่งหน้าบ้านเธอจึงลงไปดูและพบเจนนี่อีกคนที่หน้าบ้านทำให้มาเรียตกใจกลัวมากและวิ่งออกจากบ้านไปโดยที่เจนนี่ไม่เข้าใจภาษาใต้ที่มาเรียพูดในขณะที่มาเรียชี้นิ้วไปยังชั้นบนของบ้าน
มาเรียวิ่งหนีลงเขาเพื่อจะไปยังโบสถ์ที่เห็นอยู่แต่ไกลแต่ก็ไปไม่ทัน เธอถูกตามไล่ล่าโดยผีที่มีรูปร่างหน้าตาและสวมชุดเดียวกับเจนนี่จนในที่สุดมาเรียก็ช็อคตาย
ข่าวการตายของมาเรียนั้นดังมาจากขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เพราะสภาพศพนั้นตายอย่างมีพิศดารมีเลือดไหลออกจากตาทั้งสองข้างและปาก รวมทั้งเมื่อหมอชันสูตก็พบว่าหัวใจของมาเรียนั้นเป็นสีซีดขาวแห้งอย่างน่าประหลาดเช่นเดียวกับคดีคนขนของที่คฤหาสน์บาเดซ จนเป็นเหตุให้สารวัตรระวีต้องออกสืบคดีเรื่องนี้
ฝ่ายเจนนี่เมื่อได้ข่าวมาเรียก็เสียใจเป็นอันมากเธอได้ไปร่วมงานศพของมาเรียที่โบสถ์ซึ่งในระหว่างนั้นเองที่ได้พบกับชายชรา เจมส์ เฟอร์นานเดซ อดีตคนสวนของคุณตาของเธอที่คฤหาสน์เมื่อสมัยก่อนได้บอกกับเจนนี่ว่าเขามีเรื่องสำคัญจะบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความลับของ
คฤหาสน์บาเดซซึ่งจะมาพบเธอที่ทางเดินลงเขาหน้าโบสถ์หลังพิธีศพมาเรีย
ซึ่งเจนนี่ก็มาตามนัด เจมส์ได้บอกกับเจนนี่ว่าดวงจิตของฆาตกรญาณทิพย์ ฟาร์กี้ นั้นสิงค์สถิตอยู่ในของบางสิ่งบางอย่างใน
คฤหาสน์บาเดซและเจนนี่จะต้องเอาของเก่าเหล่านั้นออกไปจากบ้านเสีย....ระหว่างนั้นเองที่ซาเมียร่าแอบดูการสนทนาของคนทั้งสองอยู่ที่หลังต้นไม้......
แต่เจนนี่ที่เจมสฺ์กำลังสนทนาอยู่ด้วยนั้นหาใช่เจนนี่ไม่ หากแต่เป็นปีศาจในคฤหาสน์ที่หน้าตาเหมือนเจนนี่ทุกประการ ปีศาจที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเจนนี่นั้นได้ใช้พลังจิตในการทำให้เจมส์หัวใจวายตายเช่นเดียวกับที่เคยทำกับมาเรีย คนขนของ และ
มาธัพคุณตาของเจนนี่ในวัยเด็กนั้นเอง
ซาเมียร่าเห็นเหตุการณ์การฆาตกรรมทุกอย่างและเข้าใจว่าเจนนี่นั้นเป็นปีศาจจริงๆ เธอรีบวิ่งขึ้นไปยังโบสถ์ในพิธีงานศพของมาเรียและก็ต้องตกใจมากยิ่งขึ้นที่พบเจนนี่อีกคนที่กำลังนั่งฟังบาทหลวงเทศน์อยู่ในโบสถ์
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซาเมียร่าเห็นทำให้เธอย้อนนึกถึงเรื่องราวในนิยาย
"ผีแห่งสุลต่านปุระ" ซึ่งมาจากชีวประวัติของฆาตกรญาณทิพย์ฟาร์กี้
แนะนำ (สปอย) ซีรีส์อินเดียแนวผี เรื่องเครื่องพิมพ์ดีดอาถรรพ์ ความมันระดับฮอลิวูดด์
แนะนำซีรีส์แนวผีอินเดีย เรื่องพิมพ์ดีดอาถรรพ์.....หลังจากประสบความสำเร็จมาจากซีรีส์อินเดียแนว Horror เรื่อง Betaal ที่เป็นซีรีส์อินเดียแนวผีซอมบี้ที่มีเนื้อหาซับซ้อนและระทึกขวัญสั่นประสาท
