สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ปลามีประสบการณ์การเขียนหนังสือเล่มแรกในชีวิตมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

    นอกจากการถ่ายรูปแล้ว ปลายังชอบเขียนด้วยค่ะ ปลาชอบถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆผ่านตัวหนังสือ มันก็เลยทำให้การมีหนังสือเป็นของตัวเองซักเล่ม คือความฝันที่มีมานานแล้ว แต่ด้วยขั้นตอนอันแสนจะยุ่งยากในการเสนอสำนักพิมพ์ และไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม? ก็ทำให้ปลาเลิกล้มความคิดนั้นไป

    แล้วมีอยู่วันนึงปลาก็ไปเจอโพสใน Pantipนี่แหละค่ะ มีคนเข้าโพสมาถามเรื่องทำหนังสือแนว pocket book หลังจากที่ปลาอ่านกระทู้นั้นจนจบ ก็ทำให้รู้ว่า เฮ้ย เราสามารถทำหนังสือเองได้ โดยไม่ต้องง้อสำนักพิมพ์แล้วนี่หว่า แต่ราคาต่อเล่มนี่น่าจะแพงเชียว ปลาเลยลองติดต่อโรงพิมพ์เพื่อสอบถามราคาดูค่ะ พอทราบราคา เออแพงจริงด้วย ..เอาไงดีน๊า? เอาวะ!! หนังสือเล่มนึงราคาเท่ากับกาแฟ starbuck 4 แก้ว กาแฟกินแป๊บเดียวก็หมด แต่หนังสือเล่มนึงอ่านได้ตั้งหลายวัน และที่สำคัญก็คือการทำให้ความฝันเป็นจริงในขณะที่ปลายังสามารถทำได้อยู่



      แล้วปลาก็ใช้เวลารวบรวมเนื้อหาอยู่หลายอาทิตย์เลยค่ะ เอาเรื่องราวที่มีอยู่มาเรียงลำดับแล้วก็แก้ไข เพิ่มเรื่องใหม่ เพิ่มรูปเข้าไปในเรื่องราวอีกนิดหน่อย หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า Pla Gallery at นิวซีแลนด์ ... มีทั้งหมด 2 ภาคค่ะ



    ปลาเริ่มต้นได้แรงบันดาลใจในการเขียนมาจากการอ่านหนังสือเล่มนึงค่ะ ชื่อ " แฉชีวิตนักเรียนนอก " ปลารู้สึกว่าตัวเองก็มีเรื่องราวจะเล่า ซึ่งโครงเรื่องหลักก็คล้ายกัน คือ ชีวิตของนักเรียนนอก ..แต่ว่าเนื้อเรื่องลายละเอียดข้างในที่ปลาอยากจะเล่านี่ไม่เหมือนค่ะ

  ส่วนกลุ่มเป้าหมายผู้อ่านของปลาก็คือ
 ✏ นักเดินทาง ที่ชอบหาประสบการณ์ใหม่ และชอบหาแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของผู้อื่น
✏ นักเรียน ที่อยากไปเรียนต่างประเทศแล้วอยากรู้ว่าเวลาไปเรียนแล้วเป็นยังไงบ้าง ต้องเจอกับอะไรบ้าง
✏ ผู้ปกครอง ที่อ่านแล้วจะได้รู้ว่าถ้าส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศแล้วจะต้องพบเจออะไรบ้าง
✏ผู้อ่านที่ไม่เคยไปและอาจจะไม่มีโอกาสได้ไป แต่อยากจะรับรู้ว่าการมีชีวิตที่ต่างประเทศนี้มันเป็นยังไงนะ

  📖 และจุดประสงค์หลักๆที่ผู้อ่านจะได้รับ ก็คือ
1. ปลาอยากให้ผู้ที่อยากลองไปต่างประเทศไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงานหรือว่าไปเที่ยว แล้วยังมีความลังเลไม่กล้าที่จะตัดสินใจ ได้กลับมามีกำลังใจ เห็นคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ ปลาจะบอกเสมอว่า ถ้ามีโอกาสอยู่ในมือแล้วอย่าปล่อยไป อย่าเพิ่งกลัวกับสิ่งที่ยังไม่มาถึง ปัญหาทุกอย่างมันมีทางออก

2. ปลาพยามที่จะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาด้วยภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย แต่ก็จะมีความรู้และสิ่งเตือนใจแฝงอยู่ตลอด เพื่อจะได้เหมาะกับผู้อ่านในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือว่าบรรดาผู้ปกครอง

