เคยเห็นในสื่อต่างๆที่ผู้ปกครองตำหนิลูกที่เป็นกะเทยว่าลูกจะไม่มีวันเข้าใจในวันที่ผู้ปกครองได้ลูกชาย ที่โรงเรียนครูก็จะคอยตีนักเรียนคอยจ้องจับผิดเพราะตุ้งติ้งหรือออกสาว คนในชุมชนก็จะคอยนินทาว่าบ้านนั้นบ้านนี้มีลูกเป็นตุ๊ด(สนุกปากกันไป) ผู้ปกครองห้ามปรามพฤติกรรมลูกตลอดอยู่แล้วเพราะกลัวลูกผิดเพศ สังคมไม่ได้ยอมรับLGBTแต่มีความอดทนอดกลั้นกับความแตกต่างหลากหลายต่างหาก เช่นที่จะมีละครวายหลังข่าวจากช่องหลักของฟรีทีวี ก็มีคอมเม้นจากผู้ใหญ่โจมตีไม่ใช่แค่ห้ามฉายแต่ห้ามสร้างเลย กลัวลูกหลานจะอยากเป็นเกย์กัน เห็นได้ว่างี่เง่ากันขนาดไหน ยังมีคนที่ไม่มีความรู้คิดว่าLGBTเป็นโรค เช่นบังคับจับเลสเบี้ยนแต่งงานไปกับผู้ชายเพราะคิดว่าเป็นการบำบัด หรือข่มขืนทอมเพราะคิดว่าเป็นการรักษาให้ชอบผู้ชายได้ ที่เป็นข่าวเรื่อยๆ มีวลีที่ต้องย้ำความเชื่อผิดๆที่ว่า แก้ทอมซ่อมดี้คืนสตรีสู่สังคม และ นิ้วเย็นๆหรือจะสู้เอ็นอุ่นๆ พ่อแม่เอาจริงๆเมื่อใช้เวลากันไปเรื่อยๆสุดท้ายเขาก็จะยอมรับในตัวตนของลูกได้ ที่พ่อกับแม่ไม่อยากให้ลูกเป็นLGBT น่าจะเป็นเพราะสังคมไม่มีความเข้าใจในLGBTหรือเปล่า รัฐเคยห้ามกะเทยออกสื่อ(tv) LGBTเป็นครูเป็นหมอหรือรับราชการไม่ได้ ไม่รับสมัครงานคนที่เป็นLGBT บางสถาน(บันเทิง)ที่ห้ามสาวประเภทสองเข้า มิสทิฟฟานี่ที่มีคนยอมรับเพราะสวยเหมือนผู้หญิง ก็ไม่มีช่องสถานีไหนเอาเลยไม่ยอมถ่ายทอดสดการประกวดให้เลย มีที่เดียวช่องเดียวสมัยนั้น(itv)ที่มีการออกอากาศประกวดนางงามผู้หญิงข้ามเพศ พอมีข่าวLGBTทำผิดก็บูลลี่เหยียดเพศรุนแรงมาก แทนที่จะต่อว่าความผิดที่กระทำ แค่ข่าวดีๆของLGBTเช่นคู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันในสื่อโซเชี่ยลออนไลน์แทนที่จะแสดงความยินดีกลับเข้ามาเหยียดเข้ามาด่ากันหยาบคายเฉยเลย ครอบครัวก็คิดมากว่าลูกหลานที่เป็นLGBTต่อไปจะอยู่อย่างไรเพราะมีลูกไม่ได้ แก่เฒ่าไปใครจะเลี้ยงดู เด็กๆLGBTไปโรงเรียนก็ถูกเพื่อนรังแก ผู้ใหญ่LGBTก็ออกสังคมไปก็ถูกผู้คนรังเกียจหรือไม่ก็เห็นเป็นตัวตลก นี่หรือเปล่าสาเหตุที่พ่อแม่ผู้ปกครองวิตกกังวลและเป็นห่วง