คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 84
*ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบอีกครั้งนะครับ ผมรับฟังและยินดีจะนำไปปรับปรุงเสมอ
*ผมใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความสมเหตุสมผลและความเป็นจริงเท่านั้นจนบางครั้งมันตึงเกินไป จนผมไม่รู้ตัวเอง ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ
*ผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เคยซื้อของให้ตัวเองที่เรียกได้ว่าฟุ่ยเฟือยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าซื้อของชิ้นนั้นต้องจำเป็น แม้จะแพงหลักหลายหมื่นแต่ถ้าแฟนหรือผมมองแล้วว่าจำเป็นเราจะซื้อครับ แต่ถ้าซื้อของเซอร์ๆพร้ให้แฟนผมมักจะทำอยู่บ่อยๆ แบบที่ซื้อฟุ่ยเฟือยๆ ชอบเห็นเวลาเขายิ้ม จนบางครั้งก็คิดว่าเขาจะมีความสุขไหม
*การเก็บเงินเก็บเพื่อที่ว่าเราสองคนยังมีหนี้ ประมาณ2-3ล้าน บ้าน+รถ อยากปิดให้ไวเพื่อจะได้ลดภาระรายจ่ายจึงต้องเก็บประมาณนี้
*ขออภัยที่อาจจะมองว่าผมตึงเกินไปนะครับ ผมเติบโตมาด้วยความลำบากตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าควรจะบอกเธอว่าอย่างไรกับการไปทำผมครั้งนี้
*เธอกลับห้องมาผมก็ไม่พูดถึงเรื่องที่ดุเธอไปตอนนั้นอีกเลยครับ และก็ขอโทษทุกๆคนนะครับถ้าผมได้ใช้อารมไปตอนนั้นและมาโพสในนี้เพื่อต้องการความเห็นต่างเพื่อให้ผมได้เข้าใจสิ่งต่างๆมากขึ้นครับ
*ขอบคุณครับ
*ผมใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความสมเหตุสมผลและความเป็นจริงเท่านั้นจนบางครั้งมันตึงเกินไป จนผมไม่รู้ตัวเอง ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ
*ผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เคยซื้อของให้ตัวเองที่เรียกได้ว่าฟุ่ยเฟือยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าซื้อของชิ้นนั้นต้องจำเป็น แม้จะแพงหลักหลายหมื่นแต่ถ้าแฟนหรือผมมองแล้วว่าจำเป็นเราจะซื้อครับ แต่ถ้าซื้อของเซอร์ๆพร้ให้แฟนผมมักจะทำอยู่บ่อยๆ แบบที่ซื้อฟุ่ยเฟือยๆ ชอบเห็นเวลาเขายิ้ม จนบางครั้งก็คิดว่าเขาจะมีความสุขไหม
*การเก็บเงินเก็บเพื่อที่ว่าเราสองคนยังมีหนี้ ประมาณ2-3ล้าน บ้าน+รถ อยากปิดให้ไวเพื่อจะได้ลดภาระรายจ่ายจึงต้องเก็บประมาณนี้
*ขออภัยที่อาจจะมองว่าผมตึงเกินไปนะครับ ผมเติบโตมาด้วยความลำบากตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าควรจะบอกเธอว่าอย่างไรกับการไปทำผมครั้งนี้
*เธอกลับห้องมาผมก็ไม่พูดถึงเรื่องที่ดุเธอไปตอนนั้นอีกเลยครับ และก็ขอโทษทุกๆคนนะครับถ้าผมได้ใช้อารมไปตอนนั้นและมาโพสในนี้เพื่อต้องการความเห็นต่างเพื่อให้ผมได้เข้าใจสิ่งต่างๆมากขึ้นครับ
*ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราเข้าร้านทำผมปีละครั้ง หมดไปครั้งละประมาณ 5000 ค่ะ แพงกว่าของแฟนคุณอีก
ไม่รู้ว่า 1800 นี่ทำอะไรไปบ้าง แต่เราคิดว่าน่าจะเป็นราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว
คนเรายังไงก็ต้องเข้าร้านทำผม อย่างน้อยก็ต้องตัดผมแน่ๆล่ะ ถ้าเข้าทุกเดือนแล้วจ่ายราคานี้ไม่สมเหตุสมผลแน่ๆ
แต่ถ้านานทีปีหนถึงเข้าที แบบนี้ไม่น่าเอามาเป็นประเด็นทะเลาะกันเลยค่ะ
แฟนคุณอาจจะผิดที่ไม่บอกคุณก่อน แต่เชื่อแน่ว่าถ้าบอกก่อน คุณจะไม่ยอมให้ทำแน่นอน
ถ้าแม้กระทั่งเข้าร้านทำผมยังต้องขออนุญาตสามี เราสงสารแฟนคุณมากกว่าค่ะ
วิธีแก้ปัญหาของคุณคือ ควรแบ่งเงินให้แต่ละฝ่ายสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาจจะแค่เดือนละไม่กี่พันก็ได้
สำหรับแต่ละฝ่ายไว้ใช้จ่ายในกรณีที่ไม่อยากขออนุญาตอีกฝ่าย เพราะถึงยังไงคนเราก็ย่อมอยากมีความอิสระในการใช้จ่ายบ้าง
อีกประเด็นคือ รายได้รวมของคุณทั้งสองคนถือว่าไม่น้อยเลย
แต่เก็บเงินเดือนละหมื่นสี่ ในขณะที่เหลือใช้แค่เดือนละหมื่นนิดๆ ใช้สองคนด้วย
เราว่าคุณสุดขั้วไปหน่อยค่ะ เราสนับสนุนเรื่องการเก็บเงินนะคะ
แต่การเก็บเงินมากเกินไปจนเบียดเบียนการใช้ชีวิต จนถึงขั้นแค่ไปทำผมมาก็ทะเลาะกันแล้ว
แบบนี้ไม่ไหวค่ะ
เราเชื่อว่าการวางแผนการใช้จ่ายเงินน่าจะเป็นความคิดของฝั่งคุณมากกว่าใช่มั้ยคะ
เท่าที่อ่านจากที่คุณเล่ามา คุณเป็นคนที่เอาแต่ความคิดตัวเองจริงๆนั่นแหละ
เอาแต่ห่วงเรื่องเงินแต่ไม่เคยคิดถึงความสุขของแฟนเลย
ถ้าเราเป็นแฟนคุณ เราจะไม่มีทางเก็บเงินร่วมกับคุณแน่นอน เพราะอิสระการใช้เงินหายไปเลย
คนเราหาเงินมาได้ก็ย่อมอยากใช้จ่ายเพื่อความสุขของตัวเองบ้าง
ไม่ใช่จะใช้อะไรก็ต้องมาขออนุญาตคนอื่น แบบนี้ไม่ไหวค่ะ
จริงๆแล้วเรื่องนี้ขาดรายละเอียดไปอีกอย่างที่คุณไม่พูดถึง (หรือจงใจจะไม่พูด) คือเรื่องรายได้ของแต่ละคน
ถ้าแฟนคุณมีรายได้แค่ 8000 ส่วนที่เหลือเป็นรายได้ของคุณทั้งหมด แบบนี้เราจะช่วยตำหนิแฟนคุณที่ใช้เงินไม่คิด
แต่ถ้าแฟนคุณมีรายได้มากกว่าคุณนี่เกมพลิกเลยนะคะ คุณจะกลายเป็นคนที่นิสัยแย่มาก
ที่หารายได้ได้น้อยกว่าแล้วยังมาจำกัดสิทธิ์การใช้เงินของคนที่หาได้มากกว่าอีก
ไม่รู้ว่า 1800 นี่ทำอะไรไปบ้าง แต่เราคิดว่าน่าจะเป็นราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว
คนเรายังไงก็ต้องเข้าร้านทำผม อย่างน้อยก็ต้องตัดผมแน่ๆล่ะ ถ้าเข้าทุกเดือนแล้วจ่ายราคานี้ไม่สมเหตุสมผลแน่ๆ