3. ปลาอยากให้เรื่องราวที่ปลาถ่ายทอดได้เป็นเหมือนกับคู่มือการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเน้นไปทางการเรียนเป็นหลัก ผู้อ่านจะได้รู้ตั้งแต่กระบวนการในการขอวีซ่าพร้อมกับประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวเป็นครั้งแรกในชีวิต และสำหรับใครที่อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ ถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็อาจจะได้ตอบคำถามหลายข้อที่ยังค้างอยู่ในใจ

    📖 ส่วนที่มาในการเขียนเรื่องราวภาคสอง ..ภาคนี้จะเป็นชีวิตแบบครอบครัวของปลาเองค่ะ ตอนนี้ปลามีครอบครัวแล้วพวกเราอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆบนเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ และการอยู่ที่เมืองเล็กๆแบบนี้นี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้ปลามีเรื่องราวมากมายที่อยากจะเอามาถ่ายทอดให้กับผู้อ่าน มีทั้งเรื่องราวภายในครอบครัวและเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว เช่น ชีวิตของผู้คนในเมืองแบบ slow life , เรื่องความรักรอบตัว หรือเรื่องราวของผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

     ถ้าถามว่าแล้วผู้อ่านจะได้ประโยชน์อะไรจากการอ่านภาคสอง?
 
  ตอบ ..คงไม่ได้ประโยชน์อะไรมาก นอกจากการได้รู้ว่าชีวิตของคนไทยในเมืองเล็กๆบนเกาะใต้ ในประเทศนิวซีแลนด์มันเป็นยังไง? ปลาใช้เวลาไล่เรียงอยู่ซักพักก็ ได้สารบัญออกมาค่ะ

🔶 ภาคแรก ชีวิตนักเรียน
ตอนที่ 1 กว่าจะได้ไป เฮ้อ
ตอนที่ 2 โดนค้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
ตอนที่ 3 Homestay
ตอนที่ 4 โรงเรียนภาษาที่รัก
ตอนที่ 5 เพื่อนๆ
ตอนที่ 6 รักแท้แพ้ค่าโทรศัพท์
ตอนที่ 7 สองศรีพี่น้อง
ตอนที่ 8 ไปเที่ยวกันดีกว่า
ตอนที่ 9 Shed 101
ตอนที่ 10 อาหารบ้านเรา
ตอนที่ 11 เรียนต่อได้ไหม
ตอนที่ 12 วันเปิดเทอม
ตอนที่ 13 ทำงานพิเศษ
ตอนที่ 14 เรียนไปชิมไป
ตอนที่ 15 ชีวิตเมืองนอกใครบอกสบาย
ตอนที่ 16 ร้านอาหารไทย
ตอนที่ 17 ร้านมือสอง
ตอนที่ 18 ทำงานร่วมกับฝรั่งครั้งแรก
ตอนที่ 19 การทำงานหลังเรียนจบ
ตอนที่ 20 การปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่นิวซีแลนด์
ตอนที่ 21 ตอบคำถามยอดฮิต
ตอนที่ 22 แขกรับเชิญพิเศษ ชีวิตเปลี่ยนเมื่อต้องเรียนโทที่นิวซีแลนด์
ตอนที่ 23 แขกรับเชิญพิเศษ เรื่องสมัยหนุ่มของ ดร.ตอ

**ที่มาของตอนที่ 22และ 23 คือ ปลาชวนพี่ชายกับน้องสาวที่ปลาได้เจอตอนเรียนโรงเรียนภาษามาช่วยเขียนค่ะ จะได้มีความแปลกใหม่ในการอ่าน

🔶 ภาคสอง ชีวิตครอบครัว
ตอนที่ 24 สุดท้ายตัดสินใจเชื่อพรหมลิขิต
ตอนที่ 25 Fairlie เมืองในฝัน
ตอนที่ 26 สมาชิกบ้านปลายฟ้า
ตอนที่ 27 เล่าสู่กันฟัง
ตอนที่ 28 ความรักรอบตัว
ตอนที่ 29 ชอบไปที่นี่จัง
ตอนที่ 30 แฟนฉัน Version นิวซีแลนด์
ตอนที่ 31 มีอะไรในนิวซีแลนด์

    ส่วนความคิดริเริ่มของการเขียนหนังสือเล่มนี้ที่ปลาล้มเลิกไปในตอนแรก คือต้องย้อนเวลากลับไปตอนที่ปลาอายุ 21 ซึ่งก็คือ 20 ปีที่แล้ว ปลากลับไทยจากการเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์รอบแรก ..ตอนนั้นจำได้ว่านั่งอยู่ในห้องรับแขก แล้วก็คิดถึงประสบการณ์ดีๆตอนที่อยู่นิวซีแลนด์ ..หยิบ diary ที่เขียนตอนเรียนขึ้นมาอ่าน..คิดถึงเพื่อนต่างชาติ ..แล้วก็ชวนไปคิดถึงตอนขอวีซ่า ว่าทำไมมันถึงได้ลำบากขนาดนี้?

    แล้วเรื่องราวต่างๆก็พรั่งพรูออกมาเป็นลำดับเลยค่ะ ปลาวิ่งไปหยิบ laptop และเริ่มพิมพ์โดยเริ่มจากสารบัญก่อน ตอนนั้นปลาก็เขียนไปเรื่อยๆจนได้ถึงตอนที่ 10 หลังจากนั้นไม่นานปลาก็ได้มีโอกาสกลับมาเรียนการโรงแรมและการท่องเที่ยวที่นิวซีแลนด์อีกครั้ง แล้วปลาก็เขียนเรื่องราวที่เหลือในภาคแรกหลังจากเรียนจบแล้วค่ะ

   ส่วนชีวิตในภาคสอง ปลาเพิ่งมาเริ่มเขียนเมื่อสองปีที่แล้วนี่เองค่ะ โดยการเอาเรื่องราวต่างๆในเฟสบุคเพจนี่แหละค่ะมาเรียบเรียงเรียงใหม่ บวกกับเรื่องอื่นเพิ่มเติม เข้าสู่ปีคศ.2020 ปลาต้องขอบคุณความทันสมัยของการพิมพ์หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้ปลาสามารถมีหนังสือเป็นของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องง้อสำนักพิมพ์ ปลาติดต่อกับโรงพิมพ์เอง ทำเองทุกอย่าง เพราะฉะนั้นราคาพิมพ์ต่อเล่มก็จะค่อนข้างสูง ปลาได้คุยกับโรงพิมพ์แห่งหนึ่งเรื่องราคา แต่ก็ยังคิดว่าอาจจะมีที่อื่นที่ถูกกว่า ปลาเลยลองคุยเพิ่มดูอีก 3 ที่ค่ะ และนี่คือราคาต่อเล่มที่ปลาเจอมา 470, 570 และ770 บาท อันสุดท้ายนี่น่าตกใจมาก😱

   สรุปว่าปลาพิมพ์กับโรงพิมพ์เดิมค่ะ และในที่สุดอีกหนึ่งฝันของปลาก็เป็นจริงค่ะ เย้ !





     ✏ มาถึงตรงนี้ปลามีอีกประสบการณ์จากหนังสือเล่มนี้มาเล่าให้ฟังค่ะ ปลารู้จักเพื่อนคนไทยคนนึงชื่อเจี๊ยบค่ะ เจี๊ยบอยู่เกาะเหนือ เราสองคนรู้จักกันทางเฟสบุคนี่แหละค่ะ แล้วก็ยังไม่เคยเจอกันตัวเป็นๆเลย เจี๊ยบตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันปลาเลยค่ะ คือแม่บ้านลูกสอง เราเลยเข้าใจหัวอกซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี
      มีอยู่วันนึงค่ะเจี๊ยบส่งข้อความมาบอกปลาว่า พ่อเราอยากซื้อหนังสือที่ปลาเขียน จะซื้อได้ทางไหน ? ปลาก็บอกวิธีไปว่าต้องทำยังไงบ้าง แล้วเจี๊ยบก็เล่าต่อว่าพ่อไปเจอโพสในพันทิพ พ่ออ่านแล้วชอบเลยอยากได้หนังสือ พ่อเราก็เป็นนักเขียนนะ เท่านั้นแหละค่ะ !! ปลาดีใจมากเหมือนกับได้เจอศิลปินตัวอย่าง กริ๊ดๆ เจี๊ยบบอกว่าพ่อมีหนังสือเล่มนึงที่เขียนเรื่องราวตอนที่พ่อมานิวซีแลนด์ด้วยนะ ชื่อ " เมฆขาวและดาวสวย " ปลาอยากอ่านไหม? "

