เราเป็นคนที่ใช้โทรศัพท์ Samsung มาตลอดตั้งแต่ S3 จนทุกวันนี้ใช้ note20 Ultra เรียกว่าทั้งบ้านเลยค่ะทีใช้ Samsung
ล่าสุดโทรศัพท์เราหน้าจอร้าว และกล้องหลังเราไม่โฟกัส เราเลยไปที่ศุนย์ Samsung สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 เพื่อที่จะไปสอบถามเรื่องการเปลี่ยนจอ และการซ่อมกล้อง เพราะว่าเราซื้อ Samsung Care+ เพิ่มเอาไว้ 2 ปี
วันที่ 5 ตค เราได้เข้าไปสอบถามบริการที่ศูนย์ สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 พนักงานแจ้งว่า ให้เราซ่อมกล้องหลังก่อน เนื่องจากโทรศัพท์เรายังอยู่ในประกันแต่ต้องซ่อมในเดือน ตุลาคม นี้เท่านั้น แล้วค่อยเปิดเคลมเรื่องหน้าจอแตกกับ Samsung Care+ อีกที หลังที่ซ่อมกล้องหลังเสร็จ เพราะทางศูนย์แจ้งว่ากล้องยังอยู่ในประกัน แต่ด้วยความที่ศูนย์ไม่มีอะไหล่ และต้องรออะไหล่ 7 วัน หรือว่าทิ้งโทรศัพท์ เอาไว้ที่ศูนย์ เราเลยกลับบ้านไปก่อน
วันที่ 6 ตค เรากลับไปที่ศูนย์อีกรอบ เพื่อทำการจองอะไหล่ เนื่องจากว่าเรามาจาก ต่างจังหวัด และจะเข้ากทม มาวันที่ 13 ตค ที่เป็นวันหยุด เราเลยได้ทำการเปิดเรื่องเพื่อซ่อมกล้องหลังและจองอะไหล่ ตามที่ทางศูนย์แนะนำ และได้แจ้งทางศูนย์ว่า เราสะดวกที่จะเข้ามาในวันที่ 13 ตค ในวันนั้นทางศูนย์เปิดเรื่องทำการจองอะไหล่ให้ และแนะนำเราว่า พอถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่โทรนัด ให้ระบุวันที่เราจะเข้ามาเปลี่ยน และก่อนถึงวันทางเจ้าหน้าที่จะทำการโทรหาเพื่อนัดหมายอีกครั้ง ในสองวันนี้เราเองประทับใจกับพนักงานในการบริการมาก หลังจากที่ได้ทำการจองเสร็จวันนั้นเราก็ขับรถกลับต่างจังหวัดเลย
พอถึงประมาณวันที่ 10 ตค ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา เราเลยโทรเข้า ศุนย์ Samsung เพื่อขอเบอร์จาก call center รอบแรกที่ทางพนักงานให้เบอร์มา เราโทรไปที่ศุนย์ Samsung แต่ไม่สาขาพระราม 2 ที่เราขอเบอร์ เราจึงต้องโทรกลับไป call center ใหม่อีกรอบเพื่อขอเบอร์ใหม่ และพอเราโทรไปที่ศุนย์ เซ็นทรัลพระราม 2 ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ แต่สักพักมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ เซ็นทรัลพระราม 2 โทรกลับมา เราจึงสอบถามเรื่องกล้องไป ว่าได้หรือยังเพราะจะทำการเข้าไปเปลี่ยน ซึ่งทางศูนย์ แจ้งว่าอะไหล่ได้แล้ว เราเลยนัดวันเข้าไปวันที่ 13 ตค ซึ่งตรงนี้เรางง ว่าถ้าเราไม่โทรไปตามเราจะรู้ไหมว่าได้อะไหล่หรือไม่ได้
วันที่ 13 ตค เราได้ไปที่ศูนย์ ประมาณเที่ยง เราเข้าใจว่าวันนี้เป็นวันหยุด คนเลยจะค่อนข้างเยอะ เรานั่งรอสักพักและโดนเรียกคิวไปที่เคาเตอร์ เรานั่งรอที่เคาเตอร์ประมาณ เกือบ 1 ชม. สักพัก พนักงานบอกเราว่า เครื่องเราไม่สามารถซ่อมได้ เพราะว่าหมดประกันแล้ว !!!!!!!!!!!!!!!! (สำหรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี) ตอนนั้นคือเรางงมาก เลยพยายามสอบถามพนักงาน พนักงานแจ้งเราว่า เพราะว่ายังไม่ได้เปิดงานซ่อม ทำให้ไม่เห็นว่าจริงๆแล้วหมดประกันเมื่อไหร่ ซึ่งโทรศัพท์เราหมดประกันไปประมาณ เดือน กันยายน ถ้าแค่เปิดจองอะไหล่ จะไม่รู้ว่าหมดประกันหรือยัง
ประเด็นของเราคือ
1. ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่แจ้งแต่แรกว่าหมดประกันแล้ว เราจะได้ทำการเปลี่ยน ทั้งจอ และกล้องทีเดียว
2. เราเสียเวลาขับรถไปกลับ ประมาณ เกือบ 5-6 ชม.
