ฝนนี้ที่ภูกระดึง 28 - 30 ตุลาคม 2564 
พระอาทิตย์ขึ้นไม่มี พระอาทิตย์ตกไม่มี  🌧⛈🌩
.
ภูกระดึงกลับมาเปิดอีกครั้งหลังปิดไปก่อนกำหนดในช่วงโควิดระบาดหนัก 😭
กลับมารอบนี้ด้วยมาตราการและข้อกำหนดมากมาย ทั้งการจำกัดจำนวนคนต่อวัน นักท่องเที่ยวต้องฉีดวัคซีนตามข้อกำหนด 
เราสามารถหาข้อมูลได้จากหลายแหล่งที่มานะครับ 💉💉
(( โปรดศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทางนะครับ ไปแล้วขึ้นไม่ได้จะเศร้าหนัก ))
.
รอบนี้วางแผนขึ้นภูกระดึงช่วงหน้าฝนเพราะด้วยความอยากสัมผัสบรรยากาศ ฝน ฝน ฝน 🚀🚀
.
เริ่มโดยการจองที่พักอุทยาน อยากนอนสบายหน่อย 🛏คิดว่าหน้าฝนนอนเต็นท์ท่ามกลางพายุฝนคงไม่สนุกเท่าไร รอบนี้ขอสบายๆหน่อย
การจองก็สุดง่ายดาย เข้าเวปอุทยานแห่งชาติ เราสามารถจองที่พักได้ทุกอุทยาน และเลือกห้องและวันว่างได้จากในนี้เลย การชำระเงิน
ก็สามารถโอนผ่านระบบโมบายแบงค์ได้เลย 
.
จากนั้นเราก็ต้องจองเข้าพื้นที่อุทยานผ่านแอป Queq ให้ตรงกับวันที่เราจะขึ้นภูกระดึง 
.
ก่อนถึงวันเดินทางเราก็เช็คสภาพอากาศกันทุกวัน มีช่วงฝนทิ้งช่วงบ้างก็แอบหวั่นๆว่าจะไม่ได้สภาพเหมือนที่ตั้งใจไว้ต้องแต่แรก
แต่สุดท้ายก็มีพายุเข้าช่วงปลายเดือนพอดี มันส์ละครับงานนี้
.
เช้าตรู่วันที่ 28 รถก็มาหยุดที่หน้าอุทยานตอนตี 5 พอดี
ด่านแรก เสียงเจ้าหน้าที่หน้าด่านก็พูดว่ามากี่คนลงมากันให้หมดเลย 555 ลงมาวันอุณภูมิก่อนครับ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้ซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ มากี่คนรถกี่คันก็กดเอา จากนั้นก็เดินถือตั๋วกลับมาให้เจ้าหน้าที่ ผ่านด่านแรกมาแล้ว
.
เช้านี้ทำไมเงียบจัง ปรกติอาคารจะคึกคักกันตั้งแต่ตี 5 วันนี้เงียบกริบบบบ เราก็นั่งในรถดูบรรดาเหล่าลูกหาบชุดแรกมาหาบของกินและ
เสบียงของทางร้านค้าขึ้นภูก่อนใคร
.
หกโมงตรงไฟอาคารก็ติดสว่างทั่ว เจ้าหน้าที่มาแล้ว ในยุคโควิด ก็จะงง ๆ หน่อย 

ขั้นตอนจุดคัดกรอง
จุดที่ 1 ตรวจคัดกรอง วัดอุณภูมิ และ เซ็นชื่อในเอกสารที่เจ้าหน้าที่ได้ปริ้นออกมาวางไว้ให้ที่โต๊ะ นั้นคือรายชื่อของคนที่จองเข้าอุทยานผ่านแอป Queq มานั้นเอง เปิดหาชื่อตัวเองแล้วเซ็นต์ได้เลย

จุดที่ 2 ตรวจเอกสารฉีดวัคซีน และรับบัตรเขียว เราก็ใช้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนและบัตรประชาชนยื่นให้เจ้าหน้าที่ เขาจะถ่ายรูปคู่กันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งบัตรคัดกรองสีเขียวให้เราว่าได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว

จุดที่ 3 ช่องทางติดต่อห้องพักหรือจุดกางเต็นท์ ถ้าจองผ่านเวปอุทยานเหมือนเราก็นำเอกสารการจองห้องพักยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นอันเสร็จพิธี

