“ ได้ผ่อนคลายดีมุมนี้ ชอบจัง เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเบียร์เอง ไม่เมาไม่เลิก” ฉันพูดกับเดชชัย
เดชชัยยิ้มหวาน ตาซึ้งเหมือนอยากจะกินฉันเข้าไปทั้งตัว
“ นี่..นายเดช นายจะกินเบียร์หรือจะกินฉัน” ฉันมองเดชชัยด้วยความอยากเตะหรือชกเหมือนซ้อมมวยไทย เดชชัยไม่ตอบ แถมยิ้มอย่างมีความหมาย ดื่มเบียร์ไปได้สองขวด ก็มีกลุ่มหนึ่งมานั่งข้างๆโต๊ะ แต่งตัวดูดีมีคลาสมาก ฉันหันไปมองความหรูของเสื้อผ้ากับความมีระดับของพวกเขา
“ ฮือ..วันนี้วันซวยอีกหละ” เจ้าแห้งหลงตัวเอง ร้านอื่นมีตั้งหลายร้านไม่ไป ดันมาร้านที่ฉัน
นั่งอยู่ แถมมานั่งตรงข้ามกับฉันพอดี เขาทำเป็นไม่เห็นฉัน ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่เกิดอาการคลื่นไส้เวลามองไปเจอเขา
เบียร์ขวดที่หกหมดลง ฉันบอกแววว่ากลับได้แล้ว เจ้าแห้งมองมาสบตากับฉันพอดี แต่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่เคยปะทะกันมาก่อน
เมาได้ที่หละ กลุ่มฉันกลับก่อน เพราะไม่อยากไปเรียนคาบแรกสายเหมือนครั้งที่แล้ว
“ แม่เจ้า!สายตามเคย เมามากไปหน่อยเมื่อคืน สปีดเต็มที่หละตอนนี้” ฉันกระโดดขี่จักรยานคันเก่งอย่างรวดเร็ว พลังขาที่แข็งแรงพาไปทันเวลาพอดี
ฉันมองเห็นเก้าอี้หลังห้องตัวสุดท้ายว่างพอดี ฉันดีใจมากที่ได้นั่งข้างหลังจะได้ไม่ต้องโดนอาจารย์ถามมาก เพราะยังแฮงค์อยู่ตอนนี้
“ โครม!” เสียงดัง หัวของฉันไปชนกับหัวของใครคนหนึ่ง แล้วคนนั้นล้มลงไปชนเก้าอี้ล้มอีกที ฉันเซไปอีกที่หนึ่ง มึนหัวเพิ่มขึ้นเพราะตอนนี้ยังแฮงค์อยู่ คนที่ล้มลงไปมองมาที่ฉัน
“ เวรหละ เจ้าแห้งอีกแล้ว อะไร....ทำไม...ต้องเป็นนายคนนี้ตลอด ทั้งห้องนี่ไม่มีเก้าอี้ตัวอื่นเลยเหรอ ทำไมต้องมาแย่งเก้าอี้ตัวเดียวกันด้วย
“ อ้าว นักศึกษานั่งเก้าอี้ให้ระวังด้วยครับ วันนี้จะมีการจับคู่กันเพื่อทำรายงาน ผมจะให้นักศึกษาจับสลากเองนะครับ ใครได้ตัวอักษรเหมือนกัน ก็อยู่คู่กันครับ” อาจารย์พูดเหมือนไม่เห็นอะไรเกิดขึ้น
ฉันได้ตัวอักษร D ต้องหาคู่หละจะได้คู่กับใคร คนอื่นก็เดินตามหาคู่กัน คนนั้นถามคนนี้เพื่อจะได้รีบจับคู่กัน เพราะอาจารย์ให้หัวข้อรายงานมาแล้ว ต้องรีบจับคู่ปรึกษาหาข้อมูล
ฉันเห็นเจ้าแห้งนั่งเงียบอยู่คนเดียว ไม่เห็นไปหาคู่ ฉันเป็นนักศึกษาเอกวิทยาศาสตร์การกีฬาฯคนเดียวในกลุ่มแพทย์ ทุกคนมานั่งเป็นคู่กันเรียบร้อย ฉันยังหาคู่ไม่เจอ