3. ถ้าหากว่าเราจะเปลี่ยนกล้องก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน จอทีหลัง เท่ากับว่าเราต้องเสียเงิน ให้ Samsung Care+ = 1,799*2 = 3,598 บาท และเราต้องเสียเวลา เข้ามากทม อีก 1 วัน
พนักงานเลยเสนอวิธีให้เรา
1. ให้ส่งโทรศัพท์ โดยจะมี บริษัทขนส่งมารับถึงหน้าบ้าน แต่ต้องใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน และเราไม่มีโทรศัพท์ใช้ เราเลยขอปฎิเสธไป
2. พนักงานแจ้งว่ามีเครื่องให้ยืม แต่ต้องมารับเองที่ศูนย์ มันไม่ต่างอะไรกับการที่เราต้องขับรถไปกลับเกือบ 6 ชั่วโมง เพื่อมาซ่อมโทรศัพท์อยู่ดี
เรารู้สึกว่าวิธีการที่พนักงานเสนอให้น่าจะเป็นวิธีที่ดี แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้สำหรับเรา
จากเหตุการณ์ นี้เรารู้สึกผิดหวังกับ Samsung มากอยากให้ Samsung ช่วยรับผิดชอบ และพัฒนาระบบให้ดีกว่านี้ จะได้ไม่เกิดปัญหากับลูกค้าท่านอื่นอีกค่ะ
เราไม่อยากโทษพนักงานที่ศูนย์ แต่อยากบอกว่าระบบของ Samsung เองที่มีปัญหาหรือเปล่า ที่ทำให้พนักงานเองก็ทำงานลำบาก ถ้าเราเป็นคนเหวี่ยง พนักงานที่ศูนย์ไม่ต้องรับกรรมไปหรอ
รู้สึกเสียความรู้สึกกับศูนย์ Samsung มากค่ะ
ล่าสุดโทรศัพท์เราหน้าจอร้าว และกล้องหลังเราไม่โฟกัส เราเลยไปที่ศุนย์ Samsung สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 เพื่อที่จะไปสอบถามเรื่องการเปลี่ยนจอ และการซ่อมกล้อง เพราะว่าเราซื้อ Samsung Care+ เพิ่มเอาไว้ 2 ปี
วันที่ 5 ตค เราได้เข้าไปสอบถามบริการที่ศูนย์ สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 พนักงานแจ้งว่า ให้เราซ่อมกล้องหลังก่อน เนื่องจากโทรศัพท์เรายังอยู่ในประกันแต่ต้องซ่อมในเดือน ตุลาคม นี้เท่านั้น แล้วค่อยเปิดเคลมเรื่องหน้าจอแตกกับ Samsung Care+ อีกที หลังที่ซ่อมกล้องหลังเสร็จ เพราะทางศูนย์แจ้งว่ากล้องยังอยู่ในประกัน แต่ด้วยความที่ศูนย์ไม่มีอะไหล่ และต้องรออะไหล่ 7 วัน หรือว่าทิ้งโทรศัพท์ เอาไว้ที่ศูนย์ เราเลยกลับบ้านไปก่อน
วันที่ 6 ตค เรากลับไปที่ศูนย์อีกรอบ เพื่อทำการจองอะไหล่ เนื่องจากว่าเรามาจาก ต่างจังหวัด และจะเข้ากทม มาวันที่ 13 ตค ที่เป็นวันหยุด เราเลยได้ทำการเปิดเรื่องเพื่อซ่อมกล้องหลังและจองอะไหล่ ตามที่ทางศูนย์แนะนำ และได้แจ้งทางศูนย์ว่า เราสะดวกที่จะเข้ามาในวันที่ 13 ตค ในวันนั้นทางศูนย์เปิดเรื่องทำการจองอะไหล่ให้ และแนะนำเราว่า พอถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่โทรนัด ให้ระบุวันที่เราจะเข้ามาเปลี่ยน และก่อนถึงวันทางเจ้าหน้าที่จะทำการโทรหาเพื่อนัดหมายอีกครั้ง ในสองวันนี้เราเองประทับใจกับพนักงานในการบริการมาก หลังจากที่ได้ทำการจองเสร็จวันนั้นเราก็ขับรถกลับต่างจังหวัดเลย
