กรดไหลย้อนเรื้อรัง หายได้...แค่ทำตามนี้ 1-2 เดือน
#ท้องอืด #ลมในท้องเยอะ #แสบร้อนหน้าอก #เวียนหัว #ใจสั่น #จุกคอ
(อาการกรดไหลย้อน ระยะ 1-3 )
1. ตื่นนอน
- ตั้งนาฬิกาปลุกสัก 6 โมง แล้วแต่สะดวก แต่ไม่ควรเกิน 8 โมง
.
- ดื่มน้ำอุ่น 2-3 แก้ว หลังจากตื่นนอน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
- ถ้าใครเป็นเรื้อรัง สารอาหารในเลือดน้อย มีน้ำหนักลด เวียนหัว ซีด ก็ชง #สาหร่ายเกลียวทองผงดื่ม
สาหร่ายเกลียวทองจะช่วยทำให้รู้สึกมีแรงขึ้นมา ไม่อ่อนเพลีย ดูดซึมง่าย และมีแร่ธาตุสูง
.
- กินโยเกิตร์ รสธรรมชาติ สูตรหวานน้อย หรือใช้คีเฟอร์
- ดื่มยาคูลท์ สูตรน้ำตาลน้อย วันละ 1 ขวดเล็กๆ เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ดีให้กับลำไส้
***ผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง เลือกใช้ ไร้น้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย (เพราะน้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียไม่ดีในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดลมในลำไส้เยอะ)
.
- เดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย สัก 30 นาที ให้ร่างกายได้สัมผัสแสงอาทิตย์อ่อนๆ อ้าแขนรับแสงอรุณด้วยนะ เพื่อเพิ่มการสังเคราะห์วิตามินดี
(แต่ทั้งนี้ คุณต้องทานอาหารที่เป็นไขมันดีด้วยนะจ๊ะ)
.
- สำหรับคนที่มีอาการแสบร้อนท้อง แสบคอ เสียงแหบ ขมคอเรอเปรี้ยว
ให้เพิ่ม ชง #ผงกล้วยน้ำว้าดิบ 1 ซอง ผสมน้ำร้อนนิดนึง แล้วคนให้ละลาย แล้วเติมน้ำธรรมดา ให้พออุ่นๆ
หรือใครชอบแบบธรรมชาติเลย ก็หากล้วยน้ำว้าดิบ 1 ลูก ฝานเป็นแว่นๆ 2-3 แว่น ชุปน้ำผึ้ง เคี้ยวๆๆๆ
(กล้วยดิบ อย่าทานเยอะนะจ๊ะ หากเยอะเกินไป คุณจะท้องอืด ท้องผูกได้นะจ๊ะ)
.
- หากล้วยน้ำว้าสุกๆ 1 ผล กินด้วยก็ได้นะ จะได้เพิ่มอาหารของจุลินทรีย์ดี (ในคนที่ลมในท้องเยอะ พยายามเลี่ยงการทานกล้วยหอมนะจ๊ะ )
.
- ฝึกเข้าห้องน้ำไปนั่งถ่าย ก่อน 8 โมงเช้า
**งดเอามือถือเข้าไปเล่นด้วย**
** การฝึกให้ขับถ่ายตอนเช้า สำคัญมาก จะเห็นว่า หัวข้อก่อนหน้านี้ แจมจะให้ทุกคนเน้นทานอาหารหนักๆ ในตอนเช้าเลย เน้นให้ออกกำลังกายให้ลำไส้เคลื่อนไหว บีบตัว จะได้ขับถ่ายง่าย
แต่ขอให้อย่าทำเกิน 8 -9 โมง
.
- หาอาหารเช้ากินต่อ จะเน้นเป็นพวก ข้าวต้มปลา โจ๊กหมูใส่ไข่ หรืออาหารที่ไม่มัน ไม่ทอด เน้นนึ่งๆ ต้มๆ เน้นใส่หมู ปลา ไก่ ที่เป็นโปรตีนด้วย
ไข่ต้มนี่ ต้องทานให้ได้เลยนะ อย่างน้อยวันละ 1 ลูก
.
