อย่ามารักสาวพละนะ..ขอบอก ตอน 2

กระทู้สนทนา
“ ได้ผ่อนคลายดีมุมนี้  ชอบจัง  เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเบียร์เอง  ไม่เมาไม่เลิก” ฉันพูดกับเดชชัย

         เดชชัยยิ้มหวาน  ตาซึ้งเหมือนอยากจะกินฉันเข้าไปทั้งตัว

        “ นี่..นายเดช  นายจะกินเบียร์หรือจะกินฉัน”  ฉันมองเดชชัยด้วยความอยากเตะหรือชกเหมือนซ้อมมวยไทย  เดชชัยไม่ตอบ  แถมยิ้มอย่างมีความหมาย   ดื่มเบียร์ไปได้สองขวด  ก็มีกลุ่มหนึ่งมานั่งข้างๆโต๊ะ  แต่งตัวดูดีมีคลาสมาก  ฉันหันไปมองความหรูของเสื้อผ้ากับความมีระดับของพวกเขา

        “ ฮือ..วันนี้วันซวยอีกหละ”   เจ้าแห้งหลงตัวเอง  ร้านอื่นมีตั้งหลายร้านไม่ไป  ดันมาร้านที่ฉัน

         นั่งอยู่  แถมมานั่งตรงข้ามกับฉันพอดี  เขาทำเป็นไม่เห็นฉัน  ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่เกิดอาการคลื่นไส้เวลามองไปเจอเขา

         เบียร์ขวดที่หกหมดลง  ฉันบอกแววว่ากลับได้แล้ว  เจ้าแห้งมองมาสบตากับฉันพอดี  แต่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่เคยปะทะกันมาก่อน  

         เมาได้ที่หละ  กลุ่มฉันกลับก่อน  เพราะไม่อยากไปเรียนคาบแรกสายเหมือนครั้งที่แล้ว

        “ แม่เจ้า!สายตามเคย  เมามากไปหน่อยเมื่อคืน สปีดเต็มที่หละตอนนี้” ฉันกระโดดขี่จักรยานคันเก่งอย่างรวดเร็ว  พลังขาที่แข็งแรงพาไปทันเวลาพอดี

         ฉันมองเห็นเก้าอี้หลังห้องตัวสุดท้ายว่างพอดี  ฉันดีใจมากที่ได้นั่งข้างหลังจะได้ไม่ต้องโดนอาจารย์ถามมาก  เพราะยังแฮงค์อยู่ตอนนี้

        “ โครม!”  เสียงดัง  หัวของฉันไปชนกับหัวของใครคนหนึ่ง  แล้วคนนั้นล้มลงไปชนเก้าอี้ล้มอีกที  ฉันเซไปอีกที่หนึ่ง  มึนหัวเพิ่มขึ้นเพราะตอนนี้ยังแฮงค์อยู่  คนที่ล้มลงไปมองมาที่ฉัน

        “ เวรหละ  เจ้าแห้งอีกแล้ว  อะไร....ทำไม...ต้องเป็นนายคนนี้ตลอด  ทั้งห้องนี่ไม่มีเก้าอี้ตัวอื่นเลยเหรอ  ทำไมต้องมาแย่งเก้าอี้ตัวเดียวกันด้วย

        “ อ้าว  นักศึกษานั่งเก้าอี้ให้ระวังด้วยครับ  วันนี้จะมีการจับคู่กันเพื่อทำรายงาน  ผมจะให้นักศึกษาจับสลากเองนะครับ  ใครได้ตัวอักษรเหมือนกัน  ก็อยู่คู่กันครับ”  อาจารย์พูดเหมือนไม่เห็นอะไรเกิดขึ้น

          ฉันได้ตัวอักษร D ต้องหาคู่หละจะได้คู่กับใคร  คนอื่นก็เดินตามหาคู่กัน  คนนั้นถามคนนี้เพื่อจะได้รีบจับคู่กัน  เพราะอาจารย์ให้หัวข้อรายงานมาแล้ว  ต้องรีบจับคู่ปรึกษาหาข้อมูล

         ฉันเห็นเจ้าแห้งนั่งเงียบอยู่คนเดียว  ไม่เห็นไปหาคู่  ฉันเป็นนักศึกษาเอกวิทยาศาสตร์การกีฬาฯคนเดียวในกลุ่มแพทย์  ทุกคนมานั่งเป็นคู่กันเรียบร้อย  ฉันยังหาคู่ไม่เจอ

