สวรรคโลก
มีเพื่อนอยู่สวรรคโลก ได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนหลายครั้ง
บอกกับเพื่อนว่าแล้วจะเขียนเรื่องเมืองสวรรคโลกเป็นการตอบแทน
เมืองชะเลียงเป็นเมืองที่มีมาแต่ยาวนาน
มีพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นศูนย์กลาง มีน้ำล้อมรอบสามด้าน บนฝั่งมีกำแพงชั้นหนึ่ง เพราะตลิ่งทางฝั้งทิศใต้ถูกน้ำเซาะพังไปเรื่อย ๆ พ่อขุนรามคำแหงจึงได้ย้ายศูนย์กลางของเมืองขึ้นไปอีก 2 กม.
บนที่ราบที่มีแม่น้ำยมไหลผ่าน ล้อมรอบด้วยล้อมรอบด้วยเทือกเขาสามเทือกคือ เขาพระศรี เขาใหญ่ และเขาพระบาท อันเป็นชัยภูมิที่เข้มแข็ง
เรียกเมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัย
สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองสวรรคโลก
สมัยสมเด็จพระนเรศวร เมืองสวรรคโลกแข็งเมืองจึงทรงยกทัพไปตี ตั้งแต่นั้นมาเมืองสวรรคก็ไม่เข้มแข็งอีกต่อไป และร้างไปเมื่อเสียกรุง
พระเจ้าตากปราบเจ้าพระฝางสวาคบุรีได้ ได้มาสมโภชพระบรมธาตุและตั้งเมืองสวรรคโลกขึ้นใหม่
เมื่ออะแซหวุ่นกี้ยกมาตีเมืองพิษณุโลก เจ้าเมืองสวรรคโลกย้ายเมืองมาตั้งที่บ้านท่าชัย - อำเภอตำบลศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน
รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
นาค ปลัดปกครองเมืองสวรรคโลกได้นำงาช้างเนียม (งาช้างที่ใหญ่แต่สั้นและมักจะชี้ตรง) ไปถวายพระเจ้าอยู่หัว
มีความดีความชอบได้รับการแต่งตั้งเป็น พระยาสวรรคโลก มีบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวิชิตภักดี ต้นตระกูลวิชิตนาคในปัจจุบัน
พระยาสวรรคโลก ได้ย้ายเมืองสวรรคโลกมาตั้งที่วังไม้ขอนสวรรคโลก ใช้บ้านพักหรือจวนที่บ้านวังไม้ขอนเป็นที่ว่าการเมืองสวรรคโลก
ต่อมาได้ตั้งเป็นจังหวัด ต่อมาพ.ศ. 2482 ยุบจังหวัดสวรรคโลก ให้อยู่ในจังหวัดสุโขทัย
ศาลหลักมืองสวรรคโลก - โลกที่สวยงามดุจแผ่นดินสวรรค์
สถานีตำรวจภูธรอำเภอสวรรคโลก หรือ สถานีตำรวจภูธร จังหวัดสุโขทัย ในอดีต
สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2442 เป็นเรือนไม้ทรงปั้นหยา 2 ชั้น
พ.ศ.2482 เป็นสถานีตำรวจภูธรอำเภอสวรรคโลก
เดิมสวรรคโลกมีโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดชื่อ อนันตนารี ทำการสอนตั้งแต่ พ.ศ. 2465
ปลายปี พ.ศ. 2466 ได้ย้ายไปเรียนรวมกับโรงเรียนประจำจังหวัดชายชื่อ สวรรควิทยา
สวรรควิทยา รวมกับ อนันตนารี โรงเรียนประจำจังหวัดสวรรคโลกจึงชื่อโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
สวรรคโลกมีความเจริญทางเศรษฐกิจจาก พืชไร่ มีการขนส่งทางรถไฟรองรับ
สถานีรถไฟสวรรคโลก เป็นสถานีสุดทางจากบ้านดารา
