*** 72 ปีศาจโซโลมอน ***

“ปีศาจแห่งโซโลมอน” เป็นการจัดหมวดปีศาจที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากชุดหนึ่งของโลก หากเพื่อนๆ ผู้อ่านครับ เคยอ่านการ์ตูนหรือเล่นเกมแล้วพบกับปีศาจหน้าตาน่ากลัว ที่มีชื่อประมาณ บาเอล, อัสโมเดียส, เบลิอัลหรืออะไรราวๆ นี้ ขอให้ทราบว่าพวกมันมีที่มาใกล้เคียงกัน

บทความนี้ ผมจะพาผู้อ่านไปรู้จักที่มาที่ไปของ “72 อสูร” ซึ่งเกี่ยวพันกับชายมากอิทธิฤทธิ์นาม “โซโลมอน” ซึ่งได้รับการบันทึกรายละเอียดให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้

ถ้าพร้อมแล้ว ไขกุญแจสู่โลกปีศาจพร้อมๆ กันได้เลย!


*** โซโลมอนเป็นใคร? ***

ตามประวัติศาสตร์ โซโลมอนผู้นี้ คือบุคคลสำคัญใน 3 ศาสนา ได้แก่ ยิว คริสต์ และอิสลาม ท่านเป็นมหาราชของอาณาจักรอิสราเอลโบราณผู้มีชื่อเสียงในความร่ำรวยและเฉลียวฉลาด ซึ่งมีชีวิตอยู่ราว 900 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเป็นลูกของกษัตริย์เดวิดผู้รวมชาติและก่อตั้งกรุงเยรูซาเลม ซึ่งเคยแสดงอภินิหาริย์ฆ่าศัตรูร้ายนามโกลิอัธด้วยหินก้อนเดียว

ครั้งหนึ่งความฉลาดของโซโลมอนเลื่องลือไปถึงหูสาวงามมากปัญญานามว่า พระนางแห่งชีบา ( "ชีบา" ในที่นี้เป็นชื่ออาณาจักร ไม่ปรากฏว่านางชื่อจริงชื่ออะไรกันแน่) นางจึงเดินทางมาท้าประลองปัญญาเพื่อพิสูจน์ความเก๋า ...แม้เรื่องราวแต่ละฉบับจะต่างกัน ทุกเวอร์ชั่นโซโลมอนก็ชนะหมด (บ้างก็ได้นางมาเป็นมเหสีด้วย) แสดงให้เห็นความเป็นหนึ่งในใต้หล้า


ภาพแนบ: โซโลมอนพิจารณาคดีแบ่งลูก 
 
นอกจากสมองโซโลมอนจะล้ำเลิศ ใจเขายังเปี่ยมคุณธรรม เห็นได้จากการตัดสินคดีครั้งหนึ่งซึ่งโด่งดังมาก นาม “คดีแบ่งลูก” หญิงสาวสองคนอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ทั้งคู่มีลูกเล็ก แล้วเด็กคนหนึ่งตาย สองแม่เลยแย่งลูกที่เหลือกัน ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเด็กที่ยังมีชีวิตเป็นของตน

กษัตรย์โซโลมอนพิจารณาดูแล้วก็ให้ตัดแบ่งเด็กคนละครึ่งเท่าๆ กันจะได้ไม่ต้องมีปัญหา พอได้ยินดังนั้น หญิงคนหนึ่งก็รีบกล่าวยกลูกให้กับอีกฝ่ายทันที พร้อมอ้อนวอนว่าอย่าทำอะไรเด็ก การกระทำนั้นได้พิสูจน์ว่าเธอเป็นแม่ตัวจริง เพราะยอมเสียสละความสุขส่วนตัวขอเพียงให้ลูกไม่เป็นอันตราย ด้วยการตัดสินความครั้งนี้เอง สร้างชื่อให้โซโลมอนไปทั่วทั้งอิสราเอล

(มีเรื่องเล่าคล้ายๆ กันนี้อยู่ใน มโหสถชาดก และเปาบุ้นจิ้น สามารถลองหาอ่านกันได้นะครับ)