ระดับฮอลิวูด Netflix ได้นำซีรีส์อินเดียแนวผีเรื่องใหม่มาออกฉายซึ่งดูแล้วสนุกชวนติดตามไม่แพ้กันแต่ Typewriter จะเป็นซีรีส์แนวสยองขวัญผสมแนวดราม่ามีเรื่องราวความน่ากลัวและปมที่ค่อยๆคลายอย่างช้าๆเลยอยากลองชวนแฟนหนังอินเดียไปหาเรื่องดีมาดู
Typewriter เครื่องพิมพ์ดีด
สปอย....เรื่องเปิดฉากมาในสมัยคุณแม่ยังสาวหรือปี80 ในเมืองบาร์เดซ ทางภาคใต้ของอินเดียที่เคยเป็นเขตปกครองของโปรตุเกสทำให้ชุมชนใน
ระแวกนั้นได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมลูกผสมกลิ่นอายแบบยุคโคโรเนียล-อินเดียใต้ผสมผสานมาอย่างลงตัว ผู้คนในพื้นที่บริเวณนั้นมีทั้งชาวอินเดียที่นับถือคาธอลิกและใช้นามสกุลแบบโปรตุเกสปะปนอยู่กับชาวอินเดียฮินดูและมุสลิม ณ.วิลล่าทรงยุโรปที่มีชื่อว่า บาร์เดซวิลล่า.....
มาธัพ แม็ทธิว นักเขียนนวนิยายแนวโกธิคมาส่งหลานเจนนี่หลานสาววัย7ขวบเข้านอน....เจนนี่ได้บอกกับมาธัพคุณตาของเธอว่าเธอกลัวผีในคฤหาสน์หลังนี้ซึ่งตาของเธอก็ปลอบหลานสาวว่าผีไม่มีจริงแต่หลานสาวก็ยังไม่หายกลัว เธอได้บอกกับคุณตาต่อไปว่าเธอรู้สึกได้ว่ามีผีอยู่ที่ใต้เตียงของเธอ......ซึ่งมาธัพก็ก้มหน้าลงไปดูที่ใต้เตียงนอนของหลานสาวก็พบว่าที่ใต้เตียงนั้นมีเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งหน้าตาเหมือนเจนนี่หลานสาวของเขาทุกประการรวมทั้งสวมชุดกระโปรงนอนสไตล์วิคตอเรียสีขาวเหมือนกันด้วย และเธอที่อยู่ใต้เตียงก็บอกกับตาของเธอว่า
บนเตียงนอนของเธอมีผีนอนอยู่.....ชายชราเห็นดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองที่เตียงอีกครั้งก็พบหลานสาวที่หน้าตาเหมือนกันอีกคนนอนอยู่บนเตียงหลังจากนั้นเขาก็เกิดอาการช็อคจนสุดขีดและภาพก็ตัดมาเป็นยุคปัจจุบัน
เท้าความเดิมถึงประวัติของมาธัพ แมทธิวในยุค80นั้นเขาเคยอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บาเดซกับลูกสาวที่เป็นแม่หม้ายชื่อแครอลกับหลานสาววัย8ขวบชื่อ เจนนี่และพี่เลี้ยงของเจนนี่ที่ชื่อซาร่าห์..... มาธัพประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเขียนนิยายแนวโกธิคเรื่องสุดท้ายที่มีชื่อว่า
"ผีแห่งสุลต่านปุระ" ซึ่งชาวเมืองต่างกล่าวว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายอาถรรพ์ที่มาธัพได้แรงบันดาลมาจากบทสำภาษณ์ชีวประวัติของ ฟาร์กี้ ฆาตรกรญาณทิพย์ชื่อดังในยุค50ผู้มีนัยตาขวาเป็นสีฟ้า ซึ่งมีความสามารถในการใช้ญาณทิพย์ฆ่าคน....
