เหล้าดองยา

กระทู้สนทนา
.

เหล้าดองยา
 
             เขาเคยชิมเหล้าดองยา..หรือยาดองเหล้า..มีมากมายหลายแห่ง แต่ไม่เคยติดใจเท่าร้านนี้

             คนที่รู้คุณค่า เข้าถึง หรืออะไรก็ตาม ที่เขาคิดว่าใช่ แต่บางทีมีบางอย่าง มากกว่านั้น

             เหล้าดองยา คือประเพณี เป็นวัฒนธรรม  ความเรียบง่าย อยู่บนพื้นฐานแห่งมิตรภาพ กันเอง และความคุ้นเคย ในราคาที่ไม่สร้างความแตกแยก เพียงเหล้าไม่กี่แก้ว มะยมดอง จิ้มเกลือ ไม่กี่ลูก ทุกคนจะกลายเป็นเพื่อนกัน  พูดคุยกันราวคุ้นเคยกันมาเป็นแรมปี  ไม่ค่อยมีวัยรุ่นมาวุ่นวาย เพราะเด็กรุ่นใหม่ หลายคนพูดดูถูกว่า เป็นสังคมคนแก่ แต่ไม่มีใครใส่ใจ เรื่องราวที่นำมาพูดคุยกันล้วนแล้วแต่เป็นตำนานที่เล่าขานกันสืบมา

             และในราคาที่เป็นกันเอง ไม่ทำร้ายจิตใจและเงินในกระเป๋า

             นารีรำพึง ช้างกระทืบโรง พญาพันรู นารีตกเตียง โด่ไม่รู้ล้ม เฒ่าปล้ำช้าง  น้องเมียสะอื้น เฒ่าโดดกำแพง สาวสะดุ้ง  สาวร้อยผัว ม้ากระทืบโรง  กำลังเสือโคร่ง  แต่ละชื่อล้วนมีที่มาที่ไป แม้จะฟังดูเกินไปหน่อยก็ตาม เพราะบางทีดื่มมากเกินไป จะกลายเป็นล้มไม่รู้โด่ นารีตกเตียง ก็จะกลายเป็น โดนเมียถีบตกเตียง ม้ากระทืบโรง ก็กลายเป็น เมียกระทืบ

             แต่...ความเชื่อก็คือความเชื่อ

             ตำนาน ก็คือตำนาน
 
             ร้านนี้..หมายถึงร้านซึ่งอยู่ระหว่างคูหาตึกแคบและซอยเก่าแก่ เปิดบริการเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น สินค้าอันดับหนึ่งของร้านหมายถึงยาดองเหล้ามากมายหลายชนิด เท่าที่จะจินตนาการและสรรหามาได้ งู ตะขาบ ตุ๊กแก  กระดูกเสือ ดีหมี  สมุนไพรชนิดต่างๆ บรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่ มีฝาครอบห่อผ้าแดงเรียงรายตามชั้นข้างผนังด้านใน ซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมของยาดองเหล้าไปแล้ว ตะเกียงน้ำมันก๊าด โต๊ะเก้าอี้สี่ห้าชุดกับผนังไม้เก่าๆ ปิดกั้นพรมแดนระหว่างร้านและโลกภายนอก

             ลูกค้า..

             หมายถึงคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากมายนัก และรู้หน้าที่ของตนเองดีว่าควรจะนั่งมุมไหน เลือกกับแกล้มอะไร ซึ่งกับแกล้มที่ว่าก็ไม่ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เป็นจำพวกมะขามเปียกจิ้มเกลือ มะยมดอง อะไรประมาณนี้ ตามด้วยน้ำต้มใบเตยหอมกรุ่นเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ทุกคนพูดจาทักทายกันด้วยเสียงเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายกันนั่งรับรู้สุนทรียรสแห่งเหล้าดองยา และจมอยู่กับความคิดของตนเองจวบจนเที่ยงคืน ทุกคนจะค่อยลุกเดินหายไปในความมืด บ้านใครบ้านมัน ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครชีวิตมัน

             คนขาย…

             หมายถึงชายชราผอมซูบอายุค่อนชีวิต กับใบหน้าไร้ความรู้สึกราวซากศพไร้ชีวิตชีวา แต่มือทั้งสองคล่องแคล่วรวดเร็วยามผสมเหล้าจากขวดโหลตามอัตราส่วนเร้นลับ แต่เป็นที่ถูกปากถูกใจของลูกค้า บางวันแกจะดูอารมณ์ดี จะตักเหล้าดองยามาละเลียดจิบช้า ๆ ละเมียด และดื่มด่ำ

