@@[นิยายY] ตามรักคืนจันทร์ ตามตะวันคืนใจ (Secret Tunnel)@@

กระทู้สนทนา

**หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการของผู้เขียน ตัวละครและเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นสิ่งที่สมมุติขึ้นมา อาจจะอิงจากสถานที่จริงบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ ดูหมิ่นแต่อย่างใด ขอให้ผู้อ่านเสพแต่ความบันเทิงใจ หากมีสิ่งใดผิดพลาดก็ขอให้ตักเตือนผู้เขียนด้วยครับ




: เรื่องย่อ :

"เมื่อ3ปีก่อนช่วงปิดเทอม เพราะเห็นโปสการ์ดรูปอุโมงค์ขุนตาน ทำให้เทมส์ (ศศิน ศศิวงศ์สกุล)ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวคนเดียวที่นั่นเขาได้เจอกับทิว (อาทิตย์ ระพีพันธุ์พงษ์) เพื่อนรุ่นเดียวกันที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการพาเที่ยว ก่อนเทมส์จะกลับมาที่กรุงเทพฯ ทั้งสองคนได้แลกสร้อยคอที่เป็นสัญลักษณ์ของกันและกัน เพื่อที่จะได้จำกันได้เผื่อได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่หลังจากกลับจากขุนตาน เทมส์ประสบอุบัติเหตุโดนรถชน ทำให้ความทรงจำหายไป เขารักษาตัวจนความทรงจำค่อยๆดีขึ้น แต่ว่า...เทมส์กลับไม่หลงเหลือความทรงจำเกี่ยวกับสร้อยคอที่มีจี้รูปพระอาทิตย์ที่เขาสวมใส่อยู่เลย..."



Secret Tunnel ตอนที่.1 : คำทำนายบนรถไฟ

เวลา 21.30 นาฬิกา ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ

"เทมส์ เดินทางคนเดียวก็ดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย" ไอ้เอ็มเพื่อนสนิทสุดที่รักของผม บอกกับผมในขณะที่มาส่งผมขึ้นรถไฟ

"เออน่า นี่จะขึ้น มอห้าแล้วนะ ไม่ต้องห่วง ไปคนเดียวได้สบายๆ"

"เราก็อยากไปด้วยนะ แต่ต้องอยู่ช่วยที่บ้านขายของน่ะสิ" ไอ้เอ็มบอกผม มันคงอยากไปเที่ยวกับผมจริงๆ แต่ว่าช่วงปิดเทอมทีไร มันก็ต้องช่วยที่บ้านขายของทุกที บ้านของไอ้เอ็มเปิดขายข้าวมันไก่กับก๋วยเตี๋ยวน่ะครับ 

"เอาน่า คราวหน้ายังมี เราต้องได้เที่ยวด้วยกันซักทริปสิ" ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปตบไหล่หนาๆของเพื่อนสนิทเพื่อเป็นการปลอบใจ

"เออ แล้วนี่นายเก็บกระเป๋าดีหรือเปล่า เสื้อผ้า รองเท้า ยาฉีดกันยุง หมวก เอ่อ แล้วก็...แล้วก็ เออ ไฟฉาย ใช่ ไฟฉายเตรียมไปหรือเปล่า เขาบอกว่าดอยขุนตานเดินขึ้นใช้เวลานาน ยาดมด้วย เตรียมไปมั้ย ขวดน้ำ แล้วก็...."

"พอแล้วๆ เราเตรียมมาหมดแล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วง" ผมต้องเบรกเจ้าเพื่อนคนนี้ซะก่อน คนไม่ได้ไป ห่วงยิ่งกว่าคนที่ไปเองอย่างผมซะอีก

"แล้วนายนี่ก็นะ รถไฟชั้นหนึ่งชั้นสองทำไมไม่จอง จะได้นอนเตียง มีแอร์สบายๆ จองอะไรชั้นสามเนี่ย นั่งนานเมื่อยแย่เลย" ไอ้เอ็มต่อว่าผมเมื่อรู้ว่าผมตีตั๋วรถไฟชั้นสาม

"สายเที่ยวก็งี้แหล่ะ ต้องนั่งชั้นสามถึงจะสนุกน่ะ เราดูรีวิวมาแล้ว รับรองสนุกแน่"

"เออๆ ป่ะรีบขึ้นรถเถอะใกล้เวลารถออกแล้ว" ไอ้เอ็มบอกผม แล้วก็เดินขึ้นไปส่งผมจนถึงที่นั่งบนรถไฟ

บรรยากาศบนรถไฟในเวลานี้ ไม่ค่อยจะมีคนซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะขึ้นจากสถานีต้นทางและเป็นรถไฟรอบดึก ตอนนี้ที่นั่งของผมก็เลยมีผมแค่คนเดียว ได้ที่นั่งริมหน้าต่างสบายๆเลย ไอ้เอ็มก็นั่งคุยกับผมอีกพักนึง จนได้ยินเสียงหวูดรถไฟส่งสัญญาณว่าจะเริ่มเคลื่อนขบวนออกเดินทางแล้ว มันถึงลงจากรถไฟแล้วยืนส่งผมข้างล่าง

รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวน

"ถึงแล้วโทรมาบอกด้วยนะ ถ้าเราไลน์ไป นายต้องตอบไลน์ด้วยนะ" ไอ้เอ็มบอกผม 

"โอเค ไม่ต้องห่วง จะรายงานตลอดเวลาเลย" ผมโบกมือบ๊ายบาย ไอ้เพื่อนสนิท ที่ห่วงผมยิ่งกว่าอะไร

ผมเสียบหูฟังเปิดเพลงคลอเบาๆ โดนลมเย็นๆพัดหน้า ก็ทำเอาอยากจะหลับเหมือนกัน แต่เพราะความที่ไม่เคยออกเดินทางไปไหนคนเดียวแบบนี้มาก่อน ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบตัวมีมากกว่า เลยทำให้ผมอดใจไม่ข่มตาหลับ แล้วก็นั่งมองวิวสองข้างทางรถไฟ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแต่มันก็ทำให้ผมได้เห็นโลกใหม่ที่ไม่เคยเห็น

ผมหยิบตั๋วรถไฟขึ้นมาดู รถไฟขบวนนี้จะไปถึงสถานีขุนตานตอนประมาณ11โมงเช้า การเดินทางของผมยังอีกยาวนานเลยครับ ไปถึงที่นั่นผมก็คงจะไปถ่ายรูปอุโมงค์รถไฟขุนตาน ตามแบบที่เห็นจากโปสการ์ดเป็นอย่างแรกเลย 

บนรถไฟมีของกินมาขายตลอดเวลาเลย น้ำ ข้าวเหนียวไก่ย่าง หมูทอด แม้แต่ลูกชิ้นทอดก็มี ผมเลือกซื้อข้าวเหนียวหมูทอดมากินแก้หิว แต่ในกระเป๋าก็ยังมีข้าวเหนียวหมูทอดที่ไอ้เอ็มซื้อมาให้ ผมจะเก็บไว้กินเป็นมื้อเช้า ตอนนี้ผมก็ยังนั่งคนเดียวเหมือนเดิม

จนรถไฟมาจอดที่สถานีอยุธยา มีคุณป้าคนหนึ่งนุ่งชุดขาวห่มขาว ท่าทางใจดี มานั่งที่เบาะตรงข้ามกับผม ผมช่วยท่านยกกระเป๋าขึ้นไปไว้ที่ชั้นวางกระเป๋า ท่านก็ขอบอกขอบใจผม แล้วก็ยิ้มให้

"จะได้เจอกันแล้วสินะ" คุณป้าพูดออกมา

"อะไรนะครับคุณป้า ใครเจอกันหรอครับ" ผมเอ่ยปากถามท่าน เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด

"พระอาทิตย์กับพระจันทร์ไงหล่ะลูก ทั้งสองกำลังจะได้เจอกัน" เมื่อได้ยินสิ่งที่ท่านพูด ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ก็เลยเสียบหูฟังเพลงต่อ แต่อะไรไม่รู้ทำให้ผมตัดสินใจถามคุณป้าว่าท่านจะไปไหน

"ป้ากำลังจะไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่จ่ะลูก" คุณป้าตอบผม พร้อมกับก้มหน้าอ่านหนังสือธรรมมะในมือของท่านต่อไป

ผมนั่งฟังเพลงเพลินๆ 

อยู่ๆ สร้อยคอที่เป็นเชือกเส้นสีดำกับจี้รูปพระจันทร์เสี้ยวของผม ก็หลุดแล้วลอยออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ ผมตกใจรีบคว้าไว้แต่ก็ไม่ทัน สร้อยคอของผมหลุดลอยหายไปแล้ว 

"อ่ะ สร้อยคอของนาย" 

มีคนยื่นสร้อยคอคืนมาให้ผม ผมพยายามมองดูว่าคนคนนั้นคือใครแต่ก็ไม่เห็น ผมรับสร้อยคอเส้นนั้นมา แต่ว่าจี้ที่ห้อยอยู่กลับเป็นรูปพระอาทิตย์ 

ผมตกใจตื่นขึ้นมา นี่ผมฝันไปหรอเนี่ย รีบเอามือจับสร้อยที่คอ ก็ยังอยู่ปกติ เป็นจี้รูปพระจันทร์เสี้ยวเหมือนเดิม ผมหันไปมองคุณป้าที่นั่งตรงข้าม ท่านนั่งหลังตรง สองมือประสานไว้บนตัก หลับตาเฉยๆ เหมือนกำลังทำสมาธิ ไม่เหมือนคนนั่งหลับเลย 

คำพูดของคุณป้าเข้ามาในความคิดของผม

"พระอาทิตย์กับพระจันทร์ ทั้งสองกำลังจะได้เจอกัน"

คำทำนาย...บนรถไฟ


(รอตอนต่อไป)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่