** อาหารเช้าทานให้ได้มากที่สุด เท่าที่เราจะทานไหว
**** เน้นการเคี้ยวอย่างละเอียดที่สุด ให้เวลาในการทานข้าวเช้าเป็นสำคัญ
***** ห้ามกินข้าวคำ น้ำคำ
****** ห้ามกินไป เล่นมือถือไป พยายามอย่าเสพสื่อโซเซียลช่วงนี้
******* กินข้าวเสร็จ อย่าเพิ่งดื่มน้ำเลย เว้นระยะสักหน่อย ให้น้ำย่อยย่อยอาหารได้ดี
******** ดื่ม #น้ำสับปะรดไซเดอร์ 1 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว + น้ำผึ้งสัก 1 ช้อนชา ดื่มหลังกินข้าวเสร็จ สัก 30 นาที -1 ชั่วโมง
(คนที่มีแผลในกระเพาะอาหาร และยังไม่ได้รักษาแผลมา 3- 6 เดือน ไม่แนะนำให้ใช้นะจ๊ะ และควรระวังในคนตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยในการใช้ผลิตภัณฑ์ไซเดอร์ในกลุ่มคนตั้งครรภ์จ๊ะ)
.
2. ช่วงเวลาทำงาน
- การทำงาน เป็นช่วงเวลานึง ที่ส่งผลให้หลายคนเกิดความเครียด ความกังวล ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุด คือ การฝึกปล่อยวาง ไม่นึกย้อนไปอดีต ไม่คิดถึงอนาคต และอยู่กับปัจจุบัน ให้ดีที่สุด มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำ
- สัก 10 โมง ก็พักเบรก เดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย ยิ้มให้คนรอบข้าง
- หาผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล ขนมปังกรอบ แครกเกอร์ กินนิดหน่อย
(แต่บางคน เป็นพ่อค้า แม่ค้า หรือทำงานใช้แรงงาน ก็นั่งพักหน่อย ดื่มน้ำ หาของว่างกินหน่อย )
.
- ช่วงพักเที่ยง
เลือกทานอาหารที่รสไม่จัด ปรุงสุกใหม่
เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
ไม่ดื่มน้ำทันทีหลังทานข้าวเสร็จ เลี่ยงการทานข้าวคำ น้ำคำ
เลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด
.
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ
เลี่ยงการใช้มือถือ เพื่อให้สมองได้พักผ่อน
หาที่นั่งเย็นๆ ลมโกรกสบาย ผมปลิวไสว พักสักหน่อย งีบนิดนึง สัก 30 นาที
รู้ไหมว่า #การงีบ ในช่วงเวลา 12.30 -14.00 น. สัก ไม่เกิน 30 นาที
ช่วยเพิ่มการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ ทำให้พอตืนมา จะรู้สึกสดชื่น มีแรงทำงาน ในช่วงบ่าย
.
3 . ออกกำลังกายซะหน่อย ถ้าตอนเช้าไม่ได้ออก ใครออกตอนเช้าแล้ว ตอนเย็นก็สบายตัวไปหน่อย แต่ถ้าอยากออกไปเจอผู้คน บาง ก็ไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน สวนสาธารณะ
ใครผอมอยู่แล้ว ก็ระวังอย่าไปวิ่งนาน เป็นชั่วโมง การออกกำลังกายเยอะ ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเลย
ทุกอย่างต้องมีความพอดี
.
4 . กินข้าวเย็น อย่าให้เกิน 18.00 หรือ 19.00 น.
หาอะไรเบาๆ เน้นผักต้ม บวบหอม กระเจี๊ยบเขียว
งดแป้ง เน้นโปรตีนเนื้อปลา ข้าวเหนียวอาจจะเบาๆหน่อยในมื้อเย็น
หรือใครจะปั่นน้ำผักกินก็ได้ แต่ก็ให้มีโปรตีนเสริมสักหน่อยนึง
ผักที่จะใช้ ก็เลี่ยงพวกมะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ ผักดิบปริมาณเยอะ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือแม้แต่กล้วยสุกๆหลายๆลูก เค้ก เบเกอร์รี่ ทุเรียน แตงโมง เป็นต้น
.
6. ดื่มน้ำขิงสักแก้ว เน้นขิงที่ไร้น้ำตาล
.
7. กินวิตามินแม็กนีเซียม, วิตามินบี 3 ก่อนนอน เพื่อช่วยฟื้นบำรุงระบบประสาท ให้นอนหลับได้สบายมากขึ้น
.
8. เข้านอนเวลา 22.00 น. ช้าสุด 23.00 น.
เพราะโกรกฮอร์โมน จะหลั่งในช่วงเวลา 24.00-01.30 น.
ฮอร์โมนตัวนี้มีความสำคัญ ทำให้ ความเครียดในตัวคุณลดลง
คนเป็นแพนิค ต้องการฮอร์โมนตัวนี้มาก
จำไว้ว่า การพักผ่อนในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมสำคัญที่สุด
คนจะนอนตื่นเช้าแค่ไหนก็ได้ คุณจะไม่นอนช่วงเวลาไหนก็ได้
แต่.... ช่วงเวลานี้ คุณต้องนอน!!
** ลักษณะท่านอนสำหรับกรดไหลย้อน = นอนตะแคงซ้าย
บนหมอนที่มีลักษณะลาดเอียง
ควรเลี่ยงการใช้ หมอนหลายใบรองหัวหลายชั้น เพราะจะส่งผลให้ ปวดต้นคอ ปวดหลัง ยังทำให้แรงดันท้องเพิ่ม กรดก็ไหลย้อนขึ้นมาอีกอยู่ดี แน่นๆแน่นอน
.
หากคุณทำงานไม่เป็นเวลา เข้าเวร เข้ากะ ต้องเน้นการนอนหลับพักผ่อนให้มากกว่าคนอื่นๆ นะจ๊ะ
.
#กรดไหลย้อน #แผลในกระเพาะ #โรคกระเพาะ #แพนิค #พยาบาลแจมจัง
กรดไหลย้อนเรื้อรัง หายได้...แค่ทำตามนี้ 1-2 เดือน
#ท้องอืด #ลมในท้องเยอะ #แสบร้อนหน้าอก #เวียนหัว #ใจสั่น #จุกคอ
(อาการกรดไหลย้อน ระยะ 1-3 )
1. ตื่นนอน
- ตั้งนาฬิกาปลุกสัก 6 โมง แล้วแต่สะดวก แต่ไม่ควรเกิน 8 โมง
.
- ดื่มน้ำอุ่น 2-3 แก้ว หลังจากตื่นนอน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
- ถ้าใครเป็นเรื้อรัง สารอาหารในเลือดน้อย มีน้ำหนักลด เวียนหัว ซีด ก็ชง #สาหร่ายเกลียวทองผงดื่ม
สาหร่ายเกลียวทองจะช่วยทำให้รู้สึกมีแรงขึ้นมา ไม่อ่อนเพลีย ดูดซึมง่าย และมีแร่ธาตุสูง
.
- กินโยเกิตร์ รสธรรมชาติ สูตรหวานน้อย หรือใช้คีเฟอร์
- ดื่มยาคูลท์ สูตรน้ำตาลน้อย วันละ 1 ขวดเล็กๆ เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ดีให้กับลำไส้
***ผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง เลือกใช้ ไร้น้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย (เพราะน้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียไม่ดีในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดลมในลำไส้เยอะ)
.
- เดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย สัก 30 นาที ให้ร่างกายได้สัมผัสแสงอาทิตย์อ่อนๆ อ้าแขนรับแสงอรุณด้วยนะ เพื่อเพิ่มการสังเคราะห์วิตามินดี
(แต่ทั้งนี้ คุณต้องทานอาหารที่เป็นไขมันดีด้วยนะจ๊ะ)
.
