สวัสดีค่ะพี่ๆชาวพันทิปทุกท่าน
เราอยู่ม.1 (เป็นเด็กชนเผ่าค่ะ) วันนี้อยากจะมาขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเหยียดและเรื่องLGBT+ ต้องเกริ่นก่อนว่าปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนไปมากไม่ว่าจะถอยหลังหรือก้าวหน้าขึ้น แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยคือทัศนคติและความคิด จากประสบการณ์ของเราเองเลยนะคะสมัยปฐมศึกษาเราโดนล้อและเหยียดทุกวัน555 เราก็ไม่เข้าใจเขาอะว่าทำไมถึงขยันล้อจัง แต่เราก็ไม่ได้สนใจหรอกค่ะเพราะเราคิดในใจเสมอว่าทุกคนก็คือมนุษย์เพียงแค่ทุกคนแตกต่างกัน ส่วนมากจะเป็นเพื่อนเราที่แก่นๆอะค่ะชอบมาล้อแล้วก็พูดว่า “กลับประเทศไป” ประโยคนี้ฟังดูจุกเหมือนกันนะเนี่ย ใช่ค่ะจุกมาก แต่เราก็พยายามไม่คิดมากและไม่นำมาใส่ใจ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เราคิดว่าการที่เราแตกต่างไม่ได้แปลว่าเราต่ำกว่า และเราก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงความคิดเขาได้ซะหมดเราเลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า เป็นเด็กชนเผ่าจากพม่าค่ะพ่อแม่มาทำงานที่ไทยส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยพูดแล้วก็ขี้อายมากแต่ถ้าอยู่กับเพื่อนสนิทจะพูดมากแล้วก็กวน555 การที่โดนเหยียดเราคิดว่าเราเอามันมาเป็นประสบการณ์ดีกว่าเพราะเราเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตัวเราแน่ๆที่โดนแบบนี้ แค่คนอื่นจะไม่คิดมากแบบเราหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้
เป็นคนที่หมกมุ่นกับนิยายเพราะติดมาก คิคิ และตอนนี้ก็หัดเขียนนิยายเผื่อมันจะสร้างรายได้ในอนาคต
เรามีเพื่อนเป็น LGBT คนนึงนางโดนล้อตลอดนี่ก็แอบเป็นห่วงว่าจิตใจตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องรังเกียจกันขนาดนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ชอบเอาเรื่องเด็กๆไปป่าวประกาศสนุกปาก
แต่ถ้าถามว่าเขาผิดไหมที่ไม่ชอบ LGBT เราว่าเขาไม่ผิดค่ะ แต่เขาแค่ไม่รู้และเขาไม่ยอมรับเท่านั้นเอง ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวกับอายุไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าบางคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายนานา โดยเฉพาะคนรอบข้างมันทำให้เราเองรู้ตัวตนของเขามากขึ้นประมาณว่า...คิดได้เท่านี้ใช่ไหม...อยากแค่จะพูดแต่ไม่แคร์คนอื่น เราชอบให้กำลังใจเพื่อนบ่อยๆและแนะนำเขาตลอด เพื่อนที่เป็น LGBT ก็สนิทกับเรามาก นางบอกว่าชอบสไตล์ฝรั่ง แถบๆเมกา ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร นางเคยสารภาพกับเราว่าอยากมีแฟนเป็นคนสหรัฐฯมาก เพราะชอบทัศนคติพวกเขา นางอยากแต่งงานที่นั่นแล้วใช้ชีวิตรักให้คุ้มที่สุด ความคิดนางเราว่ามันดูผู้ใหญ่มากมันไม่ผิดที่เด็กสมัยนี้จะเรียนรู้ความรักหรือปักหมุดความต้องการของตัวเอง นางดีกับเรามากและไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกเราเลย
คำคิดเห็นส่วนตัวเริ่มจากเรื่องแรก เรื่องการเหยียดเชื้อชาติกัน เราว่ามันไม่น่าฟังเลยที่ใครๆมาพูดปั่นหูเราแบบนั้น แต่เราทำอะไรไม่ได้ด่ากลับไปก็ไร้ประโยชน์ เราเลือกที่ไม่ยุ่งดีกว่าถ้าเขาเบื่อเขาก็จะหยุดเอง ตามความเป็นจริงนะมันส่อถึงทัศนคติและความคิดของเขาเอง มันไม่ได้ดูเท่หรือสนุกน่าหัวเราะอะไรเลย คนที่ฟังเหมือนเขาได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของคนที่พูดนั่นแหละ มันส่อได้หลายอย่างเลยค่ะ