จุดที่ 4 ซื้อประกันภัย 10 บาท เรียบร้อยแล้วเราก็ เดินออกจากตัวอาคารไปยังจุดต่อไป

จุดสัมภาระหลายคนเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญไปเมื่อปีที่แล้ว "ลูกหาบหมดพูดเบาๆก็เจ็บ" อันนี้ผมเคยเขียนกระทู้ไปเมื่อปีที่แล้วถึงความบันเทิง ใครยังไม่ได้อ่านก็ไปตามอ่านกันนะครับ กลับกันปีนี้คนขึ้นภูกระดึงน้อยลงด้วยข้อจำกัดคนต่อวัน ก็อาจจะไม่เจอเหตุการณ์เช่นปีที่แล้ว หรือป่าว 🤣😂
.
ได้เวลาเดินขึ้นภู ด่านสุดท้าย เราก็ต้องเอาบัตรเขียวที่ได้จากจุดที่ 2 มาใส่กล่องที่ด่านนี้และทำการลงชื่อเป็นด่านสุดท้าย
.
ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นภูในช่วงหน้าฝน ต้นไม้เขียวสลับกับพื้นดินที่มีสภาพเหมือนโคลนอยู่ตลอดเส้นทาง ฝนที่ตกปรอยๆ ตลอด ทำให้เราต้องหยิบเสื้อกันฝนออกมาใส่ตั้งแต่เริ่มเดินขึ้น
ในหน้าฝนเราจะสัมผัสกับไอหมอกฟุ้งตลอดทริปเลยก็ว่าได้  ความลำบากในช่วงขาขึ้นเริ่มบันเทิงเพราะความเปียกของพื้นดิน อาการลื่น ไถล ก็มีกันให้เห็น นึกถึงลูกหาบที่ไม่ได้มีแค่ตัวเปล่าในการเดินขึ้นจะลำบากแค่ไหน 
.
ตลอดทริปไม่มีพระอาทิตย์ขึ้น ไม่มีพระอาทิตย์ตก มีแต่ม่านหมอกและฝน
.

คำแนะนำสำหรับคนที่อยากขึ้นภูกระดึงช่วงหน้าฝน

ช่วงหน้าฝนใครอยากขึ้นภูกระดึงต้องเตรียมตัวรับสภาพกันนะครับ กางเต็นท์เองต้องเลือกทำเลที่ดีไม่เป็นแอ่งหรือหลุม ไม่งั้นนอนจมน้ำทั้งคืนแน่นอน ผมเห็นน้องหลายคนถึงกับต้องขุดทางน้ำรอบเต็นท์ กันน้ำเข้าเต็นท์ แถมยังต้องผจญภัยกับน้อนทากน้อยที่อยู่เกือบทุกที่ที่มีความชื้น ยิ่งตามดงเฟรินด้วยแล้วหลงเดินเข้าไปไม่รอดแน่นอน (เคล็ดลับ : ซอฟเฟล แบบสเปรย์ ไว้สู้กับน้อนทาก จบ)

การเดินตามน้ำตก หากเดินคนเดียวหรือมีเพื่อนและยังไม่เคยไป ช่วงฝนหมอกจะหนา ระยะการมองเห็นไม่เกิน 10 เมตร เดินแล้วก็หมั่นสังเกตุต้นไม้หรือช่องทางที่เราเดินเข้าตามแนวน้ำตก เพราะหาไม่เป็นคนชั่งสังเกตุแล้ว หันหลังกลับมาอีกที่อาจไม่เจอทางออกแล้วเพราะหมอกมันบังตาเราหมด จะหลอนขนหัวลุกทันที

การเตรียมเสื้อผ้า พยายามหาชุดที่แห้งไวไม่อมน้ำ การจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าให้ใส่ถุงพลาสติแล้วพับปากถุงหรือรัดด้วยหนังยาง เพื่อป้องกันเสื้อผ้าเปียก 
อย่าไว้ใจโดยเด็ดขาด รับกระเป๋าจากลูกหาบแล้ว ชุดที่เตรียมมาอาจไม่ได้ใส่อีกเลยเพราะตากยังไงก็ไม่แห้ง

สิ่งที่อยากแนะนำการขึ้นภูกระดึงในช่วงฝน คือรองเท้า สำคัญมาก อย่าเอารองเท้าที่เราเก็บไว้นานแล้วไม่ได้ใส่ไปใส่เดินในทริปเด็ดขาด เพราะสภาพกาวที่เราคิดว่าแน่ พอมันไปแช่น้ำในระหว่างเดินหรือเดินจมโคลนเมื่อไร พื้นรองเท้ากับตัวรองเท้ามันจะไม่สามัคคีกันทันที  หารองเท้าเฉพาะทางที่มีพื้นเป็นดอกหรือปุ่มยาวหนา จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะที่ดี ส่วนใหญ่ลูกหาบจะใส่สตั๊ดดอยกันทุกคนเพราะมีปุ่มที่ยาว ใครอยากได้ก็หาเอาตามซำต่างๆก็มีขายไม่แพง การลื่นไถลเพราะสภาพผิวดิน หรือการเล่นสไลด์เดอร์ มันไม่ได้สนุกอย่างที่คิด ถ้าขาพลิกหรือแข้งขาหักมา จะเดือดร้อนเพื่อนกับเจ้าหน้าที่อุทยานหามลงภู

ไม่มีหรอกอากาศไม่ดี มีแค่เสื้อผ้าไม่ดีเท่านั้นแหละ
No such thing as bad weather, only bad clothing.

ขอให้สนุกกับการเดินทาง
รักภูกระดึง 😘
ไปกี่ครั้งก็เหมือนครั้งแรกเสมอ
<< ใครอ่านจบนับถือ กระทู้สำหรับคนชอบอ่าน >>