“ขอโทษนะค่ะ ใครได้อักษร D ค่ะ ฉันกำลังหาคู่อยู่ค่ะ” ฉันรีบพูดถามหาคู่ เพราะรอนานเกินไปแล้ว จนคู่อื่นเขาเตรียมวางแผนกันแล้ว
“ ผมว่าคงจะเป็นพร้อมกริชหรือเปล่าที่ได้ D ใช่ไหมพร้อมกริช เพราะคนอื่นเขามีคู่กันแล้ว”
“ อาจารย์ครับผมอยากเปลี่ยนคู่ครับ จะได้ไหมครับ” พร้อมกริช พูดแบบไม่ไว้หน้าฉันเลย
“ อ้าว..ทำไมหละพร้อมกริช คุณก็คู่กับแพรวพรซิ “ อาจารย์พูดออกมา เพราะเห็นฉันทำหน้าเริ่มไม่พอใจเมื่อได้ยินเจ้าแห้งพูดแบบนั้น
พร้อมกริชจำยอมมานั่งคู่กับฉัน เพราะอาจารย์สั่งให้รีบปรึกษาหัวข้อที่ได้มา และหัวข้อที่ฉันได้มาเป็นหัวข้อที่ฉันถนัดพอดี ขอบคุณพระเจ้าเลยจ้า
“สาธิตปัญจกีฬา” เป็นหัวข้อที่คู่ฉันกับเจ้าแห้งได้ และคะแนนที่อาจารย์ให้ในชิ้นงานนี้ 50 คะแนน ดีจริงฉันจะได้มีโอกาสตีตื้นสู้กับกลุ่มแพทย์ได้ เหลือ 50 คะแนนเป็นวิชาการ พอจะสู้ได้มั้ง ไม่งั้นเกรดจะตก
“ แพรวพร อย่างไรก็ช่วยพร้อมกริชด้วยนะ เพราะเธอคงทำได้อยู่แล้ว นักศึกษาที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ ถนัดอยู่แล้วใช่ไหม” อาจารย์พูดฝากฝังเจ้าแห้งกับฉัน
“ นี่อะไรกัน ทำไมต้องเป็นฉันด้วย เหม็นขี้หน้าจะแย่แล้ว เจ้าแห้งโคตรหลงตัวเอง”
เขาไม่ยอมสบตาและมองมาที่ฉัน ตอนจับคู่ปรึกษางาน เขามีแต่นั่งเงียบอย่างเดียว
“ นี่..ตกลงคุณจะทำได้ไหมเนี่ย กีฬาทั้ง 5 อย่างนี้” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นเขานั่งนิ่งอย่างเดียว
“ ในทั้งหมดนี้มียิงปืนสั้น ฟันดาบ ว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตร ขี่ม้าและวิ่งกลางแจ้ง 3 กิโลเมตร คุณจะเลือกสาธิตชนิดไหน” ฉันพร้อมจะแบ่งการสาธิตให้เขา
“ ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้มาก เพราะผมมีชีวิตอยู่กับเรื่องเรียนซะส่วนใหญ่ กิจกรรมไม่ค่อยได้ทำ ผมแนวใช้สมองมากกว่ากำลัง” พร้อมกริชพูดแบบไม่มองหน้า หันไปทางอื่นแทน
“ คุณเรียนมาก ใช้แต่สมอง จิตใจเลยไม่ค่อยได้พัฒนาเนอะ ใช่ไหม” ฉันพูดกวนโอ้ยซะ ต้องจิกให้เจ็บ ได้โอกาสแล้ว มาหาว่าฉันใช้แต่กำลัง เหมือนวัวควายหรือไง ถ้าได้คู่กับคนอื่นก็คงจะมีความสุขกว่านี้มาก ไม่น่าต้องมาเจอเจ้าแห้ง คนหลงตัวเอง
“ นี่คุณ..ถ้าคุณเก่งก็สาธิตทุกอย่างเลยซิ ถ้าแน่จริง” เขาเริ่มไม่พอใจเมื่อโดนฉันจิก
“ฉันมันทำได้อยู่แล้ว แต่บังเอิญฉันไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบนะ มันไม่แฟร์ว่างั้น” ตอบโต้คืนทันควัน เพราะเบื่อหน้าเขาที่ทำเฉยเมยมึนตึง