เรื่อง LGBTQ+ เราว่าทุกคนสมควรได้อยู่กับคนที่เขารักนะ สิ่งที่ทุกคนบนโลกนี้ต้องการก็คือ “ความเท่าเทียม” ไม่ว่าจะเป็นความรักหรืออะไร แต่เราไม่สามารถไปบังคับให้เขารักเรา เหมือนประโยคในนิยายที่เราเคยเขียนไว้นานแล้ว (ตอนนี้หายไปแล้วงับ🥲 เศร้าใจ)
“ฉันผิดมากเหรอที่ฉันรักคุณ”
“แล้วผมผิดเหรอที่ผมไม่รักคุณ”
เราว่าประโยคนี้มันจริงนะ เรายังสามารถเลือกรักใครได้เลย ทำไมเขาเองจะเลือกบ้างไม่ได้
“อย่าใช้อำนาจของคุณตัดสินความรักของคนอื่น”
อีกประโยคนึง หมายถึงผู้ปกครองหรือใครๆก็ตาม อย่าเอาทัศนคติและความคิดของคุณมาตัดสินหรือกำหนดความรักคนอื่น เช่น เธอจะต้องเป็นแบบนี้นะ จะต้องรักคนนี้นะ ห้ามผิดพงผิดเพศนะ มันฟังดูล้าหลังมากค่ะ โลกพัฒนาคนก็พัฒนาด้วยไม่ใช่ว่าต้องทั้งหมดแต่หมายถึงคนที่มีโอกาส เพราะใครๆก็ต้องการชีวิตและต้องการความเป็นตัวเองมากที่สุด กฎหมายที่คิดว่าควรจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนมันน่าจะดีกว่าถึงแม้ผลที่ตามมาจะไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คู่รัก LGBTQ+ ได้อยู่ด้วยอย่างไม่แปลกในสายตาคนรอบข้างเพราะหลายๆคู่ที่รักกันมากแต่ดันถูกตีตราอย่างนู่นนี้...
เราตัดสินใจมาระบายผ่านตัวอักษรไม่กี่พันตัวนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มันอัดอั้นในใจ
พี่ๆมีความคิดเห็นยังไงกันบ้างคะ?
ปล.อยากจะพิมพ์ลงบทสนทนาแต่ต้องยืนยันตัวตนอีก
การเหยียดกัน×การยอมรับ LGBTQ+ ใครมีความคิดเห็นยังไงบ้าง??
เราอยู่ม.1 (เป็นเด็กชนเผ่าค่ะ) วันนี้อยากจะมาขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเหยียดและเรื่องLGBT+ ต้องเกริ่นก่อนว่าปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนไปมากไม่ว่าจะถอยหลังหรือก้าวหน้าขึ้น แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยคือทัศนคติและความคิด จากประสบการณ์ของเราเองเลยนะคะสมัยปฐมศึกษาเราโดนล้อและเหยียดทุกวัน555 เราก็ไม่เข้าใจเขาอะว่าทำไมถึงขยันล้อจัง แต่เราก็ไม่ได้สนใจหรอกค่ะเพราะเราคิดในใจเสมอว่าทุกคนก็คือมนุษย์เพียงแค่ทุกคนแตกต่างกัน ส่วนมากจะเป็นเพื่อนเราที่แก่นๆอะค่ะชอบมาล้อแล้วก็พูดว่า “กลับประเทศไป” ประโยคนี้ฟังดูจุกเหมือนกันนะเนี่ย ใช่ค่ะจุกมาก แต่เราก็พยายามไม่คิดมากและไม่นำมาใส่ใจ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เราคิดว่าการที่เราแตกต่างไม่ได้แปลว่าเราต่ำกว่า และเราก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงความคิดเขาได้ซะหมดเราเลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า เป็นเด็กชนเผ่าจากพม่าค่ะพ่อแม่มาทำงานที่ไทยส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยพูดแล้วก็ขี้อายมากแต่ถ้าอยู่กับเพื่อนสนิทจะพูดมากแล้วก็กวน555 การที่โดนเหยียดเราคิดว่าเราเอามันมาเป็นประสบการณ์ดีกว่าเพราะเราเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตัวเราแน่ๆที่โดนแบบนี้ แค่คนอื่นจะไม่คิดมากแบบเราหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้
