ก่อนอื่นเลยนะครับ เล่าสู่กันฟังว่า สิ่งที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ไม่ได้เกิดจากความอคติ ต่อ...องค์กรตำรวจ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เล่าสู่กันฟัง จากผู้เขียนที่เป็นตำรวจ เนื้อหาต่อไปนี้ไม่มีการแฉ หรือกล่าวโทษใคร เผื่อ..จะเป็นวิทยาทาน แก่ผู้ที่..วันนึงฝันอยากจะเป็นตำรวจ มีญาติเป็นตำรวจ หรือผู้คนที่กำลังเกลียดองค์กรนี้ หรือบางคนที่รักองค์กรตำรวจ ก็ถือซะว่าเล่าสู่กันฟัง ว่าภายนอกที่เห็น ข้างในเป็นอย่างไร และภายในองค์กรที่เห็น
มองข้างนอกเป็นอย่างไร ...
. . . เกริ่นจากตัวผมเองก่อน...ด้วยอายุราชการก็ไม่ได้หลายปีดีดักขนาดไหน หรือจักว่าสีตำรวจเพิ่งซึมก็ไม่ปาน รู้แต่เพียงว่า ยังจำความรู้สึกที่ก่อนจะมาเป็นตำรวจได้เป็นอย่างดี ว่าการมององค์กรจากภายนอก สมัยยังไม่ได้รับราชการ นั้นมีมุมมองอย่างไร ก็ยังจำความรู้สึกได้
. . . เป็นตำรวจภูธร ที่เรียกว่าตำรวจบ้านนอกคนนึงนั่นล่ะครับ (ภูธรคือชื่อที่ใช้เรียกตำรวจต่างจังหวัดที่ไม่ใช่บริเวณ กทม)
ส่วนตำรวจใน กทม.จะเรียกว่า"ตำรวจนครบาล" และก่อนจะรับราชการ ตัวผมก็ทำงานใน กทม.หลายๆอย่าง จนบรรจุเป็นภูธร ตัวผมทำงานในสายปราบปราม ก็คือเป็นตำรวจภูธรที่อยู่โรงพักทั่วไปนั่นล่ะครับ เช่นพวกสายตรวจ สายสืบ จราจร พวกนี้จะเรียกว่า"สายปราบปราม" ทั้งหมด ส่วนอีกสายนึงคือ"อำนวยการ" พวกนี้จะทำเกี่ยวกับเอกสาร ที่ไม่ต้องไปออกเหตุ หรือวิ่งจับโจรแบบพวกผม ที่เป็นสายปราบปราม ก็คือทำงานโรงพักเหมือนกันแต่แค่หน้าที่จะต่างกัน
- แรกๆนั้นจบมาด้วยเงินเดือน 12,000 + เบี้ยเลี้ยงสายปราบปรามอีก 3,000 = 15,000 เบี้ยเลี้ยงก็คือค่าเสี่ยงภัยที่สายอำนวยการ
นั้นไม่ได้เหมือนสายปราบปรามของพวกผมน่ะครับ
ส่วนบรรจุมาแล้ว จะมีคำถามยอดฮิตจากปากคนอื่นประจำคือ... ได้เงินเพิ่มเติมจากเงินเทาๆหรือเงินผิดกฏหมาย ใต้โต๊ะฯลฯ เหมือนที่ใครต่อใครก็พูดกันจริงไหม สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้นั้น ผมจะพยายามสนทนาโดยให้เกิดผลเสียน้อยที่สุด แต่พยายามสื่อสารแบบให้เข้าใจ มากที่สุด เพราะต้องเข้าใจสภาพสังคมไทย หรือสภาพแวดล้อมเราคงไม่เหมาะที่จะสื่อสารแบบตรงๆด้วยอะไรหลายอย่างนะครับ
- อะไรคือเงินดำ คือเงินที่มีความผิดแบบเต็มประตู เงินที่ได้มาจากการวิ่งเต้นคดีอาญาที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ หรือเงินที่เรียกรับ
จากเคสที่วิ่งเต้นให้ไม่ทำคดี ที่เกิดจากความผิดร้ายแรง . เช่นฆ่าคนตายแล้วปกปิดคดี ฯ
- เงินเทา คือ อาจจะผิดกฏหมาย แต่ ถูกศีลธรรม หรือ ถูกกฏหมาย แต่ ผิดในด้านของศีลธรรม ฯ
- เงินขาว หรือ เงินสะอาด เงินที่ได้มาจากเจตนาที่บริสุทธิ์ทั้งผู้ให้และผู้รับครับ ฯ
ตัวเงินทั้ง 3 แบบนี้แน่นอนว่า .. ย่อมมีอยู่ในอาชีพนี้อย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะอะไรผมคงไม่ต้องพูดถึงนะครับ ตำรวจจบใหม่ หรือตำรวจทุกคน คนอื่นๆฯ ได้เงินพิเศษ หรือเงินนอก หรือเงินที่กล่าวไว้ข้างบน เหมือนกันทุกคนไหม คำตอบคือ "ไม่" ทุกคนครับ แน่นอนว่าด้วยเหตุผลหลายประการของแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกัน
ด้วยบางคน อยู่งานเอกสาร ย่อมแน่นอนว่า มักจะเข้าไม่ถึงในส่วนของเงินวิ่งเต้นเพราะมักไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิ่งเต้น
ด้วยบางคน ก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่กันดาร จนมักไม่มีงานอะไรที่มักต้องช่วยเหลือ หรือให้พึ่งพาตำรวจ
ด้วยเพราะบางคน ก็ยึดมั่นในคุณธรรมว่าจักไม่เรียกรับเงินทองใดๆ หรือทางบ้านมีฐานะ ฯ
หรืออาจจะมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายเหตุผล ของแต่ละคนสุดแท้หยั่งถึงก็ว่ากันไปครับ
(ขอเกริ่นถึงเรื่องเงินๆทองๆ แค่ประมาณนี้พอก่อน เดี๋ยวการเขียนจะไม่สนุกเอา เผื่อมีคนมาอ่านจริงๆจังๆจะว่าเอาด้วย)
เพราะอะไรถึงมาเป็นตำรวจ ตัวผมเองก็ลองสอบราชการหลายอย่าง แต่สอบตำรวจหลายรอบ ประมาณรอบที่ 3 จึงติด ด้วยตัวผมสมัยเรียน ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนเท่าที่ควร จึงโดนย้ายหลายสถานศึกษา ผลการเรียนก็อยู่ระดับกลางๆก็ว่ากันไปตามชีวิตวัยรุ่น ที่ชอบหาประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเนื้อหาในตำรา(เหตุผลเข้าข้างตัวเองสักหน่อยนะครับ) ว่ากันตามตรงก็คือเกเรเป็นทุนเดิม แต่ก็เป็นคนที่มีนิสัยเที่ยงตรง และถ้ายึดมั่นในอะไรสักอย่างก็เป็นคนที่นับว่าหนักแน่นพอสมควร ก่อนมาเป็นตำรวจ ก็ไม่ใช่ว่ามาสอบตำรวจโดยไม่ได้คิดอะไร หรือกะแค่ว่าจะเอาสิทธิราชการ หรือเงินบำนาญตอนเกษียรแค่นั้น สมัยนั้นมีความตั้งใจว่าถ้าเป็นตำรวจ จะเอาความเที่ยงตรง หรือเอาคุณธรรมมาใช้ ดีดับคนดี แย่กับคนแย่ (แม้ในความจริงมันจะไม่ใช่ อย่างที่คิดสักเท่าไร แต่ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ตลอดเวลา) ขำๆแค่นี้ก่อนนะครับ เผื่อมีคนอ่าน เดี๋ยวมาเขียนต่อ... ครับ
ไส้ใน…องค์กรตำรวจ
มองข้างนอกเป็นอย่างไร ...
. . . เกริ่นจากตัวผมเองก่อน...ด้วยอายุราชการก็ไม่ได้หลายปีดีดักขนาดไหน หรือจักว่าสีตำรวจเพิ่งซึมก็ไม่ปาน รู้แต่เพียงว่า ยังจำความรู้สึกที่ก่อนจะมาเป็นตำรวจได้เป็นอย่างดี ว่าการมององค์กรจากภายนอก สมัยยังไม่ได้รับราชการ นั้นมีมุมมองอย่างไร ก็ยังจำความรู้สึกได้
. . . เป็นตำรวจภูธร ที่เรียกว่าตำรวจบ้านนอกคนนึงนั่นล่ะครับ (ภูธรคือชื่อที่ใช้เรียกตำรวจต่างจังหวัดที่ไม่ใช่บริเวณ กทม)
ส่วนตำรวจใน กทม.จะเรียกว่า"ตำรวจนครบาล" และก่อนจะรับราชการ ตัวผมก็ทำงานใน กทม.หลายๆอย่าง จนบรรจุเป็นภูธร ตัวผมทำงานในสายปราบปราม ก็คือเป็นตำรวจภูธรที่อยู่โรงพักทั่วไปนั่นล่ะครับ เช่นพวกสายตรวจ สายสืบ จราจร พวกนี้จะเรียกว่า"สายปราบปราม" ทั้งหมด ส่วนอีกสายนึงคือ"อำนวยการ" พวกนี้จะทำเกี่ยวกับเอกสาร ที่ไม่ต้องไปออกเหตุ หรือวิ่งจับโจรแบบพวกผม ที่เป็นสายปราบปราม ก็คือทำงานโรงพักเหมือนกันแต่แค่หน้าที่จะต่างกัน
- แรกๆนั้นจบมาด้วยเงินเดือน 12,000 + เบี้ยเลี้ยงสายปราบปรามอีก 3,000 = 15,000 เบี้ยเลี้ยงก็คือค่าเสี่ยงภัยที่สายอำนวยการ
นั้นไม่ได้เหมือนสายปราบปรามของพวกผมน่ะครับ