“ผมเอา 2 อย่างว่ายน้ำกับวิ่งกลางแจ้ง ที่เหลือคุณสาธิตละกัน คิดว่าแน่..” เขาก็ไม่ลดละ
“ อ๊อดดดด...” ดีจังเสียงออดดังช่วยให้หมดคาบ จะได้ไม่ต้องพูดกับเจ้าแห้งคนหลงตัวเอง
“ ขอเบอร์โทรศัพท์ด้วย เผื่อจำเป็นต้องติดต่อเรื่องชิ้นงาน” ฉันขอเบอร์เขา
“ ตามนี้หละกัน ไม่จำเป็นก็อย่าโทรมาละกัน ผมไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระกับใคร” เขาให้นามบัตร และพูดปามฉันไว้ ฟังแล้วอยากลุกขึ้นตีเข่าเขย่าศอกจริงๆ ผู้ชายคนนี้ ไม่สมกับเป็นชายชาตรีเลย เดชชัยเพื่อนฉันแมนกว่าเยอะ
“เวลาเหลือ 2 เดือนต้องส่งงานและสาธิตแล้ว คุณก็ทำใจหละกัน ถ้างานออกมาไม่ดีอย่ามาว่าฉันหละกัน ถ้ากลัวฉันจะโทรหา กลัวก็แต่จะมีใครบ้างคนจะโทรมาหาฉันละซิ ฮ่าๆๆๆ”
พอเขาได้ยินอย่างนั้น เขาใช้หางตามองฉัน เห็นแบบนี้แล้ว ขอบอกว่าน่าหมั่นไส้มาก เมื่อไหร่จะหมดครอสนี้สักทีนะ เบื่อเจ้าแห้งเนี่ยสุดๆ
วันนี้แพรวพรรู้สึกง่วงนอนมาก จะเข้านอนก่อนเวลาปกติ ยังไม่ทันได้เอนตัวลงนอน ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
“ เอ..ปกติเวลานี้ไม่เคยมีใครโทรมาหานะ ใครเอ่ยโทรมา” ฉันบ่นเบาๆกับตัวเอง
“ หวัดดีค่ะ แพรวพรพูดค่ะ” รีบรับโทรศัพท์และทักทายออกไป เพราะเบอร์ที่โทรมาไม่รู้จัก
“ ผมเองพร้อมกริช “ เสียงตอบมา อ้าว..เนี่ยเป็นนายเองเหรอเจ้าแห้ง
“ โทรมามีอะไรเหรอ แล้วนี่ได้เบอร์โทรของฉัน มาจากใครกันหละ” ฉันเริ่มซักทันทีเพราะเห็นเขาบอกว่าจะไม่มีเวลาคุยกับใคร
“ผมเสนองานให้อาจารย์ดูแล้วเมื่อตอนเย็น อาจารย์บอกต้องสาธิตด้วยกันทั้งสองคน ไม่ให้แบ่งงานกันสาธิต เพราะอาจารย์เขาวางเป้าหมายตามนั้น ผมก็เลยต้องให้คุณช่วย” เขาตอบมาเสียงอ่อยๆๆ
“ ฮ่าๆๆๆ เอาแล้วไหมหละ คราวนี้คุณต้องมาเจอกับฉันทุกวันแน่นอน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากมาเจอฉัน บอกตรงๆ ฉันก็ไม่อยากเจอคุณเหมือนกัน เพราะทำใจลำบากมากที่ได้เจอคุณ แต่เมื่อคนอย่างฉัน เป็นคนชอบช่วยเหลือคน ไม่ได้ใช้แต่สมอง ชอบใช้กำลังตลอด แต่เพื่อคะแนน ฉันทำได้ทุกอย่าง” ฉันจัดเต็มกับเจ้าแห้ง จะได้รู้สำนึกซะมั้ง พวกใช้แต่สมอง
“ ก็ดี ผมก็ต้องการเกรดเพื่อลุ้นเกียรตินิยมอันดับ 1 ผมก็จำต้องทนเห็นหน้าคุณเหมือนกัน”
ฟังแล้วอารมณ์ขึ้นมาก คืองานนี้ถ้าช่วยฝึกให้แล้ว ยังทำตัวหยิ่งแบบนี้ ฉันต้องให้รู้จักพิษสงของฉันมั้งละ จะเอาคืนแบบให้เจ้าแห้งสยบมาร นั่งคุกเข่าขอร้องเลยแหละ
“ โอเคเลย เดี๋ยวส่งโปรแกรมฝึกและเวลาไปให้ทางไลน์หละกัน ไม่อยากคุยกับคุณนาน มันคันขี้หู แค่เนี่ยนะ” ฉันรีบตัดบททันที เพราะไม่อยากได้ยินเสียงเจ้าแห้งนี่
วันแรกตามโปรแกรมคือไปฝึกขี่ม้า เวลาตามนัดคือ 9 โมงเช้า ฉันไปรอก่อนที่สนามขี่ม้า พยายามเลือกม้าตัวที่เชื่องที่สุด เพราะจะได้ไม่เหนื่อยมากตอนฝึก
“ มาแล้วครับ “ พร้อมกริช รีบทักทาย เพราะตอนนี้เขาต้องให้ฉันช่วยให้เขาขี่มาให้ได้
เขาดูดีเลยตอนนี้ อยู่ในชุดลำลอง มองแล้วเขาเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง บุคลิกดี สูงเพรียว ขาว หน้าตาสดใส คิ้วเข้ม จัดว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่ง ฉันเผลอมองเขาอยู่นาน
“ นี่..คุณแพรวพร มองอะไรผม ผมพูดและถามคุณอยู่ ไม่ได้ยินหรือไง” พร้อมกริช เริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นฉันมองเขานิ่งและนาน
“ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เห็นคุณในสภาพนี้มาก่อน ก็เลยรู้สึกแปลกตาไปนิด” ฉันเริ่มพูดเบี่ยงเบนไม่ให้เขาแปลกใจที่ฉันมองเขานาน
“ หลงใหลในความหล่อของผมละซิ บอกเลยว่าอย่าคิดไปไกล คุณไม่ใช่สเปคผม” เขาตอบมา
ได้ยินแบบนั้น อารมณ์ก้าวร้าว เริ่มเกิดขึ้นทันที
“ รู้แล้วน่า ว่าคุณเรียนหมอ คุณก็ต้องชอบหมอ แนวเดียวกับคุณ อย่าคิดนะว่าคุณจะทำให้ฉันหวั่นไหว หรือเอนเอียงไปทางคุณ อยากอ้วกจริงๆ คลื่นไส้ชะมัด” ฉันพูดได้ซะใจมาก
“มาเริ่มฝึกขี่ม้ากันเลย จะดูซิว่าคุณหมอจะทำได้ไหม ไปเลย” ฉันต้องรีบสอนเขาขี่ให้เป็นเร็วที่สุด เพราะเกลียดขี้หน้าเจ้าแห้งนี่ อยู่ด้วยกันนานไม่ได้ เดี๋ยวมีเรื่องทะเลาะกันอีก
“ คุณขี่ม้าให้ผมดูก่อน คนที่จะมาสอนผมได้ต้องเก่งพอ ไม่งั้นผมไม่เชื่อหรอก” พร้อมกริชเริ่มกวนโมโหฉันอีก ฉันกระโดดขึ้นหลังม้า และควบม้าออกไป เพื่อระบายอารมณ์โกรธ
ขณะที่แพรวพร ขี่ม้าในสนาม พร้อมกริชมองดูเธอ อย่างทึ่งในความสามารถของแพรวพร
..... เธอแข็งแรง ว่องไว ทรงตัวได้ดี ควบคุมม้าเป็นหนึ่งเดียวกับเธอได้ ผมแพรวพรปลิวไสว ต้องกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้า
พร้อมกริชมองดูเธอเพลิดเพลิน แววตาที่แข็งกร้าวของเขาเริ่มอ่อนลง เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเธอควบม้าอย่างมีความสุข
“ ยิ้มอะไรห่ะ ฉันมาหยุดม้าตรงหน้าคุณตั้งนานแล้ว” ฉันงงที่เห็นพร้อมกริช ยิ้มละมัยอยู่คนเดียวตั้งนาน
พร้อมกริชตกใจ สะดุ้งสุดตัว ไม่คิดว่าแพรวพร จะมาจ้องดูเขานานขนาดนั้น เขารีบเก็บอาการทันที เปลี่ยนบุคลิกเป็นคอแข็ง และมองแพรวพรด้วยหางตา
อย่ามารักสาวพละนะ..ขอบอก ตอน 2
เดชชัยยิ้มหวาน ตาซึ้งเหมือนอยากจะกินฉันเข้าไปทั้งตัว
“ นี่..นายเดช นายจะกินเบียร์หรือจะกินฉัน” ฉันมองเดชชัยด้วยความอยากเตะหรือชกเหมือนซ้อมมวยไทย เดชชัยไม่ตอบ แถมยิ้มอย่างมีความหมาย ดื่มเบียร์ไปได้สองขวด ก็มีกลุ่มหนึ่งมานั่งข้างๆโต๊ะ แต่งตัวดูดีมีคลาสมาก ฉันหันไปมองความหรูของเสื้อผ้ากับความมีระดับของพวกเขา
“ ฮือ..วันนี้วันซวยอีกหละ” เจ้าแห้งหลงตัวเอง ร้านอื่นมีตั้งหลายร้านไม่ไป ดันมาร้านที่ฉัน
นั่งอยู่ แถมมานั่งตรงข้ามกับฉันพอดี เขาทำเป็นไม่เห็นฉัน ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่เกิดอาการคลื่นไส้เวลามองไปเจอเขา
เบียร์ขวดที่หกหมดลง ฉันบอกแววว่ากลับได้แล้ว เจ้าแห้งมองมาสบตากับฉันพอดี แต่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่เคยปะทะกันมาก่อน
เมาได้ที่หละ กลุ่มฉันกลับก่อน เพราะไม่อยากไปเรียนคาบแรกสายเหมือนครั้งที่แล้ว
“ แม่เจ้า!สายตามเคย เมามากไปหน่อยเมื่อคืน สปีดเต็มที่หละตอนนี้” ฉันกระโดดขี่จักรยานคันเก่งอย่างรวดเร็ว พลังขาที่แข็งแรงพาไปทันเวลาพอดี
ฉันมองเห็นเก้าอี้หลังห้องตัวสุดท้ายว่างพอดี ฉันดีใจมากที่ได้นั่งข้างหลังจะได้ไม่ต้องโดนอาจารย์ถามมาก เพราะยังแฮงค์อยู่ตอนนี้
“ โครม!” เสียงดัง หัวของฉันไปชนกับหัวของใครคนหนึ่ง แล้วคนนั้นล้มลงไปชนเก้าอี้ล้มอีกที ฉันเซไปอีกที่หนึ่ง มึนหัวเพิ่มขึ้นเพราะตอนนี้ยังแฮงค์อยู่ คนที่ล้มลงไปมองมาที่ฉัน
“ เวรหละ เจ้าแห้งอีกแล้ว อะไร....ทำไม...ต้องเป็นนายคนนี้ตลอด ทั้งห้องนี่ไม่มีเก้าอี้ตัวอื่นเลยเหรอ ทำไมต้องมาแย่งเก้าอี้ตัวเดียวกันด้วย
“ อ้าว นักศึกษานั่งเก้าอี้ให้ระวังด้วยครับ วันนี้จะมีการจับคู่กันเพื่อทำรายงาน ผมจะให้นักศึกษาจับสลากเองนะครับ ใครได้ตัวอักษรเหมือนกัน ก็อยู่คู่กันครับ” อาจารย์พูดเหมือนไม่เห็นอะไรเกิดขึ้น
ฉันได้ตัวอักษร D ต้องหาคู่หละจะได้คู่กับใคร คนอื่นก็เดินตามหาคู่กัน คนนั้นถามคนนี้เพื่อจะได้รีบจับคู่กัน เพราะอาจารย์ให้หัวข้อรายงานมาแล้ว ต้องรีบจับคู่ปรึกษาหาข้อมูล
ฉันเห็นเจ้าแห้งนั่งเงียบอยู่คนเดียว ไม่เห็นไปหาคู่ ฉันเป็นนักศึกษาเอกวิทยาศาสตร์การกีฬาฯคนเดียวในกลุ่มแพทย์ ทุกคนมานั่งเป็นคู่กันเรียบร้อย ฉันยังหาคู่ไม่เจอ
“ขอโทษนะค่ะ ใครได้อักษร D ค่ะ ฉันกำลังหาคู่อยู่ค่ะ” ฉันรีบพูดถามหาคู่ เพราะรอนานเกินไปแล้ว จนคู่อื่นเขาเตรียมวางแผนกันแล้ว
