เราทำงานที่ร้านอาหารเล็กๆที่อยู่แถวบ้าน ซึ่งในร้านมี coffee bar และมีหน้าร้านเป็นขายของฝากประจำจังหวัด ซึ่งเราทำหน้าที่เสิร์ฟ และบาริสต้า เราเข้าทำงานที่ร้านนี่ตอน กรกฎาคม 63 เจ้าของร้านเป็นน้าของเราซึ่งแม่เราฝากไว้เพราะอยากให้อยู่ไกล้บ้าน เพราะจะช่วยเลี้ยงหลานด้วยตอนเลิกงาน (ลูกของเรา 2 ขวบ)
ตอนแรกที่เข้ามาทำงาน มีพนักงานอยู่แล้ว 2 คน พี่ที่เขาอยู่ก่อนเขาดีกับเรามากๆ แบบแนะนำสอนนั่นนู่นนี่ เราก็เคารพเขามากๆเช่นกัน ทุกอย่างดีหมดทั้งอาหารฟรี เงินเดือนโอเค มีโอที มีของขวัญวันเกิด ของขวัญปีใหม่ ซึ่งเราคิดว่าคงไม่มีที่ไหนดีเท่าที่นี่แล้ว งานสบายมากๆ เพราะร้านนอยู่แถวชนบท ลูกค้าไม่ได้พลุ่งพล่าน คือพูดได้คำเดียวว่าไม่มีที่ไหนดีเท่านี่แล้ว จนเรื่องมาถึงปี 64 หลังปีใหม่บาริสต้าหลักลาออก 1 คน ก็เหลือเรากับพี่อีกคน ตอนแรกเหมือนเราเราแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ถ้าวันไหนร้านวุ่นวายมากๆ ก็ช่วยกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปหลังจากที่อีกคนออก ตอนแรกงานที่เขาเป็นคนทำคนเดียวก็ได้สลับกันทำ อันนี้พอเข้าใจได้ แต่หลังๆมาเขาโยนทุกงานมาให้เราทำหมดเลย บางทีเขารู้สึกว่าเขาทำอะไรเยอะกว่าเราก็หาว่าเราไม่ช่วยทั้งๆที่เราก็ทำงานของเราอยู่ เขาเงินเดือนเยอะกว่า หน้าที่ต้องเยอะกว่าอยู่แล้วเราคิดถูกมั้ย? อยู่ๆเหมือนเราได้ทำทุกอย่างครเดียว ทั้งที่เห้ย แต่ก่อนกรูไม่ได้ทำนี่ ทำไม่เดี๋ยวนี้เป็นกรูล่ะ เขาก็นั่งเล่นโทรศัพท์ แต่งหน้า ลูกค้ามาถึงลุกไปรับลูกค้า แล้วงานอื่นที่ไม่ใช่รับลูกค้าล่ะ? ไม่ทำ? ตอนแรกเราเข้าใจนะคะเพราะเขาเข้างานก่อนเรา 1 ชม. แต่เขาก็ได้เงินเดือนเยอะกว่าเราตั้ง 4k ก็น่าจะแฟร์แล้วนิคะ เขามาก่อนเขาทำก่อน เราต้องยอมเขาด้วยหรอคะ บางทีงานที่ทำอยู่แล้วเขาทำไมเสร็จ เขาก็จะทิ้งไว้ทั้งอย่างนั้น เราก็จะต้องเป็นคนตามเก็บทำความสะอาด บางทีเราไม่ทำให้กูพูดให้เรา ไม่ทำก็ลาออกไป คือแบบเราทำทุกอย่างในร้านแต่เราไม่ตามเก็บให้คือพูดกับเราแบบนี้ มันหลายครั้งมาก แบบแล้วมีกันอยู่แค่ 2 คนแต่ไม่คุยกันเลยเพราะคำพูดแย่ๆของเขา เราไม่เคยสวนกลับนะเพราะถ้าเราได้พูดกลัวว่าจะลามปามถึงพ่อแม่เขา