ค้นครั้งที 1เมือปี พศ.50.ตำรวจภูธร 8 ได้ค้นบ้านผมโดยหมายศาลจังหวัดทุ่งสงที 35/2550.
ค้นครั้งที 2 เมือปี พศ 53 ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยหมายศาลจังหวัดทุ่งส่งที 106/2553
ค้นครั้งที 3 เมื่อวันที 1 มี ค 58 ทีผ่านมา ค้นโดยตำรวจกองปราบและทหารโดยใช้กฏอัยการศึก
ทุกครั้งทีค้นตำรวจบอกว่ากำนันแผยมีอาวุธ หรื่อสิ่งผิดกฎหมายใว้ในครอบครอง โดยเฉพราะครั้งสุดท้ายนี้หนังสือพิมพ์และทีวีได้ออกข่าวว่าตำรวจได้บุกค้นบ้านผู้มีอิทธิพล 16 จุดในพื้นทีจังหวัดนครศรี กระผมขอชี้แจงเพือทำความเข้าใจกับตำรวจไทยและพีนอ้งทีรักทั่วไป ว่า จากการตรวจค้นทั้ง 3 ครั้งตำรวจไม่ได้พบอาวุธทีผิดกฎหมายหรื่อมีสิ่งผิดกฎหมายใว้ในครอบครองตามทีตำรวจตอ้งการครับ ถ้ามีจริงตามทีเป็นข่าวกระผมจะตอ้งตกเป็นผู้ตอ้งหาไปแล้วครับและกระผมไม่ได้จ่ายสินบลให้กับตำรวจแต่อย่าไดครับ

อีกอย่างตามทีสือต่างๆ ได้ออกข่าวว่าค้นบ้านผู้มีอิทธิพลนั้นตามความหมายคำว่าอิทธิพลน่ากลัวนะครับ คนส่วนใหญ่ทั่วไปเข้าใจว่า อิทธิพล คือ คนทีไม่ดี เช่น ฆ่าหรือสั่งฆ่าผู้อื้น ทำร้ายร่ายกายผู้อื้น บังคับขู่เข้นเอาเงินหรือทรัพย์ผู้อื่น ค้ายาเสพติดหรือ อาวุธ หรือ ของหนีภาษี เปิดบ่อนการพนั้น หรือทำสิ่งผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงหรือเคยตกเป็นผู้ตอ้งหาในคดีอาญาอย่างร้ายแรง เป็นต้น

จากข้อความเบื้องต้น กระผมไม่เคยถูกผู้ใดแจ้งความรอ้งทุกข์ต่อตำรวจเลยครับ ถ้าหากว่ากระผมมีจิตใจโหดร้ายหรือทำในสิ่งทีผิดกฎหมายร้ายแรง ขาดคุณธรรมกระผมโดดตำรวจเอากฎหมายเล่นงานไปนานแล้ว หรือหากว่ากระผมใช้เงินทองวิ่งเต้นให้หลุดพ้นจากกฏหมายได้ แต่กระผมหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นครับ แต่ถ้าหากเราไม่ได้ชีแจ้งหรื่อแสดงเหตุผลให้ประชาชนทั่วไปทราบเราตอ้งตกเป็นจำเลยของสังคมครับ



ปล. ผมไม่ตอ้งการความคิดเห็นแต่ตอ้งการให้สังคมได้รับทราบและให้ทางตำรวจได้ตรวจสอบให้ดีครับท่านจะเชือหรือไมโปรดใช้วิจารณาญในการรับชมครับ