“ ผมว่าคงจะเป็นพร้อมกริชหรือเปล่าที่ได้ D ใช่ไหมพร้อมกริช เพราะคนอื่นเขามีคู่กันแล้ว”
“ อาจารย์ครับผมอยากเปลี่ยนคู่ครับ จะได้ไหมครับ” พร้อมกริช พูดแบบไม่ไว้หน้าฉันเลย
“ อ้าว..ทำไมหละพร้อมกริช คุณก็คู่กับแพรวพรซิ “ อาจารย์พูดออกมา เพราะเห็นฉันทำหน้าเริ่มไม่พอใจเมื่อได้ยินเจ้าแห้งพูดแบบนั้น
พร้อมกริชจำยอมมานั่งคู่กับฉัน เพราะอาจารย์สั่งให้รีบปรึกษาหัวข้อที่ได้มา และหัวข้อที่ฉันได้มาเป็นหัวข้อที่ฉันถนัดพอดี ขอบคุณพระเจ้าเลยจ้า
“สาธิตปัญจกีฬา” เป็นหัวข้อที่คู่ฉันกับเจ้าแห้งได้ และคะแนนที่อาจารย์ให้ในชิ้นงานนี้ 50 คะแนน ดีจริงฉันจะได้มีโอกาสตีตื้นสู้กับกลุ่มแพทย์ได้ เหลือ 50 คะแนนเป็นวิชาการ พอจะสู้ได้มั้ง ไม่งั้นเกรดจะตก
“ แพรวพร อย่างไรก็ช่วยพร้อมกริชด้วยนะ เพราะเธอคงทำได้อยู่แล้ว นักศึกษาที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ ถนัดอยู่แล้วใช่ไหม” อาจารย์พูดฝากฝังเจ้าแห้งกับฉัน
“ นี่อะไรกัน ทำไมต้องเป็นฉันด้วย เหม็นขี้หน้าจะแย่แล้ว เจ้าแห้งโคตรหลงตัวเอง”
เขาไม่ยอมสบตาและมองมาที่ฉัน ตอนจับคู่ปรึกษางาน เขามีแต่นั่งเงียบอย่างเดียว
“ นี่..ตกลงคุณจะทำได้ไหมเนี่ย กีฬาทั้ง 5 อย่างนี้” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นเขานั่งนิ่งอย่างเดียว
“ ในทั้งหมดนี้มียิงปืนสั้น ฟันดาบ ว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตร ขี่ม้าและวิ่งกลางแจ้ง 3 กิโลเมตร คุณจะเลือกสาธิตชนิดไหน” ฉันพร้อมจะแบ่งการสาธิตให้เขา
“ ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้มาก เพราะผมมีชีวิตอยู่กับเรื่องเรียนซะส่วนใหญ่ กิจกรรมไม่ค่อยได้ทำ ผมแนวใช้สมองมากกว่ากำลัง” พร้อมกริชพูดแบบไม่มองหน้า หันไปทางอื่นแทน
“ คุณเรียนมาก ใช้แต่สมอง จิตใจเลยไม่ค่อยได้พัฒนาเนอะ ใช่ไหม” ฉันพูดกวนโอ้ยซะ ต้องจิกให้เจ็บ ได้โอกาสแล้ว มาหาว่าฉันใช้แต่กำลัง เหมือนวัวควายหรือไง ถ้าได้คู่กับคนอื่นก็คงจะมีความสุขกว่านี้มาก ไม่น่าต้องมาเจอเจ้าแห้ง คนหลงตัวเอง
“ นี่คุณ..ถ้าคุณเก่งก็สาธิตทุกอย่างเลยซิ ถ้าแน่จริง” เขาเริ่มไม่พอใจเมื่อโดนฉันจิก
“ฉันมันทำได้อยู่แล้ว แต่บังเอิญฉันไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบนะ มันไม่แฟร์ว่างั้น” ตอบโต้คืนทันควัน เพราะเบื่อหน้าเขาที่ทำเฉยเมยมึนตึง
“ผมเอา 2 อย่างว่ายน้ำกับวิ่งกลางแจ้ง ที่เหลือคุณสาธิตละกัน คิดว่าแน่..” เขาก็ไม่ลดละ
