บทที่ 5
https://ppantip.com/topic/41027501
“มีอะไรก็พูดจากันดี ๆ แม่หนูคนนี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูอะไร ใช่ไหมจ๊ะ”
“ใช่แล้วค่ะ คุณป้า” ว่าพลางเกาะแขนป้าโอทันที “หนูว่าจะร่วมมือกับคุณนิด ผสมผสานวิชาเตะแบบมวยไทยกับแบบคาราเต้เข้าด้วยกัน รับรองไม่มีการปะทะกันจริง คุณนิดว่าไงคะ”
นิจพรกับเจนจิรามองหน้าสาวเสิร์ฟคนงามอย่างใคร่ครวญ แล้วหันไปพยักหน้าให้กันราวนัดกันไว้ เพราะสองสาวไม่สัมผัสเจตนาร้ายจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย สีหน้าแววตาของเจี๊ยบดูมีความชื่นชมนับถือรักใคร่อย่างจริงใจ จนเกินกว่าจะเป็นการเล่นละครตบตา และทั้งสองก็เคยเห็นเจี๊ยบทำงานในร้านอาหารสมัยยังไม่เกิดเรื่อง ซึ่งสองสาวเคยชวนกันไปดู ‘แหล่งซ่องสุม’ ของสามีหลายครั้ง สาวเสิร์ฟคนนี้วางตัวดีอัชฌาสัยดีกับทุกคน
“คาราเต้เหรอ น่าสนใจนะ” นิจพรยิ้มให้อย่างมีไมตรี รู้สึกถูกชะตากับเพื่อนใหม่ทีละน้อย
“ใช่ค่ะ ที่จริงเจี๊ยบว่ามันสู้มวยไทยไม่ได้หรอก แต่เอามาผสมกับการเตะแบบมวยไทยจัดการคุณธา เจี๊ยบว่าคุณธาตั้งตัวรับไม่ทันหรอก”
“ถ้าตั้งใจขนาดนี้ก็ดีเลย แต่ทำไมทำแบบนี้ล่ะคะ เจี๊ยบมากับคุณธาไม่ใช่เหรอ ว่าแต่รายนั้น....” นักมวยสาวพยักพเยิดออกไปทางนอกห้อง ที่เห็นผู้เป็นสามีและลุงกำจรกำลังพากันมองผ่านกระจกเข้ามาแบบสงสัย “คุณธาเขาจะไม่ว่าอะไรหรือคะ”
สาวเจี๊ยบหันไปมองแวบหนึ่งแล้วยิ้มอย่างไม่กังวลอะไร ตอบด้วยเสียงแจ่มใสไร้กังวล
“หนูทำตามข้อตกลงแล้วนี่คะ มากับเขาที่นี่แล้ว เงินค่าจ้างก็ได้เรียบร้อย ทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้หมดทุกข้อ หนูกับคุณธาไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยมากไปกว่าลูกค้าและพนักงานต้อนรับของร้าน หนูเองก็มีครอบครัวแล้ว ไม่เคยปล่อยตัว และที่หนูอยากร่วมมือกับคุณนิดเพราะหนูเป็นผู้หญิง มีปัญหาแบบนี้ก็ต้องเข้าข้างผู้หญิงด้วยกัน”
อีกครั้งที่นิจพรสัมผัสได้ถึงความจริงใจอยู่ในสีหน้าแววตาอย่างเต็มเปี่ยมจึงยิ้มและเดินลากแขนผู้มาเยือนไปห้องเปลี่ยนชุดทันที
ธาราจ้องมองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
เห็นนิจพรกับสาวเจี๊ยบเดินหายไปหลังห้องฝึกพักหนึ่งแล้วเดินกลับออกมา สาวเสิร์ฟสลัดชุดสีเขียวกระโปรงสั้นออกเป็นชุดวอร์มกางเกงขายาวแถบขาวและเสื้อยืดสีดำ เดาว่าน่าจะเป็นชุดของนิจพร ทั้งสองรูปร่างไล่เลี่ยกันจึงสวมชุดอีกฝ่ายได้สบาย
“เสร็จละ นิด เธอไม่รู้ว่าเจี๊ยบเป็นนักคาราเต้เก่า” ธารายิ้มในใจ คิดว่าทั้งสองจะเปิดฉากดวลเดือดกันด้วยเชิงมวยแนวถนัดของแต่ละฝ่าย แบบนี้แสดงว่าเจี๊ยบคนดีคงต้องการตัดกำลังของภรรยา ต้องตบรางวัลเพิ่มสักนิด ชายหนุ่มคิดอย่างกระหยิ่มอิ่มใจ อย่างน้อยยัยนิดจะต้องบอบช้ำบ้างละไม่มากก็น้อย สาวเจี๊ยบธรรมดาเสียที่ไหน ขนาดสามีของเธอยังหมอบราบคาบแก้ว แล้วผู้หญิงเอวบางร่างน้อยอย่างภรรยาตัวดีจะเหลืออะไร คิดแล้วก็อดหันไปยิ้มให้ลุงกำจรที่ยืนกอดอกอยู่ด้านข้างไม่ได้ ซึ่งเจ้าของค่ายดังก็มองดูเหตุการณ์อย่างสงสัยเหมือนกัน
แต่แล้วเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ธาราก็ต้องมีสีหน้าประหลาดใจ
ทั้งสองสาวทำท่าเหมือนสาธิตเชิงการต่อสู้มากกว่า สาวเจี๊ยบแสดงการเตะตรง เตะสูง กวาดขา หมุนตัวเตะแบบคาราเต้ โดยมีนิจพรพยายามเลียนแบบทำตาม
จากนั้นนิจพรก็แสดงวิธีเตะแบบมวยไทย ให้อีกฝ่ายลองทำตามบ้าง ทั้งสองฝ่ายผลัดเปลี่ยนกันสาธิต พูดคุยปรึกษาฝึกปรือไปกับหลักวิชาที่ถูกหล่อหลอมเข้าหากันอย่างสนุกสนาน ราวกับถูกคอถูกใจกันมานาน
ธาราหันมามองหน้าลุงกำจรเหมือนถาม หัวหน้าค่ายมวยอิเกิ้งหัวเราะหึหึ อธิบายโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเปิดปาก
“สงสัยพวกเธอแลกเปลี่ยนหลักวิชากันครับ สาวคนที่คุณควงมาดูก็รู้เลยว่าฝีมือไม่ธรรมดา ไม่อยากจะบอกเลยว่านิดยัยเตะเก่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง คุณอย่าประมาทก็แล้วกัน ลองดูสิครับ เตะบน เตะล่าง เตะหลัง เตะหน้า เตะตรง เตะตวัด เธอทำได้หมด”
“แต่ว่าเจี๊ยบ....” ธาราคอแข็งพูดไม่ออก เพราะขึนพูดไปก็เข้าเนื้อตัวเอง จะบอกความจริงว่าเขาจ้างสาวเสิร์ฟมาเป็นพวกเพื่อก่อกวนสมาธิของภรรยา ใครล่ะจะกล้าพูด รู้สึกเหมือนถูกหักหลังอย่างไรชอบกล ที่เจี้ยบเคยบอกว่าเธอเตะสามีที่มาหือมาอือขึ้นเสียงไม่รู้สำนึกจนร่วงคาเท้า แรกก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ที่ไหนได้ พอเห็นลีลาการเตะของสาวเจี๊ยบในวันนี้ ก็รีบเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนภรรยาของเขาก็เรียนรู้ได้รวดเร็วจนน่าหมั่นไส้
นี่มันอะไรกัน โลกนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย...ธาราคิดในใจด้วยความอยากกระโดดเตะตัวเองให้สาสม ตัวเรานอกจากไม่มีใครช่วยฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ให้แล้ว แค่โทรศัพท์ไปปรึกษา ยังโดนด่าเปิงกลับมาแทบเสียผู้เสียคน นี่ยังไม่นับจำนวนแฟนคลับของนิจพร ที่เฮโลสาระพาโพสต์คำด่าถล่มเฟซบุ๊กของเขา จนอ่านไม่ไหวกับการถูกด่าฟรีต้องปิดตัวหนีเมื่อคืนนี่เอง
ธารายืนเหม่อนิ่งคิดจนน้องเจี๊ยบคนดีเปิดประตูออกมายิ้มหวาน โบกมือให้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณธากลับไปก่อนเลยนะคะ เจี๊ยบมีธุระกับคุณนิดสักพักหนึ่ง ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจี๊ยบกลับแท็กซี่เองได้ค่ะ”
ดูสิ... ขนาดสาวเจี๊ยบที่ลงทุนจ้างมา ยังทิ้งเขาไปได้ต่อหน้าต่อตาอย่างหน้าตาเฉย เวรกรรมหนใด...สร้างทำไว้ชาติไหนกัน!
“แต่...” ธาราพูดไม่ออก สาวเจี๊ยบยิ้มหวาน เดินกลับไปแลกเปลี่ยนหลักวิชาการเตะกับนิจพรอีกครั้ง โดยมีเจนจิราและป้าโอนั่งเซียร์อยู่อย่างกระตือรือล้นไม่สนใจโลกภายนอก
ขณะที่ธารากำลังยืนเซ็งหัวใจอยู่นั่นเอง ใครบางคนก็เดินตรงมาหา พร้อมช่อดอกไม้หรูในมือ ส่งเสียงทักทายลุงกำจรเหมือนคนคุ้นเคยกัน
ทรงสิทธิ์ หนุ่มหล่อพ่อรวยนั่นเอง ธารากับทรงสิทธิ์รู้จักกันมาบ้างแล้ว และไม่ถูกชะตากันเป็นอย่างมาก ทรงสิทธิ์มองว่าธาราชิงตัดหน้าแย่งนิจพรไปจากเขา ส่วนธาราก็ไม่ชอบความเป็นคนหัวสูงอวดร่ำรวยคุยโอ่ของทรงสิทธิ์ แถมยังมีการมาจุ้นจ้านกับภรรยาของเขาพักหนึ่งทั้งที่นิจพรแต่งงานแล้ว ก่อนที่ทรงสิทธิ์จะหันไปสนใจเจนนิรา
“แหม นึกว่าใคร ที่แท้ก็คือคนที่ถูกภรรยาทิ้งนี่เอง” ทรงสิทธิ์เปิดฉากทักทายธาราก่อนด้วยสีหน้ายิ้มรอยเคลือบยาพิษ “โอ คุณธารามีความเป็นลูกผู้ชายมากเลย ผมชื่นชมล้นเหลือ คุณธาราขนาดสละแรงกายใจมาคอยให้กำลังใจการซ้อมมวยของคุณนิด ทั้งที่รู้ว่าคุณนิดซ้อมมวยเพื่อเตะปากคุณอยู่แท้ ๆ ยังใจกว้างมาเชียร์ ผมละชื่นชมคุณสุด ๆ”
ธาราฟังแล้วทำหน้าบรรยายยาก นึกอยากเตะปากอีกฝ่ายขึ้นมาทันที แต่สะกดใจไม่ว่าอะไร มองดูช่อดอกไม้สองช่อใหญ่ในมือของหนุ่มผู้มาเยือน ซึ่งทรงสิทธิ์เหมือนจะรู้ เขาจึงพูดต่อไปว่า
“อ้อ...ผมเอาช่อดอกไม้สวย ๆ มามอบให้คุณนิดและคุณเจน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการฝึกฝนการเตะปากสามีครับ คนอย่างผมมีน้ำใจงดงามเสมอ ไม่มามือเปล่าเหมือนใครบางคนหรอกครับ เดี๋ยวขอตัวก่อนนะครับสาว ๆ คงกำลังรอน้ำใจจากผมอยู่”
พูดจบเขาก็เอียงตัวดันประตูห้องซ้อมพิเศษเข้าไป นิจพรพอรู้ว่าใครเข้ามาก็ขอเบรกการซ้อม ดึงแขนสาวเจี๊ยบและเจนจิราตรงเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสผิดปกติอย่างที่ลุงกำจรเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งเจ้าของค่ายมวยก็ได้แต่ขำในใจ เพราะรู้ว่านั่นก็เป็นสงครามประสาทชนิดหนึ่ง นิจพรสังเกตเห็นธารามองผ่านกระจกเข้ามาสังเกตการณ์ตลอดเวลา
ภาพที่ธาราเห็นผ่านกระจกใสคือทรงสิทธิ์อยู่ท่ามกลาง สาว ๆ อย่างเบิกบานใจ มีผู้หญิงสวยล้อมหน้าล้อมหลังให้ความสำคัญท่าทางสนิทสนิทสนมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนิจพรที่ดูแสดงความสนิทชิดเชื้อเกินหน้าเกินนา ความรู้สึกของธาราเดือดพล่านทันที ไม่อยากมองภาพบาดตาบาดใจ อยากจะผละหนีแต่ใจหนึ่งกลับรั้งเอาไว้ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้
สักพักทรงสิทธิ์ก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส
“แหม เสียดายจัง พอดีผมต้องรีบกลับไปบริษัท” เขาพูดพร้อมกับปรายหางตามองคู่ปรับเก่า “แบบว่าคนสำคัญอย่างผมไม่ค่อยมีเวลาหรอกครับ ใครๆ ก็อยากพูดอยากคุยด้วย เวลาเป็นเงินเป็นทอง เดี๋ยวก็ต้องไปประชุมโครงการใหญ่ เงินทั้งนั้น นี่ผมกำลังลำบากใจว่าจะเลือกใครดี คุณนิดหรือคุณเจน ท่าทางสาว ๆ สามคนกำลังสนใจผมอย่างมากเลย เกิดเป็นคนหล่อคนรวยนี่มันทำตัวยากลำบากเสียจริง ผมละกลุ้ม”
“นี่คุณทรงสิทธิ์...” ธาราอดรนทนไม่ได้ จ้องหน้าด้วยสายตาขุ่นเคือง “ นิดน่ะแฟนผมนะโว้ย ยังเป็นเมียผมอยู่ มาพูดถึงเธอแบบนี้ได้ไง”
“โอ อย่าพูดโว้ยสิครับ คุณธารา คนเราต้องสุภาพครับ พูดจาวะโว้ยมันอนารยชน บาบาเรี่ยน ดูตัวอย่างผมสิครับ นอกจากหล่อรวยแล้วยังไม่พอ ยังมีความเป็นอารยชนมีอารยธรรม ถึงคุณธาราจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ในทางปฏิบัติ คุณนิดขาดจากความเป็นภรรยาของคุณแล้วนะครับ เรื่องของกฎหมายมันเป็นเพียงตัวอักษรเท่านั้น หัวใจครับหัวใจ มันต้องดูที่หัวใจ ผมก็ว่าแล้ว....”