- สำหรับคนที่มีอาการแสบร้อนท้อง แสบคอ เสียงแหบ ขมคอเรอเปรี้ยว
ให้เพิ่ม ชง #ผงกล้วยน้ำว้าดิบ 1 ซอง ผสมน้ำร้อนนิดนึง แล้วคนให้ละลาย แล้วเติมน้ำธรรมดา ให้พออุ่นๆ
หรือใครชอบแบบธรรมชาติเลย ก็หากล้วยน้ำว้าดิบ 1 ลูก ฝานเป็นแว่นๆ 2-3 แว่น ชุปน้ำผึ้ง เคี้ยวๆๆๆ
(กล้วยดิบ อย่าทานเยอะนะจ๊ะ หากเยอะเกินไป คุณจะท้องอืด ท้องผูกได้นะจ๊ะ)
.
- หากล้วยน้ำว้าสุกๆ 1 ผล กินด้วยก็ได้นะ จะได้เพิ่มอาหารของจุลินทรีย์ดี (ในคนที่ลมในท้องเยอะ พยายามเลี่ยงการทานกล้วยหอมนะจ๊ะ )
.
- ฝึกเข้าห้องน้ำไปนั่งถ่าย ก่อน 8 โมงเช้า
**งดเอามือถือเข้าไปเล่นด้วย**
** การฝึกให้ขับถ่ายตอนเช้า สำคัญมาก จะเห็นว่า หัวข้อก่อนหน้านี้ แจมจะให้ทุกคนเน้นทานอาหารหนักๆ ในตอนเช้าเลย เน้นให้ออกกำลังกายให้ลำไส้เคลื่อนไหว บีบตัว จะได้ขับถ่ายง่าย
แต่ขอให้อย่าทำเกิน 8 -9 โมง
.
- หาอาหารเช้ากินต่อ จะเน้นเป็นพวก ข้าวต้มปลา โจ๊กหมูใส่ไข่ หรืออาหารที่ไม่มัน ไม่ทอด เน้นนึ่งๆ ต้มๆ เน้นใส่หมู ปลา ไก่ ที่เป็นโปรตีนด้วย
ไข่ต้มนี่ ต้องทานให้ได้เลยนะ อย่างน้อยวันละ 1 ลูก
.
** อาหารเช้าทานให้ได้มากที่สุด เท่าที่เราจะทานไหว
**** เน้นการเคี้ยวอย่างละเอียดที่สุด ให้เวลาในการทานข้าวเช้าเป็นสำคัญ
***** ห้ามกินข้าวคำ น้ำคำ
****** ห้ามกินไป เล่นมือถือไป พยายามอย่าเสพสื่อโซเซียลช่วงนี้
******* กินข้าวเสร็จ อย่าเพิ่งดื่มน้ำเลย เว้นระยะสักหน่อย ให้น้ำย่อยย่อยอาหารได้ดี
******** ดื่ม #น้ำสับปะรดไซเดอร์ 1 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว + น้ำผึ้งสัก 1 ช้อนชา ดื่มหลังกินข้าวเสร็จ สัก 30 นาที -1 ชั่วโมง
(คนที่มีแผลในกระเพาะอาหาร และยังไม่ได้รักษาแผลมา 3- 6 เดือน ไม่แนะนำให้ใช้นะจ๊ะ และควรระวังในคนตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยในการใช้ผลิตภัณฑ์ไซเดอร์ในกลุ่มคนตั้งครรภ์จ๊ะ)
.
2. ช่วงเวลาทำงาน
- การทำงาน เป็นช่วงเวลานึง ที่ส่งผลให้หลายคนเกิดความเครียด ความกังวล ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุด คือ การฝึกปล่อยวาง ไม่นึกย้อนไปอดีต ไม่คิดถึงอนาคต และอยู่กับปัจจุบัน ให้ดีที่สุด มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำ
- สัก 10 โมง ก็พักเบรก เดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย ยิ้มให้คนรอบข้าง
- หาผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล ขนมปังกรอบ แครกเกอร์ กินนิดหน่อย
(แต่บางคน เป็นพ่อค้า แม่ค้า หรือทำงานใช้แรงงาน ก็นั่งพักหน่อย ดื่มน้ำ หาของว่างกินหน่อย )
.