ฟาร์กี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตนให้มาธัพฟังเป็นเวลา1สัปดาห์ในคุกก่อนการถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ หลังจากนิยายเรื่องสุดท้ายที่มาธัพแต่งซึ่งเป็นเรื่องราวของฟาร์กี้ก็เกิดเหตุการณ์อาถรรพ์ตามมามากมายเช่นลูกสาวของมาธัพได้กระโดดหน้าต่างฆ่าตัวตายที่คฤหาสน์ ส่วนตัวมาธัพก็หัวใจล้มเหลวตายในเวลาต่อมาหลังจากโดนผีเด็กผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับหลานสาวของเขาทุกอย่างหลอกหลอน
ในขณะที่ซาร่าห์พี่เลี้ยงของเจนนี่หลานสาวของมาธัพได้หายสาบสูญไป
เรื่องราวตัดกลับมาในยุคปัจจุบันณ.โรงเรียนคอนแวนซ์ใน
เมืองบาเดซ ซาเมียร่า อนันต์ สาวน้อยผมเปียคู่นิสัยแก่นแก้วลูกสาวของสารวัตร ระวี อนันต์ หนุ่มพ่อหม้าย (พระเอกของเรื่อง) และเพื่อนชื่อ เทพรัช และสัตยาจิตเพื่อนร่วมแก็งค์นักเรียนวัย12ขวบผู้ชื่นชอบเรื่องแนวลึกลับสยองขวัญได้ตั้งชมรมล่าผี เด็กทั้ง3คนต่างเป็นแฟนคลับนวนิยายโบราณเรื่องดัง "ผีแห่งสุลต่านปุระ" ซึ่งแต่งโดย
มาธัพ แมทธิว นักเขียนยุคก่อนผู้ล่วงลับไปอย่างปริศนา
มาธัพนั้นมีคฤหาสน์โบราณที่ชื่อ บาเดซวิลล่าอยู่ห่างไกลชุมชนเข้าไปบนเนินเขาซึ่งชาวบ้านรุ่นก่อนๆต่างเล่าลือกันว่ามีอาถรรพ์ทำให้พวกแก็งค์ล่าผีทั้งสาม
ซาเมียร่า, สัตยาจิต, เทพรัช และสุนัขชื่อบัดดี้มักจะแวะเวียนไปหาสถานที่ลึกลับเพื่อล่าผี หนึ่งในนั้นคือเรือบ้านโบราณที่ผูกติดอยู่ริมคลองใกล้สะพานซึ่งเป็นของโมเสสชายชราที่มีขาหนึ่งข้างพิการซึ่งมีประวัติลึกลับถึงเหตุที่ทำให้เขาเสียขาหนึ่งข้างไป
ภายในเรือบ้านของโมเสสนั้นเต็มไปด้วยของโบราณมากมายที่บรรดาแก็งค์ล่าผีสนใจเข้าไปดูเล่นทำให้ถูกโมเสสจับได้และไล่ออกไปทุกครั้ง .....อีกสถานที่ที่แก็งค์นักเรียนล่าผีชอบแวะเวียนไปคือคฤหาสน์บาเดซซของมาธัพ แมทธิว ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งบรรดาคนในระแวก
เมืองบาเดซต่างเกรงกลัวไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเรื่องเล่าที่คนเฒ่าคนแก่ล่ำลือว่ามีเหตุปริศนาการตายโหงโหงของคนในบ้าน แต่พวกเด็กๆชมรมล่าผีก็เข้าไปเล่นสนุกบริเวณป่าหน้าคฤหาสน์หลังนั่นเพื่อพิสูจน์หาความจริง
แต่ในเวลาต่อมาพวกเขาก็เข้าไปล่าผีไม่ได้อีกเพราะจู่ๆก็ได้มีครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่งย้ายเข้ามาอยู่ใน
บาเดซวิลล่า.... ครอบครัวนี้มีสมาชิกในบ้านด้วยกัน4คนได้แก่ ปีเตอร์ เฟอร์นานเดซผู้เป็นสามีซึ่งทำงานในบริษัทใหญ่ และภรรยา เจนนี่ เฟอร์นานเดซ และลูก2คนคือ อัญญา เฟอร์นานเดซ ลูกสาวคนโตวัยรุ่นซึ่งหน้าตาสวยหวานจนบรรดาเด็กผู้ชายในร.ร คอนแวนซ์ต่างหลงรักเธอและ นิคิล เฟอร์นานเดซ ลูกชายคนเล็กวัยรุ่นเดียวกับพวกเด็กๆแก็งค์ล่าผี.....