แต่ถ้านานทีปีหนถึงเข้าที แบบนี้ไม่น่าเอามาเป็นประเด็นทะเลาะกันเลยค่ะ
แฟนคุณอาจจะผิดที่ไม่บอกคุณก่อน แต่เชื่อแน่ว่าถ้าบอกก่อน คุณจะไม่ยอมให้ทำแน่นอน
ถ้าแม้กระทั่งเข้าร้านทำผมยังต้องขออนุญาตสามี เราสงสารแฟนคุณมากกว่าค่ะ
วิธีแก้ปัญหาของคุณคือ ควรแบ่งเงินให้แต่ละฝ่ายสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาจจะแค่เดือนละไม่กี่พันก็ได้
สำหรับแต่ละฝ่ายไว้ใช้จ่ายในกรณีที่ไม่อยากขออนุญาตอีกฝ่าย เพราะถึงยังไงคนเราก็ย่อมอยากมีความอิสระในการใช้จ่ายบ้าง
อีกประเด็นคือ รายได้รวมของคุณทั้งสองคนถือว่าไม่น้อยเลย
แต่เก็บเงินเดือนละหมื่นสี่ ในขณะที่เหลือใช้แค่เดือนละหมื่นนิดๆ ใช้สองคนด้วย
เราว่าคุณสุดขั้วไปหน่อยค่ะ เราสนับสนุนเรื่องการเก็บเงินนะคะ
แต่การเก็บเงินมากเกินไปจนเบียดเบียนการใช้ชีวิต จนถึงขั้นแค่ไปทำผมมาก็ทะเลาะกันแล้ว
แบบนี้ไม่ไหวค่ะ
เราเชื่อว่าการวางแผนการใช้จ่ายเงินน่าจะเป็นความคิดของฝั่งคุณมากกว่าใช่มั้ยคะ
เท่าที่อ่านจากที่คุณเล่ามา คุณเป็นคนที่เอาแต่ความคิดตัวเองจริงๆนั่นแหละ
เอาแต่ห่วงเรื่องเงินแต่ไม่เคยคิดถึงความสุขของแฟนเลย
ถ้าเราเป็นแฟนคุณ เราจะไม่มีทางเก็บเงินร่วมกับคุณแน่นอน เพราะอิสระการใช้เงินหายไปเลย
คนเราหาเงินมาได้ก็ย่อมอยากใช้จ่ายเพื่อความสุขของตัวเองบ้าง
ไม่ใช่จะใช้อะไรก็ต้องมาขออนุญาตคนอื่น แบบนี้ไม่ไหวค่ะ
จริงๆแล้วเรื่องนี้ขาดรายละเอียดไปอีกอย่างที่คุณไม่พูดถึง (หรือจงใจจะไม่พูด) คือเรื่องรายได้ของแต่ละคน
ถ้าแฟนคุณมีรายได้แค่ 8000 ส่วนที่เหลือเป็นรายได้ของคุณทั้งหมด แบบนี้เราจะช่วยตำหนิแฟนคุณที่ใช้เงินไม่คิด
แต่ถ้าแฟนคุณมีรายได้มากกว่าคุณนี่เกมพลิกเลยนะคะ คุณจะกลายเป็นคนที่นิสัยแย่มาก
ที่หารายได้ได้น้อยกว่าแล้วยังมาจำกัดสิทธิ์การใช้เงินของคนที่หาได้มากกว่าอีก
ความคิดเห็นที่ 8
ค่าใช้จ่าย2คน11,700 บาท/เดือน ผมว่ามันน้อย พอคุณมาเห็นว่า1800จาก11700มันเลยดูเยอะ
แต่มาดูสัดส่วนจากรายได้ทั้งหมดมันแค่3.9% เค้ามีค่าใช้จ่ายเพื่อความสนุกตัวเองความบันเทิงตัวเองกี่%ครับ?
ถ้ารวมยอดนี้เข้าไปแล้วมันไม่เกิน ผมว่าเค้าจะใช้อะไรในก้อนนี้ก็ให้เค้าใช้เถอะครับ คนเราหาเงินมามันต้องเก็บเพื่ออนาคตก็มีส่วน แต่เราหามาเพื่อความสุขส่วนตัวด้วยนะครับ
เงินเก็บ29%ถือว่าเก็บเงินเก่งครับดีแล้ว แต่ถ้ามันมาเบียดทำให้เราไม่ได้ซื้อของที่อยากได้ของไร้สาระที่ชอบเลย แบ่งออกมา4-9%เก็บ20%ก็ยังถือว่าเยอะครับ นอกจากมีแผนจะเอาไปใช้อะไรใหญ่ๆในอนาคตค่อยคิดสัดส่วนใหม่
แต่มาดูสัดส่วนจากรายได้ทั้งหมดมันแค่3.9% เค้ามีค่าใช้จ่ายเพื่อความสนุกตัวเองความบันเทิงตัวเองกี่%ครับ?