เราเงียบมาตลอด โยนงานให้เราไม่พอ ยังไปฟ้องเจ้านายว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้ ทีตัวเองทำอะไรพัง ยังไม่เคยมีใครไปฟ้องบ้างเลย เราอึดอัดค่ะ อยู่แบบมีกันอยู่แค่นี้ต้องมาทะเลาะกันแล้วจะร่วมงานกันยังไง พี่เขาไม่เคารพแม่บ้านซึ่งเค้ารุ่นป้า ใช้ของเปลืองไม่ตวงเวลาชงน้ำต่างๆ แบบไม่รู้จะสันหาคำไหนมาพูด มันหลายเรื่องมากๆ
เราเคยบ่นอยากลาออกหลายครั้งแต่แม่เราขอให้อยู่ต่ออีกซักหน่อย ช่วยเลี้ยงลูกอีกนิด ค่อยไป คือแบบเราก็สงสารแม่ เราทำอยู่นี่เลิกงานเรายังได้อยู่กับลูก ได้ช่วยแม่ทำงาน แต่ถ้าเราไปเงินอาจจะได้มากกว่า แต่เราจะไม่ได้ช่วยแม่ทำงาน ไม่ได้ช่วยเลี้ยงลูก ไม่กล้าบอกแม่อีกรอบค่ะเพราะรอบนี้อยากออกจริงๆ เราขี้แพ้เกินไปมั้ยคะ ที่อยากลาออกง่ายๆแบบนี้ หลังปีใหม่10 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีความสุขกับการทำงานเลยค่ะ งานสบาย เงินดี ไกล้บ้าน สวัสดิการดีขนาดนี้ แต่เราไม่อยากทำต่อเลยเพราะมีเพื่อนร่วมงานแบบนี้ บอกแม่ไงดีคะ พูดยังไงให้แม่ยอมให้เราออก
ปล พี่เขาไม่ได้มีปัญหากับเราแค่คนเดียว บางทีก็ไปมีปัญหากับคนในครัว บางทีก็แม่บ้าน แต่กับเราบ่อยสุดค่ะ เพราะตำแหน่งเดียวกัน
โดนเอาเปรียบในที่ทำงาน อยากลาออก
ตอนแรกที่เข้ามาทำงาน มีพนักงานอยู่แล้ว 2 คน พี่ที่เขาอยู่ก่อนเขาดีกับเรามากๆ แบบแนะนำสอนนั่นนู่นนี่ เราก็เคารพเขามากๆเช่นกัน ทุกอย่างดีหมดทั้งอาหารฟรี เงินเดือนโอเค มีโอที มีของขวัญวันเกิด ของขวัญปีใหม่ ซึ่งเราคิดว่าคงไม่มีที่ไหนดีเท่าที่นี่แล้ว งานสบายมากๆ เพราะร้านนอยู่แถวชนบท ลูกค้าไม่ได้พลุ่งพล่าน คือพูดได้คำเดียวว่าไม่มีที่ไหนดีเท่านี่แล้ว จนเรื่องมาถึงปี 64 หลังปีใหม่บาริสต้าหลักลาออก 1 คน ก็เหลือเรากับพี่อีกคน ตอนแรกเหมือนเราเราแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ถ้าวันไหนร้านวุ่นวายมากๆ ก็ช่วยกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปหลังจากที่อีกคนออก ตอนแรกงานที่เขาเป็นคนทำคนเดียวก็ได้สลับกันทำ อันนี้พอเข้าใจได้ แต่หลังๆมาเขาโยนทุกงานมาให้เราทำหมดเลย