“ว่าอะไร คุณว่าอะไร” ธารากระชากเสียงถาม
“ว่าแล้วว่า คุณนิดกับคุณไปด้วยกันไม่ได้ อยู่ไม่ได้ไปไม่รอดหรอก ไม่เหมาะสมกัน ต้องอย่างผมสิครับ เหมาะสมกับคุณนิดอย่างที่สุด หาใดเสมอเหมือน ผมงี้หล่อก็หล่อ รวยก็รวย ดูดีโพรไฟล์ดีมีชาติมีตระกูล ไม่เหมือนใครบางคนหรอกครับ”
“ไอ้คุณทรงทรุด!” ธาราแยกเขี้ยวระเบิดอารมณ์ “พูดแบบนี้มะอึงกับผมมาขึ้นเวทีชกกันดีกว่า ว่าไง มะอึงกล้าชกกับผมไหม เอางี้ก็ได้ กะรูจะใช้แขนข้างเดียวต่อยกับคุณ แน่จริงมาชกกันเลย”
ว่าพลางก็ปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อของคู่ปรับ แต่ลุงกำจรซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว รีบปราดเข้ามาห้ามทันควัน
“อย่าครับคุณธารา เดี๋ยวเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงพัก ข้อหาทำร้ายร่างกาย ไม่ดี ๆ คุณทรงสิทธิ์เขาก็แค่แกล้งพูดเล่นเท่านั้นเอง คนกันเองแท้ ๆ ไม่มีอะไรครับ”
“ใช่แล้ว” ทรงสิทธิ์ปัดมือที่จับคอเสื้อออกด้วยท่าทางใจเย็น เพราะต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาควบคุมสถานการณ์ได้ “การใช้กำลังนะมันบาบาเรี่ยน ของแบบนี้มันต้องดีเบตกัน รู้จักไหมครับดีเบต หรือรู้จักแต่การชกกับภรรยาผู้แสนดี คนเราต้องว่ากันด้วยหลักการและเหตุผล คิดแบบฝรั่งบ้างสิครับ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะใช้กำลังเข้าตัดสิน ก็แหม...คุณนิดเองก็เกลียดคุณธาราเข้าไส้ราวกิ้งกือไส้เดือน คุณอย่าทำเป็น อะไรนะ...ผมไม่อยากใช้คำว่า หมาหวงก้าง มันแรงเกินไป หยาบคาย ผมขอใช้คำว่า สุนัขแหนหวงอุนจิ ดีกว่านะครับ ฟังแล้วสุภาพเรียบร้อยมาก”
“ลุงกำจรครับ” ธารายิ้มมุมปาก หันไปถามเจ้าของค่ายมวย “ข้อหาเตะปากคนนี่ต้องถึงจำคุกไหมครับ หรือจ่ายค่าปรับอย่างเดียว”
“เอ ข้อหาทำร้ายร่างกาย...ผมก็ไม่รู้สิครับ” ลุงกำจรยกมือเกาหัว ยิ้มแห้ง ๆ ใจคอเริ่มไม่ดี “แต่ผมว่าไม่ต้องทำเรื่องจนต้องเสียค่าปรับจะดีกว่า”
“วันนี้ผมอยากเสียค่าปรับครับ ไม่รู้เป็นไง อยากเตะคนด้วย” พูดจบธาราก็กระโดดเตะทรงสิทธ์ทันที แต่อีกฝ่ายระวังตัวอยู่แล้ว จึงกระโดดถอยหลังหลบไปได้แบบหวุดหวิด ธาราตามไปเตะอีกหลายครั้งแต่ทรงสิทธิ์ก็กระโดดหลบไปได้ ทั้งคู่ไม่มีใครเป็นมวย จึงดูตลกมากกว่าจะน่ากลัว
“พยายามฆ่า ข้อหาพยายามฆ่า” หนุ่มหล่อตะโกนลั่นให้ทุกคนหันมามองเป็นพยาน “ใครมีมือถือถ่ายคลิปไว้เลยครับ จะได้เป็นหลักฐาน ผมมีรางวัลจ่ายให้เจ้าของคลิป”
มีต่อ
สังเวียนรัก สังเวียนร้าง... (หมัดเทวะอุดร)
บทที่ 5
https://ppantip.com/topic/41027501
“มีอะไรก็พูดจากันดี ๆ แม่หนูคนนี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูอะไร ใช่ไหมจ๊ะ”
“ใช่แล้วค่ะ คุณป้า” ว่าพลางเกาะแขนป้าโอทันที “หนูว่าจะร่วมมือกับคุณนิด ผสมผสานวิชาเตะแบบมวยไทยกับแบบคาราเต้เข้าด้วยกัน รับรองไม่มีการปะทะกันจริง คุณนิดว่าไงคะ”
นิจพรกับเจนจิรามองหน้าสาวเสิร์ฟคนงามอย่างใคร่ครวญ แล้วหันไปพยักหน้าให้กันราวนัดกันไว้ เพราะสองสาวไม่สัมผัสเจตนาร้ายจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย สีหน้าแววตาของเจี๊ยบดูมีความชื่นชมนับถือรักใคร่อย่างจริงใจ จนเกินกว่าจะเป็นการเล่นละครตบตา และทั้งสองก็เคยเห็นเจี๊ยบทำงานในร้านอาหารสมัยยังไม่เกิดเรื่อง ซึ่งสองสาวเคยชวนกันไปดู ‘แหล่งซ่องสุม’ ของสามีหลายครั้ง สาวเสิร์ฟคนนี้วางตัวดีอัชฌาสัยดีกับทุกคน
“คาราเต้เหรอ น่าสนใจนะ” นิจพรยิ้มให้อย่างมีไมตรี รู้สึกถูกชะตากับเพื่อนใหม่ทีละน้อย
“ใช่ค่ะ ที่จริงเจี๊ยบว่ามันสู้มวยไทยไม่ได้หรอก แต่เอามาผสมกับการเตะแบบมวยไทยจัดการคุณธา เจี๊ยบว่าคุณธาตั้งตัวรับไม่ทันหรอก”
“ถ้าตั้งใจขนาดนี้ก็ดีเลย แต่ทำไมทำแบบนี้ล่ะคะ เจี๊ยบมากับคุณธาไม่ใช่เหรอ ว่าแต่รายนั้น....” นักมวยสาวพยักพเยิดออกไปทางนอกห้อง ที่เห็นผู้เป็นสามีและลุงกำจรกำลังพากันมองผ่านกระจกเข้ามาแบบสงสัย “คุณธาเขาจะไม่ว่าอะไรหรือคะ”
สาวเจี๊ยบหันไปมองแวบหนึ่งแล้วยิ้มอย่างไม่กังวลอะไร ตอบด้วยเสียงแจ่มใสไร้กังวล
“หนูทำตามข้อตกลงแล้วนี่คะ มากับเขาที่นี่แล้ว เงินค่าจ้างก็ได้เรียบร้อย ทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้หมดทุกข้อ หนูกับคุณธาไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยมากไปกว่าลูกค้าและพนักงานต้อนรับของร้าน หนูเองก็มีครอบครัวแล้ว ไม่เคยปล่อยตัว และที่หนูอยากร่วมมือกับคุณนิดเพราะหนูเป็นผู้หญิง มีปัญหาแบบนี้ก็ต้องเข้าข้างผู้หญิงด้วยกัน”
อีกครั้งที่นิจพรสัมผัสได้ถึงความจริงใจอยู่ในสีหน้าแววตาอย่างเต็มเปี่ยมจึงยิ้มและเดินลากแขนผู้มาเยือนไปห้องเปลี่ยนชุดทันที
ธาราจ้องมองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
เห็นนิจพรกับสาวเจี๊ยบเดินหายไปหลังห้องฝึกพักหนึ่งแล้วเดินกลับออกมา สาวเสิร์ฟสลัดชุดสีเขียวกระโปรงสั้นออกเป็นชุดวอร์มกางเกงขายาวแถบขาวและเสื้อยืดสีดำ เดาว่าน่าจะเป็นชุดของนิจพร ทั้งสองรูปร่างไล่เลี่ยกันจึงสวมชุดอีกฝ่ายได้สบาย
“เสร็จละ นิด เธอไม่รู้ว่าเจี๊ยบเป็นนักคาราเต้เก่า” ธารายิ้มในใจ คิดว่าทั้งสองจะเปิดฉากดวลเดือดกันด้วยเชิงมวยแนวถนัดของแต่ละฝ่าย แบบนี้แสดงว่าเจี๊ยบคนดีคงต้องการตัดกำลังของภรรยา ต้องตบรางวัลเพิ่มสักนิด ชายหนุ่มคิดอย่างกระหยิ่มอิ่มใจ อย่างน้อยยัยนิดจะต้องบอบช้ำบ้างละไม่มากก็น้อย สาวเจี๊ยบธรรมดาเสียที่ไหน ขนาดสามีของเธอยังหมอบราบคาบแก้ว แล้วผู้หญิงเอวบางร่างน้อยอย่างภรรยาตัวดีจะเหลืออะไร คิดแล้วก็อดหันไปยิ้มให้ลุงกำจรที่ยืนกอดอกอยู่ด้านข้างไม่ได้ ซึ่งเจ้าของค่ายดังก็มองดูเหตุการณ์อย่างสงสัยเหมือนกัน
แต่แล้วเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ธาราก็ต้องมีสีหน้าประหลาดใจ
ทั้งสองสาวทำท่าเหมือนสาธิตเชิงการต่อสู้มากกว่า สาวเจี๊ยบแสดงการเตะตรง เตะสูง กวาดขา หมุนตัวเตะแบบคาราเต้ โดยมีนิจพรพยายามเลียนแบบทำตาม
จากนั้นนิจพรก็แสดงวิธีเตะแบบมวยไทย ให้อีกฝ่ายลองทำตามบ้าง ทั้งสองฝ่ายผลัดเปลี่ยนกันสาธิต พูดคุยปรึกษาฝึกปรือไปกับหลักวิชาที่ถูกหล่อหลอมเข้าหากันอย่างสนุกสนาน ราวกับถูกคอถูกใจกันมานาน
ธาราหันมามองหน้าลุงกำจรเหมือนถาม หัวหน้าค่ายมวยอิเกิ้งหัวเราะหึหึ อธิบายโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเปิดปาก
“สงสัยพวกเธอแลกเปลี่ยนหลักวิชากันครับ สาวคนที่คุณควงมาดูก็รู้เลยว่าฝีมือไม่ธรรมดา ไม่อยากจะบอกเลยว่านิดยัยเตะเก่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง คุณอย่าประมาทก็แล้วกัน ลองดูสิครับ เตะบน เตะล่าง เตะหลัง เตะหน้า เตะตรง เตะตวัด เธอทำได้หมด”
“แต่ว่าเจี๊ยบ....” ธาราคอแข็งพูดไม่ออก เพราะขึนพูดไปก็เข้าเนื้อตัวเอง จะบอกความจริงว่าเขาจ้างสาวเสิร์ฟมาเป็นพวกเพื่อก่อกวนสมาธิของภรรยา ใครล่ะจะกล้าพูด รู้สึกเหมือนถูกหักหลังอย่างไรชอบกล ที่เจี้ยบเคยบอกว่าเธอเตะสามีที่มาหือมาอือขึ้นเสียงไม่รู้สำนึกจนร่วงคาเท้า แรกก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ที่ไหนได้ พอเห็นลีลาการเตะของสาวเจี๊ยบในวันนี้ ก็รีบเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนภรรยาของเขาก็เรียนรู้ได้รวดเร็วจนน่าหมั่นไส้
นี่มันอะไรกัน โลกนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย...ธาราคิดในใจด้วยความอยากกระโดดเตะตัวเองให้สาสม ตัวเรานอกจากไม่มีใครช่วยฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ให้แล้ว แค่โทรศัพท์ไปปรึกษา ยังโดนด่าเปิงกลับมาแทบเสียผู้เสียคน นี่ยังไม่นับจำนวนแฟนคลับของนิจพร ที่เฮโลสาระพาโพสต์คำด่าถล่มเฟซบุ๊กของเขา จนอ่านไม่ไหวกับการถูกด่าฟรีต้องปิดตัวหนีเมื่อคืนนี่เอง
ธารายืนเหม่อนิ่งคิดจนน้องเจี๊ยบคนดีเปิดประตูออกมายิ้มหวาน โบกมือให้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณธากลับไปก่อนเลยนะคะ เจี๊ยบมีธุระกับคุณนิดสักพักหนึ่ง ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจี๊ยบกลับแท็กซี่เองได้ค่ะ”
ดูสิ... ขนาดสาวเจี๊ยบที่ลงทุนจ้างมา ยังทิ้งเขาไปได้ต่อหน้าต่อตาอย่างหน้าตาเฉย เวรกรรมหนใด...สร้างทำไว้ชาติไหนกัน!