ภาพแนบ: พินัยกรรมของโซโลมอนฉบับตีพิมพ์ใหม่ 
 
*** โซโลมอนกับปีศาจ ***

เนื่องจากโซโลมอนเป็นผู้มีปัญญามาก คนโบราณจึงเชื่อว่าเขามีอำนาจทางเวทมนต์และเป็นผู้ควบคุมปีศาจมากมาย
บันทึกแรกที่เล่าเรื่องโซโลมอนพบปีศาจ ได้แก่ “พินัยกรรมของโซโลมอน” (Testament of Solomon) เป็นหนังสือโบราณที่บอกว่าโซโลมอนเป็นคนบันทึกเอง (แม้นักวิชาการจะไม่พบหลักฐานตามนั้น แต่หนังสือเล่มนี้ก็น่าจะเก่าแก่หลายพันปี)


ภาพแนบ: ตราสามเหลี่ยมสองอันซ้อนกันเป็นรูปดาวที่ภายหลังกลายมาเป็นดาวเดวิด 

เรื่องมีอยู่ว่าปีศาจตนหนึ่งมารังแกคนของโซโลมอนโดยการขโมยเงินและสูบพลังชีวิต โซโลมอนจึงไปสวดอ้อนวอนให้พระเจ้าช่วย แล้วทันใดนั้น “อัครทูตสวรรค์ไมเคิล” ก็ปรากฏกายขึ้นมามอบแหวนวงหนึ่งที่มีตราสามเหลี่ยมสองอันซ้อนกันเป็นรูปดาวประทับไว้ (ภายหลังสัญลักษณ์นี้ก็กลายมาเป็นดาวเดวิดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวยิว)

แหวนนี้มีอานุภาพในการควบคุมปีศาจ แต่จะคุมได้ต้องประทับตราพวกมันเสียก่อน… ตรงการประทับตรานี่แหละครับที่น่าสนใจ เพราะต้องโยนแหวนใส่อสูรตนนั้นๆ หากโดนก็จะถือว่านั่นแหละคือการประทับ (ว่าไปก็คล้ายๆ กับการจับโปเกมอนมาเป็นพวก) ซึ่งโซโลมอนก็ได้อสูรมาไว้ในอาณัติหลายตน แต่การที่จะคุมปีศาจทั้งหลายได้นั้นต้องรักษาพรหมจรรย์ เมื่อโซโลมอนพบรักกับผู้หญิงคนหนึ่ง จึงยอมสละพรหมจรรย์ ปล่อยปีศาจทั้งหลายไป


ภาพแนบ: อาร์ส โกอีเชีย ฉบับตีพิมพ์ใหม่ 

หนึ่งในหนังสือที่โด่งดังที่สุดที่พูดถึงปีศาจของโซโลมอน มีนามว่า “กุญแจย่อยของโซโลมอน” (The Lesser Key of Solomon) หรือภาษาละตินว่า “เลเมเกตัน” (ย่อมาจาก Lemegeton Clavicula Salomonis แปลว่ากุญแจโซโลมอนนั่นเอง)

กุญแจย่อยนี้เป็นหนังสือเก่าแก่ ไม่ทราบผู้แต่ง ประกอบด้วยหนังสือ 5 เล่ม คือ อาร์ส โกอีเชีย (Ars Goetia), อาร์ส เธอร์เกีย-โกอีเชีย (Ars Theurgia-Goetia), อาร์ส ปอลินา (Ars Paulina), อาร์ส อัลมาเดล (Ars Almadel) และ อาร์ส โนโทเรีย (Ars Notoria) โดยเล่มที่ดังที่สุด และที่เราจะเล่าในบทความนี้ ก็คือ “อาร์ส โกอีเชีย”


ภาพแนบ: วงเวทสำหรับอัญเชิญปีศาจโซโลมอน 

อาร์ส โกอีเชีย คือหนังสือที่รวบรวมข้อมูลของปีศาจที่โซโลมอนเคยพบเจอพร้อมวิธีการอัญเชิญ อันได้แก่การวาดวงเวท ที่มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมอยู่ด้านนอกอีกชั้น (ตามภาพแนบ) โดยผู้อัญเชิญต้องเข้าไปยืนในวงเวท และถือสัญลักษณ์ประจำตัวปีศาจที่ต้องการอัญเชิญไว้ พร้อมกันนั้นก็ต้องนำสัญลักษณ์ดังกล่าวไปไว้ในสามเหลี่ยมด้านนอกด้วย เพราะเป็นที่ที่ปีศาจมักจะปรากฏตัวขึ้น

หากมีพลังมากพอ ก็จะสามารถอัญเชิญปีศาจโซโลมอนขึ้นมาได้สำเร็จ (ว่ากันว่าผู้อัญเชิญจะเห็นปีศาจตนนั้นตัวเป็นๆ กับตาของตัวเองเลยทีเดียว) ซึ่งปีศาจที่ว่ามีทั้งหมด 72 ตน ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้...