บางทีเขารู้สึกว่าเขาทำอะไรเยอะกว่าเราก็หาว่าเราไม่ช่วยทั้งๆที่เราก็ทำงานของเราอยู่ เขาเงินเดือนเยอะกว่า หน้าที่ต้องเยอะกว่าอยู่แล้วเราคิดถูกมั้ย? อยู่ๆเหมือนเราได้ทำทุกอย่างครเดียว ทั้งที่เห้ย แต่ก่อนกรูไม่ได้ทำนี่ ทำไม่เดี๋ยวนี้เป็นกรูล่ะ เขาก็นั่งเล่นโทรศัพท์ แต่งหน้า ลูกค้ามาถึงลุกไปรับลูกค้า แล้วงานอื่นที่ไม่ใช่รับลูกค้าล่ะ? ไม่ทำ? ตอนแรกเราเข้าใจนะคะเพราะเขาเข้างานก่อนเรา 1 ชม. แต่เขาก็ได้เงินเดือนเยอะกว่าเราตั้ง 4k ก็น่าจะแฟร์แล้วนิคะ เขามาก่อนเขาทำก่อน เราต้องยอมเขาด้วยหรอคะ บางทีงานที่ทำอยู่แล้วเขาทำไมเสร็จ เขาก็จะทิ้งไว้ทั้งอย่างนั้น เราก็จะต้องเป็นคนตามเก็บทำความสะอาด บางทีเราไม่ทำให้กูพูดให้เรา ไม่ทำก็ลาออกไป คือแบบเราทำทุกอย่างในร้านแต่เราไม่ตามเก็บให้คือพูดกับเราแบบนี้ มันหลายครั้งมาก แบบแล้วมีกันอยู่แค่ 2 คนแต่ไม่คุยกันเลยเพราะคำพูดแย่ๆของเขา เราไม่เคยสวนกลับนะเพราะถ้าเราได้พูดกลัวว่าจะลามปามถึงพ่อแม่เขา เราเงียบมาตลอด โยนงานให้เราไม่พอ ยังไปฟ้องเจ้านายว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้ ทีตัวเองทำอะไรพัง ยังไม่เคยมีใครไปฟ้องบ้างเลย เราอึดอัดค่ะ อยู่แบบมีกันอยู่แค่นี้ต้องมาทะเลาะกันแล้วจะร่วมงานกันยังไง พี่เขาไม่เคารพแม่บ้านซึ่งเค้ารุ่นป้า ใช้ของเปลืองไม่ตวงเวลาชงน้ำต่างๆ แบบไม่รู้จะสันหาคำไหนมาพูด มันหลายเรื่องมากๆ
เราเคยบ่นอยากลาออกหลายครั้งแต่แม่เราขอให้อยู่ต่ออีกซักหน่อย ช่วยเลี้ยงลูกอีกนิด ค่อยไป คือแบบเราก็สงสารแม่ เราทำอยู่นี่เลิกงานเรายังได้อยู่กับลูก ได้ช่วยแม่ทำงาน แต่ถ้าเราไปเงินอาจจะได้มากกว่า แต่เราจะไม่ได้ช่วยแม่ทำงาน ไม่ได้ช่วยเลี้ยงลูก ไม่กล้าบอกแม่อีกรอบค่ะเพราะรอบนี้อยากออกจริงๆ เราขี้แพ้เกินไปมั้ยคะ ที่อยากลาออกง่ายๆแบบนี้ หลังปีใหม่10 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีความสุขกับการทำงานเลยค่ะ งานสบาย เงินดี ไกล้บ้าน สวัสดิการดีขนาดนี้ แต่เราไม่อยากทำต่อเลยเพราะมีเพื่อนร่วมงานแบบนี้ บอกแม่ไงดีคะ พูดยังไงให้แม่ยอมให้เราออก
ปล พี่เขาไม่ได้มีปัญหากับเราแค่คนเดียว บางทีก็ไปมีปัญหากับคนในครัว บางทีก็แม่บ้าน แต่กับเราบ่อยสุดค่ะ เพราะตำแหน่งเดียวกัน