ถ้ารวมยอดนี้เข้าไปแล้วมันไม่เกิน ผมว่าเค้าจะใช้อะไรในก้อนนี้ก็ให้เค้าใช้เถอะครับ คนเราหาเงินมามันต้องเก็บเพื่ออนาคตก็มีส่วน แต่เราหามาเพื่อความสุขส่วนตัวด้วยนะครับ
เงินเก็บ29%ถือว่าเก็บเงินเก่งครับดีแล้ว แต่ถ้ามันมาเบียดทำให้เราไม่ได้ซื้อของที่อยากได้ของไร้สาระที่ชอบเลย แบ่งออกมา4-9%เก็บ20%ก็ยังถือว่าเยอะครับ นอกจากมีแผนจะเอาไปใช้อะไรใหญ่ๆในอนาคตค่อยคิดสัดส่วนใหม่
แสดงความคิดเห็น
รายรับ 11,700 บาทใช้ชีวิต 2 คน จ่ายค่าทำผม 1,800 สมเหตุสมผลไหมครับ? (ตอบได้ทุกมุมมองครับ)
**อ่านก่อนนะครับรายละเอียดจะทำให้ทุกคนเลือกว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร
-ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมา 3 ปี ใช้ชีวิตด้วยกัน เงินเดือนเราจะเก็บบัญชีเดียวกันใครจะใช้จะจ่ายจากบัญชีเดียวกันนี้เท่านั้น
:แฟนผมและตัวผมจะมีรายรับรวมกันทั้งหมด 47,000 บาท แต่จะมีรายจ่ายที่โดนหักอย่างคงที่ทุกๆเดือนคือ
-12,300 ค่าคอนโด
-5,500 ค่างวดรถ
-14,000 เงินเก็บถาวร(ฝากกินดอก%สูง)
-1,500 ค่าไฟ+น้ำ
-2,000 ค่าน้ำมัน/เดือน (วิ่งรถเกือบทุกวัน)
=รวมรับรายจ่ายปกติ 11,700 บาท /เดือน/2 คน
**บอกก่อนว่าแฟนไม่ได้ทำผมที่ร้านมานานมากทำครั้งสุดท้ายไม่รู้เมื่อไร น่าจะก่อนเรามาคบกันเพราะแฟนเป็นคนผมร่วงเยอะมากอาจจะมีปัญหาเรื่องผมทำให้ผมค่อนข้างน้อย
>> วันหนึ่งแฟนผมไปทำผมมา 1,800 บาทที่เซนทรัลแห่งหนึ่งโดยผมไม่รู้มาก่อนเธอพึ่งมาบอก หลังจากนั้นผมฉุนมากว่าทำไมเธอถึงใช้เงินโดยไม่คิดอะไรเลยแบบนี้ทั้งๆที่เรามีรายจ่ายมากมายขนาดนี้ เธอให้เหตุผลว่าร้านทำผมที่เธอหามาถูกที่สุดแล้ว และเธอไม่ได้ทำมานานแล้วก็อยากทำบ้างแบบคนอื่นบ้าง คนอื่นยังทำได้เลย ลองไปถามคนอื่นดูนะว่าเขาคิดว่ายังไง เธอ(เขาหมายถึงผมนะครับ)มาพูดแบบนี้เอาแต่ความคิดตัวเอง ผมจึงบอกเธอว่าลองถามคนอื่นดูมั้ยว่าเขาจะคิดแบบเธอหรือเปล่า เธอบอกลองไปถามดู ดังนั้นผมเลยอยากทราบมุมมองของคนอื่นบ้างครับ ผมอาจจะเอาแต่ความคิดตัวเองอย่างที่เธอบอกจริงๆจนผมไม่รู้ตัว หรือเธอไม่รู้ตัวกันแน่
.
1.ผมเลยอยากทราบความเห็นของทุกคนครับว่าคิดว่าอย่างไร ไม่มีผิดหรือถูกนะครับ?
2.การใช้จ่ายเงินแบบนี้สมเหตุสมผลอย่างที่ว่าหรือไม่ครับ?
.
ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกคนนะครับ