ขอให้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ตัวละครในเรื่องมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื้อหามีการใช้ความรุนแรงและคำหยาบคาย
ไม่เหมาะสำหรับเยาวชน ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ สตรีมีครรภ์ควรได้รับการฉีดวัคซีน ตำรวจควรได้รับการปฏิรูป
โปรดใช้ท่าอากาศยานในการรับชม
เรื่องของเรื่อง ถ้าจะเล่าตั้งแต่ต้นก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันนั้น
ผมจำได้ว่าเป็นวันเสาร์ เพราะพวกผมก็จะนัดเตะบอลกันที่สนามใต้ทางด่วนเฉพาะวันเสาร์ตอนบ่ายๆเย็นๆเท่านั้น
ซึ่งพวกผมมีกันสิบกว่าคน ก็มี ผม กับ ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น แล้วก็ ไอ้โน่น ไอ้โน่น ไอ้โน่น ไอ้โน่น และ ไอ้โน่น
ไอ้พวกนี้เป็นตัวประกอบ ไม่ต้องไปรู้ชื่อพวกมันหรอก บอกไปตอนนี้พวกคุณก็จำไม่ได้ ไว้จะค่อยๆบอกชื่อพวกมันทีหลังนะ
หลังจากเตะบอลเสร็จกำลังจะแยกย้ายกันกลับ ไอ้นวยก็เรียกผมกับเพื่อนอีก 4 คนให้รอก่อน พวกเพื่อนกลุ่มนี้คือเพื่อนที่เรียน ม.ปลาย ห้องเดียวกัน
เนื่องจากพวกเรานี้เรียนแผนศิลป์-ภาษา ซึ่งมีจำนวนผู้ชายน้อยอยู่แล้ว แล้วผู้ชายเกือบครึ่งก็เป็นตุ๊ด ชายแท้อย่างพวกเราจึงต้องเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นนับแต่นั้น เพื่อรักษาเอกราชของชาติบุรุษไทยเอาไว้
ไอ้นวยมันบอกว่า
"ไอ้พล มันให้ตูบอกพวกเอ็ง ว่ามันได้เลื่อนขั้น ก็เลยจะฉลอง มันเลี้ยงเอง พวกเอ็งจะไปกันรึเปล่า"
ไอ้พล ก็เป็นเพื่อนที่เคยอยู่เตะบอลด้วยกัน จนกระทั่งมันสิ้นคิดไปสอบปลัดอำเภอ แล้วก็ได้ไปประจำที่อำเภอฝาง เลยต้องแยกตัวไป
แค่ไม่กี่ปีได้เลื่อนขั้น ก็น่าจะแค่ขึ้นซีล่ะนะ ไม่น่าได้เป็นถึงนายอำเภอหรอก
"เมื่อไหร่วะ"
"พรุ่งนี้"
"ไอ้... แล้วเพิ่งมาบอก"
"ก็ไหนๆต้องมาเจอพวกเอ็งวันนี้อยู่แล้ว จะได้ไม่เปลืองค่าโทร รีบบอกไป เดี๋ยวพวกเอ็งก็ลืม บอกตอนนี้แหละ ที่เหลือก็มีแค่ไอ้อิ๊บ กับไอ้หวิน เดี๋ยวตูโทรบอกเอง"
นี่คือเหตุผลของไอ้นวย และมันมีเหตุผลอยู่นะ ที่มันถูกเรียกว่าไอ้นวย ทั้งที่ชื่อจริงของมันคือ 'นฤนาท'
"ที่ไหนวะ กี่โมง"
"ตอนเที่ยง ที่..." ไอ้นวยบอกชื่อภัตตาคารอาหารจีนที่อยู่ในโรงแรมหรู
"เหรอ พรุ่งนี้ตูจะได้อดข้าว ล้างท้องไปถล่มมันให้ยับเลย"
"น้อยไปเว้ย ตูจะอดข้าวตั้งแต่วันนี้เลย ไปล้มทับมันให้ตายกันไปข้าง"
"เออ ตูอดข้าวด้วย เดี๋ยวดู ใครจะล้มทับมันได้หนักกว่า"
"เออ ดีๆ พวกเราอดข้าวกันตั้งแต่เย็นนี้เลย ไปรุมถล่มไอ้พลให้มันตาเหลือกกัน"
"เหอะๆ เรื่องกินฟรี ไม่พลาดอยู่แล้ว พรุ่งนี้ตูจะไม่เอาเงินไปซักบาท เตรียมล้มทับแน่นอน"
"แค่นั้นอะ ตูก็จะไม่เอาเงินไปเหมือนกันเฟ้ย ใครเอาเงินไปเป็นลูกหมามั้ยล่ะ"
" " "เออ ได้ ได้ซี้" " " พวกเราคนอื่นๆก็ตกลงกันตามนั้น เรื่องเกรียนๆ ขอให้บอก
...
ผมจำได้ว่า ผมใส่เชิ้ตผูกไท มาถึงที่โรงแรม ในวันอาทิตย์ตอนประมาณ 11 โมงครึ่ง
ผมเดินเข้าไปในโรงแรม ก็เจอไอ้นุ้ยกับไอ้บอมยืนรอที่หน้าภัตตาคารก่อนแล้ว
"อ้าว ไอ้หล่อ" ไอ้นุ้ยทักผม
( คือ เพื่อนกันมักเรียกกันเป็นฉายาตามลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัด อย่าง ไอ้เหยิน ไอ้สิว ไอ้หงอก ไอ้แหว่ง ไอ้บอด ไอ้เป๋ ไอ้ด้วน ไงล่ะ แล้วตัวผมมันดันหน้าตาดีอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆก็เลยเรียกว่า 'ไอ้หล่อ' หรือ 'ไอ้โคตรหล่อ' อย่างนี้แหละ
...อย่าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันสิ...
ผมคนเขียนนะ ไม่เชื่อผม คุณจะไปเชื่อใครได้ ผมเขียนอะไรไป ก็เชื่อๆไปเถอะ เอาตามนั้นนะ )
"รีบมาจังนะเอ็ง เดาะผูกเน็คไทมาทำไมวะ"
"ไม่ให้เกียรติโรงแรม ไม่ให้เกียรติภัตตาคาร ก็ให้เกียรติอาหารที่จะมากินซะหน่อยสิ" ผมตอบไอ้นุ้ย
"เฮ้ย นึกว่าตูมาเร็วแล้วนะ พวกเอ็งยังมาก่อนอีกเหรอ แล้วไอ้หล่อ ผูกเน็คไทมาทำไมวะ" ไอ้นวยมาเป็นคนที่สี่
"ตูให้เกียรติอาหารภัตตาคารโรงแรม" ผมตอบไอ้นวย "แล้วไอ้พลล่ะ เจ้ามือมารึยัง เข้าไปรอข้างในเลยมั้ย"
"ร้านเขาเปิดตอนเที่ยงว่ะ ให้เข้าได้ตอน 11 โมง 50 ก็อีก 5 นาที พวกตูถึงมายืนรออยู่นี่ไง" ไอ้บอมตอบมา
สักแป๊บ ไอ้รอนก็มา
"โอ้โห ยืนกันหน้าสลอน ไอ้หล่อ ก-แดะผูกไทมาเชียวเหรอ"
ผมถอดไทออก ยัดเก็บลงกระเป๋ากางเกง
ตอนนั้น 11 โมง 50 แล้ว พนักงานเปิดประตูให้เข้าไปได้ ไอ้หวินก็มา
ไอ้หวิน มันไม่ได้มาอยู่ในก๊วนเตะบอล เพราะมันดันทำผู้หญิงท้องหลังเรียนจบ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ดันออกลูกเป็นแฝดสาม เวลาว่างของมันก็เลยต้องช่วยเลี้ยงลูก แทบไม่มีเวลาให้พวกเรา
"ไงวะ พวกเอ็ง" ไอ้หวินทักพวกเรา
"อ้าว ไอ้หวิน ไม่เจอกันตั้งนาน ยังไม่ตายอีกเหรอเอ็ง" ไอ้รอนทักมันกลับ
"ยังตายไม่ได้ว่ะ ต้องรอไปงานศพเอ็งก่อน"
"เอ็งคงไม่ได้ไปหรอก เพราะตูจองเป็นเจ้าภาพคืนแรกของงานเอ็งไว้แล้ว เลี้ยงกระเพาะปลาอย่างดีเลยนะเว้ย"
"เสียดายว่ะ ที่ตูไม่ว่างเป็นเจ้าภาพให้งานเอ็ง แต่ไม่ต้องห่วงนะ ตอนเอ็งตายตูจะไม่ให้เอ็งนอนอยู่ในโลงแห้งๆหรอก ตูจะไปฉี่รดโลงเอ็งให้ชุ่มฉ่ำเอง"
"ไม่มีทาง ตูไม่ยอมตายก่อนที่จะได้ฉี่รดโลงเอ็งแน่ๆ"
นี่คือวิธีการทักทายของเพื่อนสนิท ที่บอกให้รู้ว่าคิดถึงกันแค่ไหน
"เข้าไปรอกันข้างในเหอะ" ไอ้นวยบอก
"เออ แต่ไอ้หวินจะเข้าไปได้เหรอ" ไอ้รอนถาม
"ทำไมวะ"
"ก็มีป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงอยู่นี่ไง ต้องทิ้งมันไว้ข้างนอกแล้วล่ะ"
"เฮ้ย ตูไม่ใช่สัตว์เลี้ยงก็เข้าได้สิวะ เอ็งต่างหากจะเข้าไม่ได้ อ๋อ โชคดี วันนี้เอ็งไม่ได้ใส่ปลอกคอ เค้าอาจจะนึกว่าเอ็งไม่ใช่สัตว์เลี้ยง เป็นหมาจรจัดไม่มีเจ้าของ สงสารเลยปล่อยให้เข้าใปก็ได้นะ"
"เรื่องกินนี่ไม่เคยมาสายกันเลยนะพวกเอ็ง" ไอ้นุ้ยพูด
"ได้ข่าวว่าเอ็งมาคนแรกไม่ใช่เรอะ" ผมแขวะมัน
"ตูให้เกียรติของฟรีว่ะ" ไอ้นุ้ยแสยะยิ้ม ทำท่าจัดเน็คไทที่คอ
ผมรอจังหวะมันเดินนำหน้า ก็เอาเท้าป้ายก้นมันให้กางเกงเปื้อนไปหนึ่งที
"จองไว้ ชื่อนายชุมพลครับ" ไอ้นวยนำไปพูดกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ ก็มีพนักงานนำไปที่โต๊ะสำหรับสิบคน
พวกเรา 6 คนที่มาถึงก่อนก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ
"แล้วไอ้พลล่ะ" ผมถามไอ้นวย
ผมจำได้ว่าตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ที่ผมรู้สึกสังหรณ์แปลกๆ เหมือนขนที่หลังคอมันตั้งชันอย่างไร้สาเหตุหรือไงนี่แหละ
"เมื่อเช้าก็เพิ่งโทรคุยกับมัน มันมาแน่น่ะ" ไอ้นวยยืนยัน
ไอ้พลมันก็ไม่เคยเสียประวัติ นัดเป็นนัดเสมอ ไม่เหมือนไอ้อิ๊บ
ที่พวกเราเรียกว่า ไอ้อิ๊บ มาจากชื่อเต็มว่า ไอ้อิ๊บอ๋าย เพราะบ่อยครั้งที่ไอ้อิ๊บ หายตลอด ตั้งแต่สมัยเรียน จะมาหรือไม่มาก็ไม่เคยจะบอกจะกล่าว
ยิ่งตอนมันได้งานเป็น กะจั๊ว มันยิ่งไม่มีเวลา นานๆมันถึงจะโผล่มาได้ซักที
"เอ็งโทรบอกไอ้อิ๊บหรือเปล่าวะ" ไอ้บอมถามไอ้นวย
"ตูโทรแล้ว มันก็บอกว่าจะมานะ" ไอ้นวยตอบ
โทรศัพท์ของไอ้นวยดังขึ้น มันกดตัดสายทิ้ง สักแป๊บ ก็ดังอีก มันก็กดตัดสายทิ้งอีก
"ใครโทรมาวะ"
"เบอร์ไม่รู้จักว่ะ สงสัยขายประกันอีก ขี้เกียจรับ ช่างมารดามัน"
เบอร์ไอ้นวยมันเบอร์สวย เลข 0 เรียงกันสี่ตัวท้าย ดังนั้นจึงมักเป็นเป้าหมายของนักขายทั้งหลาย
และแล้ว ไอ้เก้า ก็มา
"กะแล้ว ว่าไอ้อิ๊บต้องหาย" ไอ้เก้าพูดหลังจากสำรวจพวกเรา
"เฮ้ย เอ็งเข้ามาได้ยังไงวะ" ไอ้รอนถาม
"ก็เดินเข้ามาสิวะ"
"ไม่เห็นป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงรึไง พนักงานปล่อยให้เข้ามาได้ไงวะ"
"เอ็งยังเข้ามาได้เลย ..ตูบอกเขาว่าจะเข้ามาตามสัตว์เลี้ยงก็คือเอ็งไง เขาก็เลยให้เข้ามาจูงเอ็งออกไปผูกข้างนอก"
"ไง ไอ้เก้า ทำไมเพิ่งมาวะ" ไอ้นุ้ยทักไอ้เก้าอย่างคนปกติ
"ตูมารถเมล์ว่ะ นึกว่าจะเร็ว"
"มารถเมล์มันจะเร็วได้ไง"
"ก็มันเขียนว่า 'อ้อมน้อย' ตูก็นึกว่าอ้อมน้อย แล้วมันจะตรงมาเลยไง"
ตอนนั้น ไอ้อิ๊บ ก็โผล่มา
"เฮ้ย ไอ้อิ๊บ" ไอ้บอมเห็นมันก่อน
"เออ ตูเอง"
"เอ็งเข้ามาได้ไงวะ ไม่เห็นป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงหน้าประตูรึไง" ไอ้รอนถาม
"เอ็งมีมุกเดียวหรือไงวะ เล่นมุกอื่นมั่งสิ" ผมพูด
"โห่ย ไอ้หล่อ เอ็งจะตัดมุกมันทำไมวะ ตูจะดูไอ้อิ๊บมันจะว่ายังไง" ไอ้หวินบ่น
"วันนี้ไม่มีบินเหรอ" ไอ้นุ้ยถามไอ้อิ๊บอย่างคนปกติ
อย่างที่บอกไอ้อิ๊บมันเป็น กะจั๊ว ก็เลยมีเวลาไม่แน่นอน แล้วแต่สายการบินจะกำหนดให้มันอยู่ไฟลท์ไหน
เออ ผมรู้ ว่านั่นมันสจ๊วร์ด แต่ผมจะเรียกว่า กะจั๊ว อะ มีไรมั้ย
"ถ้ามีบิน แล้วตูจะอยู่ที่นี่เหรอ ถามโง่ๆ"
"เอ็งด่าตูโง่เหรอ"
"ไม่ใช่"
"แล้วไป"
"ไม่ใช่เอ็งแล้วจะเป็นใคร"
"อ้าว เอ็ง วอนตายไม่เสียตัง"
"อะไรวะ"
"ตายฟรี"
"ก็ลองดูสิ เอ็งจะตายปฏิเสธ"
"อะไรวะ"
"ตายเปล่า"
"ตูจะแจ้งจับเอ็งมาตรา 112"
ระหว่างที่พวกมันกำลังทักทายกันอย่างออกรส พนักงานก็นำชามช้อนตะเกียบมาจัดวาง 9 ที่ สำหรับพวกเรา 8 คน กับไอ้พลอีกคนนึง
ตามด้วยวางแก้วน้ำ และรินน้ำใส่แก้วให้ทุกคน
"ตกลงไอ้พลมันจะเลี้ยงจริงเหรอวะ ทำไมมันยังไม่มาอีก" ไอ้อิ๊บไม่วายถามไอ้นวย
"เออ เดี๋ยวมันก็มาน่ะ"
"มันเลื่อนตำแหน่งเป็นอะไรวะ"
"ยังเป็นปลัดเหมือนเดิม เลื่อนขั้นจากซี 4 เป็นซี 5 แล้วกำลังจะได้ย้ายมาที่นครนายก" ไอ้นวยตอบ "แต่ไม่ใช่แค่นั้น ฟังเรื่องนี้ให้ดีๆ แล้วตกใจซะ"
"เหรอ เดี๋ยวนะ" ผมยกน้ำขึ้นจิบ
"หยุดเลย อย่าแกล้งทำเป็นตกใจ แล้วจะพ่นน้ำใส่หน้าตู" ไอ้นวยดันรู้ทัน
"เรื่องอะไรวะ" ไอ้อิ๊บเป็นคนถาม
ไอ้นวยกระแอม
"ไอ้พลกำลังจะแต่งงาน"
"เหรอ กับใครล่ะ"
"กับแฟนมันน่ะสิ"
"คนไหนล่ะ"
"ไอ้... กับลูกสาวผู้ว่าเว้ย" ไอ้นวยไม่พอใจที่ไม่มีใครตกใจอย่างที่มันหวัง
"อ๋อ มิน่าเลื่อนขั้นไวนัก เล่นทางลัดนี่หว่า" ไอ้เก้าคราง
"เออ ดีกว่าขึ้นรถเมล์อ้อมน้อยของเอ็งล่ะ" ไอ้นุ้ยว่า
"แบบนี้ ก็มิเสียที ที่ข้าล้างท้องมาเพื่อการนี้" ไอ้รอนมันหยิบตะเกียบขึ้นมา ชักออกจากซองด้วยท่าจอมยุทธ์ ถือข้างละมือ ซ้ายขวา
"ถึงเวลาแล้ว ที่วิชากระบี่สองสันฐานของข้าจะได้ปรากฏบนโลกนี้อีกครั้ง"
ไอ้บอมก็ถือตะเกียบข้างละมือ คาบหลอดดูดน้ำไว้ในปาก
"แล้วไง เจอวิชาสามดาบ พรสามร้อยหกสิบประการตูหน่อย"
ไอ้นุ้ยก็ถือตะเกียบข้างละมือ คาบหลอดไว้ในปากด้วย
"ของตู วิชาสามดาบ พรหนึ่งพันแปดสิบประการ"
"เฮ้ย เลียนแบบ คิดเองสิวะ" ไอ้บอมโวย
"ตูใช้เนตรวงแหวนโว้ย" ไอ้นุ้ยเถียง
ไอ้หวินคีบไม้จิ้มฟันไว้ระหว่างนิ้ว
"แย่งชิงความเป็นหนึ่งกัน ถามมีดบินลี้น้อยนี้หรือยัง"
ไอ้นวยเอาจานมาแปะบนแขนซ้าย
"กระจอกทั้งนั้น ผ่านโล่กัปตันของตูไปให้ได้ก่อนเถอะ"
"อย่าทะเลาะกัน อย่าทะเลาะกัน" ไอ้เก้าเอาถ้วยสองใบมาแปะบนหน้าอก แล้วแอ่นกระตุ้งกระติ้งอย่างน่าถีบ
"เอ็งเป็นตัวอะไรวะ"
"วันเดอร์วูแมน"
" " "ตรุ๋ย" " " ประสานเสียงโดยพร้อมเพรียง
ไอ้อิ๊บวางส้อมลงเงียบๆ
"วันเดอร์วูแมน เ-ือกออกก่อน อควาแมนตูกร่อยเลย"
"พวกเอ็งนี่มัน เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้" ผมพูดพลาง พับทิชชู่เป็นทบหลายชั้นอย่างสงบ
"เอ็งทำอะไรวะ"
"พับเดธโน้ตไง อย่าให้ตูต้องเขียนชื่อใครลงไปนะ"
ไอ้นุ้ยเอาทิชชู่มาพับมั่ง
"แค่เดธโน้ต ตูก็มีฟะ"
"เอ็งใช้เนตรวงแหวนอีกแล้วเหรอ"
"เอ็งเคยดูหรือเปล่า เดธโน้ตไม่ได้มีเล่มเดียวเฟ้ย"
ผมจำได้ว่า ระหว่างที่เรากำลังเล่นมุกกัน โต๊ะข้างๆก็มีครอบครัวใหญ่มานั่ง มีทั้งชายและหญิง ผู้ใหญ่และเด็ก พอหย่อนก้นลงนั่ง คุณลุงแกก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหารทันที
"เอาหูฉลาม หม้อใหญ่นะ ทอดมันกุ้ง ปลาราดเต้าซี่ กระเพาะปลาผัดแห้ง ไก่ผัดเม็ดมะม่วง แล้วก็..ฯลฯ.."
ได้ยินเขาสั่งอาหาร ผมได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อก คนอื่นๆก็คงไม่ต่างกัน อดข้าวมาตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ท้องมันเริ่มจะส่งเสียงประท้วงแล้ว
พนักงานอีกคนเดินมาถามออเดอร์ที่โต๊ะเรา แต่ไอ้นวยบอกให้รอเจ้าภาพก่อน พนักงานจึงได้ถอยไป
"อ้าว เฮ้ย หิวแล้วนะเว้ย ไอ้พลยังไม่มาอีกเหรอ" ไอ้นุ้ยถาม
"ก็ต้องรอมันสิ มันเป็นคนจ่ายเงินนี่หว่า" ไอ้บอมตอบ
"โทรหามันเดํะ" ไอ้นุ้ยบอก
ไอ้บอมหยิบโทรศัพท์ออกมา
"ตูไม่รู้เบอร์มันว่ะ"
"ไอ้นี่หนิ ..ตูก็จำเบอร์ไม่ได้ แต่จำหน้ามันได้"
"เอ้า บอกหน้ามันมาสิจะได้โทร"
"หน้าแป้นๆ ขาวๆ คิ้วหนาๆ ตาเรียวๆ"
"เดี๋ยวๆ ไอ้คิ้วหนาๆนี่ กดตรงไหน"
"ไอ้พวกบ้าเอ๊ย เดี๋ยวตูโทรเอง" ไอ้นวยตบมุก ตัดบทพวกมัน
ไอ้นวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดโทรออก
"ฮัลโหล ไอ้พล เมื่อไหร่เอ็งจะมา พวกตูมากันครบหมดแล้วเนี่ย ขาดแต่เอ็งคนเดียว ...ก็มีไอ้รอน ไอ้นุ้ย ไอ้บอม ไอ้หล่อ ไอ้เก้า ไอ้อิ๊บ ไอ้หวิน เออไอ้อิ๊บยังมาแล้วเลย ไม่เชื่อคุยกับมันเองเลย"
ขบวนกวนก๊วนเกรียน : ตอน ชั่วโมงวิกฤติ
ไม่เหมาะสำหรับเยาวชน ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ สตรีมีครรภ์ควรได้รับการฉีดวัคซีน ตำรวจควรได้รับการปฏิรูป
โปรดใช้ท่าอากาศยานในการรับชม