และมีแผนจะทำต่อไปยังจังหวัดตาก
พอปุ๋ยแพง ยาแพง พืชไร่ราคาตก เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี เลย เซา ๆ ไป
วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดจวน
ได้รับการสถาปนาขึ้น พ.ศ. 2338 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
โดย นาค ปลัดปกครองเมืองสวรรคโลก (พระยาวิชิตภักดี) ได้บริจาคที่ดินและเรือนพัก ให้สร้างวัดและเป็นเสนาสนะ
จึงเรียกวัดว่า วัดจวน
ด้านหลังเป็นแม่น้ำยม
หลังเล็กเป็นวิหาร หลังใหญ่เป็นโบสถ์ หันหน้ามาทางทิศตะวันออก
เจดีย์ - รัตนโกสินทร์
มณฑป สร้างเมื่อปี พ.ศ.2424 โดยตระกูลคันธนาค ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง
เสนาเสนาะ
วิหาร
สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 เป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ของวัด ... ปิด
หน้าบันเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
อุโบสถ
สร้างเมื่อปี พ.ศ.2330 ประดิษฐานพระพุทธเรืองฤทธิ์
เดิมประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถวัดพระศรีมหาธาตุเชลียง (วัดพระปรางค์) ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองเมืองสวรรคโลกเก่า
เมื่อพระยาวิชิตภักดี (นาค) สร้างวัดสว่างอารมณ์เสร็จ
จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถหน้าบันเป็นไม้แกะสลัก
วัดสวรรคาราม หรือ วัดกลาง
อยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม ตั้งอยู่ระหว่างกลาง 2 ตำบล คือตำบลวังพิณพาทย์ทางด้านเหนือ และตำบลวังไม้ขอนด้านใต้จึงมีชื่อว่าวัดกลาง
ทองคำ จิตรธร เกิดที่หลังวัดกลาง ตำบลเมืองสวรรคโลก ปี พ.ศ.2420
เรียนหนังสือกับพระอาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดกลาง
บวชเป็นเณรและได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพมหานคร
เมื่ออายุได้ 20 ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุมีสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบทได้ 10 พรรษา ได้รับสมณศักดิ์ พระครูสวรรค์วรนายก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดสวรรคาราม
พ.ศ.2465 โดยจ้างชาวจีนคนหนึ่ง เรียกว่า จีนแส
มาสร้างกุฏิ ... คือตึกเก่าสวยที่เพื่อนพูดถึง
เพื่อนเล่าว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ เคยเห็นพระพุทธรูปโบราณมากมาย เยอะกว่าในพิพิธภัณฑ์ตอนนี้เยอะ
ท่านเจ้าอาวาสขณะนั้นบ่นว่า คนใหญ่คนโตที่มีอิทธิพลทั้งหลาย ชอบมายืม และหายไปเรื่อย ๆ
พิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสวรรควรนายก
ตั้งอยู่ด้านหลังวัดสวรรคาราม