ในวันแรกที่ย้ายเข้ามาในคฤหาสน์โบราณเจนนี่ได้จ้างให้คนงานมาขนเอาของเก่าในคฤหาสน์ออกไปทิ้งเสียแต่อัญญ่าลูกสาวคนโตวัยรุ่นของเธอได้บังเอิญไปเจอเครื่องพิมพ์ดีดแอนติกที่มีลวดลายโบราณแปลกตาเข้าที่ห้องใต้หลังคาเธอจึงเห็นว่าสวยดีจริงขอแม่เธอว่าอย่าทิ้งควรจะเก็บไว้ซึ่งแม่ก็ตอบตกลง
ในเวลาต่อมาก็มีข่าวว่าชายที่เจนนี่จ้างมาขนของเก่าในวิลล่าไปทิ้งเสียชีวิตอย่างประหลาด หัวใจแห้งซีดเป็นสีขาวจนสารวัตรระวีต้องเข้ามารับผิดชอบคดีนี้
อัญญาและนิคิลต่างก็ได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนคอนแวนซ์ประจำเมืองบาเดซที่พวกแก็งค์ล่าผีเรียนอยู่ด้วย จนในที่สุด
ซาเมียร่าก็ได้ชักชวนนิคิลให้ร่วมชมรมล่าผีของเธอ
จริงๆแล้วน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเจนนี่
เฟอร์นานเดซผู้เป็นแม่ของอัญญ่าและ
นิคิลนั้นคือหลานสาวของนักเขียนนิยายสยองขวัญเจ้าของคฤหาสน์บาเดซวิลล่านั้นเอง และการกลับมาที่คฤหาสน์ในครั้งนี้ก็เพื่อจะสืบหาตัวซาร่าห์พี่เลี้ยงที่เธอรักดังแม่แท้ๆในวัยเด็กของเธอที่หายสาบสูญไป.....
ในขณะที่ปีเตอร์สามีของเจนนี่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเหินห่างกับภรรยา เขาเคยแอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับ
"อนิตา" นางแบบสาวสวยเซ็กซี่ทรงโตลูกครึ่งอังกฤษซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าของบริษัทที่ปีเตอร์เคยรับจ้างออกแบบอาคารให้ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อว่าที่ดินที่ปีเตอร์แนะนำให้เจ้านายซื้อจะทำเงินมหาศาลหลังจากนั้น.....
แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเพราะที่ดินกลับกลายเป็นพื้นที่ของหลวงที่ถูกขายมาอย่างผิดกฏหมายทำให้โครงการอาคารที่ปีเตอร์ออกแบบให้เจ้านายนั่นขายไม่ได้และทำให้เจ้านายติดหนี้ธนาคาร250ล้านโกฏิ ปีเตอร์จึงหนีมาภาคใต้และทำงานที่อื่นแทน....