“แต่...” ธาราพูดไม่ออก สาวเจี๊ยบยิ้มหวาน เดินกลับไปแลกเปลี่ยนหลักวิชาการเตะกับนิจพรอีกครั้ง โดยมีเจนจิราและป้าโอนั่งเซียร์อยู่อย่างกระตือรือล้นไม่สนใจโลกภายนอก
ขณะที่ธารากำลังยืนเซ็งหัวใจอยู่นั่นเอง ใครบางคนก็เดินตรงมาหา พร้อมช่อดอกไม้หรูในมือ ส่งเสียงทักทายลุงกำจรเหมือนคนคุ้นเคยกัน
ทรงสิทธิ์ หนุ่มหล่อพ่อรวยนั่นเอง ธารากับทรงสิทธิ์รู้จักกันมาบ้างแล้ว และไม่ถูกชะตากันเป็นอย่างมาก ทรงสิทธิ์มองว่าธาราชิงตัดหน้าแย่งนิจพรไปจากเขา ส่วนธาราก็ไม่ชอบความเป็นคนหัวสูงอวดร่ำรวยคุยโอ่ของทรงสิทธิ์ แถมยังมีการมาจุ้นจ้านกับภรรยาของเขาพักหนึ่งทั้งที่นิจพรแต่งงานแล้ว ก่อนที่ทรงสิทธิ์จะหันไปสนใจเจนนิรา
“แหม นึกว่าใคร ที่แท้ก็คือคนที่ถูกภรรยาทิ้งนี่เอง” ทรงสิทธิ์เปิดฉากทักทายธาราก่อนด้วยสีหน้ายิ้มรอยเคลือบยาพิษ “โอ คุณธารามีความเป็นลูกผู้ชายมากเลย ผมชื่นชมล้นเหลือ คุณธาราขนาดสละแรงกายใจมาคอยให้กำลังใจการซ้อมมวยของคุณนิด ทั้งที่รู้ว่าคุณนิดซ้อมมวยเพื่อเตะปากคุณอยู่แท้ ๆ ยังใจกว้างมาเชียร์ ผมละชื่นชมคุณสุด ๆ”
ธาราฟังแล้วทำหน้าบรรยายยาก นึกอยากเตะปากอีกฝ่ายขึ้นมาทันที แต่สะกดใจไม่ว่าอะไร มองดูช่อดอกไม้สองช่อใหญ่ในมือของหนุ่มผู้มาเยือน ซึ่งทรงสิทธิ์เหมือนจะรู้ เขาจึงพูดต่อไปว่า
“อ้อ...ผมเอาช่อดอกไม้สวย ๆ มามอบให้คุณนิดและคุณเจน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการฝึกฝนการเตะปากสามีครับ คนอย่างผมมีน้ำใจงดงามเสมอ ไม่มามือเปล่าเหมือนใครบางคนหรอกครับ เดี๋ยวขอตัวก่อนนะครับสาว ๆ คงกำลังรอน้ำใจจากผมอยู่”
พูดจบเขาก็เอียงตัวดันประตูห้องซ้อมพิเศษเข้าไป นิจพรพอรู้ว่าใครเข้ามาก็ขอเบรกการซ้อม ดึงแขนสาวเจี๊ยบและเจนจิราตรงเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสผิดปกติอย่างที่ลุงกำจรเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งเจ้าของค่ายมวยก็ได้แต่ขำในใจ เพราะรู้ว่านั่นก็เป็นสงครามประสาทชนิดหนึ่ง นิจพรสังเกตเห็นธารามองผ่านกระจกเข้ามาสังเกตการณ์ตลอดเวลา
ภาพที่ธาราเห็นผ่านกระจกใสคือทรงสิทธิ์อยู่ท่ามกลาง สาว ๆ อย่างเบิกบานใจ มีผู้หญิงสวยล้อมหน้าล้อมหลังให้ความสำคัญท่าทางสนิทสนิทสนมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนิจพรที่ดูแสดงความสนิทชิดเชื้อเกินหน้าเกินนา ความรู้สึกของธาราเดือดพล่านทันที ไม่อยากมองภาพบาดตาบาดใจ อยากจะผละหนีแต่ใจหนึ่งกลับรั้งเอาไว้ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้
สักพักทรงสิทธิ์ก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส
“แหม เสียดายจัง พอดีผมต้องรีบกลับไปบริษัท” เขาพูดพร้อมกับปรายหางตามองคู่ปรับเก่า “แบบว่าคนสำคัญอย่างผมไม่ค่อยมีเวลาหรอกครับ ใครๆ ก็อยากพูดอยากคุยด้วย เวลาเป็นเงินเป็นทอง เดี๋ยวก็ต้องไปประชุมโครงการใหญ่ เงินทั้งนั้น นี่ผมกำลังลำบากใจว่าจะเลือกใครดี คุณนิดหรือคุณเจน ท่าทางสาว ๆ สามคนกำลังสนใจผมอย่างมากเลย เกิดเป็นคนหล่อคนรวยนี่มันทำตัวยากลำบากเสียจริง ผมละกลุ้ม”
“นี่คุณทรงสิทธิ์...” ธาราอดรนทนไม่ได้ จ้องหน้าด้วยสายตาขุ่นเคือง “ นิดน่ะแฟนผมนะโว้ย ยังเป็นเมียผมอยู่ มาพูดถึงเธอแบบนี้ได้ไง”
“โอ อย่าพูดโว้ยสิครับ คุณธารา คนเราต้องสุภาพครับ พูดจาวะโว้ยมันอนารยชน บาบาเรี่ยน ดูตัวอย่างผมสิครับ นอกจากหล่อรวยแล้วยังไม่พอ ยังมีความเป็นอารยชนมีอารยธรรม ถึงคุณธาราจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ในทางปฏิบัติ คุณนิดขาดจากความเป็นภรรยาของคุณแล้วนะครับ เรื่องของกฎหมายมันเป็นเพียงตัวอักษรเท่านั้น หัวใจครับหัวใจ มันต้องดูที่หัวใจ ผมก็ว่าแล้ว....”