        “ขอโทษนะค่ะ  ใครได้อักษร D ค่ะ  ฉันกำลังหาคู่อยู่ค่ะ”  ฉันรีบพูดถามหาคู่  เพราะรอนานเกินไปแล้ว  จนคู่อื่นเขาเตรียมวางแผนกันแล้ว

       “ ผมว่าคงจะเป็นพร้อมกริชหรือเปล่าที่ได้ D ใช่ไหมพร้อมกริช  เพราะคนอื่นเขามีคู่กันแล้ว”

        “ อาจารย์ครับผมอยากเปลี่ยนคู่ครับ  จะได้ไหมครับ”  พร้อมกริช  พูดแบบไม่ไว้หน้าฉันเลย

       “ อ้าว..ทำไมหละพร้อมกริช  คุณก็คู่กับแพรวพรซิ “  อาจารย์พูดออกมา เพราะเห็นฉันทำหน้าเริ่มไม่พอใจเมื่อได้ยินเจ้าแห้งพูดแบบนั้น

        พร้อมกริชจำยอมมานั่งคู่กับฉัน  เพราะอาจารย์สั่งให้รีบปรึกษาหัวข้อที่ได้มา  และหัวข้อที่ฉันได้มาเป็นหัวข้อที่ฉันถนัดพอดี  ขอบคุณพระเจ้าเลยจ้า

        “สาธิตปัญจกีฬา”  เป็นหัวข้อที่คู่ฉันกับเจ้าแห้งได้  และคะแนนที่อาจารย์ให้ในชิ้นงานนี้ 50 คะแนน  ดีจริงฉันจะได้มีโอกาสตีตื้นสู้กับกลุ่มแพทย์ได้  เหลือ 50 คะแนนเป็นวิชาการ  พอจะสู้ได้มั้ง  ไม่งั้นเกรดจะตก

        “ แพรวพร  อย่างไรก็ช่วยพร้อมกริชด้วยนะ  เพราะเธอคงทำได้อยู่แล้ว  นักศึกษาที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ  ถนัดอยู่แล้วใช่ไหม”  อาจารย์พูดฝากฝังเจ้าแห้งกับฉัน

        “ นี่อะไรกัน  ทำไมต้องเป็นฉันด้วย  เหม็นขี้หน้าจะแย่แล้ว  เจ้าแห้งโคตรหลงตัวเอง”

         เขาไม่ยอมสบตาและมองมาที่ฉัน  ตอนจับคู่ปรึกษางาน  เขามีแต่นั่งเงียบอย่างเดียว

       “ นี่..ตกลงคุณจะทำได้ไหมเนี่ย  กีฬาทั้ง 5 อย่างนี้”  ฉันถามตรงๆเพราะเห็นเขานั่งนิ่งอย่างเดียว

        “ ในทั้งหมดนี้มียิงปืนสั้น  ฟันดาบ  ว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตร  ขี่ม้าและวิ่งกลางแจ้ง 3 กิโลเมตร  คุณจะเลือกสาธิตชนิดไหน”  ฉันพร้อมจะแบ่งการสาธิตให้เขา

         “ ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้มาก  เพราะผมมีชีวิตอยู่กับเรื่องเรียนซะส่วนใหญ่  กิจกรรมไม่ค่อยได้ทำ  ผมแนวใช้สมองมากกว่ากำลัง”  พร้อมกริชพูดแบบไม่มองหน้า  หันไปทางอื่นแทน

        “ คุณเรียนมาก  ใช้แต่สมอง จิตใจเลยไม่ค่อยได้พัฒนาเนอะ  ใช่ไหม” ฉันพูดกวนโอ้ยซะ  ต้องจิกให้เจ็บ  ได้โอกาสแล้ว  มาหาว่าฉันใช้แต่กำลัง  เหมือนวัวควายหรือไง  ถ้าได้คู่กับคนอื่นก็คงจะมีความสุขกว่านี้มาก  ไม่น่าต้องมาเจอเจ้าแห้ง  คนหลงตัวเอง

        “ นี่คุณ..ถ้าคุณเก่งก็สาธิตทุกอย่างเลยซิ  ถ้าแน่จริง”  เขาเริ่มไม่พอใจเมื่อโดนฉันจิก

        “ฉันมันทำได้อยู่แล้ว  แต่บังเอิญฉันไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบนะ  มันไม่แฟร์ว่างั้น”  ตอบโต้คืนทันควัน  เพราะเบื่อหน้าเขาที่ทำเฉยเมยมึนตึง

