Jojo rabbit ต่ายน้อยโจโจ้
เพราะเด็กสิบขวบไม่ควรต้องเฉลิมฉลองให้สงคราม
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะก็ตาม
** รีวิวนี้ไม่มีสปอย ใครที่ดูหนังมาแล้วอยากอ่านรีวิวเต็มรูปแบบที่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง สามารถอ่านได้ที่นี่
https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com/2021/10/jojo-rabbit.html ***
โจโจ้แรบบิทเป็นอีกหนึ่งหนังที่เราอยากดูมากๆ ตั้งแต่เห็นติดโผออสการ์ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ถูกเอาเข้าไทยซะแล้ว ตอนที่เห็นอยู่บนโปสเตอร์ในโรงหนังคือดีใจมาก และมันสมการรอคอยจริงๆ สมคำร่ำรือและเหมาะกับตำแหน่งรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมเอามาหๆ นี่แหละโจโจ้แรบบิทที่ฉันต้องการ!!
หนังเล่าถึงเด็กชายโจโจ้ หนุ่มน้อยผู้โตมากับการถูกปลูกฝังในความดีงามของระบบนาซี ความคลั่งไคล้และเคารพรักฮิตเลอร์ถึงขั้นมีเขาเป็นเพื่อนในจินตนาการ เด็กคนนึงที่เติบโตมากับระบอบแบบนี้ วันหนึ่งเขากลับจับได้ว่าแม่ของเขาซ่อนตัวเด็กสาวชาวยิวไว้ในบ้าน สิ่งนี้เป็นเรื่องราวที่ท้าทายต่อจิตใจ และขัดแย้งกับจิตใต้สำนึกที่ถูกปลูกฝังมาโดยตลอดของเขามากๆ เส้นทางที่เขาเลือกเดินอาจเปลี่ยนชีวิตของเขาไปได้ตลอดกาล หากเป็นคุณจะเลือกทางไหน?
นี่เป็นหนังสงครามที่มีเนื้อหาหนักและรุนแรงไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ บางมุมเรากลับรู้สึกว่ามันหนักหนาและรุนแรงกว่าเรื่องอื่นๆ ด้วยซ้ำ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีภาพคนตาย ไม่ได้มีการสูญเสีย ไม่ได้มีการทำลายล้างผลาญหรือยิงปืนใหญ่อะไรก็ตาม แต่ความรุนแรงและขมขื่นในใจมันเกิดจากการที่หนังพาเราไปสำรวจเรื่องราวของเด็กชายผู้ไร้เดียงสาคนนึงที่มองระบอบอันโหดร้ายอย่างระบอบนาซีเป็นสิ่งที่ถูกต้องและน่าเคารพนับถือ
เด็กคนหนึ่งผู้ใสซื่อและบริสุทธ์กลับมองการฆ่าฟันเพื่อนมนุษย์เป็นสิ่งที่ควรทำและน่าชมเชย
มันเจ็บปวดมากๆ ที่บนโลกใบนี้ ระบอบแบบนี้มันมีอยู่จริง และสร้างเด็กที่มีแนวคิดแบบนี้ขึ้นมาได้จริงๆ
เราไม่เคยดูหนังเรื่องไหนที่ทำให้เราอินไซท์ไปกับระบบความคิดของเด็กที่มีต่อนาซีแบบนี้ หนังเปิดเรื่องมาด้วยการ normalize เราต่อระบอบนาซี ทุกอย่างในเรื่องมันดูปกติมาก เด็กชอบฮิตเลอร์เหรอ? ฝึกเด็กสิบขวบใช้ปืน ใช้ระเบิดเพื่อสงครามเหรอ? สอนเด็กให้ฆ่าชาวยิวเหรอ? ทุกอย่างมันก็ดูปกติดีนี่หน่า แม้ว่าใจในจะตะขิดตะขวงมากแค่ไหนว่าสิ่งนี้มันไม่ปกติ! แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด็กที่เติบโตมา ถูกปลูกฝังมาในระบอบแบบนี้ เขาไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่เขาเชื่อ สิ่งที่เขาทำ หรือสิ่งที่เขาสนับสนุนมันเลวร้ายแค่ไหนจริงๆ
หนังทำให้ความเป็นนาซีมันดูไม่มีอะไร ทุกอย่างก็แฮปปี้ ก็มีความสุขดี โดยการทำมู้ดหนังช่วงแรกให้เต็มไปด้วยความตลกโบ๊ะบ๊ะ มีเพื่อนในจินตนาการเป็นฮิตเลอร์ที่มีความสุขและสอนให้โจโจ้เป็นคนเข้มแข็งและกล้าหาญ ซึ่งมันน่าเจ็บปวดมากที่สุดท้ายมันมีบางซีนที่เราเองก็ยังแอบขำและสนุกสนานกับเรื่องราวนาซีเหล่านี้ ทั้งที่จริงๆ พอมามองในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ได้ตลกเลยแม้แต่น้อย ซึ่งพอหนังดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เริ่มมีเรื่องของเด็กสาวชาวยิวเข้ามาเกี่ยวข้อง เริ่มมีการตั้งคำถามกับตัวเองของโจโจ้ว่า “ชาวยิวผิดอะไร?” หนังเริ่มมีความพลิกมู้ดและอารมณ์ของตัวเองให้เข้มข้นขึ้น จนถึงจุดที่