“ว่าอะไร คุณว่าอะไร” ธารากระชากเสียงถาม
“ว่าแล้วว่า คุณนิดกับคุณไปด้วยกันไม่ได้ อยู่ไม่ได้ไปไม่รอดหรอก ไม่เหมาะสมกัน ต้องอย่างผมสิครับ เหมาะสมกับคุณนิดอย่างที่สุด หาใดเสมอเหมือน ผมงี้หล่อก็หล่อ รวยก็รวย ดูดีโพรไฟล์ดีมีชาติมีตระกูล ไม่เหมือนใครบางคนหรอกครับ”
“ไอ้คุณทรงทรุด!” ธาราแยกเขี้ยวระเบิดอารมณ์ “พูดแบบนี้มะอึงกับผมมาขึ้นเวทีชกกันดีกว่า ว่าไง มะอึงกล้าชกกับผมไหม เอางี้ก็ได้ กะรูจะใช้แขนข้างเดียวต่อยกับคุณ แน่จริงมาชกกันเลย”
ว่าพลางก็ปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อของคู่ปรับ แต่ลุงกำจรซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว รีบปราดเข้ามาห้ามทันควัน
“อย่าครับคุณธารา เดี๋ยวเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงพัก ข้อหาทำร้ายร่างกาย ไม่ดี ๆ คุณทรงสิทธิ์เขาก็แค่แกล้งพูดเล่นเท่านั้นเอง คนกันเองแท้ ๆ ไม่มีอะไรครับ”
“ใช่แล้ว” ทรงสิทธิ์ปัดมือที่จับคอเสื้อออกด้วยท่าทางใจเย็น เพราะต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาควบคุมสถานการณ์ได้ “การใช้กำลังนะมันบาบาเรี่ยน ของแบบนี้มันต้องดีเบตกัน รู้จักไหมครับดีเบต หรือรู้จักแต่การชกกับภรรยาผู้แสนดี คนเราต้องว่ากันด้วยหลักการและเหตุผล คิดแบบฝรั่งบ้างสิครับ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะใช้กำลังเข้าตัดสิน ก็แหม...คุณนิดเองก็เกลียดคุณธาราเข้าไส้ราวกิ้งกือไส้เดือน คุณอย่าทำเป็น อะไรนะ...ผมไม่อยากใช้คำว่า หมาหวงก้าง มันแรงเกินไป หยาบคาย ผมขอใช้คำว่า สุนัขแหนหวงอุนจิ ดีกว่านะครับ ฟังแล้วสุภาพเรียบร้อยมาก”
“ลุงกำจรครับ” ธารายิ้มมุมปาก หันไปถามเจ้าของค่ายมวย “ข้อหาเตะปากคนนี่ต้องถึงจำคุกไหมครับ หรือจ่ายค่าปรับอย่างเดียว”
“เอ ข้อหาทำร้ายร่างกาย...ผมก็ไม่รู้สิครับ” ลุงกำจรยกมือเกาหัว ยิ้มแห้ง ๆ ใจคอเริ่มไม่ดี “แต่ผมว่าไม่ต้องทำเรื่องจนต้องเสียค่าปรับจะดีกว่า”
“วันนี้ผมอยากเสียค่าปรับครับ ไม่รู้เป็นไง อยากเตะคนด้วย” พูดจบธาราก็กระโดดเตะทรงสิทธ์ทันที แต่อีกฝ่ายระวังตัวอยู่แล้ว จึงกระโดดถอยหลังหลบไปได้แบบหวุดหวิด ธาราตามไปเตะอีกหลายครั้งแต่ทรงสิทธิ์ก็กระโดดหลบไปได้ ทั้งคู่ไม่มีใครเป็นมวย จึงดูตลกมากกว่าจะน่ากลัว
“พยายามฆ่า ข้อหาพยายามฆ่า” หนุ่มหล่อตะโกนลั่นให้ทุกคนหันมามองเป็นพยาน “ใครมีมือถือถ่ายคลิปไว้เลยครับ จะได้เป็นหลักฐาน ผมมีรางวัลจ่ายให้เจ้าของคลิป”
มีต่อ