เรื่องของเรื่อง ถ้าจะเล่าตั้งแต่ต้นก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันนั้น
ผมจำได้ว่าเป็นวันเสาร์ เพราะพวกผมก็จะนัดเตะบอลกันที่สนามใต้ทางด่วนเฉพาะวันเสาร์ตอนบ่ายๆเย็นๆเท่านั้น
ซึ่งพวกผมมีกันสิบกว่าคน ก็มี ผม กับ ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น ไอ้นั่น แล้วก็ ไอ้โน่น ไอ้โน่น ไอ้โน่น ไอ้โน่น และ ไอ้โน่น
ไอ้พวกนี้เป็นตัวประกอบ ไม่ต้องไปรู้ชื่อพวกมันหรอก บอกไปตอนนี้พวกคุณก็จำไม่ได้ ไว้จะค่อยๆบอกชื่อพวกมันทีหลังนะ
หลังจากเตะบอลเสร็จกำลังจะแยกย้ายกันกลับ ไอ้นวยก็เรียกผมกับเพื่อนอีก 4 คนให้รอก่อน พวกเพื่อนกลุ่มนี้คือเพื่อนที่เรียน ม.ปลาย ห้องเดียวกัน
เนื่องจากพวกเรานี้เรียนแผนศิลป์-ภาษา ซึ่งมีจำนวนผู้ชายน้อยอยู่แล้ว แล้วผู้ชายเกือบครึ่งก็เป็นตุ๊ด ชายแท้อย่างพวกเราจึงต้องเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นนับแต่นั้น เพื่อรักษาเอกราชของชาติบุรุษไทยเอาไว้
ไอ้นวยมันบอกว่า
"ไอ้พล มันให้ตูบอกพวกเอ็ง ว่ามันได้เลื่อนขั้น ก็เลยจะฉลอง มันเลี้ยงเอง พวกเอ็งจะไปกันรึเปล่า"
ไอ้พล ก็เป็นเพื่อนที่เคยอยู่เตะบอลด้วยกัน จนกระทั่งมันสิ้นคิดไปสอบปลัดอำเภอ แล้วก็ได้ไปประจำที่อำเภอฝาง เลยต้องแยกตัวไป
แค่ไม่กี่ปีได้เลื่อนขั้น ก็น่าจะแค่ขึ้นซีล่ะนะ ไม่น่าได้เป็นถึงนายอำเภอหรอก
"เมื่อไหร่วะ"
"พรุ่งนี้"
"ไอ้... แล้วเพิ่งมาบอก"
"ก็ไหนๆต้องมาเจอพวกเอ็งวันนี้อยู่แล้ว จะได้ไม่เปลืองค่าโทร รีบบอกไป เดี๋ยวพวกเอ็งก็ลืม บอกตอนนี้แหละ ที่เหลือก็มีแค่ไอ้อิ๊บ กับไอ้หวิน เดี๋ยวตูโทรบอกเอง"
นี่คือเหตุผลของไอ้นวย และมันมีเหตุผลอยู่นะ ที่มันถูกเรียกว่าไอ้นวย ทั้งที่ชื่อจริงของมันคือ 'นฤนาท'
"ที่ไหนวะ กี่โมง"
"ตอนเที่ยง ที่..." ไอ้นวยบอกชื่อภัตตาคารอาหารจีนที่อยู่ในโรงแรมหรู
"เหรอ พรุ่งนี้ตูจะได้อดข้าว ล้างท้องไปถล่มมันให้ยับเลย"
"น้อยไปเว้ย ตูจะอดข้าวตั้งแต่วันนี้เลย ไปล้มทับมันให้ตายกันไปข้าง"
"เออ ตูอดข้าวด้วย เดี๋ยวดู ใครจะล้มทับมันได้หนักกว่า"
"เออ ดีๆ พวกเราอดข้าวกันตั้งแต่เย็นนี้เลย ไปรุมถล่มไอ้พลให้มันตาเหลือกกัน"
"เหอะๆ เรื่องกินฟรี ไม่พลาดอยู่แล้ว พรุ่งนี้ตูจะไม่เอาเงินไปซักบาท เตรียมล้มทับแน่นอน"
"แค่นั้นอะ ตูก็จะไม่เอาเงินไปเหมือนกันเฟ้ย ใครเอาเงินไปเป็นลูกหมามั้ยล่ะ"
" " "เออ ได้ ได้ซี้" " " พวกเราคนอื่นๆก็ตกลงกันตามนั้น เรื่องเกรียนๆ ขอให้บอก
...
ผมจำได้ว่า ผมใส่เชิ้ตผูกไท มาถึงที่โรงแรม ในวันอาทิตย์ตอนประมาณ 11 โมงครึ่ง
ผมเดินเข้าไปในโรงแรม ก็เจอไอ้นุ้ยกับไอ้บอมยืนรอที่หน้าภัตตาคารก่อนแล้ว
"อ้าว ไอ้หล่อ" ไอ้นุ้ยทักผม
( คือ เพื่อนกันมักเรียกกันเป็นฉายาตามลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัด อย่าง ไอ้เหยิน ไอ้สิว ไอ้หงอก ไอ้แหว่ง ไอ้บอด ไอ้เป๋ ไอ้ด้วน ไงล่ะ แล้วตัวผมมันดันหน้าตาดีอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆก็เลยเรียกว่า 'ไอ้หล่อ' หรือ 'ไอ้โคตรหล่อ' อย่างนี้แหละ
...อย่าทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันสิ...
