Short Review | Jojo Rabbit ชีวิตวุ่นวายของเด็กชายโจโจ้



Jojo Rabbit (2019)
by Taika Waititi






1. ความโหดมากของเรื่องนี้คือมันเอาอุดมการณ์นาซี, ฮิตเลอร์
มาเล่าในเชิงยกย่องก่อน ตอนดูช่วงแรกๆเราจะรู้สึกกระอักกระอ่วนมาก
เพราะผกก.จงใจให้เราต่อสู้กับตัวเองเลย คุณกล้าขำคาแรคเตอร์ฮาๆของฮิตเลอร์ไหม
แอบชอบความตลกของฮิตเลอร์รึเปล่า?



 
2. แน่นอน เราขำ เพราะมันฮามากจริงๆ
น้องนักแสดงนำ ที่เป็นเยาวชนค่ายนาซี ก็น่ารักน่าเอ็นดูมาก
ทุกอย่างดูน่ารัก เฮฮาไปหมด
จนคนดูแบบเราได้แต่ เอาไงดีทีนี้ ฮิตเลอร์/นาซีที่เรารู้จักมันไม่ฮาแบบนี้ปะวะ





 
3. ก่อนจะเจอคนด่าว่า romanticize hitler ไปมั้ย
หนังมันก็ตบเข้าฉากพีคทันที แท้ที่จริงแล้ว อุดมการณ์แบบนาซีใช่เรื่องปกติไหม?
เด็กน้อยที่ถูกปลูกฝังให้ hail hitler! มาตั้งแต่เด็ก
จะจัดการยังไงเมื่อต้องถูกบังคับให้ทำอะไรที่ขัดกับจิตสำนึกตัวเอง?






4. หนังมันใส่ตัวละครเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ
เพื่อ sharp แนวความคิดเดิมของเด็กน้อย Jojo Betzler (ต่อมาถูกตั้งฉายาเป็น Jojo Rabbit)
ว่าทำไม เด็กผู้ชายเยอรมันต้องเติบโตมากับแนวความคิดว่า
วิถีแบบนาซี, สวัสดิกะ นั้นถูกต้อง อะไรคือความถูกต้อง หรือสิ่งที่ควรเป็นกันแน่




 
5. หนังเลยไม่ได้แค่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ Jojo Rabbit เลิกเชื่อแนวคิดแบบนาซี
แต่มันยังทำให้เราพยายามทำความเข้าใจ เด็กๆที่ถูกปลูกฝังมากับ propaganda ในเยอรมันด้วยว่า
ในบางโลก ความถูกต้อง ก็มีแค่เพียงเชื่อสิ่งที่คนอื่นเขาบอก เพราะเราเติบโตมาแบบนั้น




6. ตัวละครที่คอยคานแนวคิดแบบนาซีของ Jojo Rabbit
คือแม่ของโจโจ้ ที่รับบทโดย Scarlett Johanson
ที่เข้าบทกันได้สุดยอดมาก ต้องชมผกก.ที่การควบคุมน้ำหนักการแสดง ระหว่างฉากแม่ลูก
และการโต้เถียงเรื่องแนวคิดทางการเมืองที่ต่างกันยังทำได้ดีมาก อบอุ่น สนุกสนาน
และโดดเดี่ยวในเวลาเดียวกัน



 
7. สององก์แรกของหนัง คือปูซีนฮามารัวๆ การเมือง ลุ้นระทึก หวานแหววโรแมนติค ขำขัน
เดาทางไม่ได้เลยเรื่องมันจะไปทางไหน และพอเรากำลังเคลิ้มๆฮา
มันตัดเข้าดราม่าได้แบบ บัดซบมาก บัดซบจริงๆ
ผกก. ไม่มีสัญญานเตือนบ้าบออะไรทั้งนั้น พอดราม่าเสร็จ ก็ดราม่ายาวเลย ดิ่งมากๆ



8. นั่นทำให้เราตกใจมาก กับแนวทางการกำกับ Jojo Rabbit ของ Taika Waititi
เขาเป็นคนอารมณ์ขันที่ขยี้ฉากดราม่าได้สะเทือนอารมณ์ในช่วงเวลาแค่เปลี่ยนฉากแบบนี้ได้ไง
ความบเลวร้ายไปกว่านั้นคือ อะไรที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความสุข ความฮา
พี่แกก็เอามาขยี้เป็นเรื่องทุกข์ในตอนท้ายหมด บัดซบมาก




9. ส่วนที่ดีมากๆคือ การพัฒนาตัวละครแต่ละตัว ตั้งแต่ฉากแรกจนจบ
ตัวละครแต่ละตัวมีสเน่ห์มากๆ กระทั่งตัวที่คิดว่ามันก็ไม่น่ามีอะไร แต่กลายเป็นสำคัญทั้งหมด
ไม่มีอะไรที่โผล่มาแค่ยิงมุกฮาๆแล้วผ่านๆไปเลย
สุดท้ายทุกตัวละครมีความหมายกับเนื้อเรื่องทั้งหมด



10. สรุป Jojo Rabbit เป็นทั้ง coming of age, drama, comedy, war, romantic
มีครบทุก genre ในเส้นเรื่องหลักแค่เส้นเดียวนี่แหละ
คือชีวิตของ Jojo Betzler ทุกอย่างหมุนรอบโจโจ้
โตไปกับโจโจ้ หัวเราะไปกับโจโจ้ ร้องไห้ไปกับโจโจ้
ความพีคที่สุดก็คือ หนังมันไปสุดทุกทาง Taika โคตรเก่งจริงๆ


11. ดูเสร็จแล้วรู้สึกตื่นเต้นเลย ว่าผกก.แบบนี้จะทำหนังอะไรอีก
ตอนเขากำกับ Thor: Ragnarok ว่าฉีก+พีคแล้วนะ
มาเจอ Jojo Rabbit คือเห้ยยยยยยย แนวนี้ก็ทำได้เหรอ น่ากลัวมากๆ
เพราะเราเดาทางไม่ถูกเลย จะทำหนังแบบไหนอีก เก่งโคตรๆ





12. น้องที่เล่นเป็น Jojo Rabbit โคตรน่าเอ็นดูมากกกกกกกกกกกกกกกก แสดงเก่งมากๆ 
น้องชื่อ Roman Griffin Davis 12 ขวบ เป็นนักแสดงอังกฤษ น่ารักโคตรๆ รอติดตามตอนน้องโตได้เลย แววดีจริง ❤





13. Jojo Rabbit ได้รางวัลบทภาพยนต์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก Oscars 2020
ซึ่งดัดแปลงโดย Taika Waititi เองนั่นแหละ ควบนั่งกำกับด้วย
มันเลยออกมาได้สะเด่า คมคาย เด็ดทุกเม็ดจริงๆ
หนังดัดแปลงจากหนังสือเรื่อง Caging Skies (2008) ของ Christine Leunens




14.นอกจากจะกำกับและเขียนบทแล้ว Taika ยังรับบทเป็น Adolf Hitler ด้วยตัวเองอีกด้วย
ยอดมนุษย์จริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่