“ อ๊อดดดด...” ดีจังเสียงออดดังช่วยให้หมดคาบ จะได้ไม่ต้องพูดกับเจ้าแห้งคนหลงตัวเอง
“ ขอเบอร์โทรศัพท์ด้วย เผื่อจำเป็นต้องติดต่อเรื่องชิ้นงาน” ฉันขอเบอร์เขา
“ ตามนี้หละกัน ไม่จำเป็นก็อย่าโทรมาละกัน ผมไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระกับใคร” เขาให้นามบัตร และพูดปามฉันไว้ ฟังแล้วอยากลุกขึ้นตีเข่าเขย่าศอกจริงๆ ผู้ชายคนนี้ ไม่สมกับเป็นชายชาตรีเลย เดชชัยเพื่อนฉันแมนกว่าเยอะ
“เวลาเหลือ 2 เดือนต้องส่งงานและสาธิตแล้ว คุณก็ทำใจหละกัน ถ้างานออกมาไม่ดีอย่ามาว่าฉันหละกัน ถ้ากลัวฉันจะโทรหา กลัวก็แต่จะมีใครบ้างคนจะโทรมาหาฉันละซิ ฮ่าๆๆๆ”
พอเขาได้ยินอย่างนั้น เขาใช้หางตามองฉัน เห็นแบบนี้แล้ว ขอบอกว่าน่าหมั่นไส้มาก เมื่อไหร่จะหมดครอสนี้สักทีนะ เบื่อเจ้าแห้งเนี่ยสุดๆ
วันนี้แพรวพรรู้สึกง่วงนอนมาก จะเข้านอนก่อนเวลาปกติ ยังไม่ทันได้เอนตัวลงนอน ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
“ เอ..ปกติเวลานี้ไม่เคยมีใครโทรมาหานะ ใครเอ่ยโทรมา” ฉันบ่นเบาๆกับตัวเอง
“ หวัดดีค่ะ แพรวพรพูดค่ะ” รีบรับโทรศัพท์และทักทายออกไป เพราะเบอร์ที่โทรมาไม่รู้จัก
“ ผมเองพร้อมกริช “ เสียงตอบมา อ้าว..เนี่ยเป็นนายเองเหรอเจ้าแห้ง
“ โทรมามีอะไรเหรอ แล้วนี่ได้เบอร์โทรของฉัน มาจากใครกันหละ” ฉันเริ่มซักทันทีเพราะเห็นเขาบอกว่าจะไม่มีเวลาคุยกับใคร
“ผมเสนองานให้อาจารย์ดูแล้วเมื่อตอนเย็น อาจารย์บอกต้องสาธิตด้วยกันทั้งสองคน ไม่ให้แบ่งงานกันสาธิต เพราะอาจารย์เขาวางเป้าหมายตามนั้น ผมก็เลยต้องให้คุณช่วย” เขาตอบมาเสียงอ่อยๆๆ
“ ฮ่าๆๆๆ เอาแล้วไหมหละ คราวนี้คุณต้องมาเจอกับฉันทุกวันแน่นอน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากมาเจอฉัน บอกตรงๆ ฉันก็ไม่อยากเจอคุณเหมือนกัน เพราะทำใจลำบากมากที่ได้เจอคุณ แต่เมื่อคนอย่างฉัน เป็นคนชอบช่วยเหลือคน ไม่ได้ใช้แต่สมอง ชอบใช้กำลังตลอด แต่เพื่อคะแนน ฉันทำได้ทุกอย่าง” ฉันจัดเต็มกับเจ้าแห้ง จะได้รู้สำนึกซะมั้ง พวกใช้แต่สมอง
“ ก็ดี ผมก็ต้องการเกรดเพื่อลุ้นเกียรตินิยมอันดับ 1 ผมก็จำต้องทนเห็นหน้าคุณเหมือนกัน”
ฟังแล้วอารมณ์ขึ้นมาก คืองานนี้ถ้าช่วยฝึกให้แล้ว ยังทำตัวหยิ่งแบบนี้ ฉันต้องให้รู้จักพิษสงของฉันมั้งละ จะเอาคืนแบบให้เจ้าแห้งสยบมาร นั่งคุกเข่าขอร้องเลยแหละ
“ โอเคเลย เดี๋ยวส่งโปรแกรมฝึกและเวลาไปให้ทางไลน์หละกัน ไม่อยากคุยกับคุณนาน มันคันขี้หู แค่เนี่ยนะ” ฉันรีบตัดบททันที เพราะไม่อยากได้ยินเสียงเจ้าแห้งนี่