ปีศาจหมายเลข 1: บาอัล (Bael)

บาอัล หรือ บาเอล เป็นราชาองค์แรกของนรก และเจ้าแห่งปีศาจทั้งมวล คุมพลปีศาจ 66 กองพล บาอัลมีหลายร่าง บ้างก็โผล่มาเป็นคน บ้างเป็นคางคก บ้างก็เป็นแมว หรือบางทีก็โผล่มาแบบทุกอย่างที่ว่ามาผสมๆ กัน

บาอัลมักพูดด้วยเสียงแหบแห้ง ทว่ามั่นคง โดยความสามารถพิเศษของบาอัลคือการหายตัว และจะสอนความสามารถนี้ให้แก่ผู้อัญเชิญ 


ปีศาจหมายเลข 2: อกาเรส (Agares)

ผู้ปกครองนรกฝั่งตะวันออก อกาเรสเป็นคนแก่ผิวซีดขี่จระเข้ มีนกเหยี่ยวเกาะมือ เขาสามารถสั่งให้คนเคลื่อนไหวหรือหยุดได้ดั่งใจ ทั้งสามารถสร้างและทำลายชื่อเสียงของอะไรก็ได้
ทั้งนี้ อกาเรสยังสามารถบันดาลให้เกิดแผ่นดินไหว และสอนภาษาใหม่ๆ แก่คนอัญเชิญได้ 


ภาพแนบ: หลายครั้งศิลปินมีการตีความภาพวาสซาโกคล้ายกับอกาเรส แต่ในมือเป็นเหยี่ยวนกเขา 

ปีศาจหมายเลข 3: วาสซาโก (Vassago)

เจ้าชายนรก บ้างว่าเคยเป็นเทวดามาก่อน เขาคุมปีศาจ 26 กองพล มีนิสัยค่อนข้างดี คอยบอกเล่าเรื่องราวของอดีตและอนาคต พร้อมทั้งช่วยมนุษย์หาสมบัติที่หายไปด้วย



ปีศาจหมายเลข 4: ซามิกีนา (Samigina)

ปีศาจนี้มีอีกชื่อว่า กามิงิน เป็นขุนนางนรก ปรากฏตัวเป็นม้าตัวเล็กหรือลา และสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้หากผู้อัญเชิญต้องการ
ซามิกีนาสามารถสอนวิทยาศาสตร์ และบอกได้ว่าวิญญาณตัวไหนบาปหรือตายไม่ดี โดยเขาจะอยู่ตอบคำถามทุกอย่างที่ผู้อัญเชิญต้องการ โดยไม่มีกำหนดเวลา 



ปีศาจหมายเลข 5: มาร์บาส (Marbas)

อธิการนรกผู้สามารถตอบคำถามที่เป็นความลับได้ ทั้งสามารถรักษาหรือบันดาลให้เกิดโรคภัยได้ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้อัญเชิญแปลงร่างได้ด้วย
มาร์บาสจะปรากฏตัวเป็นสิงโต แต่จะแปลงร่างเป็นคน หากผู้อัญเชิญต้องการ 



ปีศาจหมายเลข 6: เวลฟอร์ (Valefor)

ดยุกแห่งนรกผู้เป็นมิตรกับโจร คอยบันดาลใจให้ผู้คนขโมยของ สอนให้รู้จักปลอมตัว และปกป้องคนผู้นั้นจนกว่าจะโดนจับ (อ้าว)
เวลฟอร์มีตัวเป็นสิงโต หัวเป็นคน (บ้างก็ว่าหัวเป็นลา) ทั้งนี้ ปีศาจตนอื่นไม่ค่อยชอบเวลฟอร์นักเพราะเจ้าเล่ห์ 


ปีศาจหมายเลข 7: อามอน (Amon)

ปีศาจแห่งชีวิตและการแพร่พันธุ์ เป็นขุนนางแห่งนรก เป็นหมาป่าที่มีหางงูและพ่นไฟได้ ทั้งยังมีอีกร่างเป็นมนุษย์ที่มีหัวเหมือนกาและฟันเหมือนสุนัข (บางทีก็ไม่มีฟัน) สามารถบอกอดีตกับอนาคต และสานสัมพันธ์มิตรภาพให้มนุษย์ได้ 