             เขา…

             หมายถึงชายหนุ่มซึ่งดูเหมือนจะพลัดหลงเข้ามาโดยบังเอิญในคืนวันหนึ่งซึ่งเขาเดินทอดน่องรับลมกลางคืนเข้ามาในซอย  เพียงเพราะไม่อยากกลับให้ถึงบ้านเร็วกว่าปกติเท่านั้น ในคืนอันเบื่อหน่าย เขาชอบเหล้าดองยาเป็นพิเศษ รสมันอาจไม่นุ่มละเมียดละไมแบบเหล้าชั้นดี แต่มันให้ความรู้สึกคลาสสิกชนิดหนึ่ง รินลงถ้วยใบเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่า 'จอก' ยกขึ้นซด ตบท้ายด้วยน้ำใบเตยเย็น ๆ สักจิบ หรือของเปรี้ยวๆตามลงไป หูตาพลันสว่างไหว ก่อนจะกลับกลายเป็นพร่าเลือนในตอนหลัง ราคาก็ไม่แพงมากมาย แถมจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้ตามใจ จนกว่าจะถึงเที่ยงคืน

          บรรยากาศในร้านแห่งนี้เหมือนย้อนอดีตอย่างบอกไม่ถูก ซอยนี้ก็ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านพลุกพล่าน  ความเงียบสงบจึงยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนมีอายุและพูดน้อย 

             เขาเป็นขาประจำร้านนี้ไปแล้ว

             เลิกงานทุกคืนจะต้องแวะก่อนเสมอ ราวกับมีมนตร์มายามาสะกด เลือกนั่งใกล้กับหน้าต่าง และมองโลกภายนอกซึ่งเลื่อนไหลผ่านไปตามกาลเวลา  เขาเป็นนักชิมเหล้าดองยา ดูเหมือนสิ่งนี้เองทำให้คนขายเริ่มเปิดปากพูดคุยกับเขาบ้าง และมากขึ้นตามเวลา ถ้าคนขายและคนซื้อเข้าใจและรู้ในเรื่องเดียวกันมันก็ไม่ยากเกินไปนัก สำหรับการแงะปากอีกฝ่ายก่อนดอกพิกุลจะร่วง

             “บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องใช้ยาดองเหล้า….”

             นั่นเป็นคำอธิบายกึ่งสนทนาของชายชราในคืนวันหนึ่ง ซึ่งดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงลากเก้าอี้มานั่งดื่มนั่งคุยกับเขา ซึ่งไม่บ่อยครั้งมากนัก

             “นอกจากจะเป็นตัวทำละลายที่ดีแล้ว สิ่งเหนือกว่าคือสรรพคุณของมัน” ชายชราพูดอย่างอารมณ์ดี

             ชายหนุ่มยกเหล้าดองยาสูตรพิเศษขึ้นจิบ ยกแก้วน้ำเย็นดื่มอึกหนึ่ง แล้วตั้งใจฟังต่อไป อย่างน้อยก็เป็นการทำให้การสนทนามีบรรยากาศที่ดีและเป็นกันเองมากขึ้น

             “สรรพคุณของมันในการดึงเอาตัวยาและรสของยาออกมากลมกลืนกับเหล้า ดึงเอาจิตวิญญาณของคนที่ดื่มมันออกมา ดึงเอาความทุกข์ความสุขทั้งหลายทั้งปวงออกมา”

             “ขนาดนั้นเลยหรือครับ”   เขาถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนักกับความหมายของคำพูดเหล่านั้น แม้ว่าจะฟังดูแปลกดีก็ตาม

             ชายชราหัวเราะหึหึในลำคอ ยกจอกเหล้าดองยาซดทีเดียวหมดจอก ซึ่งคืนนี้ดูจะใช้จอกขนาดใหญ่พิเศษ

             “เหล้าดองยามีอะไรหลายอย่างที่เหล้าธรรมดาทำไม่ได้ ทั้งรสทั้งความหลากหลายมากมายของสูตรพิเศษ นับวันแต่จะมีคนรู้น้อยและรู้จริงน้อยลงทุกวัน อัตราส่วน สูตร ผิดเพี้ยนไปเพียงไม่กี่หยด ก็อาจทำให้รสของเหล้าสูญเสียไปได้”