แม้ว่าหนังจะใส่ความตลกเข้ามาอีกแค่ไหน มันกลายเป็นตลกร้ายที่เราเริ่มขำไม่ออก
มันเริ่มกดดัน รุนแรง และอึดอัด ดึงมู้ดคนดูได้อย่างสมบูรณ์แบบไปจนจบ
เราชอบความกลมกล่อมของเนื้อเรื่องและการถ่ายทอดมันออกมาของตัวหนัง หนังเรื่องนึงสามารถสร้างมู้ดให้เราได้หลากหลายมากๆ แถมแต่ละมู้ดที่หนังสื่อออกมาทำเราทั้งอินแล้วก็จมดิ่งไปกับมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันดีและเล่นกับความรู้สึกคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม พาเราไปสำรวจอารมณ์ ความรู้สึก และระบอบความคิดของโจโจ้ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีพัฒนาการ โดยเฉพาะช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนังมันกระแทกใจเรามาก เราชอบความไร้เดียงสาที่ไม่ไร้เดียงสาของโจโจ้ เรามองเห็นการเติบโต การพัฒนาทางอารมณ์และความคิดของตัวละครนี้ได้อย่างชัดเจน
ถ้าให้เทียบกับสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ มันก็คงมีบ้างที่เราเลือกที่จะเชื่อมั่นและนับถือระบอบหรือบุคคลบางอย่าง ที่เรามองว่ามันดีและถูกจนมองข้ามความโหดร้ายหรือความล้มเหลวทางความคิดบางอย่างของสิ่งนั้นไป (แต่ถ้าเทียบกับในเรื่อง โจโจ้ไม่ได้มีสิทธิที่จะตัดสินใจเลือกข้างเลยด้วยซ้ำ เขาเติบโตและถูกปลูกฝังมาในสถานที่ ในประเทศที่ทุกคนตัดสินใจเลือกทางเดินแบบเดียวกันไปเสียหมด มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด) จนวันหนึ่งอาจจะมีเหตุการณ์หรือการกระทำบางอย่างที่เป็นเหมือนการที่โจโจ้ได้ทำความรู้จักกับเด็กสาวชาวยิวในบ้านเขา ได้พูดคุยและรับรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นปีศาจร้ายที่น่ารังเกียจเหมือนที่ระบอบพยายามจะบอกเขาตลอดเวลา และวันนั้นมันจะทำให้เราได้ตระหนักรู้และมองโลกแห่งความเป็นจริงว่าสิ่งที่ตนเชื่อและเคารพรักมาตลอดชีวิตมันเป็นสิ่งที่ถูกหรือไม่ มันคงต้องการอะไรซักอย่างที่มาเปิดตาให้เรามองเห็นโลกได้กว้างไกลและชัดเจนกว่าตอนที่ถูกกดอยู่ใต้ระบอบ
9/10
I Know You Have Good Taste
ถ้าชอบการรีวิวนี้ สามารถติดตามรีวิวภาพยนตร์อื่นๆ ได้ที่
Facebook:
https://www.facebook.com/justsointoeverything
YouTube:
https://www.youtube.com/channel/UCLBONMLl_YH4eqOjBNuX0Lg
Blogger:
https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com
Blockdit:
https://www.blockdit.com/iknowyouhavegoodtaste
TikTok:
https://www.tiktok.com/@iknowyouhavegoodtaste?lang=th-TH
Instagram:
https://www.instagram.com/iknowyouhavegoodtaste/
[CR] รีวิว Jojo Rabbit : หนังสงครามที่ไม่มีซีนเข่นฆ่าหรือทำร้าย แต่กลับเจ็บปวดและรุนแรงต่อหัวใจซะเหลือเกิน
เพราะเด็กสิบขวบไม่ควรต้องเฉลิมฉลองให้สงคราม
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะก็ตาม
** รีวิวนี้ไม่มีสปอย ใครที่ดูหนังมาแล้วอยากอ่านรีวิวเต็มรูปแบบที่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง สามารถอ่านได้ที่นี่ https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com/2021/10/jojo-rabbit.html ***
โจโจ้แรบบิทเป็นอีกหนึ่งหนังที่เราอยากดูมากๆ ตั้งแต่เห็นติดโผออสการ์ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ถูกเอาเข้าไทยซะแล้ว ตอนที่เห็นอยู่บนโปสเตอร์ในโรงหนังคือดีใจมาก และมันสมการรอคอยจริงๆ สมคำร่ำรือและเหมาะกับตำแหน่งรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมเอามาหๆ นี่แหละโจโจ้แรบบิทที่ฉันต้องการ!!