เป็นคนที่หมกมุ่นกับนิยายเพราะติดมาก คิคิ และตอนนี้ก็หัดเขียนนิยายเผื่อมันจะสร้างรายได้ในอนาคต
เรามีเพื่อนเป็น LGBT คนนึงนางโดนล้อตลอดนี่ก็แอบเป็นห่วงว่าจิตใจตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องรังเกียจกันขนาดนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ชอบเอาเรื่องเด็กๆไปป่าวประกาศสนุกปาก
แต่ถ้าถามว่าเขาผิดไหมที่ไม่ชอบ LGBT เราว่าเขาไม่ผิดค่ะ แต่เขาแค่ไม่รู้และเขาไม่ยอมรับเท่านั้นเอง ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวกับอายุไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่าบางคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายนานา โดยเฉพาะคนรอบข้างมันทำให้เราเองรู้ตัวตนของเขามากขึ้นประมาณว่า...คิดได้เท่านี้ใช่ไหม...อยากแค่จะพูดแต่ไม่แคร์คนอื่น เราชอบให้กำลังใจเพื่อนบ่อยๆและแนะนำเขาตลอด เพื่อนที่เป็น LGBT ก็สนิทกับเรามาก นางบอกว่าชอบสไตล์ฝรั่ง แถบๆเมกา ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร นางเคยสารภาพกับเราว่าอยากมีแฟนเป็นคนสหรัฐฯมาก เพราะชอบทัศนคติพวกเขา นางอยากแต่งงานที่นั่นแล้วใช้ชีวิตรักให้คุ้มที่สุด ความคิดนางเราว่ามันดูผู้ใหญ่มากมันไม่ผิดที่เด็กสมัยนี้จะเรียนรู้ความรักหรือปักหมุดความต้องการของตัวเอง นางดีกับเรามากและไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกเราเลย
คำคิดเห็นส่วนตัวเริ่มจากเรื่องแรก เรื่องการเหยียดเชื้อชาติกัน เราว่ามันไม่น่าฟังเลยที่ใครๆมาพูดปั่นหูเราแบบนั้น แต่เราทำอะไรไม่ได้ด่ากลับไปก็ไร้ประโยชน์ เราเลือกที่ไม่ยุ่งดีกว่าถ้าเขาเบื่อเขาก็จะหยุดเอง ตามความเป็นจริงนะมันส่อถึงทัศนคติและความคิดของเขาเอง มันไม่ได้ดูเท่หรือสนุกน่าหัวเราะอะไรเลย คนที่ฟังเหมือนเขาได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของคนที่พูดนั่นแหละ มันส่อได้หลายอย่างเลยค่ะ
เรื่อง LGBTQ+ เราว่าทุกคนสมควรได้อยู่กับคนที่เขารักนะ สิ่งที่ทุกคนบนโลกนี้ต้องการก็คือ “ความเท่าเทียม” ไม่ว่าจะเป็นความรักหรืออะไร แต่เราไม่สามารถไปบังคับให้เขารักเรา เหมือนประโยคในนิยายที่เราเคยเขียนไว้นานแล้ว (ตอนนี้หายไปแล้วงับ🥲 เศร้าใจ)
“ฉันผิดมากเหรอที่ฉันรักคุณ”
“แล้วผมผิดเหรอที่ผมไม่รักคุณ”
เราว่าประโยคนี้มันจริงนะ เรายังสามารถเลือกรักใครได้เลย ทำไมเขาเองจะเลือกบ้างไม่ได้
“อย่าใช้อำนาจของคุณตัดสินความรักของคนอื่น”
อีกประโยคนึง หมายถึงผู้ปกครองหรือใครๆก็ตาม อย่าเอาทัศนคติและความคิดของคุณมาตัดสินหรือกำหนดความรักคนอื่น เช่น เธอจะต้องเป็นแบบนี้นะ จะต้องรักคนนี้นะ ห้ามผิดพงผิดเพศนะ มันฟังดูล้าหลังมากค่ะ โลกพัฒนาคนก็พัฒนาด้วยไม่ใช่ว่าต้องทั้งหมดแต่หมายถึงคนที่มีโอกาส เพราะใครๆก็ต้องการชีวิตและต้องการความเป็นตัวเองมากที่สุด กฎหมายที่คิดว่าควรจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนมันน่าจะดีกว่าถึงแม้ผลที่ตามมาจะไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คู่รัก LGBTQ+ ได้อยู่ด้วยอย่างไม่แปลกในสายตาคนรอบข้างเพราะหลายๆคู่ที่รักกันมากแต่ดันถูกตีตราอย่างนู่นนี้...
เราตัดสินใจมาระบายผ่านตัวอักษรไม่กี่พันตัวนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มันอัดอั้นในใจ
พี่ๆมีความคิดเห็นยังไงกันบ้างคะ?
ปล.อยากจะพิมพ์ลงบทสนทนาแต่ต้องยืนยันตัวตนอีก