        “ผมเอา 2 อย่างว่ายน้ำกับวิ่งกลางแจ้ง  ที่เหลือคุณสาธิตละกัน  คิดว่าแน่..”  เขาก็ไม่ลดละ

        “ อ๊อดดดด...”  ดีจังเสียงออดดังช่วยให้หมดคาบ  จะได้ไม่ต้องพูดกับเจ้าแห้งคนหลงตัวเอง

        “ ขอเบอร์โทรศัพท์ด้วย  เผื่อจำเป็นต้องติดต่อเรื่องชิ้นงาน”  ฉันขอเบอร์เขา

        “ ตามนี้หละกัน  ไม่จำเป็นก็อย่าโทรมาละกัน  ผมไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระกับใคร” เขาให้นามบัตร  และพูดปามฉันไว้  ฟังแล้วอยากลุกขึ้นตีเข่าเขย่าศอกจริงๆ  ผู้ชายคนนี้  ไม่สมกับเป็นชายชาตรีเลย  เดชชัยเพื่อนฉันแมนกว่าเยอะ

        “เวลาเหลือ 2 เดือนต้องส่งงานและสาธิตแล้ว  คุณก็ทำใจหละกัน  ถ้างานออกมาไม่ดีอย่ามาว่าฉันหละกัน  ถ้ากลัวฉันจะโทรหา  กลัวก็แต่จะมีใครบ้างคนจะโทรมาหาฉันละซิ  ฮ่าๆๆๆ”

         พอเขาได้ยินอย่างนั้น  เขาใช้หางตามองฉัน  เห็นแบบนี้แล้ว  ขอบอกว่าน่าหมั่นไส้มาก  เมื่อไหร่จะหมดครอสนี้สักทีนะ  เบื่อเจ้าแห้งเนี่ยสุดๆ

         วันนี้แพรวพรรู้สึกง่วงนอนมาก  จะเข้านอนก่อนเวลาปกติ  ยังไม่ทันได้เอนตัวลงนอน  ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา

        “ เอ..ปกติเวลานี้ไม่เคยมีใครโทรมาหานะ  ใครเอ่ยโทรมา”  ฉันบ่นเบาๆกับตัวเอง

        “ หวัดดีค่ะ  แพรวพรพูดค่ะ”  รีบรับโทรศัพท์และทักทายออกไป  เพราะเบอร์ที่โทรมาไม่รู้จัก
  
       “ ผมเองพร้อมกริช “  เสียงตอบมา  อ้าว..เนี่ยเป็นนายเองเหรอเจ้าแห้ง

        “ โทรมามีอะไรเหรอ  แล้วนี่ได้เบอร์โทรของฉัน  มาจากใครกันหละ”  ฉันเริ่มซักทันทีเพราะเห็นเขาบอกว่าจะไม่มีเวลาคุยกับใคร

        “ผมเสนองานให้อาจารย์ดูแล้วเมื่อตอนเย็น  อาจารย์บอกต้องสาธิตด้วยกันทั้งสองคน  ไม่ให้แบ่งงานกันสาธิต  เพราะอาจารย์เขาวางเป้าหมายตามนั้น  ผมก็เลยต้องให้คุณช่วย”  เขาตอบมาเสียงอ่อยๆๆ

        “ ฮ่าๆๆๆ  เอาแล้วไหมหละ  คราวนี้คุณต้องมาเจอกับฉันทุกวันแน่นอน  ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากมาเจอฉัน  บอกตรงๆ  ฉันก็ไม่อยากเจอคุณเหมือนกัน  เพราะทำใจลำบากมากที่ได้เจอคุณ  แต่เมื่อคนอย่างฉัน  เป็นคนชอบช่วยเหลือคน  ไม่ได้ใช้แต่สมอง  ชอบใช้กำลังตลอด  แต่เพื่อคะแนน  ฉันทำได้ทุกอย่าง”  ฉันจัดเต็มกับเจ้าแห้ง  จะได้รู้สำนึกซะมั้ง  พวกใช้แต่สมอง

       “ ก็ดี  ผมก็ต้องการเกรดเพื่อลุ้นเกียรตินิยมอันดับ 1 ผมก็จำต้องทนเห็นหน้าคุณเหมือนกัน”

        ฟังแล้วอารมณ์ขึ้นมาก  คืองานนี้ถ้าช่วยฝึกให้แล้ว  ยังทำตัวหยิ่งแบบนี้  ฉันต้องให้รู้จักพิษสงของฉันมั้งละ  จะเอาคืนแบบให้เจ้าแห้งสยบมาร  นั่งคุกเข่าขอร้องเลยแหละ