- ช่วงพักเที่ยง
เลือกทานอาหารที่รสไม่จัด ปรุงสุกใหม่
เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
ไม่ดื่มน้ำทันทีหลังทานข้าวเสร็จ เลี่ยงการทานข้าวคำ น้ำคำ
เลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด
.
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ
เลี่ยงการใช้มือถือ เพื่อให้สมองได้พักผ่อน
หาที่นั่งเย็นๆ ลมโกรกสบาย ผมปลิวไสว พักสักหน่อย งีบนิดนึง สัก 30 นาที
รู้ไหมว่า #การงีบ ในช่วงเวลา 12.30 -14.00 น. สัก ไม่เกิน 30 นาที
ช่วยเพิ่มการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ ทำให้พอตืนมา จะรู้สึกสดชื่น มีแรงทำงาน ในช่วงบ่าย
.
3 . ออกกำลังกายซะหน่อย ถ้าตอนเช้าไม่ได้ออก ใครออกตอนเช้าแล้ว ตอนเย็นก็สบายตัวไปหน่อย แต่ถ้าอยากออกไปเจอผู้คน บาง ก็ไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน สวนสาธารณะ
ใครผอมอยู่แล้ว ก็ระวังอย่าไปวิ่งนาน เป็นชั่วโมง การออกกำลังกายเยอะ ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเลย
ทุกอย่างต้องมีความพอดี
.
4 . กินข้าวเย็น อย่าให้เกิน 18.00 หรือ 19.00 น.
หาอะไรเบาๆ เน้นผักต้ม บวบหอม กระเจี๊ยบเขียว
งดแป้ง เน้นโปรตีนเนื้อปลา ข้าวเหนียวอาจจะเบาๆหน่อยในมื้อเย็น
หรือใครจะปั่นน้ำผักกินก็ได้ แต่ก็ให้มีโปรตีนเสริมสักหน่อยนึง
ผักที่จะใช้ ก็เลี่ยงพวกมะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ ผักดิบปริมาณเยอะ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือแม้แต่กล้วยสุกๆหลายๆลูก เค้ก เบเกอร์รี่ ทุเรียน แตงโมง เป็นต้น
.
6. ดื่มน้ำขิงสักแก้ว เน้นขิงที่ไร้น้ำตาล
.
7. กินวิตามินแม็กนีเซียม, วิตามินบี 3 ก่อนนอน เพื่อช่วยฟื้นบำรุงระบบประสาท ให้นอนหลับได้สบายมากขึ้น
.
8. เข้านอนเวลา 22.00 น. ช้าสุด 23.00 น.
เพราะโกรกฮอร์โมน จะหลั่งในช่วงเวลา 24.00-01.30 น.
ฮอร์โมนตัวนี้มีความสำคัญ ทำให้ ความเครียดในตัวคุณลดลง
คนเป็นแพนิค ต้องการฮอร์โมนตัวนี้มาก
จำไว้ว่า การพักผ่อนในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมสำคัญที่สุด
คนจะนอนตื่นเช้าแค่ไหนก็ได้ คุณจะไม่นอนช่วงเวลาไหนก็ได้
แต่.... ช่วงเวลานี้ คุณต้องนอน!!
** ลักษณะท่านอนสำหรับกรดไหลย้อน = นอนตะแคงซ้าย
บนหมอนที่มีลักษณะลาดเอียง
ควรเลี่ยงการใช้ หมอนหลายใบรองหัวหลายชั้น เพราะจะส่งผลให้ ปวดต้นคอ ปวดหลัง ยังทำให้แรงดันท้องเพิ่ม กรดก็ไหลย้อนขึ้นมาอีกอยู่ดี แน่นๆแน่นอน
.
หากคุณทำงานไม่เป็นเวลา เข้าเวร เข้ากะ ต้องเน้นการนอนหลับพักผ่อนให้มากกว่าคนอื่นๆ นะจ๊ะ
.
#กรดไหลย้อน #แผลในกระเพาะ #โรคกระเพาะ #แพนิค #พยาบาลแจมจัง