อย่าปล่อยให้ชีวิตอยู่สบายๆ อยู่แต่ใน comfort zone ใช้ชีวิตโหมด auto-pilot ตลอดเวลา ไม่เป็นผลดีครับ ผมเหมารวมทุกๆสิ่งที่สะดวกสบาย ที่เป็นสิ่งที่ทำประจำๆๆๆ ดูหนัง เล่นเกม ดูหนัง เล่นเกม กินๆ นอนๆ ชีวิตจะไม่พัฒนาสักเรื่อง ชีวิตมันต้อง active ครับ

คือแม้ไม่ได้ต้องการพัฒนาอะไร แต่การ active จะทำให้เรามีชีวิตชีวามากขึ้น แรงบันดาลใจจะเกิด เทคนิคง่ายๆที่ได้ผลเสมอคือ เราต้องเอาตัวเราไปอยู่ในจุดที่มีแรงกดดัน มีความตึงเครียดอะครับ คนจะบอกว่า Noooo บ้ารึป่าว จะไปเครียดทำไม   คืองี้ครับ เครียดมากไปก็ไม่ดี  แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า การไม่เครียดเลยสักนิด ก็ไม่ดีเช่นกัน 555555555 งงสิ ฮอร์โมนเครียดมันต้องทำงานบ้างอะครับ มันเป็นเซ็นส์แห่งการอยู่รอด มีชีวิตชีวา

คือมนุษย์มีเซ็นส์ในการใช้ชีวิต แบบตรวจจับพลังลบๆ ตรวจจับภัยต่างๆ ตรวจจับศัตรูได้ดีมากๆครับ  มนุษย์เราให้ความสนใจกับภัยต่างๆรอบตัวมาก ลองดูทุกวันนี้ เราเปิดยูทูป เราดูข่าว เราเลือกเสพแบบไหนครับ  โดยทั่วไปแล้วนะ พื้นฐานเราจะชอบกดเสพแต่สิ่งไม่สร้างสรรค์ มันรู้สึกอยากเปิดเข้าไปอ่าน ไปเผือกดูคนทะเลาะกัน ผัวเมียตีกัน ข่าวคนนอกใจ แทงกันตาย ข่าวโควิดฆ่าคนไปกี่คนแล้ว มีภัยอะไรบ้างรอบตัว พวกเนี้ย เราใส่ใจสุดๆ มันอยู่ใน DNA สัตว์ทุกชนิดอะครับ ต้องคอยสอดส่องหาศัตรูเพื่อตอบสนองความอยู่รอด เราจึงตรวจจับพลังด้านลบได้ไวกว่าพลังบวกมากๆ ไม่ค่อยมีใครอยากกดอ่านข่าวคนไปวัด ทำดี ช่วยเหลือคนอื่นหรอกครับ การตั้งพาดหัวข่าวก็เช่นกัน มันต้องแบบคนนู้นหักหลังคนนี้ คนจะกดอ่านครับ มันต้องใส่ข้อความแบบพลังลบๆไว้ จะดึงดูดคนมากกว่า ลองมองความจริงจำนวนข่าวลบ มีออกมามากมายหลายเท่าของข่าวดี ตอบสนองผู้เสพอะครับ 5555

พอชีวิตเราสะดวกสบายเกินไป ไม่มีอะไรทำ ไม่มีภัยต่างๆ ร่างกายเราพยายามตรวจจับพวกเนี้ยครับ แต่หาไม่เจอ ผลคือ ชีวิตน่าเบื่อ 555 จำเจ ซ้ำซาก ไม่มีจุดหมาย ไม่รุ้จะอยู่ไปทำไม ร่างกายคิดแบบว่า เออ กุตายแล้วหรอ ถึงไม่มีภัยอะไรให้ตรวจจับเลย เซ็นส์การอยู่รอดไม่เกิด มันก็เหมือนเราตายอะครับ  ผมถึงบอก หาเหาใส่หัวให้เครียดบ้าง บางทีก็มีประโยชน์จริงๆๆๆๆ