       “ โอเคเลย  เดี๋ยวส่งโปรแกรมฝึกและเวลาไปให้ทางไลน์หละกัน  ไม่อยากคุยกับคุณนาน  มันคันขี้หู  แค่เนี่ยนะ”  ฉันรีบตัดบททันที  เพราะไม่อยากได้ยินเสียงเจ้าแห้งนี่

         วันแรกตามโปรแกรมคือไปฝึกขี่ม้า  เวลาตามนัดคือ 9 โมงเช้า  ฉันไปรอก่อนที่สนามขี่ม้า  พยายามเลือกม้าตัวที่เชื่องที่สุด  เพราะจะได้ไม่เหนื่อยมากตอนฝึก

       “  มาแล้วครับ “ พร้อมกริช  รีบทักทาย  เพราะตอนนี้เขาต้องให้ฉันช่วยให้เขาขี่มาให้ได้  

        เขาดูดีเลยตอนนี้  อยู่ในชุดลำลอง  มองแล้วเขาเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง  บุคลิกดี  สูงเพรียว  ขาว  หน้าตาสดใส  คิ้วเข้ม  จัดว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่ง  ฉันเผลอมองเขาอยู่นาน

         “ นี่..คุณแพรวพร  มองอะไรผม  ผมพูดและถามคุณอยู่  ไม่ได้ยินหรือไง”  พร้อมกริช  เริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นฉันมองเขานิ่งและนาน  

         “ ขอโทษนะ  ฉันไม่ได้เห็นคุณในสภาพนี้มาก่อน  ก็เลยรู้สึกแปลกตาไปนิด”  ฉันเริ่มพูดเบี่ยงเบนไม่ให้เขาแปลกใจที่ฉันมองเขานาน

         “ หลงใหลในความหล่อของผมละซิ  บอกเลยว่าอย่าคิดไปไกล  คุณไม่ใช่สเปคผม”  เขาตอบมา
ได้ยินแบบนั้น  อารมณ์ก้าวร้าว  เริ่มเกิดขึ้นทันที

          “ รู้แล้วน่า  ว่าคุณเรียนหมอ  คุณก็ต้องชอบหมอ  แนวเดียวกับคุณ  อย่าคิดนะว่าคุณจะทำให้ฉันหวั่นไหว  หรือเอนเอียงไปทางคุณ  อยากอ้วกจริงๆ  คลื่นไส้ชะมัด”  ฉันพูดได้ซะใจมาก

         “มาเริ่มฝึกขี่ม้ากันเลย  จะดูซิว่าคุณหมอจะทำได้ไหม  ไปเลย”  ฉันต้องรีบสอนเขาขี่ให้เป็นเร็วที่สุด  เพราะเกลียดขี้หน้าเจ้าแห้งนี่  อยู่ด้วยกันนานไม่ได้  เดี๋ยวมีเรื่องทะเลาะกันอีก

        “ คุณขี่ม้าให้ผมดูก่อน  คนที่จะมาสอนผมได้ต้องเก่งพอ  ไม่งั้นผมไม่เชื่อหรอก”  พร้อมกริชเริ่มกวนโมโหฉันอีก   ฉันกระโดดขึ้นหลังม้า  และควบม้าออกไป  เพื่อระบายอารมณ์โกรธ  

        ขณะที่แพรวพร ขี่ม้าในสนาม  พร้อมกริชมองดูเธอ  อย่างทึ่งในความสามารถของแพรวพร 

       ..... เธอแข็งแรง  ว่องไว  ทรงตัวได้ดี  ควบคุมม้าเป็นหนึ่งเดียวกับเธอได้  ผมแพรวพรปลิวไสว  ต้องกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้า

          พร้อมกริชมองดูเธอเพลิดเพลิน  แววตาที่แข็งกร้าวของเขาเริ่มอ่อนลง  เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเธอควบม้าอย่างมีความสุข

         “ ยิ้มอะไรห่ะ  ฉันมาหยุดม้าตรงหน้าคุณตั้งนานแล้ว” ฉันงงที่เห็นพร้อมกริช  ยิ้มละมัยอยู่คนเดียวตั้งนาน

          พร้อมกริชตกใจ  สะดุ้งสุดตัว  ไม่คิดว่าแพรวพร  จะมาจ้องดูเขานานขนาดนั้น  เขารีบเก็บอาการทันที  เปลี่ยนบุคลิกเป็นคอแข็ง  และมองแพรวพรด้วยหางตา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่