ผมคนเขียนนะ ไม่เชื่อผม คุณจะไปเชื่อใครได้ ผมเขียนอะไรไป ก็เชื่อๆไปเถอะ เอาตามนั้นนะ )
"รีบมาจังนะเอ็ง เดาะผูกเน็คไทมาทำไมวะ"
"ไม่ให้เกียรติโรงแรม ไม่ให้เกียรติภัตตาคาร ก็ให้เกียรติอาหารที่จะมากินซะหน่อยสิ" ผมตอบไอ้นุ้ย
"เฮ้ย นึกว่าตูมาเร็วแล้วนะ พวกเอ็งยังมาก่อนอีกเหรอ แล้วไอ้หล่อ ผูกเน็คไทมาทำไมวะ" ไอ้นวยมาเป็นคนที่สี่
"ตูให้เกียรติอาหารภัตตาคารโรงแรม" ผมตอบไอ้นวย "แล้วไอ้พลล่ะ เจ้ามือมารึยัง เข้าไปรอข้างในเลยมั้ย"
"ร้านเขาเปิดตอนเที่ยงว่ะ ให้เข้าได้ตอน 11 โมง 50 ก็อีก 5 นาที พวกตูถึงมายืนรออยู่นี่ไง" ไอ้บอมตอบมา
สักแป๊บ ไอ้รอนก็มา
"โอ้โห ยืนกันหน้าสลอน ไอ้หล่อ ก-แดะผูกไทมาเชียวเหรอ"
ผมถอดไทออก ยัดเก็บลงกระเป๋ากางเกง
ตอนนั้น 11 โมง 50 แล้ว พนักงานเปิดประตูให้เข้าไปได้ ไอ้หวินก็มา
ไอ้หวิน มันไม่ได้มาอยู่ในก๊วนเตะบอล เพราะมันดันทำผู้หญิงท้องหลังเรียนจบ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ดันออกลูกเป็นแฝดสาม เวลาว่างของมันก็เลยต้องช่วยเลี้ยงลูก แทบไม่มีเวลาให้พวกเรา
"ไงวะ พวกเอ็ง" ไอ้หวินทักพวกเรา
"อ้าว ไอ้หวิน ไม่เจอกันตั้งนาน ยังไม่ตายอีกเหรอเอ็ง" ไอ้รอนทักมันกลับ
"ยังตายไม่ได้ว่ะ ต้องรอไปงานศพเอ็งก่อน"
"เอ็งคงไม่ได้ไปหรอก เพราะตูจองเป็นเจ้าภาพคืนแรกของงานเอ็งไว้แล้ว เลี้ยงกระเพาะปลาอย่างดีเลยนะเว้ย"
"เสียดายว่ะ ที่ตูไม่ว่างเป็นเจ้าภาพให้งานเอ็ง แต่ไม่ต้องห่วงนะ ตอนเอ็งตายตูจะไม่ให้เอ็งนอนอยู่ในโลงแห้งๆหรอก ตูจะไปฉี่รดโลงเอ็งให้ชุ่มฉ่ำเอง"
"ไม่มีทาง ตูไม่ยอมตายก่อนที่จะได้ฉี่รดโลงเอ็งแน่ๆ"
นี่คือวิธีการทักทายของเพื่อนสนิท ที่บอกให้รู้ว่าคิดถึงกันแค่ไหน
"เข้าไปรอกันข้างในเหอะ" ไอ้นวยบอก
"เออ แต่ไอ้หวินจะเข้าไปได้เหรอ" ไอ้รอนถาม
"ทำไมวะ"
"ก็มีป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงอยู่นี่ไง ต้องทิ้งมันไว้ข้างนอกแล้วล่ะ"
"เฮ้ย ตูไม่ใช่สัตว์เลี้ยงก็เข้าได้สิวะ เอ็งต่างหากจะเข้าไม่ได้ อ๋อ โชคดี วันนี้เอ็งไม่ได้ใส่ปลอกคอ เค้าอาจจะนึกว่าเอ็งไม่ใช่สัตว์เลี้ยง เป็นหมาจรจัดไม่มีเจ้าของ สงสารเลยปล่อยให้เข้าใปก็ได้นะ"
"เรื่องกินนี่ไม่เคยมาสายกันเลยนะพวกเอ็ง" ไอ้นุ้ยพูด
"ได้ข่าวว่าเอ็งมาคนแรกไม่ใช่เรอะ" ผมแขวะมัน
"ตูให้เกียรติของฟรีว่ะ" ไอ้นุ้ยแสยะยิ้ม ทำท่าจัดเน็คไทที่คอ
ผมรอจังหวะมันเดินนำหน้า ก็เอาเท้าป้ายก้นมันให้กางเกงเปื้อนไปหนึ่งที
"จองไว้ ชื่อนายชุมพลครับ" ไอ้นวยนำไปพูดกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ ก็มีพนักงานนำไปที่โต๊ะสำหรับสิบคน
พวกเรา 6 คนที่มาถึงก่อนก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ
"แล้วไอ้พลล่ะ" ผมถามไอ้นวย
ผมจำได้ว่าตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ที่ผมรู้สึกสังหรณ์แปลกๆ เหมือนขนที่หลังคอมันตั้งชันอย่างไร้สาเหตุหรือไงนี่แหละ
"เมื่อเช้าก็เพิ่งโทรคุยกับมัน มันมาแน่น่ะ" ไอ้นวยยืนยัน
ไอ้พลมันก็ไม่เคยเสียประวัติ นัดเป็นนัดเสมอ ไม่เหมือนไอ้อิ๊บ