ส่วนบรรจุมาแล้ว จะมีคำถามยอดฮิตจากปากคนอื่นประจำคือ... ได้เงินเพิ่มเติมจากเงินเทาๆหรือเงินผิดกฏหมาย ใต้โต๊ะฯลฯ เหมือนที่ใครต่อใครก็พูดกันจริงไหม สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้นั้น ผมจะพยายามสนทนาโดยให้เกิดผลเสียน้อยที่สุด แต่พยายามสื่อสารแบบให้เข้าใจ มากที่สุด เพราะต้องเข้าใจสภาพสังคมไทย หรือสภาพแวดล้อมเราคงไม่เหมาะที่จะสื่อสารแบบตรงๆด้วยอะไรหลายอย่างนะครับ
- อะไรคือเงินดำ คือเงินที่มีความผิดแบบเต็มประตู เงินที่ได้มาจากการวิ่งเต้นคดีอาญาที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ หรือเงินที่เรียกรับ
จากเคสที่วิ่งเต้นให้ไม่ทำคดี ที่เกิดจากความผิดร้ายแรง . เช่นฆ่าคนตายแล้วปกปิดคดี ฯ
- เงินเทา คือ อาจจะผิดกฏหมาย แต่ ถูกศีลธรรม หรือ ถูกกฏหมาย แต่ ผิดในด้านของศีลธรรม ฯ
- เงินขาว หรือ เงินสะอาด เงินที่ได้มาจากเจตนาที่บริสุทธิ์ทั้งผู้ให้และผู้รับครับ ฯ
ตัวเงินทั้ง 3 แบบนี้แน่นอนว่า .. ย่อมมีอยู่ในอาชีพนี้อย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะอะไรผมคงไม่ต้องพูดถึงนะครับ ตำรวจจบใหม่ หรือตำรวจทุกคน คนอื่นๆฯ ได้เงินพิเศษ หรือเงินนอก หรือเงินที่กล่าวไว้ข้างบน เหมือนกันทุกคนไหม คำตอบคือ "ไม่" ทุกคนครับ แน่นอนว่าด้วยเหตุผลหลายประการของแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกัน
ด้วยบางคน อยู่งานเอกสาร ย่อมแน่นอนว่า มักจะเข้าไม่ถึงในส่วนของเงินวิ่งเต้นเพราะมักไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิ่งเต้น
ด้วยบางคน ก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่กันดาร จนมักไม่มีงานอะไรที่มักต้องช่วยเหลือ หรือให้พึ่งพาตำรวจ
ด้วยเพราะบางคน ก็ยึดมั่นในคุณธรรมว่าจักไม่เรียกรับเงินทองใดๆ หรือทางบ้านมีฐานะ ฯ
หรืออาจจะมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายเหตุผล ของแต่ละคนสุดแท้หยั่งถึงก็ว่ากันไปครับ
(ขอเกริ่นถึงเรื่องเงินๆทองๆ แค่ประมาณนี้พอก่อน เดี๋ยวการเขียนจะไม่สนุกเอา เผื่อมีคนมาอ่านจริงๆจังๆจะว่าเอาด้วย)
เพราะอะไรถึงมาเป็นตำรวจ ตัวผมเองก็ลองสอบราชการหลายอย่าง แต่สอบตำรวจหลายรอบ ประมาณรอบที่ 3 จึงติด ด้วยตัวผมสมัยเรียน ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนเท่าที่ควร จึงโดนย้ายหลายสถานศึกษา ผลการเรียนก็อยู่ระดับกลางๆก็ว่ากันไปตามชีวิตวัยรุ่น ที่ชอบหาประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเนื้อหาในตำรา(เหตุผลเข้าข้างตัวเองสักหน่อยนะครับ) ว่ากันตามตรงก็คือเกเรเป็นทุนเดิม แต่ก็เป็นคนที่มีนิสัยเที่ยงตรง และถ้ายึดมั่นในอะไรสักอย่างก็เป็นคนที่นับว่าหนักแน่นพอสมควร ก่อนมาเป็นตำรวจ ก็ไม่ใช่ว่ามาสอบตำรวจโดยไม่ได้คิดอะไร หรือกะแค่ว่าจะเอาสิทธิราชการ หรือเงินบำนาญตอนเกษียรแค่นั้น สมัยนั้นมีความตั้งใจว่าถ้าเป็นตำรวจ จะเอาความเที่ยงตรง หรือเอาคุณธรรมมาใช้ ดีดับคนดี แย่กับคนแย่ (แม้ในความจริงมันจะไม่ใช่ อย่างที่คิดสักเท่าไร แต่ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ตลอดเวลา) ขำๆแค่นี้ก่อนนะครับ เผื่อมีคนอ่าน เดี๋ยวมาเขียนต่อ... ครับ