ปีศาจหมายเลข 8: บาร์บาทอส (Barbatos)

ดยุกแห่งนรกผู้เข้าใจสรรพสัตว์ หยั่งรู้อดีตและอนาคต สามารถพาผู้อัญเชิญไปหาสมบัติที่มีการลงเวทมนตร์ป้องกันไว้ และทำให้คนกลับมาคืนดีกันได้ คาดว่า ชื่อของบาร์บาทอส มาจากคำว่า “บาร์บาทัส” ในภาษาลาติน ซึ่งแปลว่า “คนแก่มีหนวด” หรือ “นักปราชญ์” ซึ่งเป็นรูปร่างที่มันปรากฏกายออกมา 



ปีศาจหมายเลข 9: ไพมอน (Paimon)

ไพมอนมีศักดิ์เป็นราชานรก เล่ากันสมัยหลังว่ามีความใกล้ชิดกับลูซิเฟอร์ เขาควบคุมพลปีศาจถึง 200 กองพล ปรากฏร่างกายเป็นชายสวมมงกุฎขี่อูฐ มีขบวนคนเล่นดนตรีนำหน้า

เขาเป็นผู้มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และคอยตอบข้อสงสัยของมนุษย์ รวมไปถึง “เรื่องลี้ลับ” เช่น ความเป็นไปของโลก ทั้งยังสามารถมอบอำนาจวาสนาให้คนได้ด้วย (อนึ่ง ไพมอนเป็นปีศาจที่มีบทบาทอย่างมากในภาพยนตร์ Hereditary ปี 2018) 



ปีศาจหมายเลข 10: บูเออร์ (Buer)

อธิการนรกซึ่งมีปีศาจ 50 กองพลในบัญชา บ้างว่าเป็นครึ่งคนครึ่งม้าแบบเซนทอร์ บางส่วนก็บอกว่าเป็นสิงโตที่มีขาแพะอยู่รอบตัว

เขาสอนมนุษย์เกี่ยวกับธรรมชาติ, ศีลธรรม, ตรรกะศาสตร์, และสมุนไพรศาสตร์ทั้งหลาย 



ปีศาจหมายเลข 11: กูซีอน (Gusion)

ดยุกแห่งนรก นิสัยโผงผาง แต่ซื่อตรง คุมปีศาจ 40 กองพล ใครถามอะไรกูซีออนก็ตอบได้ ทำให้คนเกลียดกันมาดีกันก็ได้ มอบลาภยศชื่อเสียงให้ก็ได้

ผู้ตีความบางครั้งบอกว่ากูซีออนเป็นคนหน้าหมา แต่บ้างก็บอกว่าเขาเป็นลิงบาบูน 


ปีศาจหมายเลข 12: ซิตรี (Sitri)

เจ้าชายผู้สง่างาม มีลักษณะเป็นคนหัวเป็นเสือดาวและมีปีกแบบกริฟฟิน มีปีศาจ 60 กองพลในบัญชา สามารถทำให้คนรักกัน มักปรากฏกายแก้ผ้า

มีเรื่องเล่าภายหลังบอกว่า ซิตรีรักโซโลมอน และอยากตามไปสวรรค์ด้วยกัน 


ปีศาจหมายเลข 13: เบเลธ (Beleth)

เบเลธเป็นทรราชแห่งนรก คุมพลปีศาจ 85 กองพล ขี่ม้าศึกเป็นพาหนะ มีคณะมโหรสพใหญ่นำขบวน เล่ากันว่าที่ทำตัวโหดเหี้ยม เพราะต้องการพิสูจน์ว่าผู้อัญเชิญมีความกล้าหาญมากพอไหม

เล่ากันว่า ลูกชายของโนอา คือผู้อัญเชิญปีศาจตนนี้ขึ้นมาให้สอนคณิตศาสตร์แก่มนุษย์ (ใครเกลียดเลขก็โทษเขานะครับ) 



ปีศาจหมายเลข 14: เลราเฮ (Leraje)

ขุนนางปีศาจที่ดลบันดาลให้มนุษย์เกิดความร้าวฉาน ธนูของมันทำให้เกิดแผลเนื้อเน่าตายได้

เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา สวมชุดเขียว ใช้ธนูเป็นอาวุธ มีปีศาจในสังกัด 30 กองพล 

*** อ่านต่อใน comment นะครับ ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่