จากการที่พระสวรรควรนายก อดีตเจ้าอาวาสวัดสวรรคาราม และเจ้าคณะจังหวัดสวรรคโลก
ต้องการยกศิลปวัตถุโบราณวัตถุที่สะสมไว้ให้เป็นสมบัติของชาติ ทางกรมศิลป์จึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น
วัดหนองโว้ง
ที่เจาะจงมาวัดนี้เพราะ พระอุโบสถเก่า หลังกุฏิ
เดินเข้าเดินออกสามเที่ยว ยังไม่กล้าลุยเข้าไป ... กลัวงู
ที่สุดหลวงพ่อท่านมาพบเข้าจึงเดินนำไปและเปิดโบสถ์ให้ชม - ภาพเมื่อปี 2557
หลังคาโบสถ์ไม่รั่วภาพจิตรกรรมฝาผนังจึงไม่ชำรุดมาก
หลวงพ่อท่านว่าไปไหว้พระสองพี่น้องซิ
เมื่อก่อนเก๊าเก่า ... หลัง ๆ ยิ่งมีคนมาไหว้ก็ยิ่งใหม่เอี่ยม
เป็นพระพุทธรูปสำริดองค์สามและองค์สี่ จากวัดปากน้ำ
วัดปากน้ำ
อยู่ที่ ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก ริมแม่น้ำยมสายเก่า
ราวปี พ.ศ. 2456 บริเวณพระอุโบสถหลังเก่า รอบอุโบสถเต็มไปด้วยต้นฉำฉา ต้นชะอมและเถาวัลย์
พบเสาศิลาแลงหกเหลี่ยม 12 ต้น ผนังพัง ไม่มีหลังคาฐานอุโบสถทำด้วยอิฐเผา แท่นพระประธานมีจอมปลวกขึ้นปกคลุมหมด
เมื่อกระเทาะจอมปลวก พบพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย 4 องค์ เรียกว่า หลวงพ่อ 4 พี่น้อง
ได้นำไปประดิษฐานที่วัดปากน้ำสององค์ และนำมาประดิษฐานที่วัดหนองโว้ง สององค์
ในอุโบสถวัดปากน้ำประคิษฐาน พระพุทธรูปองค์หนึ่งและองค์สอง
พระพุทธรูป 2 องค์นี้ เคยถูกลักไปเมื่อปี พ.ศ. 2521 และได้คืนมาเมื่อ พ.ศ. 2528
หน้าบันโบสถ์เขียนภาพน่าสนใจ
ภาพบุคคลชายยิงธนูเขียนว่าสิทธัตถะ - เดาว่าตอนทรงประลองยิงธนู
ภาพบุคคลหญิงเขียนว่านาง - เดาว่าพระนางพิมพา หรือยโสธรา
ภาพครุฑถือดอกบัวกับรัศมี - เดาว่าจะออกบวชเป็นพระพุทธเจ้า หรือ เป็นกษัตริย์ที่มียิ่งใหญ่
วัดคลองกระจง
ตำบลคลองกระจงเป็นตำบลที่ตั้งมาพร้อมกับอำเภอเมือง จังหวัดสวรรคโลก
มีคลองขุนตาจงหล่อเลี้ยงชุมชน เรียกบ้านคลองขุนตาจง ต่อมาเพี้ยนเป็น บ้านคลองกระจง ปัจจุบันไม่เหลือสภาพคลองแล้ว
ในวิหารหลวงพ่อสามพี่น้อง ประดิษฐาน
*หลวงพ่อเพชญ์
อัญเชิญมาจากวัดโบสถ์ - วัดร้าง ริมแม่น้ำยมสายเก่า
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยสำริด สังฆาฏิเป็นกลีบซ้อนๆกัน เรียกว่า ห่มดอง
มีจารึกไว้ที่หน้าตักว่า
บิดาขึ้นวันจันทร์ ๑๐ ค่ำ เจ้าเมาลี สว่างพระผู้เป็นเจ้าองค์นี้ให้แม่ไหว้ ไว้หลายคนบวช เป็นข้าตีนพระเจ้า
*หลวงพ่อสัมฤทธิ์
เล่าต่อกันมาว่าได้พบหลวงพ่อที่วัดกรงทอง - วัดร้าง - ตั้งอยู่ในชุมชนโบราณริมแม่น้ำยมสายเก่า
ปางมารวิชัย
ประวัติว่า มีพรานล่าสัตว์ ใช้วิธีเดินย้อนหลัง กลั้นหายใจเดิน 3 ก้าว เข้าป่า
เขาได้ยินเสียง พระสวดมนต์ มาจากจอมปลวก
เห็นเป็นพระพุทธรูป จึงนำไปไว้ที่ใต้ต้นโพธิในวัด