   หูยชื่อหนังสือเท่ห์จัง อยากอ่านจ๊ะ😍 " ปลาตอบกลับโดยที่ไม่ต้องคิด หลายวันต่อมาหนังสือก็มาถึงค่ะ พอปลาแกะห่อออกมาก็เจอหนังสือที่น่า อ่านมากๆ 1 เล่ม ชื่อ 📖 เมฆขาวและดาวสวย โดย คุณพ่อวัธนา บุญยัง

    และด้วยความที่น่าอ่านปลาก็เลยพักงานบ้านไว้ก่อน ขออ่านซักตอนสองตอนก่อนเนอะ 😆 ตลอดเวลาในการอ่านสองตอนแรก ปลารู้สึกสนุกมากเลยค่ะ คุณพ่อเล่าเรื่องที่มาของประเทศนิวซีแลนด์ได้เป็นอย่างดี อ่านไปยิ้มตามไปด้วยความเพลิดเพลิน และก็อยากจะอ่านรวดเดียวจนจบเลย แต่คงจะยาก เพราะเดี๋ยว talking machine ก็จะกลับมาจากโรงเรียนแล้ว
   
   หลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบ ปลาได้ความรู้..ได้ประสบการณ์..และความเพลิดเพลินอย่างมากมาย และก่อนที่ปลาจะส่งหนังสือกลับคืนไปให้เจี๊ยบ ปลาก็ได้ยกมือไหว้คุณพ่อแล้วพูดขออนุญาต “ พ่อขา หนูขอถ่ายรูปคู่หนังสือด้วยซักครั้งนะคะ ขอบพระคุณค่า


     ✔สุดท้ายสำหรับใครที่อยากจะเขียนหนังสือซักเล่ม อย่าเพิ่งท้อนะคะ ขอรูปสวยๆทำปกซักรูป แล้วก็เนื้อหาที่เราเขียน เนื้อหาที่เราอยากเล่าสู่กันฟัง แล้วก็รูปประกอบเนื้อหาข้างในบ้างถ้าต้องการใส่ แต่ถ้าใส่รูปเยอะ ราคาต่อเล่มก็จะแพงขึ้นไปอีกอะค่ะ เอาแค่พอสมควรเนอะ ใจจริงปลาก็อยากใส่รูปเยอะกว่านี้นะคะ😅 พอหนังสือพิมพ์เสร็จปลาได้เอามาเล่าให้พี่ๆน้องๆในเพจฟัง มันทำให้ปลารู้สึกว่าประสบการณ์ชีวิตเล็กๆน้อยๆของปลากำลังจะไปเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง..ไม่มากก็น้อย

    ตอนนี้ก็ปีกว่าแล้วค่ะที่หนังสือ " Pla Gallery at นิวซีแลนด์ " ได้ถูกพิมพ์ออกมา ปลาต้องขอขอบคุณทุกคนและทุกสิ่งที่ทำให้มีหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา

- อันดับแรกเลยก็คือขอบพระคุณพ่อกับแม่ค่ะ ที่ทำให้ปลาได้มีประสบการณ์ชีวิตในต่างแดน และสนับสนุนปลามาตลอดจนถึงทุกวันนี้
- ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ปลาได้มาใช้ชีวิตครึ่งนึงที่นิวซีแลนด์ ทำให้มีเรื่องราวต่างๆผ่านเข้ามาร้อยเรียงเป็นตัวอักษร
- ขอบคุณความคิดวูบแรกวูบนั้นที่อยากจะเขียนหนังสือแล้วไม่ยอมแพ้
- ขอบคุณข้อมูลจากเวบพันทิพที่ทำให้ปลาได้รู้ว่าเราสามารถทำหนังสือได้เองโดยที่ไม่ต้องง้อสำนักพิมพ์
- ขอบคุณพี่ๆน้องๆพ่อๆแม่ๆทุกคนในเพจสำหรับกำลังใจในการทำหนังสือ และขอบคุณที่เชื่อใจปลาโดยการซื้อหนังสือไปอ่าน โดยที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน
- ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องทุกคนในหนังสือด้วย ที่อนุญาตให้ปลามาให้เรื่องราวและรูปมาลงโดยที่ไม่รับผลตอบแทน
- ขอบคุณสำหรับ feedback ปลาอยากจะบอกว่าทุก Feedback คือรอยยิ้ม..คือน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม..และกำลังใจค่ะ แล้วก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ปลาได้เขียนหนังสือเล่มต่อไป 

 แล้วถ้าใครมีอะไรอยากจะเม้ามอยก็เชิญได้ที่เฟสบุคเพจ " Pla Gallery at นิวซีแลนด์ " นะคะ
https://www.facebook.com/plagalleryn