แต่อนิตาตามหาเขาจนพบจึงแวะเวียนมาแบร็คเมลล์เอาเงินจากปีเตอร์ที่บริษัทอยู่บ่อยๆ
โดยเธอขู่จะเปิดโปงเรื่องที่ปีเตอร์มีอะไรกับเธอและฟ้องเรียกค่าเสียหาย......ปีเตอร์จึงต้องรวบรวมเงินเพื่อเอาไปคืน
อนิตาแต่เขาหาได้แค่24ล้านโกฏิเท่านั้นหนำซ้ำอนิตายังขอเพิ่มอีก10ล้านโกฏิค่าปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เรื่องไปถึงหูเจนนี่ภรรยาของปีเตอร์เรื่องที่ปีเตอร์เคยมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเธอ
เจนนี่เห็นทั้งสองนั่งรถไปด้วยกันแต่เมื่อเธอถามปีเตอร์เขาก็มักจะอารมย์เสียใส่เธอและบอกว่าอนิตาเป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่งของบริษัทที่เขาแค่ขับรถมาส่งเท่านั้น ซึ่งเจนนี่ก็เชื่อตามที่สามีบอกเสมอเพราะกลัวเขาโกรธ.....ในขณะเดียวกันเจนนี่ได้แวะไปยังสถานีตำรวจและขอร้องให้สารวัตร ระวี อนันต์ พ่อของซาเมียร่าช่วยสืบหาตัวพี่เลี้ยงในวัยเด็กของเธอผู้หายสาบสูญไป.....ซึ่งการได้คุยกันในครั้งนั้นนำมาซึ่งมิตรภาพระหว่างเพื่อนของเจนนี่และสารวัตรระวีผู้ซึ่งเป็นพ่อหม้ายที่ภรรยาเสียไปหลายปี
ในระหว่างนั้นเองที่สารวัตรระวีได้ไปสืบหาเรื่องราวจากคนมีอายุในชุมชนเกี่ยวกับประวัติคฤหาสน์บาเดซและได้พบกับ เจมส์ อัลไมด้า ชายชราเจ้าของผับท้องถิ่นสไตล์ละตินในเมืองนี้ซึ่งได้เล่าให้สารวัตรระวีและนายตำรวจที่ไปดื่มเหล้าด้วยกันฟังว่าเมื่อสมัยที่เขายังเป็นหนุ่มเขาเคยทำงานเป็นคนสวนที่คฤหาสน์บาเดซและมักจะเห็นอะไรแปลกๆที่คฤหาสน์แห่งนั้น
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ครอบครัวของเจนนี่ย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์บาเดซ ร.ร
คาธอลิกที่บรรดาแก็งค์ล่าผีเรียนอยู่ก็ได้รับอาจารย์สอนคณิตศาสตร์คนใหม่ที่มีท่าทางใจดีแต่แอบซ่อนความลึกลับเอาไว้เข้ามา ซึ่งอาจารย์คนนี้มีชื่อว่า อมิต รอย ผู้ซึ่งกุมความลับทั้งหมดของคฤหาสน์บาเดซไว้
ส่วนเจนนี่หลังจากย้ายเข้ามาคฤหาสน์
บาเดซบ้านของคุณตาของเธอพร้อมสามีและลูก เจนนี่ได้ประกาศขอรับสมัครแม่บ้านมาทำงานบ้านแบบไปเช้าเย็นกลับซึ่งก็มีสาวใหญ่ชาวอินเดียใต้นับถือ
คาธอลิกนามว่า มาเรีย โลเปซ มา
สมัครงานแม้มาเรียจะพูดได้แค่ภาษาใต้และฟังภาษากลางไม่กระดิกหูแต่เจนนี่ก็รับเธอเข้าทำงานบ้าน.....