ต่อมามีผู้นำไปขายให้ พระครูสวรรควรนายก (วัดสวรรคาราม) สมัยนั้น
สมุห์ฟ้อนซึ่งบวชเณรอยู่ ได้ขัดพระพุทธรูป ปรากฏตัวอักษรในสมัยสุโขทัย ว่า
แม่ชีเสนโกนเกล้าเข้าบวช บ่เคยถูกต้องมือชายจนถึงน้ำนึกมาดบูชา จึงพระผู้เป็นเจ้าโสมองค์ ถวายไว้ในพระศาสนา สิ้นปัจจัย 6 ล้านเบี้ย
*หลวงพ่อพึ่ง
ได้อัญเชิญมาจากวัดหาดน้ำเชี่ยว หรือ วัดคลองกระจงเดิม ห่างไปทางเหนือประมาณ 700 เมตร ซึ่งวัดถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายลงแม่น้ำไปหมด
ฐานพระพุทธรูป มีอักษรภาษาไทยสมัยปัจจุบันจารึกว่า
นายอ๋อ อยู่สุข กับผู้มีศรัทธา ร่วมกันปฏิสังขรณ์ สิ้นเงิน 45 บาท
นายอ๋อ อยู่สุข - อดีตกำนันตำบลคลองกระจง
สวรรคโลกมีเมืองเก่าชื่อบางขลัง
บางขลัง พบชื่อครั้งแรก ในจารึกวัดศรีชุมว่าพ่อขุนผาเมืองยกพลมาสมทบเพื่อขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพง
โบราณสถานวัดโบสถ์ ตั้งอยู่นอกเมืองทางทิศใต้ของเมืองบางขลัง
จากตำนานวัดพระธาตุดอยสุเทพ ว่าพระสุมนเถระ นำพระธาตุจากวัดโบสถ์บางขลัง มาไว้ที่วัดสวนดอกและวัดพระธาตุดอยสุเทพ
โบราณสถานเป็นมณฑป แสดงถึงประดิษฐานพระพุทธรูป ในอาคาร 1 องค์ นอกอาคารด้านนอกสามองค์
ด้านหน้านอกกำแพงแก้วมีตะพังและเตา ภาพวันที่ 29-10-2557
โบราณสถานโบสถ์เก่า 3 ห้อง มีทางเดินโดยรอบ
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
.
สุโขทัย - เที่ยวสวรรคโลกตามใจฉัน
มีเพื่อนอยู่สวรรคโลก ได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนหลายครั้ง
บอกกับเพื่อนว่าแล้วจะเขียนเรื่องเมืองสวรรคโลกเป็นการตอบแทน
มีพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นศูนย์กลาง มีน้ำล้อมรอบสามด้าน บนฝั่งมีกำแพงชั้นหนึ่ง เพราะตลิ่งทางฝั้งทิศใต้ถูกน้ำเซาะพังไปเรื่อย ๆ พ่อขุนรามคำแหงจึงได้ย้ายศูนย์กลางของเมืองขึ้นไปอีก 2 กม.
บนที่ราบที่มีแม่น้ำยมไหลผ่าน ล้อมรอบด้วยล้อมรอบด้วยเทือกเขาสามเทือกคือ เขาพระศรี เขาใหญ่ และเขาพระบาท อันเป็นชัยภูมิที่เข้มแข็ง
เรียกเมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัย
สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองสวรรคโลก
สมัยสมเด็จพระนเรศวร เมืองสวรรคโลกแข็งเมืองจึงทรงยกทัพไปตี ตั้งแต่นั้นมาเมืองสวรรคก็ไม่เข้มแข็งอีกต่อไป และร้างไปเมื่อเสียกรุง
พระเจ้าตากปราบเจ้าพระฝางสวาคบุรีได้ ได้มาสมโภชพระบรมธาตุและตั้งเมืองสวรรคโลกขึ้นใหม่
เมื่ออะแซหวุ่นกี้ยกมาตีเมืองพิษณุโลก เจ้าเมืองสวรรคโลกย้ายเมืองมาตั้งที่บ้านท่าชัย - อำเภอตำบลศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน
รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