พอถึงประมาณวันที่ 10 ตค ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา เราเลยโทรเข้า ศุนย์ Samsung เพื่อขอเบอร์จาก call center รอบแรกที่ทางพนักงานให้เบอร์มา เราโทรไปที่ศุนย์ Samsung แต่ไม่สาขาพระราม 2 ที่เราขอเบอร์ เราจึงต้องโทรกลับไป call center ใหม่อีกรอบเพื่อขอเบอร์ใหม่ และพอเราโทรไปที่ศุนย์ เซ็นทรัลพระราม 2 ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ แต่สักพักมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ เซ็นทรัลพระราม 2 โทรกลับมา เราจึงสอบถามเรื่องกล้องไป ว่าได้หรือยังเพราะจะทำการเข้าไปเปลี่ยน ซึ่งทางศูนย์ แจ้งว่าอะไหล่ได้แล้ว เราเลยนัดวันเข้าไปวันที่ 13 ตค ซึ่งตรงนี้เรางง ว่าถ้าเราไม่โทรไปตามเราจะรู้ไหมว่าได้อะไหล่หรือไม่ได้
วันที่ 13 ตค เราได้ไปที่ศูนย์ ประมาณเที่ยง เราเข้าใจว่าวันนี้เป็นวันหยุด คนเลยจะค่อนข้างเยอะ เรานั่งรอสักพักและโดนเรียกคิวไปที่เคาเตอร์ เรานั่งรอที่เคาเตอร์ประมาณ เกือบ 1 ชม. สักพัก พนักงานบอกเราว่า เครื่องเราไม่สามารถซ่อมได้ เพราะว่าหมดประกันแล้ว !!!!!!!!!!!!!!!! (สำหรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี) ตอนนั้นคือเรางงมาก เลยพยายามสอบถามพนักงาน พนักงานแจ้งเราว่า เพราะว่ายังไม่ได้เปิดงานซ่อม ทำให้ไม่เห็นว่าจริงๆแล้วหมดประกันเมื่อไหร่ ซึ่งโทรศัพท์เราหมดประกันไปประมาณ เดือน กันยายน ถ้าแค่เปิดจองอะไหล่ จะไม่รู้ว่าหมดประกันหรือยัง
ประเด็นของเราคือ
1. ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่แจ้งแต่แรกว่าหมดประกันแล้ว เราจะได้ทำการเปลี่ยน ทั้งจอ และกล้องทีเดียว
2. เราเสียเวลาขับรถไปกลับ ประมาณ เกือบ 5-6 ชม.
3. ถ้าหากว่าเราจะเปลี่ยนกล้องก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน จอทีหลัง เท่ากับว่าเราต้องเสียเงิน ให้ Samsung Care+ = 1,799*2 = 3,598 บาท และเราต้องเสียเวลา เข้ามากทม อีก 1 วัน
พนักงานเลยเสนอวิธีให้เรา
1. ให้ส่งโทรศัพท์ โดยจะมี บริษัทขนส่งมารับถึงหน้าบ้าน แต่ต้องใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน และเราไม่มีโทรศัพท์ใช้ เราเลยขอปฎิเสธไป
2. พนักงานแจ้งว่ามีเครื่องให้ยืม แต่ต้องมารับเองที่ศูนย์ มันไม่ต่างอะไรกับการที่เราต้องขับรถไปกลับเกือบ 6 ชั่วโมง เพื่อมาซ่อมโทรศัพท์อยู่ดี
เรารู้สึกว่าวิธีการที่พนักงานเสนอให้น่าจะเป็นวิธีที่ดี แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้สำหรับเรา
จากเหตุการณ์ นี้เรารู้สึกผิดหวังกับ Samsung มากอยากให้ Samsung ช่วยรับผิดชอบ และพัฒนาระบบให้ดีกว่านี้ จะได้ไม่เกิดปัญหากับลูกค้าท่านอื่นอีกค่ะ
เราไม่อยากโทษพนักงานที่ศูนย์ แต่อยากบอกว่าระบบของ Samsung เองที่มีปัญหาหรือเปล่า ที่ทำให้พนักงานเองก็ทำงานลำบาก ถ้าเราเป็นคนเหวี่ยง พนักงานที่ศูนย์ไม่ต้องรับกรรมไปหรอ