             แกว่าต่อไป ขณะเดินไปเต็มเหล้าจนเต็มจอก

             “อย่างน้อยคนดื่มก็พอจะปลอบใจตัวเองได้ว่ากำลังดื่มยา นอกเหนือจากการดื่มเหล้า สำคัญคือมันเป็นเหล้าสำหรับคนคอถึงใจถึง ประเภทดื่มเบียร์สองสามกระป๋องแล้วคอพับ ไม่สมควรกับเหล้าดองยาที่นี่หรอก”

             พูดจบแกก็ซดหมดจอก แล้วรินเต็มจอกอีกครั้ง

             “ดูคุณลุงวันนี้ดื่มมากเป็นพิเศษนะครับ”    เขาตั้งข้อสังเกต 

             “วันนี้เป็นวันพิเศษ และมีความหมายสำหรับลุง...เลยต้องฉลองกันหน่อย”  แกอธิบายสั้น ๆ

             “วันเกิดเหรอครับ”   เขาคาดเดา ชายชราได้แต่ยิ้มไม่พูดว่าอะไร แต่เขากะว่าวันนี้จะอยู่ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนลุงแกสักหน่อย แล้วการดื่มการพูดคุยระหว่างลูกค้าและคนขายก็ดำเนินไปอย่างถูกปากถูกคอ 

             เขารู้ตัวว่าเมาเพราะผนังห้องห้องเริ่มหมุนนิดหน่อยแล้ว เหลือบมองนาฬิกาข้างฝายังพอดูรู้เรื่อง เลยเที่ยงคืนไปจนเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว มองดูรอบกายก็ไม่เหลือลูกค้าคนอื่นอีก
 
             “ผมขอตัวก่อนนะครับลุง ดึกมากแล้ว..”   ชายหนุ่มบอกขณะพยุงสังขารลุกขึ้น คืนนี้เมาหนักกว่าวันก่อน และเหล้าดองยาอร่อยเป็นพิเศษกว่าทุกคืน พรุ่งนี้คงมีปัญหากับการไปทำงานแน่นอน แต่ยังดีว่าเหล้าดองยาไม่ค่อยเมาค้างมากมายเหมือนเหล้าธรรมดา

             “รอก่อนสิ คืนนี้เป็นวันพิเศษ…”    คุณลุงเสียงอ้อแอ้ลิ้นคับปากเหมือนกัน แกเดินโซเซไปทางหลังร้าน อุ้มขวดโหลดองเหล้าขนาดใหญ่มาขวดหนึ่งแล้วบรรจงวางลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม

             “เหล้าดองยาที่เรากินวันนี้ยังเหลือตั้งเยอะ เพิ่งยุบไปหน่อยเดียวเอง ต้องลองนี้ สูตรเด็ดพิเศษสุดสำหรับวันมีความหมายพิเศษ”

             เขามองดูภายในขวดแล้วต้องตะลึงตาค้าง  สิ่งบรรจุอยู่ในขวดโหลขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เป็นศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งถูกตัดขาดแค่คอ กำลังเพยิบพะยาบอยู่ในน้ำเหล้าท่ามกลางชิ้นส่วนยาสมุนไพร ซึ่งกำลังสั่นไหวไปมาตามแรงสั่นสะเทือนของการเคลื่อนย้าย แสงตะเกียงสาดให้เห็นเศษเนื้อหนังรุ่งริ่งตามลำคอสั่นไหวไปมา ผิวหน้าซีดขาวจนน่ากลัวเพราะแช่เหล้าอยู่เป็นเวลานาน นัยน์ตาลืมโพลงเหมือนจะขยับมองไปมา และสุดท้ายจ้องนิ่งมายังเขา ริมฝีปากเหมือนจะขยับตามแรงกระเพื่อมของน้ำเหล้า จนคล้ายจะส่งยิ้มให้  

             ฝาขวดแทนที่จะเป็นผ้าสีแดงตามปกติ ดูแล้วเหมือนผ้าขาวลงยันต์ลงอักขระ

             เขารู้สึกสมองลั่นเปรี้ยะ พื้นห้องหมุนคว้างจมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ความหวาดกลัว ขยะแขยง  สยดสยอง ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงเกินกว่าจะรับได้ ก่อนสติจะดับวูบ ยังได้ยินเสียงของคุณลุงคนขายราวกับมาจากไกลแสนไกล

             “วันนี้วันครบรอบวันตายของภรรยาลุงเอง แต่นี่ล่ะคือความลับ และจุดเริ่มต้นของเหล้าดองยาสูตรพิเศษแสนอร่อยนี้ ถูกปากถูกใจดีไหมพ่อคุณ….”
 

ผีตานีผีตานีผีตานีผีตานีผีตานี
จบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่