นาค ปลัดปกครองเมืองสวรรคโลกได้นำงาช้างเนียม (งาช้างที่ใหญ่แต่สั้นและมักจะชี้ตรง) ไปถวายพระเจ้าอยู่หัว
มีความดีความชอบได้รับการแต่งตั้งเป็น พระยาสวรรคโลก มีบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวิชิตภักดี ต้นตระกูลวิชิตนาคในปัจจุบัน
พระยาสวรรคโลก ได้ย้ายเมืองสวรรคโลกมาตั้งที่วังไม้ขอนสวรรคโลก ใช้บ้านพักหรือจวนที่บ้านวังไม้ขอนเป็นที่ว่าการเมืองสวรรคโลก
ต่อมาได้ตั้งเป็นจังหวัด ต่อมาพ.ศ. 2482 ยุบจังหวัดสวรรคโลก ให้อยู่ในจังหวัดสุโขทัย
ปลายปี พ.ศ. 2466 ได้ย้ายไปเรียนรวมกับโรงเรียนประจำจังหวัดชายชื่อ สวรรควิทยา
สวรรควิทยา รวมกับ อนันตนารี โรงเรียนประจำจังหวัดสวรรคโลกจึงชื่อโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
สถานีรถไฟสวรรคโลก เป็นสถานีสุดทางจากบ้านดารา
และมีแผนจะทำต่อไปยังจังหวัดตาก
พอปุ๋ยแพง ยาแพง พืชไร่ราคาตก เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี เลย เซา ๆ ไป
เจดีย์ - รัตนโกสินทร์
มณฑป สร้างเมื่อปี พ.ศ.2424 โดยตระกูลคันธนาค ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง
เสนาเสนาะ
สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 เป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ของวัด ... ปิด
หน้าบันเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
สร้างเมื่อปี พ.ศ.2330 ประดิษฐานพระพุทธเรืองฤทธิ์
เดิมประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถวัดพระศรีมหาธาตุเชลียง (วัดพระปรางค์) ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองเมืองสวรรคโลกเก่า
เมื่อพระยาวิชิตภักดี (นาค) สร้างวัดสว่างอารมณ์เสร็จ
จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถหน้าบันเป็นไม้แกะสลัก
มาสร้างกุฏิ ... คือตึกเก่าสวยที่เพื่อนพูดถึง
เพื่อนเล่าว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ เคยเห็นพระพุทธรูปโบราณมากมาย เยอะกว่าในพิพิธภัณฑ์ตอนนี้เยอะ
ท่านเจ้าอาวาสขณะนั้นบ่นว่า คนใหญ่คนโตที่มีอิทธิพลทั้งหลาย ชอบมายืม และหายไปเรื่อย ๆ
จากการที่พระสวรรควรนายก อดีตเจ้าอาวาสวัดสวรรคาราม และเจ้าคณะจังหวัดสวรรคโลก
ต้องการยกศิลปวัตถุโบราณวัตถุที่สะสมไว้ให้เป็นสมบัติของชาติ ทางกรมศิลป์จึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น
เดินเข้าเดินออกสามเที่ยว ยังไม่กล้าลุยเข้าไป ... กลัวงู
ที่สุดหลวงพ่อท่านมาพบเข้าจึงเดินนำไปและเปิดโบสถ์ให้ชม - ภาพเมื่อปี 2557
หลังคาโบสถ์ไม่รั่วภาพจิตรกรรมฝาผนังจึงไม่ชำรุดมาก
เมื่อก่อนเก๊าเก่า ... หลัง ๆ ยิ่งมีคนมาไหว้ก็ยิ่งใหม่เอี่ยม
เป็นพระพุทธรูปสำริดองค์สามและองค์สี่ จากวัดปากน้ำ