หนังเล่าถึงเด็กชายโจโจ้ หนุ่มน้อยผู้โตมากับการถูกปลูกฝังในความดีงามของระบบนาซี ความคลั่งไคล้และเคารพรักฮิตเลอร์ถึงขั้นมีเขาเป็นเพื่อนในจินตนาการ เด็กคนนึงที่เติบโตมากับระบอบแบบนี้ วันหนึ่งเขากลับจับได้ว่าแม่ของเขาซ่อนตัวเด็กสาวชาวยิวไว้ในบ้าน สิ่งนี้เป็นเรื่องราวที่ท้าทายต่อจิตใจ และขัดแย้งกับจิตใต้สำนึกที่ถูกปลูกฝังมาโดยตลอดของเขามากๆ เส้นทางที่เขาเลือกเดินอาจเปลี่ยนชีวิตของเขาไปได้ตลอดกาล หากเป็นคุณจะเลือกทางไหน?
นี่เป็นหนังสงครามที่มีเนื้อหาหนักและรุนแรงไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ บางมุมเรากลับรู้สึกว่ามันหนักหนาและรุนแรงกว่าเรื่องอื่นๆ ด้วยซ้ำ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีภาพคนตาย ไม่ได้มีการสูญเสีย ไม่ได้มีการทำลายล้างผลาญหรือยิงปืนใหญ่อะไรก็ตาม แต่ความรุนแรงและขมขื่นในใจมันเกิดจากการที่หนังพาเราไปสำรวจเรื่องราวของเด็กชายผู้ไร้เดียงสาคนนึงที่มองระบอบอันโหดร้ายอย่างระบอบนาซีเป็นสิ่งที่ถูกต้องและน่าเคารพนับถือ
เด็กคนหนึ่งผู้ใสซื่อและบริสุทธ์กลับมองการฆ่าฟันเพื่อนมนุษย์เป็นสิ่งที่ควรทำและน่าชมเชย
มันเจ็บปวดมากๆ ที่บนโลกใบนี้ ระบอบแบบนี้มันมีอยู่จริง และสร้างเด็กที่มีแนวคิดแบบนี้ขึ้นมาได้จริงๆ
เราไม่เคยดูหนังเรื่องไหนที่ทำให้เราอินไซท์ไปกับระบบความคิดของเด็กที่มีต่อนาซีแบบนี้ หนังเปิดเรื่องมาด้วยการ normalize เราต่อระบอบนาซี ทุกอย่างในเรื่องมันดูปกติมาก เด็กชอบฮิตเลอร์เหรอ? ฝึกเด็กสิบขวบใช้ปืน ใช้ระเบิดเพื่อสงครามเหรอ? สอนเด็กให้ฆ่าชาวยิวเหรอ? ทุกอย่างมันก็ดูปกติดีนี่หน่า แม้ว่าใจในจะตะขิดตะขวงมากแค่ไหนว่าสิ่งนี้มันไม่ปกติ! แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด็กที่เติบโตมา ถูกปลูกฝังมาในระบอบแบบนี้ เขาไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่เขาเชื่อ สิ่งที่เขาทำ หรือสิ่งที่เขาสนับสนุนมันเลวร้ายแค่ไหนจริงๆ
หนังทำให้ความเป็นนาซีมันดูไม่มีอะไร ทุกอย่างก็แฮปปี้ ก็มีความสุขดี โดยการทำมู้ดหนังช่วงแรกให้เต็มไปด้วยความตลกโบ๊ะบ๊ะ มีเพื่อนในจินตนาการเป็นฮิตเลอร์ที่มีความสุขและสอนให้โจโจ้เป็นคนเข้มแข็งและกล้าหาญ ซึ่งมันน่าเจ็บปวดมากที่สุดท้ายมันมีบางซีนที่เราเองก็ยังแอบขำและสนุกสนานกับเรื่องราวนาซีเหล่านี้ ทั้งที่จริงๆ พอมามองในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่ได้ตลกเลยแม้แต่น้อย ซึ่งพอหนังดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เริ่มมีเรื่องของเด็กสาวชาวยิวเข้ามาเกี่ยวข้อง เริ่มมีการตั้งคำถามกับตัวเองของโจโจ้ว่า “ชาวยิวผิดอะไร?” หนังเริ่มมีความพลิกมู้ดและอารมณ์ของตัวเองให้เข้มข้นขึ้น จนถึงจุดที่