วันแรกตามโปรแกรมคือไปฝึกขี่ม้า เวลาตามนัดคือ 9 โมงเช้า ฉันไปรอก่อนที่สนามขี่ม้า พยายามเลือกม้าตัวที่เชื่องที่สุด เพราะจะได้ไม่เหนื่อยมากตอนฝึก
“ มาแล้วครับ “ พร้อมกริช รีบทักทาย เพราะตอนนี้เขาต้องให้ฉันช่วยให้เขาขี่มาให้ได้
เขาดูดีเลยตอนนี้ อยู่ในชุดลำลอง มองแล้วเขาเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง บุคลิกดี สูงเพรียว ขาว หน้าตาสดใส คิ้วเข้ม จัดว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่ง ฉันเผลอมองเขาอยู่นาน
“ นี่..คุณแพรวพร มองอะไรผม ผมพูดและถามคุณอยู่ ไม่ได้ยินหรือไง” พร้อมกริช เริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นฉันมองเขานิ่งและนาน
“ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เห็นคุณในสภาพนี้มาก่อน ก็เลยรู้สึกแปลกตาไปนิด” ฉันเริ่มพูดเบี่ยงเบนไม่ให้เขาแปลกใจที่ฉันมองเขานาน
“ หลงใหลในความหล่อของผมละซิ บอกเลยว่าอย่าคิดไปไกล คุณไม่ใช่สเปคผม” เขาตอบมา
ได้ยินแบบนั้น อารมณ์ก้าวร้าว เริ่มเกิดขึ้นทันที
“ รู้แล้วน่า ว่าคุณเรียนหมอ คุณก็ต้องชอบหมอ แนวเดียวกับคุณ อย่าคิดนะว่าคุณจะทำให้ฉันหวั่นไหว หรือเอนเอียงไปทางคุณ อยากอ้วกจริงๆ คลื่นไส้ชะมัด” ฉันพูดได้ซะใจมาก
“มาเริ่มฝึกขี่ม้ากันเลย จะดูซิว่าคุณหมอจะทำได้ไหม ไปเลย” ฉันต้องรีบสอนเขาขี่ให้เป็นเร็วที่สุด เพราะเกลียดขี้หน้าเจ้าแห้งนี่ อยู่ด้วยกันนานไม่ได้ เดี๋ยวมีเรื่องทะเลาะกันอีก
“ คุณขี่ม้าให้ผมดูก่อน คนที่จะมาสอนผมได้ต้องเก่งพอ ไม่งั้นผมไม่เชื่อหรอก” พร้อมกริชเริ่มกวนโมโหฉันอีก ฉันกระโดดขึ้นหลังม้า และควบม้าออกไป เพื่อระบายอารมณ์โกรธ
ขณะที่แพรวพร ขี่ม้าในสนาม พร้อมกริชมองดูเธอ อย่างทึ่งในความสามารถของแพรวพร
..... เธอแข็งแรง ว่องไว ทรงตัวได้ดี ควบคุมม้าเป็นหนึ่งเดียวกับเธอได้ ผมแพรวพรปลิวไสว ต้องกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้า
พร้อมกริชมองดูเธอเพลิดเพลิน แววตาที่แข็งกร้าวของเขาเริ่มอ่อนลง เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเธอควบม้าอย่างมีความสุข
“ ยิ้มอะไรห่ะ ฉันมาหยุดม้าตรงหน้าคุณตั้งนานแล้ว” ฉันงงที่เห็นพร้อมกริช ยิ้มละมัยอยู่คนเดียวตั้งนาน
พร้อมกริชตกใจ สะดุ้งสุดตัว ไม่คิดว่าแพรวพร จะมาจ้องดูเขานานขนาดนั้น เขารีบเก็บอาการทันที เปลี่ยนบุคลิกเป็นคอแข็ง และมองแพรวพรด้วยหางตา