ราวปี พ.ศ. 2456 บริเวณพระอุโบสถหลังเก่า รอบอุโบสถเต็มไปด้วยต้นฉำฉา ต้นชะอมและเถาวัลย์
พบเสาศิลาแลงหกเหลี่ยม 12 ต้น ผนังพัง ไม่มีหลังคาฐานอุโบสถทำด้วยอิฐเผา แท่นพระประธานมีจอมปลวกขึ้นปกคลุมหมด
เมื่อกระเทาะจอมปลวก พบพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย 4 องค์ เรียกว่า หลวงพ่อ 4 พี่น้อง
ได้นำไปประดิษฐานที่วัดปากน้ำสององค์ และนำมาประดิษฐานที่วัดหนองโว้ง สององค์
ในอุโบสถวัดปากน้ำประคิษฐาน พระพุทธรูปองค์หนึ่งและองค์สอง
พระพุทธรูป 2 องค์นี้ เคยถูกลักไปเมื่อปี พ.ศ. 2521 และได้คืนมาเมื่อ พ.ศ. 2528
หน้าบันโบสถ์เขียนภาพน่าสนใจ
ภาพบุคคลชายยิงธนูเขียนว่าสิทธัตถะ - เดาว่าตอนทรงประลองยิงธนู
ภาพบุคคลหญิงเขียนว่านาง - เดาว่าพระนางพิมพา หรือยโสธรา
ภาพครุฑถือดอกบัวกับรัศมี - เดาว่าจะออกบวชเป็นพระพุทธเจ้า หรือ เป็นกษัตริย์ที่มียิ่งใหญ่
มีคลองขุนตาจงหล่อเลี้ยงชุมชน เรียกบ้านคลองขุนตาจง ต่อมาเพี้ยนเป็น บ้านคลองกระจง ปัจจุบันไม่เหลือสภาพคลองแล้ว
ในวิหารหลวงพ่อสามพี่น้อง ประดิษฐาน
*หลวงพ่อเพชญ์
อัญเชิญมาจากวัดโบสถ์ - วัดร้าง ริมแม่น้ำยมสายเก่า
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยสำริด สังฆาฏิเป็นกลีบซ้อนๆกัน เรียกว่า ห่มดอง
มีจารึกไว้ที่หน้าตักว่า
บิดาขึ้นวันจันทร์ ๑๐ ค่ำ เจ้าเมาลี สว่างพระผู้เป็นเจ้าองค์นี้ให้แม่ไหว้ ไว้หลายคนบวช เป็นข้าตีนพระเจ้า
*หลวงพ่อสัมฤทธิ์
เล่าต่อกันมาว่าได้พบหลวงพ่อที่วัดกรงทอง - วัดร้าง - ตั้งอยู่ในชุมชนโบราณริมแม่น้ำยมสายเก่า
ปางมารวิชัย
ประวัติว่า มีพรานล่าสัตว์ ใช้วิธีเดินย้อนหลัง กลั้นหายใจเดิน 3 ก้าว เข้าป่า
เขาได้ยินเสียง พระสวดมนต์ มาจากจอมปลวก
เห็นเป็นพระพุทธรูป จึงนำไปไว้ที่ใต้ต้นโพธิในวัด
ต่อมามีผู้นำไปขายให้ พระครูสวรรควรนายก (วัดสวรรคาราม) สมัยนั้น
สมุห์ฟ้อนซึ่งบวชเณรอยู่ ได้ขัดพระพุทธรูป ปรากฏตัวอักษรในสมัยสุโขทัย ว่า
แม่ชีเสนโกนเกล้าเข้าบวช บ่เคยถูกต้องมือชายจนถึงน้ำนึกมาดบูชา จึงพระผู้เป็นเจ้าโสมองค์ ถวายไว้ในพระศาสนา สิ้นปัจจัย 6 ล้านเบี้ย
*หลวงพ่อพึ่ง
ได้อัญเชิญมาจากวัดหาดน้ำเชี่ยว หรือ วัดคลองกระจงเดิม ห่างไปทางเหนือประมาณ 700 เมตร ซึ่งวัดถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายลงแม่น้ำไปหมด
ฐานพระพุทธรูป มีอักษรภาษาไทยสมัยปัจจุบันจารึกว่า
นายอ๋อ อยู่สุข กับผู้มีศรัทธา ร่วมกันปฏิสังขรณ์ สิ้นเงิน 45 บาท
นายอ๋อ อยู่สุข - อดีตกำนันตำบลคลองกระจง
ด้านหน้านอกกำแพงแก้วมีตะพังและเตา ภาพวันที่ 29-10-2557
โบราณสถานโบสถ์เก่า 3 ห้อง มีทางเดินโดยรอบ
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์