ที่พวกเราเรียกว่า ไอ้อิ๊บ มาจากชื่อเต็มว่า ไอ้อิ๊บอ๋าย เพราะบ่อยครั้งที่ไอ้อิ๊บ หายตลอด ตั้งแต่สมัยเรียน จะมาหรือไม่มาก็ไม่เคยจะบอกจะกล่าว
ยิ่งตอนมันได้งานเป็น กะจั๊ว มันยิ่งไม่มีเวลา นานๆมันถึงจะโผล่มาได้ซักที
"เอ็งโทรบอกไอ้อิ๊บหรือเปล่าวะ" ไอ้บอมถามไอ้นวย
"ตูโทรแล้ว มันก็บอกว่าจะมานะ" ไอ้นวยตอบ
โทรศัพท์ของไอ้นวยดังขึ้น มันกดตัดสายทิ้ง สักแป๊บ ก็ดังอีก มันก็กดตัดสายทิ้งอีก
"ใครโทรมาวะ"
"เบอร์ไม่รู้จักว่ะ สงสัยขายประกันอีก ขี้เกียจรับ ช่างมารดามัน"
เบอร์ไอ้นวยมันเบอร์สวย เลข 0 เรียงกันสี่ตัวท้าย ดังนั้นจึงมักเป็นเป้าหมายของนักขายทั้งหลาย
และแล้ว ไอ้เก้า ก็มา
"กะแล้ว ว่าไอ้อิ๊บต้องหาย" ไอ้เก้าพูดหลังจากสำรวจพวกเรา
"เฮ้ย เอ็งเข้ามาได้ยังไงวะ" ไอ้รอนถาม
"ก็เดินเข้ามาสิวะ"
"ไม่เห็นป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงรึไง พนักงานปล่อยให้เข้ามาได้ไงวะ"
"เอ็งยังเข้ามาได้เลย ..ตูบอกเขาว่าจะเข้ามาตามสัตว์เลี้ยงก็คือเอ็งไง เขาก็เลยให้เข้ามาจูงเอ็งออกไปผูกข้างนอก"
"ไง ไอ้เก้า ทำไมเพิ่งมาวะ" ไอ้นุ้ยทักไอ้เก้าอย่างคนปกติ
"ตูมารถเมล์ว่ะ นึกว่าจะเร็ว"
"มารถเมล์มันจะเร็วได้ไง"
"ก็มันเขียนว่า 'อ้อมน้อย' ตูก็นึกว่าอ้อมน้อย แล้วมันจะตรงมาเลยไง"
ตอนนั้น ไอ้อิ๊บ ก็โผล่มา
"เฮ้ย ไอ้อิ๊บ" ไอ้บอมเห็นมันก่อน
"เออ ตูเอง"
"เอ็งเข้ามาได้ไงวะ ไม่เห็นป้ายห้ามสัตว์เลี้ยงหน้าประตูรึไง" ไอ้รอนถาม
"เอ็งมีมุกเดียวหรือไงวะ เล่นมุกอื่นมั่งสิ" ผมพูด
"โห่ย ไอ้หล่อ เอ็งจะตัดมุกมันทำไมวะ ตูจะดูไอ้อิ๊บมันจะว่ายังไง" ไอ้หวินบ่น
"วันนี้ไม่มีบินเหรอ" ไอ้นุ้ยถามไอ้อิ๊บอย่างคนปกติ
อย่างที่บอกไอ้อิ๊บมันเป็น กะจั๊ว ก็เลยมีเวลาไม่แน่นอน แล้วแต่สายการบินจะกำหนดให้มันอยู่ไฟลท์ไหน
เออ ผมรู้ ว่านั่นมันสจ๊วร์ด แต่ผมจะเรียกว่า กะจั๊ว อะ มีไรมั้ย
"ถ้ามีบิน แล้วตูจะอยู่ที่นี่เหรอ ถามโง่ๆ"
"เอ็งด่าตูโง่เหรอ"
"ไม่ใช่"
"แล้วไป"
"ไม่ใช่เอ็งแล้วจะเป็นใคร"
"อ้าว เอ็ง วอนตายไม่เสียตัง"
"อะไรวะ"
"ตายฟรี"
"ก็ลองดูสิ เอ็งจะตายปฏิเสธ"
"อะไรวะ"
"ตายเปล่า"
"ตูจะแจ้งจับเอ็งมาตรา 112"
ระหว่างที่พวกมันกำลังทักทายกันอย่างออกรส พนักงานก็นำชามช้อนตะเกียบมาจัดวาง 9 ที่ สำหรับพวกเรา 8 คน กับไอ้พลอีกคนนึง
ตามด้วยวางแก้วน้ำ และรินน้ำใส่แก้วให้ทุกคน
"ตกลงไอ้พลมันจะเลี้ยงจริงเหรอวะ ทำไมมันยังไม่มาอีก" ไอ้อิ๊บไม่วายถามไอ้นวย
"เออ เดี๋ยวมันก็มาน่ะ"
"มันเลื่อนตำแหน่งเป็นอะไรวะ"
"ยังเป็นปลัดเหมือนเดิม เลื่อนขั้นจากซี 4 เป็นซี 5 แล้วกำลังจะได้ย้ายมาที่นครนายก" ไอ้นวยตอบ "แต่ไม่ใช่แค่นั้น ฟังเรื่องนี้ให้ดีๆ แล้วตกใจซะ"
"เหรอ เดี๋ยวนะ" ผมยกน้ำขึ้นจิบ
"หยุดเลย อย่าแกล้งทำเป็นตกใจ แล้วจะพ่นน้ำใส่หน้าตู" ไอ้นวยดันรู้ทัน
"เรื่องอะไรวะ" ไอ้อิ๊บเป็นคนถาม
ไอ้นวยกระแอม
"ไอ้พลกำลังจะแต่งงาน"
"เหรอ กับใครล่ะ"
"กับแฟนมันน่ะสิ"
"คนไหนล่ะ"
"ไอ้... กับลูกสาวผู้ว่าเว้ย" ไอ้นวยไม่พอใจที่ไม่มีใครตกใจอย่างที่มันหวัง