แม้ว่าหนังจะใส่ความตลกเข้ามาอีกแค่ไหน มันกลายเป็นตลกร้ายที่เราเริ่มขำไม่ออก
มันเริ่มกดดัน รุนแรง และอึดอัด ดึงมู้ดคนดูได้อย่างสมบูรณ์แบบไปจนจบ
เราชอบความกลมกล่อมของเนื้อเรื่องและการถ่ายทอดมันออกมาของตัวหนัง หนังเรื่องนึงสามารถสร้างมู้ดให้เราได้หลากหลายมากๆ แถมแต่ละมู้ดที่หนังสื่อออกมาทำเราทั้งอินแล้วก็จมดิ่งไปกับมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันดีและเล่นกับความรู้สึกคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม พาเราไปสำรวจอารมณ์ ความรู้สึก และระบอบความคิดของโจโจ้ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีพัฒนาการ โดยเฉพาะช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนังมันกระแทกใจเรามาก เราชอบความไร้เดียงสาที่ไม่ไร้เดียงสาของโจโจ้ เรามองเห็นการเติบโต การพัฒนาทางอารมณ์และความคิดของตัวละครนี้ได้อย่างชัดเจน
ถ้าให้เทียบกับสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ มันก็คงมีบ้างที่เราเลือกที่จะเชื่อมั่นและนับถือระบอบหรือบุคคลบางอย่าง ที่เรามองว่ามันดีและถูกจนมองข้ามความโหดร้ายหรือความล้มเหลวทางความคิดบางอย่างของสิ่งนั้นไป (แต่ถ้าเทียบกับในเรื่อง โจโจ้ไม่ได้มีสิทธิที่จะตัดสินใจเลือกข้างเลยด้วยซ้ำ เขาเติบโตและถูกปลูกฝังมาในสถานที่ ในประเทศที่ทุกคนตัดสินใจเลือกทางเดินแบบเดียวกันไปเสียหมด มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด) จนวันหนึ่งอาจจะมีเหตุการณ์หรือการกระทำบางอย่างที่เป็นเหมือนการที่โจโจ้ได้ทำความรู้จักกับเด็กสาวชาวยิวในบ้านเขา ได้พูดคุยและรับรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นปีศาจร้ายที่น่ารังเกียจเหมือนที่ระบอบพยายามจะบอกเขาตลอดเวลา และวันนั้นมันจะทำให้เราได้ตระหนักรู้และมองโลกแห่งความเป็นจริงว่าสิ่งที่ตนเชื่อและเคารพรักมาตลอดชีวิตมันเป็นสิ่งที่ถูกหรือไม่ มันคงต้องการอะไรซักอย่างที่มาเปิดตาให้เรามองเห็นโลกได้กว้างไกลและชัดเจนกว่าตอนที่ถูกกดอยู่ใต้ระบอบ
9/10
I Know You Have Good Taste
ถ้าชอบการรีวิวนี้ สามารถติดตามรีวิวภาพยนตร์อื่นๆ ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/justsointoeverything
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCLBONMLl_YH4eqOjBNuX0Lg
Blogger: https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/iknowyouhavegoodtaste
TikTok: https://www.tiktok.com/@iknowyouhavegoodtaste?lang=th-TH
Instagram: https://www.instagram.com/iknowyouhavegoodtaste/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้