หลังจากมาทำได้ไม่กี่วัน อยู่มาวันหนึ่ง
มาเรียก็ได้ยินเสียงเครื่องพิมพ์ดีดโบราณดังขึ้นมาจากห้องเขียนหนังสือและพบว่าเจนนี่กำลังนั่งใช้พิมพ์ดีดอยู่ หลัง
จากมาเรียสัมผัสได้ถึงกิริยาอาการแปลกๆของเจนนี่ที่ดูหลอนๆในขณะพิมพ์ดีด ใครบางคนก็มากกดกริ่งหน้าบ้านเธอจึงลงไปดูและพบเจนนี่อีกคนที่หน้าบ้านทำให้มาเรียตกใจกลัวมากและวิ่งออกจากบ้านไปโดยที่เจนนี่ไม่เข้าใจภาษาใต้ที่มาเรียพูดในขณะที่มาเรียชี้นิ้วไปยังชั้นบนของบ้าน
มาเรียวิ่งหนีลงเขาเพื่อจะไปยังโบสถ์ที่เห็นอยู่แต่ไกลแต่ก็ไปไม่ทัน เธอถูกตามไล่ล่าโดยผีที่มีรูปร่างหน้าตาและสวมชุดเดียวกับเจนนี่จนในที่สุดมาเรียก็ช็อคตาย
ข่าวการตายของมาเรียนั้นดังมาจากขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เพราะสภาพศพนั้นตายอย่างมีพิศดารมีเลือดไหลออกจากตาทั้งสองข้างและปาก รวมทั้งเมื่อหมอชันสูตก็พบว่าหัวใจของมาเรียนั้นเป็นสีซีดขาวแห้งอย่างน่าประหลาดเช่นเดียวกับคดีคนขนของที่คฤหาสน์บาเดซ จนเป็นเหตุให้สารวัตรระวีต้องออกสืบคดีเรื่องนี้
ฝ่ายเจนนี่เมื่อได้ข่าวมาเรียก็เสียใจเป็นอันมากเธอได้ไปร่วมงานศพของมาเรียที่โบสถ์ซึ่งในระหว่างนั้นเองที่ได้พบกับชายชรา เจมส์ เฟอร์นานเดซ อดีตคนสวนของคุณตาของเธอที่คฤหาสน์เมื่อสมัยก่อนได้บอกกับเจนนี่ว่าเขามีเรื่องสำคัญจะบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความลับของ
คฤหาสน์บาเดซซึ่งจะมาพบเธอที่ทางเดินลงเขาหน้าโบสถ์หลังพิธีศพมาเรีย
ซึ่งเจนนี่ก็มาตามนัด เจมส์ได้บอกกับเจนนี่ว่าดวงจิตของฆาตกรญาณทิพย์ ฟาร์กี้ นั้นสิงค์สถิตอยู่ในของบางสิ่งบางอย่างใน
คฤหาสน์บาเดซและเจนนี่จะต้องเอาของเก่าเหล่านั้นออกไปจากบ้านเสีย....ระหว่างนั้นเองที่ซาเมียร่าแอบดูการสนทนาของคนทั้งสองอยู่ที่หลังต้นไม้......
แต่เจนนี่ที่เจมสฺ์กำลังสนทนาอยู่ด้วยนั้นหาใช่เจนนี่ไม่ หากแต่เป็นปีศาจในคฤหาสน์ที่หน้าตาเหมือนเจนนี่ทุกประการ ปีศาจที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเจนนี่นั้นได้ใช้พลังจิตในการทำให้เจมส์หัวใจวายตายเช่นเดียวกับที่เคยทำกับมาเรีย คนขนของ และ
มาธัพคุณตาของเจนนี่ในวัยเด็กนั้นเอง
ซาเมียร่าเห็นเหตุการณ์การฆาตกรรมทุกอย่างและเข้าใจว่าเจนนี่นั้นเป็นปีศาจจริงๆ เธอรีบวิ่งขึ้นไปยังโบสถ์ในพิธีงานศพของมาเรียและก็ต้องตกใจมากยิ่งขึ้นที่พบเจนนี่อีกคนที่กำลังนั่งฟังบาทหลวงเทศน์อยู่ในโบสถ์
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซาเมียร่าเห็นทำให้เธอย้อนนึกถึงเรื่องราวในนิยาย
"ผีแห่งสุลต่านปุระ" ซึ่งมาจากชีวประวัติของฆาตกรญาณทิพย์ฟาร์กี้