"อ๋อ มิน่าเลื่อนขั้นไวนัก เล่นทางลัดนี่หว่า" ไอ้เก้าคราง
"เออ ดีกว่าขึ้นรถเมล์อ้อมน้อยของเอ็งล่ะ" ไอ้นุ้ยว่า
"แบบนี้ ก็มิเสียที ที่ข้าล้างท้องมาเพื่อการนี้" ไอ้รอนมันหยิบตะเกียบขึ้นมา ชักออกจากซองด้วยท่าจอมยุทธ์ ถือข้างละมือ ซ้ายขวา
"ถึงเวลาแล้ว ที่วิชากระบี่สองสันฐานของข้าจะได้ปรากฏบนโลกนี้อีกครั้ง"
ไอ้บอมก็ถือตะเกียบข้างละมือ คาบหลอดดูดน้ำไว้ในปาก
"แล้วไง เจอวิชาสามดาบ พรสามร้อยหกสิบประการตูหน่อย"
ไอ้นุ้ยก็ถือตะเกียบข้างละมือ คาบหลอดไว้ในปากด้วย
"ของตู วิชาสามดาบ พรหนึ่งพันแปดสิบประการ"
"เฮ้ย เลียนแบบ คิดเองสิวะ" ไอ้บอมโวย
"ตูใช้เนตรวงแหวนโว้ย" ไอ้นุ้ยเถียง
ไอ้หวินคีบไม้จิ้มฟันไว้ระหว่างนิ้ว
"แย่งชิงความเป็นหนึ่งกัน ถามมีดบินลี้น้อยนี้หรือยัง"
ไอ้นวยเอาจานมาแปะบนแขนซ้าย
"กระจอกทั้งนั้น ผ่านโล่กัปตันของตูไปให้ได้ก่อนเถอะ"
"อย่าทะเลาะกัน อย่าทะเลาะกัน" ไอ้เก้าเอาถ้วยสองใบมาแปะบนหน้าอก แล้วแอ่นกระตุ้งกระติ้งอย่างน่าถีบ
"เอ็งเป็นตัวอะไรวะ"
"วันเดอร์วูแมน"
" " "ตรุ๋ย" " " ประสานเสียงโดยพร้อมเพรียง
ไอ้อิ๊บวางส้อมลงเงียบๆ
"วันเดอร์วูแมน เ-ือกออกก่อน อควาแมนตูกร่อยเลย"
"พวกเอ็งนี่มัน เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้" ผมพูดพลาง พับทิชชู่เป็นทบหลายชั้นอย่างสงบ
"เอ็งทำอะไรวะ"
"พับเดธโน้ตไง อย่าให้ตูต้องเขียนชื่อใครลงไปนะ"
ไอ้นุ้ยเอาทิชชู่มาพับมั่ง
"แค่เดธโน้ต ตูก็มีฟะ"
"เอ็งใช้เนตรวงแหวนอีกแล้วเหรอ"
"เอ็งเคยดูหรือเปล่า เดธโน้ตไม่ได้มีเล่มเดียวเฟ้ย"
ผมจำได้ว่า ระหว่างที่เรากำลังเล่นมุกกัน โต๊ะข้างๆก็มีครอบครัวใหญ่มานั่ง มีทั้งชายและหญิง ผู้ใหญ่และเด็ก พอหย่อนก้นลงนั่ง คุณลุงแกก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหารทันที
"เอาหูฉลาม หม้อใหญ่นะ ทอดมันกุ้ง ปลาราดเต้าซี่ กระเพาะปลาผัดแห้ง ไก่ผัดเม็ดมะม่วง แล้วก็..ฯลฯ.."
ได้ยินเขาสั่งอาหาร ผมได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อก คนอื่นๆก็คงไม่ต่างกัน อดข้าวมาตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ท้องมันเริ่มจะส่งเสียงประท้วงแล้ว
พนักงานอีกคนเดินมาถามออเดอร์ที่โต๊ะเรา แต่ไอ้นวยบอกให้รอเจ้าภาพก่อน พนักงานจึงได้ถอยไป
"อ้าว เฮ้ย หิวแล้วนะเว้ย ไอ้พลยังไม่มาอีกเหรอ" ไอ้นุ้ยถาม
"ก็ต้องรอมันสิ มันเป็นคนจ่ายเงินนี่หว่า" ไอ้บอมตอบ
"โทรหามันเดํะ" ไอ้นุ้ยบอก
ไอ้บอมหยิบโทรศัพท์ออกมา
"ตูไม่รู้เบอร์มันว่ะ"
"ไอ้นี่หนิ ..ตูก็จำเบอร์ไม่ได้ แต่จำหน้ามันได้"
"เอ้า บอกหน้ามันมาสิจะได้โทร"
"หน้าแป้นๆ ขาวๆ คิ้วหนาๆ ตาเรียวๆ"
"เดี๋ยวๆ ไอ้คิ้วหนาๆนี่ กดตรงไหน"
"ไอ้พวกบ้าเอ๊ย เดี๋ยวตูโทรเอง" ไอ้นวยตบมุก ตัดบทพวกมัน
ไอ้นวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดโทรออก
"ฮัลโหล ไอ้พล เมื่อไหร่เอ็งจะมา พวกตูมากันครบหมดแล้วเนี่ย ขาดแต่เอ็งคนเดียว ...ก็มีไอ้รอน ไอ้นุ้ย ไอ้บอม ไอ้หล่อ ไอ้เก้า ไอ้อิ๊บ ไอ้หวิน เออไอ้อิ๊บยังมาแล้วเลย ไม่เชื่อคุยกับมันเองเลย"